Home, แจ้งลิงค์เสีย-ติชม-สอบถาม ตรงนี้เท่านั้น, ตั้งเวปเป็นหน้าแรก
ตายแล้วฟื้น - คุณครูบุญชู

[Main : กลับ หน้ารวมศาสนา]


วันนั้นเป็นวันที่ ๕ ก. พ ๒๔๙๕ ฉันได้ไปทำกิจวัตรประจำวันของฉันคือเป็นครูน้อยประจำโรงเรียนประชาบาล ต. สามโก้ ๔ (วัดมงคลธรรมนิมิตร) อ.วิเศษไชยชาญ จ. อ่างทอง ตามปกติ แต่วันนั้นเป็นวันที่ฉันรู้สึกเกียจคร้าน ไม่มีกำลังใจที่จะสอนเด็กประกอบกับความง่วงผิดปกติ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ไปอดนอนที่ไหนมา แต่เป็นเพราะเหตุใดไม่ทราบทำให้ฉันง่วงนอนอยากจะหลับ เป็นเหตุทำให้จิตใจของฉันไม่เป็นปกติ แต่ฉันก็ทนสอนต่อไปจนหมดเวลา ๑๕.๑๕ น. ซึ่งเป็นวันเวลาเลิกทำการสอน

พอปล่อยเด็กกลับบ้านแล้วฉันก็เดินมาบ้านซึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ ๓ เส้นเศษ ฉันมาถึงบ้านก็ผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว และปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน คือหุงข้าว กวาดบ้าน ถูบ้าน อาบน้ำ ตนเองและบุตร เมื่อเสร็จงานบ้านแล้ว ฉันก็นำเสื่อมาปูและนอนเล่นกับบุตร ๒ คน ในขณะนั้นเวลา ๑๖. ๓๐ น. เศษต่อมาฉันก็หลับไปเมื่อไรไม่ทราบมารู้สึกตัวต่อเมื่อตัวของฉันเองมายืนอยู่ใต้ร่มไม้ มีร่มมะพร้าว ขนุน มองดูสวยงามมาก มะพร้าวและขนุนกำลังมีผลดก แต่ก็ไม่ทราบว่าที่ฉันยืนอยู่นี้เป็นที่ใด

ฉันมองไปรอบ ๆ ตัวบังเอินสายตามองไปบนถนนสายหนึ่ง ยาวเหยียดไปข้างหน้า ด้วยความอยากรู้ฉันยกเท้าจะขึ้นไปเที่ยวถนนสายนั้น

แต่ยังมิทันที่เท้าของฉันจะถูกพื้นถนนก็ต้องสดุ้ง เพราะได้ยินเสียงพูด แต่เสียงดังเหลือเกิน ดังคล้ายตวาด มาจากทางข้างหน้าของฉันว่า “ อ้อ...บุญชู เหมอะเลยมาเถิด นายให้มารับ ถึงเวลาแล้ว ” ฉันได้ยินดังนั้นก็บอกเขาไปว่าไม่ไปหรอก พร้อมกับผละวิ่งหนีทันที

แต่ชายทั้งสี่คนก็เดินตามและพูดว่า “ ถึงเวลาแล้ว ไม่ไปไม่ได้ ” ฉันก็หันไปบอกเขาว่า “ ลุงไปบอกนายเถิดว่า ฉันผัดไปก่อน ฉันยังไม่ไปไหนหรอก ” แต่เขาก็ตอบมาอีกว่า “ผัดกับข้าไม่ได้ เอ็งต้องไปผัดเอง” เมื่อหมดทนทางเลี่ยงฉันจึงบอกว่า “ ถ้าเช่นนั้นต้องคอยก่อน ฉันต้องไปบอกคนทางบ้านเสียก่อน เพราะที่มาเที่ยวนี้ไม่มีใครรู้ ”

