"สำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย" จ.ปทุมธานี ถือว่าเป็นสำนักสักยันต์ที่มีชื่อเสียงที่สุด มากกว่าสำนักสักยันต์ของหลวงพ่อเปิ่น แห่งวัดบางพระ จ.นครปฐม โดยเฉพาะลายสักยันต์ที่มีชื่อว่า "ยันต์ ๕ แถวหนุนดวง"  แต่วันนี้ "สำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย" ไม่คึกคักเหมือนก่อนเกือบจะกลายเป็นสำนักร้าง มือสักยันต์ของสำนักบ้างก็ถูกไล่ออก บ้างก็ลาออกไปก่อนที่จะถูกไล่ออก ไปตั้งสำนักเองโดยไม่ขึ้นกับ อ.หนู อีกต่อไป

ด้วยเหตุที่ว่า "คนใกล้ชิดของอาจารย์หนู กันภัย และมือสักยันต์ของสำนัก ที่เคยเป็นทั้งลูกศิษย์และยังเป็นครูสักยันต์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์หนู กันภัย หลายคนเริ่มที่จะออกห่าง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่คนเหล่านี้รู้เห็นอะไรลึกๆที่คนภายนอกไม่สามารถจะรับรู้ และเกิดความรู้สึกรับไม่ได้ หรือไม่ก็อาจจะรู้มากไปจนไม่เป็นที่ไว้วางใจ"

ลูกศิษย์ก้นกุฏิของอาจารย์หนู ที่เป็นครูสักยันต์ระดับเด่นๆ ก็มีไม่มีกี่คน เริ่มจาก ครูเล็ก (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งครูเล็กนั้นมาอยู่กับอาจารย์หนูตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๙ ก่อนจะแยกตัวออกไปเปิดสำนักสักยันต์ของตนเองที่วัดบางพัง ย่าน อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ส่วนครูตั้ม เข้ามาที่สำนักไล่ๆกับครูเล็ก ก่อนจะออกไปเปิดสำนักที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก และครูแท๊ก ออกไปตั้งสำนักที่ซอยเรวดี  อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งทั้ง ๓ คนนี้ถือเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆที่ได้รับการถ่ายทอดเรื่องสักยันต์

สำหรับมือสักยันต์รุ่นสุดท้ายที่ถูกไล่ออกจากสำนัก คือ ครูไก่ หรือ นายสมพาร สารีบุตร เข้ามาเป็นลูกศิษย์ใน พ.ศ.๒๕๔๐ออกจากสำนัก อ.หนู เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๔ โดยไปเปิดสำนักอยู่ที่ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ในขณะที่นายสุทธิชัย เข็มทอง หรือครูเจมส์ ไปเปิดสำนักสักยันต์อยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และครูจ้อน เข้ามาอยู่กับอาจารย์หนู เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๕ และออกไปเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ส่วนลูกศิษย์อีกคนคือครูพี ตอนนี้เดินสายสักยันต์ระหว่างกรุงเทพและเชียงใหม่  และครูเก่ง หรือนายประทักษ์ สมใจประเสริฐ ลูกศิษย์มือดีที่ลาออกไปเมื่อปลาย พ.ศ.๒๕๕๓

นอกจากนี้แล้วคนใกล้ชิดคนสุดท้ายคือนายไพศาล เชิดชูชาติ ที่เรียกได้ว่าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดอาจารย์หนูมากกว่าใครๆ เพราะเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งและเป็นบรรณาธิการหนังสือมงคลโสฬส ที่มีสำนักงานอยู่ที่สำนักของอาจารย์หนู โดยทำมาหลายปี จนกระทั่งถึงจุดแตกหัก เมื่อนายไพศาล เข้าไปสอบถามเรื่องเงินบริจาคของวัดแม่ตะไคร้ โดยถามหลายๆครั้งเข้า อาจารย์ก็สั่งให้คนใกล้ชิดมาปิดสำนักงานหนังสือมงคลโสฬส และไล่นายไพศาลพร้อมทีมงานที่ร่วมกันทำหนังสืออีก ๓-๔ คนออกไปพร้อมกันด้วย โดยไม่ให้เหตุผล แต่ทุกคนก็เข้าใจกันดีว่าสาเหตุมาจากเรื่องเงินบุญก้อนใหญ่ "ในการจัดสร้างพระหลวงปู่ทวดยืนวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
" นั้นเอง

