atimeNews : ข่าวสดวงการเว็บไซต์ และการตลาดออนไลน์
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
25 พฤศจิกายน 2557

Online Marketing Trends ปี 2015 มัดรวมมาให้แล้ว

pr-onlinemarketing2015

ในทุกวันนี้โลกเราไร้พรมเดนเสียจริง เส้นบางๆ ที่เคยกั้น ระหว่างโลก Online กับ โลก Offline มันไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว ผู้ที่ถูกเรียกตัวเองว่านักการตลาดออนไลน์ web marketing และ social media marketing นั้น นับวันก็จะมีค่าตัวสูงมากขึ้น ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

และในปี 2015 ที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจต่างๆ น่าจะเริ่มวางแผนงบประมาณทางด้านการตลาด และโฆษณาปีหน้ากันแล้ว แต่ถ้าคิดจะวางกลยุทธ์การตลาดทางด้านออนไลน์ให้เหมือนกับที่ทำในปี 2014 ขอบอกว่าควรคิดไต่ตรองให้ดีๆ ครับ เพราะน้องซี ฉัตรปวีณ์ เจ้าหญิงแห่งวงการ IT ไม่ว่างที่จะมาอัพเดทข่าวทางด้านนี้ กำลังยุ่งๆ อยู่กับเรื่องการแต่งงานหลังจากเพิ่งหมั้นกันไปหมาดๆ แน่ะ.. ^_^!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Digital Marketing Trends ในปีหน้ายิ่งบอกได้ยาก เพราะทุกอย่างผ่านเข้ามา และผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องตามให้ทันเทรนด์ ทันโลก งั้นเรามาลองมาดูกันว่า เทรนด์การตลาดในโลกออนไลน์ในปีหน้าจะมีทิศทางอย่างไร เพื่อจะให้จับทางได้ในโลกยุคปี 2558 ที่กำลังจะถึงนี้

มือถือ มือถือ และมือถือ!

มันก็มือถือจริงๆ น่่ะนะ ไม่ว่าจะ Smartphone ,Tablet หรือ Notebook ยุคปฏิวิติที่แสนบางในสมัยนี้ มือถือจะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในปี 2015 และคงไม่มีใครปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ ตั้งแต่โลกเคลื่อนเข้าสู่โลกแห่งโทรศัพท์มือถืออย่าง Smartphone เต็มรูปแบบ ซึ่งคงได้เห็นกันไปแล้ว ในปีนี้ ถึงผลกระทบระลอกใหญ่ที่มือถือมีต่อวงการดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง และผมเชื่อว่ามันจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปี 2015 และปีต่อๆไป เราจะได้เห็นการพัฒนาของเว็บไซต์ในการค้นหาของ Google เมื่อข้อมูลต่างๆ มีการเชื่อมต่อไปยังหลาย Device ดังนั้นการให้ประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ผ่านทางมือถือ หรือเครื่องมืออื่นที่สวมใส่หรือพกติดตัวได้ จึงเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งนักการตลาดแบบ B2B จะมองเห็นกลุ่มเป้าหมายผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นอันดับแรก คอนเทนต์ทางการตลาดกว่า 50% เข้าถึงผู้บริโภคโดยผ่านทางมือถือและแท็บเล็ตทั้งสิ้น

Content เป็นหัวใจหลักของการตลาด

ในปี 2015 นั้นจะเกิดสงครามในการทำ Content อย่างมากมายแน่นอน และการทำ Content ไม่ว่าจะเป็น SEO หรือ Social media marketing จะมีการแยกให้เป็นแผนก และถูกให้ความสำคัญมากขึ้น การตลาดดิจิตอลในปี 2015 จะมุ่งเน้นไปที่การดูแลลูกค้าด้วยทรัพยากรทุกอย่างที่แบรนด์สามารถมอบให้ได้บนหน้าเว็บไซต์ คอนเทนต์จะช่วยให้ลูกค้าทั้งหน้าใหม่และเก่าค้นหา และใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีที่สุดซึ่งพวกเขาค้นหาจากช่องทางต่างๆ (การค้นหา, โซเชียลเน็ตเวิร์ค และโฆษณาเสียเงินบนออนไลน์) ซึ่งการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายจะกลายเป็นมาเป็นจุดขายของแบรนด์จำนวนมากซึ่งสำคัญมาก แต่ก็มีบางจุดที่สอดคล้องกัน มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าให้เน้น SEO มากกว่า โซเชียลมีเดีย หรือโซเชียลมีเดียมากกว่า SEO แต่มันเกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจว่าคอนเทนต์แต่ละชิ้นของบริษัทจะเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมกับรูปแบบของมัน

Digital Marketer กับการวิเคราะห์ ด้วย Online Stat

การวิเคราะห์สื่อออนไลน์ ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณทราบว่าผู้บริโภคคือใคร ต้องการอะไร มาจากที่ไหน ใช้ device อะไรในการเข้ามา (จริงๆ ดูได้ทะลุไส้ทะลุงพุงเลย) ซื่งการทำตลาดบนออนไลน์นั้นเป็นมากกว่าการโฆษณา โดยคุณต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ได้หลากหลายอย่าง Google Analytics และการดูข้อมูลเชิงลึกใน Facebook Stat อีกด้วย

เมื่อมือถือมาแทนบัตรเครดิต

ทุกวันนี้มือถือมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การบริการ หรือในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ล้วนให้ความสำคัญเช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากการสื่อสารแล้ว โทรศัพท์มือถือยังทำหน้าที่ชำระเงิน ค่าบริการ หรือซื้อสินค้าต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่ง Google Wallet สามารถอำนวยความสะดวกได้มหาศาล เพราะจะช่วยเก็บข้อมูลการชำระเงิน ประวัติการทำธุรกิรรมของคุณ และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่ทั้งนี้ ผู้บริโภคก็ยังไม่มั่นใจที่จะใช้ เพราะการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ซึ่งยังน่ากลัวอยู่

Smart Watch มาแน่ๆ

ตั้งแต่ Google เปิดตัว Google Glass ก็ทำให้หลายคนเริ่มจะเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้น และคาดว่าในปี 2015 จะมีอีกหลายค่าย หลายบริษัทเตรียมจะนำ Gadget อย่าง Smart Watch ออกมาอีกมากมาย เพระว่า Smart Watch นั้นมีความสามารถที่เหนือชั้นมากกว่าแค่ดูเวลา ในอนาคตเราอาจเห็นภาคอุตสาหกรรมหลายส่วน นำมาใช้เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะเทคโนโลยีนี้จะตามติดไปทุกที่ ทุกเวลา เรียกได้ว่าเป็นเงาตามตัวเลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตผู้ผลิตทั้งหลายก็จะพัฒนาให้มีความน่าสนใจ ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่ง Smart Watch เป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุดในขณะนี้

Social Media แข่งขันกันดุเดือด!

ในปี 2014 นี้ Social Media ยังคงได้รับผลตอบรับดีเสมอ ในการเข้าถึงผู้บริโภค นักการตลาดและแบรนด์สินค้าต่างก็ลงทุนกับสื่อออนไลน์ไปไม่น้อย เพื่อทำแคมเปญ กระจายข่าวสาร หรือโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่ง Facebook เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีเครื่องมือที่จะช่วยสร้างและจัดการโฆษณา ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้โฆษณารายใหญ่โดยเฉพาะ ที่ช่วยให้จัดการกับข้อมูลลูกค้า สินค้า โฆษณา บนเพจของคุณ รวมถึงการควบคุมแคมเปญที่แม่นยำ ในส่วนของ Social Media อื่นๆ อย่างที่เห็นคือ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน และโฆษณา เช่น Twitter Google+ และ LinkedIn ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้พัฒนาเครื่องมือการใช้งานที่เหมาะกับการทำตลาดมากขึ้นเช่นกัน แต่ในปี 2015 การโฆษณาบนสื่อออนไลน์ IG (Instagram) จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้แบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจแล้วว่า Social Media ต้องใช้เม็ดเงินในการทำตลาด ไม่ได้ฟรีเหมือนแต่ก่อน และองค์กรก็พร้อมจะลงทุนในการใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น นั่นหมายความว่า นักการตลาดต้องวางแผนการใช้งบประมาณในปี 2015 สำหรับสื่อออนไลน์ และการโฆษณาของปีหน้าให้ดี

Online Security คุณพร้อมหรือยัง?