แล้วฉันก็เดินมาหน้าบ้านและเดินเข้ารั่วบ้านขึ้นบันไดไป ก็พบว่าบนบ้านสว่างไปด้วยตะเกียงเข้าพายุและมีชาวบ้านมานั่งกันอยู่เต็มบ้านพร้อมทั้งร้องไห้ ฉันขึ้นบันไดได้ก็ผละวิ่งจากตรงบันไดไปหาสามีของฉัน ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆหมอ ฉันเสียหลักสะดุดชายเสื่อล้มลงไป

เมื่อฉันลุกขึ้นมา ชาวบ้านใกล้เคียงที่มานั่งอยู่บนบ้านข้าง ๆ ฉันนั้นต่างพากันถอยหนีไปรวมกันอยู่หน้าครัวหมดและต่างก็ชิงกันถามว่า “ ครูฟื้นแล้วหรือ ครูไม่ตายหรือ ครูไม่ได้หลอกพวกฉันไม่ใช่หรือ” ฉันก็บอกพวกนั้นว่า “ อย่ากลัวฉันเลย ฉันอยากจะพูดอะไรด้วยสักหน่อย แล้วก็จะไปเพราะเขามารับฉันแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ฉันยังไม่อยากตาย ขอผัดเขา เขาไม่ยอมบอกให้ไปผัดกับยมบาลเอง ฉันจึงจะต้องไป และฉันขอร้องด้วย ขอให้เก็บศพฉันไว้ ๓ วันก่อน ถ้าไม่กลับหมายความว่าเขาไม่ยอม จึงค่อยเผา”

พอดีได้ยินเสียงสุนัขหอนขึ้นและได้ยินเสียงเรียก ฉันจึงบอกว่า “ โน้นเขาเรียกเร่งมาแล้ว ฉันไปล่ะ ลาก่อนทุก ๆ คน ” นายเจ๊กที่เป็นหมอแกจึงเอาธูปเทียนมาให้ฉัน และบอกว่า “ พระอรหํ พระอรหํ” ตอนนี้ฉันเกือบจะหมดสติแล้ว รับคำพระอรหํได้สองครั้งก็หมดสติวูบไป มาารู้สึกตัวว่าตัวของฉันเองได้เดินอยู่บนถนนสายนั้นเสียแล้ว

ในระยะที่ฉันฟื้นและตายไปใหม่นี้คือฟื้นตอนประมาณ ๒๒. ๐๐ น. และตายไปใหม่ประมาณ ๒๒ . ๐๖ น. ตลอดทางที่เดินไปนั้นฉันอยู่ตรงกลาง มีคนขนาบข้าง ๒ คน เดินมาพักใหญ่จึงมาพบโต๊ะตั้งข้างทางเดินมีอาหารหลายชนิดตั้งอยู่บนโต้ะ มีเหล้า ข้าว หมู ไก่ ขนมจีนน้ำยาและขนมอีกหลายชนิดคนทั้งสี่ตรงเข้าไปที่โต๊ะและเรียกฉัน “บุญชูยังไม่ได้กินข้าว มากินเสียซิ”

ฉันก็ตรงเข้าไปกินกับเรา เมื่ออิ่มแล้วก็ถามเขาว่า “ ของใครนี่เรามากินของเขาไม่ว่าเอาหรือ ” คนที่มีท่าทีว่าจะเป็นหัวหน้าบอกฉันว่า “ ไม่มีใครว่าหรอกเพราะเขาเซ่นผี ไว้อีกสองวันข้าจะกลับมาเอา” ฉันถามว่าบ้านใครเล่า เขาบอกว่า “ โน้นไงเล่า บ้านนางหล่ำ หัวตะพานเขาทำบุญต่ออายุไว้ อีกสองวันเถิดข้าจะมาเอาตัวไป ”

ฉันมองตามมือก็เห็นบ้านหลังนี้อยู่ข้าง ๆ บ้านมีลูกกรงสีเขียวต่อจากบ้านนางหล่ำมาอีกพักใหญ่ จึงพบขบวนคนยืนอยู่สองฟากถนนต่างไชโยโห่ร้องรับฉัน และร้องบอกกันว่า “ พวกเรามาอีกคนแล้วโว้ย ” ฉันบอกกับเขาว่า “ ฉันไม่มาเป็นพวกแกหรอก ” พวกนี้ส่วนมากไม่นุ่งผ้ากันเลย