โดยล่าสุดพระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายสมพงษ์ กันภัย หรือ อาจารย์หนู กันภัย และบุคคลใกล้ชิด เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเงินบริจาคของประชาชนที่ได้ร่วมบริจาคเพื่อบูชา พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปสร้างหลวงปู่ทวดสูง 45 เมตร องค์ใหญ่และสูงที่สุดในโลกของวัดแม่ตะไคร้

อย่างไรก็ตามตั้งที่มือสักยันต์ของสำนักถูกไล่ออกหมด ปรากฎว่าสำนักสักยันต์ที่เคยเต็มไปด้วยลูกศิษย์ ทั้งดารา นักร้อง นักแสดง ข้าราชการนักการเมือง ที่ไปให้ อ.หนู ฝากรอยสักยันต์ ๕ แถวหนุนดวง และยันต์ฉัตรก็เริ่มหายไปจากสำนัก เหตุผลหนึ่ง คือ ค่าครูสักยันต์ที่แพงมาก โดยเฉพาะค่าสักยันต์ ๕ แถวหนุนดวง ที่สำนักเดิมเก็บค่าครูเพียง ๑๙๙ บาท จากนั้นย้ายมาสำนักใหม่(บ้านหลังปัจจุบัน) เก็บค่าครูที่ ๓,๐๐๐ บาท จากนั้นค่าครูก็ขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งปัจจุบันนี้มีการเก็บค่าครูสูงถึง ๗,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ หรือเก็บค่าครูตามกำลังของลูกศิษย์เป็นหลัก แล้วแต่ลายสักด้วย บ้างลาย 2-5 หมื่น ขึ้นไป

ความเสื่อมศรัทธาอย่างหนึ่งของสำนักสักยันต์ อ.หนู ที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน  คือ ในงานวันไหว้ครู ซึ่งปกติแล้วจะมีลูกศิษย์มาร่วมงานนับหมื่นคน มีดารานักแสดงที่เคยให้ อ.หนู ฝากลายสักยันต์ ๕ แถวหนุนดวง หลายสิบคน แต่เมื่องานไว้ครูวันที่ ๓๐ เมษายน และ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมานั้นมีลูกศิษย์มาร่วมงานไม่ถึง ๓,๐๐๐ คน ส่วนดารานักแสดงนั้นมาเพียงไม่กี่คน

ทั้งนี้หากย้อนอดีตในช่วงของความรุ่งเรื่อง "สำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย" ผู้ที่เดินทางส่วนใหญ่ ให้เหตุผลในทำนองเดียวกันว่า ได้ติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ที่เขียนเรื่องราวของอาจารย์หนู ทำให้คนทั่วโลกรู้จักในศาสตร์นี้ว่า มาจากประเทศไทย ประกอบกับได้สักยันต์ให้แองเจลินา โจลี แล้วทำให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตของการเป็นนักแสดง จึงอยากมีชื่อเสียงอย่างนางเอกฮอลลีวู้ดคนดังกล่าวบ้าง ส่วนยันต์ที่นิยมสักมากที่สุดคือ รูปพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ และยันต์ที่เป็นเมตตามหานิยม

ความโด่งดังของ"ยันต์ ๕ แถวหนุนดวง" ส่วนหนึ่งเกิดจาก อ.หนู กันภัย ได้สักยันต์นี้ให้แก่ แองเจลินา โจลี ดาราฮอลลีวู้ด ที่หัวไหล่ด้านซ้าย และให้หลังจากนั้นประมาณอีก ๑ ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ที่แองเจลินา โจลี หวนกลับมาประเทศไทยให้ อ.หนู สักลายยันต์เสือเหลียวหลัง ที่บริเวณเอวด้านหลัง และลงอักขระมหาเศรษฐี มีขนาดกว้าง ๒๐ ซม. ยาว ๓๐ ซม.ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง

