มึงมาหากูมึงต้องการอะไร ข้าพเจ้ายังจำประโยคนี้,ของท่านจนขึ้นใจ เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าเอา เทปชุดเพลงแหล่วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์ คำสิงห์ ไปให้ หลวงพ่อคูณ ท่านช่วยเหยียบให้เพื่อเทปจะได้ขายดี ทะลุหลักล้านเหมือน กับคนอื่นบ้าง ทั้งๆหลวงพ่อคูณท่านก็บอกว่า กูยังไม่เคยเหยียบให้ใครเลย
เอ้า ในเมื่อมึงต้องการให้กูเหยียบ กูก็เหยียบให้
แล้วท่านก็ออกแรงกระทืบเทปเสียแหลกลาญ แล้วบอกว่า
กูเหยียบของมึงแรงไปหน่อยแตกหมดแล้ว ไม่ต้องขายกันพอดี แล้วเทปชุดนี้ก็ไม่ต้องขายกันพอดี เหมือนที่ท่านพูดจริงๆ ในกุฏิของท่านมีวัตถุสิ่งของพวกนี้มากมาย ที่มาเข้าแถวรอคิวให้ ท่านช่วยเหยียบให้
ข้าพเจ้าเคยถามเรื่องเหยียบโฉนดที่เขาเอามาให้เหยียบ ท่าน อธิบายให้ฟังว่า
อันนั้นมันเป็นสิ่งที่ประเล้าประโลมใจ คือเอาใจเขาเฉยๆ มัน ตั้งใจมาแล้ว ถ้าเราไม่ทำให้มัน มันก็หาว่าหลวงพ่อคูณนี่จองหอง กู มีหน้าที่เหยียบ...มันให้เหยียบ กูก็เหยียบตามหน้าที่ของกู มันจะถูก อายัด ไอ้คนที่เขาซื้อกันถูกทั่วบ้านทั่วเมือง เขาไม่ต้องมาให้กูเหยียบ หมดหรือ กูก็รู้ แต่ว่าทำตามใจมันเฉยๆ ให้มันดีใจ เดียวมันจะโกรธ
ทำไมหลวงพ่อไม่บอกเขาว่ามันงมงาย อย่าไปหลงนะ มันเป็น ไปไม่ได้ หลวงพ่อเคยบอกเขาหรือเปล่า
หลวงพ่อคูณตอบว่า
กูจะไปบอกมันได้ยังไง ถ้ามันซื้อมาแล้ว ถ้าไปบอกมันว่า งมงายๆ จะไปขายใคร
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่านอกจากหลวงพ่อคูณ จะเป็นเกจิอาจารย์ดัง เป็นพระนักพัฒนาแล้ว ในบางโอกาสท่าน ก็เป็นพระนักจิตวิทยาที่ต้องแก้ปัญหาให้กับคนทั้งประเทศที่แห่กัน เข้าไปให้ท่านเคาะหัวให้ เพื่อความสบายใจ