จากพวกนี้ไปก็ถึงสวนดอกไม้ใหญ่ ดอกสวยมากเป็นทองคำทั้งดอก ใบสีเขียวเป็นมันเหมือนมรกต ฉันตรงเข้าไปจะเก็บก็ถูกห้ามไม่ให้เก็บ เขาบอกว่าถ้ายังอยากจะกลับละก้ออย่าเก็บ ถ้าเก็บแล้วเอ็งจะกลับไม่ได้ ฉันต้องเดินผ่านมาด้วยความเสียดาย

เดินพักใหญ่ก็พบลานกว้างมีต้นไทรขนาด “ ๒ ” คนโอบ มีแท่นหินและโต๊ะหินอยู่โคนต้นไทร มีชายคนหนึ่งตัวดำ ผมหยิกตพอง รูปร่างใหญ่โตนั่งอยู่บนแท่นหินนั้น ชายทั้งสี่และฉันเดินมาถึงตรงนี้ ก็ถูกเรียกว่า “ เฮ้ย .... พามาตรงนี้ซิ มาถามไถ่กันดูก่อน อีนี่ดื้อนักเรียกไม่ค่อยจะมา ” ฉันและชายทั้งสี่จึงเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าพอเงยหน้าขึ้นดูก็รู้สึกดีใจว่ายมบาลคนนี้รูปร่างเหมือนนายสิงห์หมี ผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักกัน

จึงถามว่า “ อ้าว ... ..ตาเชย มาเมื่อไรเล่า ? ” แต่กลับตวาดว่า “ เชย..เชยอะไร เอ้งรู้จักข้าตั้งแต่เมื่อไหร่? ” ทำให้ฉันเงียบเสียงทันที แต่ยังนึกสงสัยว่า ยมบาลนี้ถ้าไม่ชื่อเชย ทำไมรูปร่างเหมือนผู้ใหญ่เชยจริง ๆ คล้ายกับจะเป็นลูกฝาแฝดทีเดียว แต่ยมบาลตัวใหญ่มาก ฉันจะพูดกับยมบาลต้องแหงนหน้า ฉันยืนอยู่ตรงหน้าคล้ายกับเอาลูกหนูไปยืนอยู่ตรงหน้าวัว ตัวเขือง ๆ ทีเดียว

ต่อไปยมบาลถามฉันว่า “ เอ็งทำไมดื้อนัก.....ข้าให้คนไปรับยังวิ่งหนี ” ฉันตอบไปว่า “ ฉันห่วงลูก เพราะลูกยังเล็กอยู่ ” คราวนี้ยมบาลสดุ้งทันทีร้องว่า “ อ้าว.....พวก:-)ทำไมทำ:-)อย่างงี้เล่า ผิดตัวเสียแล้ว อีนี้มันไม่มีลูกนี่หว่า ” เสร็จแล้วก็ไปพลิกบัญชีดูและบอกว่า “ อีคนนั้นชื่อบุญชู จิตทอง บ้านต้นโพธ์ หมู่ ๑ จ.สิงห์บุรี ตายเวลาตีหนึ่งครึ่ง เป็นไข้ทับระดูตาย อีนี่ตายตั่งแต่ห้าโมงเย็น เป็นลมตาย ไม่ใช่ ๆ ผิดตัว เอ็งจัดแจงเตรียมตัวไปเอาอีคนนั้นมา ”

พอสี่คนนั้นเตรียมตัวไปยมบาลก็หันหน้ามาบอกฉัน “ จะดูอะไรก็ดูเลย ประเดี๋ยวจะให้เขาเอากลับไปส่ง ” ฉันจึงเดินดู พบชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันเคยรู้จักชื่อนายเปรื่อง ถูกตัดนิ้วมือด้วนกุดหมด ถามได้ความว่าชอบยิงนกในวัด