ในครั้งนั้นแองเจลินา โจลี ให้เหตุผลของการเดินทางมาสักยันต์ครั้งนั้นว่า "หลังจากได้รับการสักจากอาจารย์หนู ครั้งแรกรู้สึกชีวิตดีขึ้น และมีโชคลาภ นอกจากนี้แล้ว เธอยังเชิญอาจารย์หนูไปสหรัฐอเมริกา เพื่อสักยันต์แบบนี้ให้แก่เพื่อนนักแสดงจากฮอลลีวู้ดอีกด้วย"

ผลพวงของการสักยันต์ให้แองเจลินา โจลี ส่งผลให้มีชาวต่างชาติได้เชิญอาจารย์หนู ไปสักยันต์ ลงนะหน้าทองกันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าประชาชนในประเทศนั้นๆ ส่วนใหญ่จะนับถืออย่างอื่น เมื่อเดินทางไปถึงประเทศนั้น มีทั้งดารานักแสดงและประชาชนที่รู้ข่าวต่างเดินทางเข้ามาให้สักยันต์กันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็มีนักแสดงของประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาเมืองไทย ไปให้อาจารย์หนูสักยันต์ถึงที่สำนักอีกด้วย

โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ ดาราฮอลลีวู้ดคนล่าสุด ที่เชื่อและต้องมนต์ในลายสักยันต์ของ อ.หนู คือ บริตตานีย์ แดเนียล (Brittany Daniel) จากภาพยนตร์เรื่อง White Chicks, Little Man, Club Dread, Joe Dirt พร้อมคณะได้เดินทางมาที่สำนักสักยันต์ อ.หนู  โดยมี น.ส.พนิตา บุณยเกียรติ ทำหน้าที่เป็นล่าม ทั้งนี้ อ.หนู ได้สักยันต์นะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น และยันต์ ๕ แถวหนุนดวง หลังจากสักยันต์เสร็จ อ.หนู ได้ประพรมน้ำพุทธมนต์ พร้อมกับบริกรรมคาถาให้แก่บริตตานีย์

ส่วนดารานักแสดงชาวไทยนั้น สาวเซ็กซี่ทรงโตด้วยกันทั้งคู่ นั่นคือ “ตั๊ก” บงกช คงมาลัย และ “ต่าย” เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ที่ก่อนหน้านี้ ก็มีรอยสักอยู่แล้ว คือ รูปหัวใจที่หน้าอก กับที่ข้อมือขวา แต่ทั้งสองลายเป็นการสักไว้เพื่อความสวยงาม แต่การเดินทางเข้าไปขอสักยันต์ ๕ แถวกับอาจารย์หนูนั้น ต่ายกล่าวว่า เพื่อต้องการหนุนดวง และเกิดสิริมงคลกับตนเอง อาจารย์หนูจึงได้ฝากรอยสักให้ไว้ที่บริเวณไหล่ด้านซ้าย แต่มีขนาดที่เล็กกว่าที่เคยสักให้กับนางเอกฮอลลีวู้ด

ซึ่งก่อนที่  “ต่าย” เพ็ญพักตร์ ศิริกุล  เดินทางเข้าไปสักก่อนหน้าสาวสองพันปีแป๊บเดียว ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเซ็กซี่รุ่นน้อง “ฟลอเรนซ์” วนิดา เฟเวอร์ ซึ่งให้อาจารย์หนูสักลงน้ำมัน ยันต์หนุนดวง ๕ แถว และยันต์พญาเสือโคร่ง ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ และอีกหนึ่งสาวที่ให้ความสนใจในเรื่องสักนี่ไม่แพ้กัน คือสาว “โย” ยศวดี หัสดีวิจิตร ที่ขอสักยันต์หนุนดวง ๕ แถว ด้วยหมึกที่บริเวณไหล่ด้านซ้าย

ใช่จะมีแต่นางแบบเท่านั้น แต่นางเอกดังอย่าง “น้ำฝน” กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ นอกจากจะมีความเชื่อเรื่องเปลี่ยนชื่อแล้วดวงจะเฮง ก็ยังขอเอาไหล่ขวาเข้ารับการสักจากอาจารย์หนูเช่นกัน แต่เป็นสักน้ำมัน ยันต์หนุนดวง ๕ แถว เพราะน้ำฝนให้เหตุผลว่า อยากให้มีงานเพิ่มมากขึ้น และให้ธุรกิจแฟรนไชส์ขนมจีนสมุนไพรของตัวเองเจริญรุ่งเรือง ขยายสาขาเพิ่มขึ้นไปอีกนางเอกสาวลูกครึ่งอย่าง “ชมพู่” อารยา เอ ฮาร์เก็ต ก็เป็นศิษย์ของอาจารย์หนูเช่นกัน โดยได้รับคำแนะนำจากเพื่อนซี้ “เติ้ล” ตะวัน จารุจินดา ที่ไปสักมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ของสาวชมพู่ขอสักน้ำมันแทน เพราะจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน

ในขณะที่เด๋อดอกสะเดา ตลกรุ่นเก๋าบอกว่า เห็นอาจารย์หนู ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก เพราะอาจารย์หนูเป็นญาติแท้ๆ เป็น ลูกพี่ลูกน้องกัน แม่ของอาจารย์หนูเป็นน้องสาวแม่ของเด๋อ เดิมทีไม่ได้สนใจ ลายสักของอาจารย์หนูเลย เกรงว่าสีของน้ำหมึกจะเลอะตามแผ่นหลัง แต่เมื่อรู้ว่ามีการสักยันต์หนุนดวง๕ แถว ซึ่งสมัยนั้นยัง ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอาจารย์สักให้เฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่า นั้น ในฐานะที่เป็นญาติ ก็ให้อาจารย์สักยันต์ให้ จากนั้นอีกไม่นานมีการบอก ต่อกันแบบปากต่อปาก ความนิยมก็เพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น

ด้านสุเชาว์พงษ์วิไล ดารารุ่นใหญ่ลายคราม ก็เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่ศรัทธาในลายสักยันต์ของ อาจารย์หนู บอกว่า ใครจะคิดจะมองคนมีลายสักยันต์ ในมุมใดก็ตาม แต่โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่าหลังจากได้ลายสักยันต์ของอาจารย์ หนูไปแล้ว งานด้านแสดงดีกว่าเดิมมาก แม้ว่าจะอายุปาเข้าไปกว่า ๖๐ ปี แล้ว ไม่คิดว่าเป็นเรื่องสาย หรือช้าไปสำหรับความศรัทธาลายสักยันต์ของ อาจารย์หนูโดยให้อาจารย์หนู สัก ยันต์เสือเหลียวหลัง ให้ เมื่อได้เสือเหลียวหลังไปแล้วก็มียันต์ ตัวอื่นๆ ตามมา คือ ยันต์หนุนดวง ๕ แถว ยันต์ฉัตรเพชร ยันต์เกราะเพชร ยันต์โภคทรัพย์ ยันต์โสฬสมงคลของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง รวมทั้งยันต์ อื่นๆ อีกหลายตัว จนเกือบจะเต็มแผ่นหลัง

นางเอกรุ่นใหญ่ลายคราม"อำภา ภูษิต" ที่ว่า"การสักยันต์นั้นเริ่มจากคำบอกเล่าของ " ต่าย" เพ็ญพักตร์ มาคุยให้ฟังว่า สักแล้วชีวิตและงานจะดีขึ้น ครั้งแรกสัก หนุนดวงด้วยน้ำมันก่อน ปรากฏว่าทั้งงานและชีวิตดีขึ้นจริงๆ จากนั้น อีก ๒ อาทิตย์ ไปสักยันต์โภคทรัพย์ด้วยหมึก พร้อมกันนี้ดารารุ่นน้องอีกหลาย คนก็ไปสักยันต์ด้วย ส่วนใหญ่จะสักด้วยน้ำมัน การสักด้วยน้ำมันเป็นเครื่อง ยืนยันว่าสักด้วยความศรัทธา เพราะถ้าสักเป็นแฟชั่นทุกคนต้องสักด้วยหมึก แล้วมาโชว์อวดกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด การปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์หนู ก็สำคัญไม่น้อยกว่า"

: เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

ข่าวพระเครื่อง นำมาจาก //www.itti-patihan.com/สำนักสักยันต์-อ.หนู-กันภัยแตก-ลูกศิษย์หายหมด-ฤา-ยันต์-๕-แถวหนุนดวง-จะสิ้นมนต์ขลัง.html

Create Date : 13 ตุลาคม 2556
Last Update : 13 ตุลาคม 2556 0:26:57 น.		0 comments
Counter : 48873 Pageviews.
Share Tweet