atimeNews : ข่าวสดวงการเว็บไซต์ และการตลาดออนไลน์
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
23 มิถุนายน 2558

พร้อมกลายพันธุ์ไปกับ “เนวิน ชิดชอบ” ในโลกยุคแห่งซินเดอเรลล่าเวิลด์!

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปีที่ Leo Burnett Group จะต้องมีการจัดงาน Leo Burnett Cannes Predictions 2015 เพื่อทำนายผลชิ้นงานโฆษณาที่คาดว่าจะได้รับรางวัลจากงาน “Cannes 2015” งานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติของนักโฆษณาทั่วโลก ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 20 ในประเทศไทย ในธีมที่ชื่อว่า Ready To Mutate? (พร้อมกลายพันธุ์กันหรือยัง)

ทำให้แขกรับเชิญที่ได้มาร่วมสัมนาในเวทีนี้ ไม่ได้อยู่ในแวดวงโฆษณาเลย เพราะต้องการสื่อให้เห็นถึงการ “กลายพันธุ์” ที่ชัดเจน ดังนั้น แม้รากฐานจะไม่ใช่คนโฆษณา แต่สิ่งที่บุคคลคนนี้ได้สร้างสรรค์ผลงานเอาไว้ กลับล้วนแต่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟ ไอเดียแปลกไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคือยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนร่วมอีกด้วย

เขาคนนั้นคือคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อดีตรัฐมนตรี และนักการเมืองคนสำคัญของประเทศไทย โดยเราได้สรุปบทเรียนที่ได้จากอดีตนักการเมืองใหญ่มาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลระดับแถวหน้าของเอเชีย ซึ่งเป็นตัวอย่างของการกลายพันธุ์ที่สร้างสรรค์และประสบความสำเร็จได้ ลองมาฟังทัศนะต่างๆ จากเขาคนนี้กัน

คุณเนวินได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมาตลอดคือวิถีชีวิตของคน โดยเฉพาะคนเมือง เช่น เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยที่จะซื้อบ้านปลูกบ้านอยู่ แต่หันมาอยู่ในอพาร์ทเมนท์ คอนโดมากขึ้น แต่พอถึงวันหยุดก็ไม่อยากที่จะอยู่อุดอู้ในห้องสี่เหลี่ยม รู้สึกโหยหาความเอ็นเตอร์เทนต์ใส่ตัวเอง ทำให้เห็นว่าทุกคนใช้วันหยุดเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง

“ผมทำทีมฟุตบอล บุรีรัมย์ยูไนเต็ดมา 5 ปี ผมไม่เคยใช้บริษัทการตลาด หรือเอเยนซี่โฆษณาเลย วันนี้ต้องยอมรับโลกได้กลายพันธุ์มาเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คหมดแล้ว ทีมงานของผมเวลานี้อายุแก่ที่สุด 35 ปี ถ้าแก่กว่านี้ผมไม่ทำงานด้วยแล้ว.. ผมสอนทีมงานเสมอว่า โซเชียลเน็ตเวิร์ค มันคือ โลกของซินเดอเรลล่าเวิลด์ เพราะมันทำให้คนกลายเป็นหมา และทำให้หมากลายเป็นเทวดาภายในชั่วข้ามคืน ด้วยคลิปยาวเพียงแค่ 5 นาที หรือ 5 วินาที เมื่อโซเชียลเน็ทเวิร์ค มันกลายเป็นสื่อ Mass แล้ว ถ้าคุณทำธุรกิจอะไรก็ตาม ถ้าคุณไม่ยืนอยู่กับ Mass หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค คุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย”