บางคนก็เคยทุบหัวควายก็ถูกล่ามโซ่และถูกเชือดเนื้อเสียงร้องอู้ ๆ น่ากลัวมาก ฉันมองดูด้วยความหวาดเสียว เมื่อฉันเดินออกมายมบาลก็โยนบัญชีมาให้ฉันดู ในบัญชีนั้นมีหนังสือตัวใหญ่ ๆ แผ่นกระดาษใหญ่เท่ากับแผ่นกระดานดำที่สอนเด็ก ฉันมองดูมีชื่อคนมาก

แต่ฉันพยายามจำแต่คนที่ฉันรู้จักจำมาได้ดังนี้คือ (๑) นางบุญชู จิตทอง ตีหนึ่งครึ่ง ไข้ทับระดู ๕ ก.พ. ๒๔๙๕ (๒) นางหล่ำ ๗ ก.พ. ๒๔๙๕ (๓) นางฉาย บุญวงศ์ ๔ มี. ค. ๒๔๙๕ (๔) นานแม่น ทองสติ ๔ ก. ค. ๒๔๙๕ (๕) นายปลอด สีสิงห์ ๔ ก.พ. ๒๔๙๗ (อีกสองปี)

ฉันเปิดขอดูอีกแต่เขาไม่ยอมให้เปิด เขาบอกว่า “ เอ็งหมดสิทธิ์ที่จะเปิดแล้ว เอ็งเป็นคนใจบุญเปิดดูไม่ได้หรอก เดี๋ยวไปเที่ยวบอกเขาหมด เมื่อก่อนนี้ เอ็งเป็นคนทำบัญชีให้ข้า ข้าคิดถึงเอ็ง อีกห้าปีข้าจะให้ไปรับเพราะเอ็งจะลำบากอีกมาก ” ฉันบอกว่า “ อีกห้าปีฉันไม่มาหรอก ”

ยมบาลหัวเรอะแล้วพูดว่า “ เอ็งอยากลำบากก็ตามใจเอ็ง แต่ถ้าเอ็งไม่มา เอ็งต้องบวชลูกให้ข้า ข้าก็ไม่ไปรับเอ็ง แต่ข้าจะให้คาถาเอ็งไว้ป้องกันตัวบทหนึ่ง เอ็งพยายามท่องอยู่เสมอ อันตรายและความลำบากจะลดน้อยลงไป คาถานี้เอ็งบอกให้ทั่ว ๆ ไปเถิด เพราะต่อ ๆ ไปในเมืองมนุยษ์จะยุ่งกันใหญ่ เอ็งคอยจำนะข้าจะบอกให้ ” แล้วเขาบอกว่า “ ก่อนท่อง ตั้งนะโมสามจบเสียก่อนนะแล้วท่อง จะออกจากบ้านหรือจะนอนนะท่องอยู่เสมอ ๆ จะคุ้มภัยเอ็งได้ ”

ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโต จุติ

ฉันจำไว้เพื่อนำมายังมนุษย์โลกต่อไป และก็เป็นที่น่าแปลกว่า ฉันได้ฟังเพียงครั้งเดียวก็จำได้และก็พอดีเขานำบุญชู จิตทองมา บุญชูคนนี้กับฉันรูปร่างเหมือนกันมาก ฉันได้ยินเสียงยมบาลดุบุญชูว่า “ เอ็งนี่จะตายแล้วยังก่อเวรไปลักพุทราเขามากินและผิดสำแดงพุทราจึงตาย ” แล้วเขาสั่งให้ตีบุญชู ฉันรู้สึกกลัวจริง ๆ เมื่อบุญชูคนโน้นถูกตีด้วยหวายแล้ว ยมบาลก็สั่งให้ชายทั้งสี่นำฉันมาส่ง