ในปี 2014 คือปีที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือเว็บไซต์อย่างที่เห็นกันบ่อยๆ ว่ามีการขโมยข้อมูลจากแอคเคาท์ส่วนตัวทั้งคนในวงการดารา เซเล็บต่างๆ และจากสถิติในปีนี้ องค์กรใหญ่ๆ ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี ก็ยังโดนขโมยข้อมูล จากสถิติพบว่าเพียง 3 เดือนแรกของปี 2014 ตัวเลขของการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ก็สูงกว่าปี 2013 ส่วนใหญ่ที่ว่ามานี้มันมีความตั้่งใจที่จะเจาะเข้าไปเพื่อขโมยข้อมูลที่เป็นความลับ และข้อมูลทางด้านการเงิน นั่นคือหมายเลขบัตรเครดิต เลขที่บัญชี โดยบริษัทด้านเทคโนโลยีจะถูกเจาะเข้าไปขโมยข้อมูลมากที่สุด คนทั่วไปอย่างเราก็ควรจะใช้อย่างระมัดระวังให้มากๆ เพราะทุกวันนี้ใช้งานผ่านมือถือ Smartphone Tablet มันง่ายมาก และเสี่ยงที่จะโดนโขมย ทั้งเรื่อง บัตรเครดิต username และ password ต่างๆ ทั้งหลายแหล่ที่ลงในเว็บไซต์ หรือบน App

Google Plus คุณไม่ได้ไปต่อ!

ขอแสดงความยินดีกับ Google Plus ด้วย (กูเกิ้ลพลัส อาจจะแปลว่าพลัดพลาก) เพราะในปี 2014 เป็นปีที่ Google+ ไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก ตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2011 ซึ่งในช่วงแรกอาจมีความน่าสนใจ น่าตื่นเต้น แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานไม่มากพอจนล้างเป็นป่าช้าใน ณ ขณะนี้ แล้วถ้าเรามองย้อนไปถึงการใช้งาน Google ที่แนะนำแกมบังคับให้กับ user อย่าง YouTube เราก็ต้องสมัคร Gmail พ่วงด้วย แต่เครื่องมืออื่นๆ ของ Google+ ที่คิดว่ามีดีก็คือการ Hangout แต่มันก็ยังมีแอพพริเคชั่น หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีรูปแบบการทำงานที่ไม่ต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้อย่างอื่นมากกว่า เพราะสมัยนี้ความหลากหลายในเรื่องการใช้งานมีสูง และยิ่งกลุ่ม Marketer แบรนด์สินค้ามีการใช้งาน Google+ นั้นมีน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าก็จะยังมี Social Media แบบใหม่ออกมาอีกไม่น้อย ตอนนี้ Google+ ในปี 2015 ก็มีโอกาสที่จะหายไป ซึ่งมีการคาดการณฺ์กันแล้วว่าในปี 2015 มีโอกาสห้าสิบห้าสิบที่ Google Plus จะปิดตัวเอง ซึ่งกูรูเขาได้แนะนำว่าอย่าไปลงทุนกับแพลตฟอร์มนี้เด็ดขาด

การตลาดด้าน Digital Marketing เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ แบรนด์หน้าใหม่ก็เกิดขึ้นไม่น้อย ธุรกิจที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป ขอเอาใจช่วยทุกคนนะครับ

Credit : ผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ บริษัทเอไทม์ดีไซน์จำกัด




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 1:24:42 น. 0 comments
Counter : 1625 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Blogman
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add Blogman's blog to your web]