คุณเนวิน กล่าวต่อว่า มนุษย์เดี๋ยวนี้ไม่ต้องการสื่อสารทางเดียวและก็มีอีโก้สูงขึ้น โซเชียลเน็ตเวิร์กคือโลกที่ทุกคนเป็นโปรไปเสียหมด ดังนั้นเวลาตนทำทีมฟุตบอล จึงไม่คิดที่จะทำแบบ one way มันไม่มีทางสำเร็จแน่ เราเลยเลือกที่จะทำแบบ two way โดยที่ไม่ได้จ้างใครทำ เราทำกันเอง รับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากแฟนบอลผ่าน Facebook ดังนั้น ถ้าใครยังอยู่ในมิติเดิมๆ คิดแบบเดิม ไปไม่รอด

“ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คนเป็นเจ้าของช่องใหญ่โตมาก ใครมีแอร์ไทม์คือทำเงินมหาศาล แต่กับการเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอล และโซเชียลเน็ตเวิร์กมันเปลี่ยนไป คนที่มี Contents คือคนที่มีอำนาจต่อรองสูง ตอนนี้ผมเลยไม่แน่ใจว่าเจ้าของโทรทัศน์กับเจ้าของรายการตอนนี้ใครใหญ่กว่ากัน นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าสิ่งนี้มันมาแล้ว (ชูโทรศัพท์มือถือ) คนไทยมีมือถือมากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศเสียอีก ดังนั้น คนทำโฆษณาควรที่จะคิดว่าทำยังไงงานทุกชิ้นจะอยู่บนสิ่งนี้”

ในการทำงานกับผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ ตนไม่เคยคิดว่าเขาเป็นแค่คนที่เอาเงินมาให้แต่คิดว่าพวกเขาคือ “พาร์ทเนอร์” จึงอยากจะบอกเหล่าเอเจนซี่ที่มาอยู่ในห้องนี้ว่า อยากให้คิดว่าลูกค้าไม่ใช่ “นายจ้าง” หรือเราเป็นแค่ “ลูกจ้าง” แต่ให้คิดว่าเราเป็นพาร์ทเนอร์กัน เมื่อเขา win เราก็ win เมื่อเขาดีเราก็ดีไปด้วย

“ในการทำงานกับสปอนเซอร์ทีมบุรีรัมย์เราจะมีมิติที่แตกต่างมากมาย คือเราจะช่วยสปอนเซอร์คิดต่อไปด้วยว่า จะทำอะไรให้เขาได้กลับไปมากกว่าเพียงแค่ติดโลโก้ไปบนเสื้อ”

กับการสร้างทีมฟุตบอล ตนเลือกที่จะทำทีมฟุตบอลเพราะใจรัก เมื่อเราชอบอะไร เวลาทำก็เลยทำออกมาด้วยหัวใจ และจะทำออกมาได้ดี จากในอดีต จ.บุรีรัมย์เป็นเสมือนเมืองผ่าน ไม่ใช่เมืองพัก แทบจะไม่มีใครนึกออกว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย แต่เดี๋ยวนี้ตรงกันข้าม ใครๆ ก็รู้จัก จ.บุรีรัมย์ รู้จักสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม รู้จักสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผู้คนทั้งจากแอฟริกาและยุโรปต่างเสิร์ชหาคำว่า “บุรีรัมย์ยูไนเต็ด” ซึ่งแม้ว่า
ในตอนแรกตนจะเป็นคนผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาก็จริง แต่ในเวลาต่อมาชาวบุรีรัมย์ต่างหากที่เป็นคนสร้างให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ชาวบุรีรัมย์ต่างร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเมืองของเราให้ยิ่งใหญ่

“ผมมี keyword สำคัญในการทำงานอย่างหนึ่งว่า แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ได้ให้ภูเขา ไม่ได้ให้ทะเลสวยๆ มาไว้ที่บุรีรัมย์ แต่พระเจ้าให้สมองกับคนบุรีรัมย์ ดังเช่นที่ผมคอยบอกกับลูกๆ หลานๆ เสมอว่า Resource is Limited But Creative is Unlimited มันคือคำตอบ”

การแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ได้รับคำชื่นชมอย่างดีมากจากสังคมของ “บุรีรัมย์ โมเดล” ก็คือการแก้ปัญหาเด็กแวนซ์ในชุมชน “เนวิน” กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมมองปัญหานี้ต่างจากคนกรุงเทพฯ อย่างการเปลี่ยนชื่อเรียกไม่ให้เป็นการดูถูก เพราะฉะนั้นถ้าใครไปเรียกเด็กพวกนี้ว่าเด็กแวนซ์โดนตบปากแตกเลยนะครับ ผมมองว่าการเก็บออมเพื่อซื้อรถคันนึงก็ดี การแต่งรถก็ดี พวกนี้คือเรื่องของการเก็บออมและการสร้างงานแบบโอท็อป มันคือการฝึกวินัยมันคือการออม”

คุณเนวินกล่าวต่อว่า การเปิดสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คือการให้โอกาสและให้พื้นที่แก่เด็กผ่านความเข้าใจว่า วัยรุ่นคือวัยที่ต้องการแสดงออก ต้องการโชว์ และต้องการรู้สึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่ สำคัญในสายตาคนอื่น เมื่อเราเข้าใจพวกเขา เราก็สามารถใส่กติกา จัดระเบียบให้เด็กพวกนี้เข้าสู่ระบบได้ อย่างสัปดาห์แรกๆ เราอนุญาตให้ใส่รองเท้าแตะได้ ต่อมาก็ค่อยๆ เพิ่มกติกาต้องใส่รองเท้าผ้าใบ ใส่หมวกกันน็อค แต่งกายสุภาพ ฯลฯ ซึ่งจากสัปดาห์แรกมีคนมาร่วมแค่ 800 คัน ตอนนี้ 15,000 คันและมาจากทั่วประเทศ

“ถ้าใครไปสนามไอโบมบาย สเตเดี้ยม จะเห็นคำว่า Breath of Buriram ซึ่งแปลว่า ลมหายใจของบุรีรัมย์ แล้วเราทุกคนคือส่วนหนึ่งของบุรีรัมย์ เมื่อก่อนผมคือคนขับเคลื่อนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมคือประธานสโมสร ผมคือเจ้าของทีม ทำแรกๆ เราก็คือเจ้าของทีม แต่ทำไปทำมา พอการมาถึงของโซเชียลเน็ตเวิร์คผมเนี่ยกลายเป็นลูกจ้างแฟนบอลนะครับ เดี๋ยวก็โพสต์แนะโน่น สั่งนี่ ในวันนี้เราก็ถูกแฟนบอลบีบเรา กลายเป็นทีมที่ทำตามความต้องการของแฟนบอล เพราะฉะนั้นเหมือนกันเวลาที่จะขายสินค้าอะไร ถ้าคุณคิดแต่เพียงว่าจะเอาโจทย์จากผู้จ้าง มาทำแล้วก็เอาไปออนแอร์ให้ลูกค้า เมื่อคุณจะขายของคุณต้องรีเสิร์ชให้ได้ว่า ลูกค้าชอบสินค้านี้ด้วยเหตุผลอะไร ที่สำคัญคืออย่าไปโกหกลูกค้า เพราะถ้าเมื่อไหร่ไป propaganda เขาเมื่อนั้นหนังโฆษณาคุณเจ๊งแน่นอน”

ฟังแนวคิดการทำงานที่สร้างสรรค์ของคุณเนวินแล้ว บอกได้คำเดียวว่ารู้สึกอยากจะแปลงร่างพร้อมที่จะกลายพันธุ์ไปด้วยเลยจริงๆ

ดูคลิปวีดีโองาน Ready To Mutate ได้ที่นี่

แหล่งที่มา ผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ เอไทม์ดีไซน์




Create Date : 23 มิถุนายน 2558
Last Update : 24 มิถุนายน 2558 11:25:59 น. 0 comments
Counter : 920 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Blogman
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add Blogman's blog to your web]