Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
ซื้อปลาที่มันชา มาปล่อยให้มันตายเอง แล้วค่อยเอามาทำอาหาร จะบาปไหม

คำตอบ:

ประเด็นนี้ก็ได้ชื่อว่ามีส่วนในการฆ่าเหมือนกัน ลองมาฟังนิทานดูสักเรื่อง บอกก่อนนะว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิทาน แต่ว่าเคยเป็นข้อสอบที่เอามาถามกันในการสอบนักธรรมของพระภิกษุสามเณร



เรื่องอยู่ว่า มีตากับยายสองคน เข้าวัดเป็นประจำทั้งคู่ วันโกนวันพระก็ไปนอนวัด ถือศีล ๘ กันตลอดพรรษา เช้ารุ่งขึ้นจากวันพระวันหนึ่ง ก็พายเรือกลับมาบ้านด้วยกัน ตาพายท้าย ยายพายหัวขณะพายเรือฉับ ๆ ไปนั่นเอง ก็มีปลาเจ้ากรรมตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาในเรือ ทั้งตาทั้งยายถือศีลกันมานาน ก็รู้อยู่นะว่าฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่ปลานี้มันตัวโต แล้วทั้งคู่ก็อยากกินแกงปลาติดหมัดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นทีเดียวก็คิดกันอยู่ในใจทั้งคู่ละนะว่า ทำอย่างไรหนอจะได้กินแกงปลาอร่อย ๆ แล้วก็ไม่บาปด้วย

ตาก็เอื้อมมือไปจับปลาตัวนั้น แล้วก็โยนไปให้ยายที่นั่งอยู่หัวเรือ บอกว่า “ยาย...แกปล่อยปลาซิ” ยายก็แหม....กำลังมองหาผักบุ้งยอดอ่อน ๆ มาใส่แกงส้มปลาอยู่พอดี แต่ว่าก็กลัวบาป เลยจับปลาโยนกลับไปให้ตาพร้อมกันบอกว่า “ตา..แกปล่อยเองถอะ” ตาก็จับปลาโยนกลับมาใหม่ “แกปล่อยเถอะ” โยนกันไปโยนกันมาจนปลาตาย

ถามว่าบาปไหม ? ตอบว่าบาป เพราะจริง ๆ แล้วเจตนาอยากให้ปลามันตาย แล้วมันก็ตายสมใจ แม้ไม่ได้ทุบหัวป๊อกให้มันตาย แต่ก็โยนไปโยนมา จนกระทั่งมันตายนั่นแหละ

เพราะฉะนั้น ที่คุณโยมซื้อปลาชา ๆ หิ้วท้อกแท้ก ๆ มา แล้วเอามาวางทิ้งให้มันอยู่ในถึงพลาสติกแคบ ๆ จนมันตาย ก็บาปเหมือนตากับยายที่ทำเป็นเกี่ยงกันปล่อยปลานั่นแหละ ตอนแรกที่เห็นปลามันยังไม่ตาย แทนที่จะคิดหาวิธีช่วยให้มันไม่ตาย กลับใจจดใจจ่อรอให้มันตายจะได้กินเนื้อมัน แค่คิดก็บาปแล้ว บาปท่วมหัวทั้งคู่ อย่าเลี่ยงไปเลี่ยงมาเลย เล่ห์เหลี่ยมมันแพรวพราวให้เห็นอยู่ ไม่พ้นบาปหรอกเจตนาฆ่ามันเห็นอยู่ชัด ๆ

พระธรรมเทศนาพระภาวนาวิริยคุณ




Create Date : 01 สิงหาคม 2554
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 20:38:28 น. 0 comments
Counter : 1494 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุ่นอาวรณ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.