พอมาถึงหน้าบ้านฉันเข้าบ้านไม่ได้เพราะล้อมสายสิญจน์และซัดข้าวสารไว้ จนกระทั้งคนที่ท่าทางคล้ายกับเป็นหัวหน้าแกจึงจับฉันเหวี่ยงโครมขึ้นมาบนบ้านทำให้บ้านไหวยวบ คนหนีกันหมดเหลือแต่ลูกสาวฉันได้อายุได้สี่ปี นี่งอยู่และถามฉันว่า “ แม่ไม่ตายหรือ ....” พอบอกว่าไม่ตายหรอก จึงได้เรียกคนขึ้นมาบนบ้าน ฉันรู้สึกใจหาย เพราะตอนที่ฟื้นมานี้เป็นเวลา ๐๘. ๐๕ น. เศษ และต่อโลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกชาวบ้านและพระขอร้องให้ฉันเล่าให้ฟัง ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีฉันก็นำมาเล่าให้ชาวบ้านและพระฟังจนหมด

และต่อมาเมื่อวันที่ ๗ นางหล่ำตาย วันที่ ๔ มี.ค. นางฉายตาย วันที่ ๔ ก.ค. นายแม่นตาย ต่อมาคนสุดท้าย นายปลอด สี่สิงห์ กำหนด ๒ ปี พอครบพอดีก็ตาย แต่ก่อนตายแกไปเที่ยวขุดละลายหัวคนที่แกเคยรุกที่เขาคืนให้เจ้าของหมด

ต่อมานายคนหนึ่งทางห้วยคันแหลม (ต. ห้วยคันแหลม) ได้สั่งลูกหลานไว้หลังฉันฟื้นมาแล้ว “ก.อู..ตายไปละก้อ :-)เอาขวานใส่โลงไปให้ก.อู..ด้วย ก.อู..จะเอาขวานไปโค้นต้นงิ้วในนรก” พอตาย ลูกหลานก็เอาขวานใส่โลงไปให้จริง ๆ ต่อมาแกกลับมาเข้าทรงเด็ก ๆ ให้ไปขุดขวานขึ้น แกบอกว่า “ ไม่ไหวละ มันเอาขวานทุบหัวเสียอีกด้วยซี แทนที่จะเอาขวานไปโค้นต้นงิ้ว ” ในที่สุดพวกลูกต้องไปขุดเอาขวานขึ้น

ที่มา //topicstock.pantip.com/religious/...Y2421820.html

[Main : กลับ หน้ารวมศาสนา]


Create Date : 18 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2552 9:21:50 น. 43 comments
Counter : 59330 Pageviews.

 
เรื่องนี้เคยอ่านตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยค่ะ
เป็นเรื่องเที่ยวเมืองนรกของคนตายแล้วฟื้นเรื่องแรกที่เคยได้ยิน

อยากให้คนหันกลับมาเชื่อเรื่องความดีความชั่วกันอีก
เห็นคนรอบๆ ตัวเดี๋ยวนี้แล้ว
เซ็งซะ


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:21:07:33 น.  

 
กรรม = ผลของการกระทำ = เหตุ = ผล
:) สำนึกดีนอกจากสังคมดีแล้ว ตัวเราเองก็จะดีจ้า
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ


โดย: dark side วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:23:20 น.  

 
อ่านแล้ว ก็คิดน่ะ แต่ก็ทำอย่างที่ทำคือ ทำดีเข้าไว้ คิดในด้านบวกเข้าไว้

ปล ใครกันที่ยังดูไม่แก่จ้ะ

สงสัย


โดย: Lottelise วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:1:13:00 น.  

 
เชื่อว่าทำอะไรก็ได้อย่างนั้น

ดังเช่นปลูกต้นอะไร ก้อได้ผลนั้น

แต่ทำไมปลูกถั่วเขียว ได้ถั่วงอกหว่า emoemoemo


โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:8:35:29 น.  

 
ทำดีไว้เถิด


โดย: พจมารร้าย วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:06:11 น.  

 
ลืมค่ะ รูปน่ากลัวพิลึก


โดย: พจมารร้าย วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:07:09 น.  

 
ชอบค่ะ อ่านสนุกและได้ข้อคิดเตือนใจด้วย


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:09:18 น.  

 
ว่าง ๆ แวะไปดูหลาน
เจ้าหญิงตัวน้อย ๆ นะค่ะ

น่ารักน่าชังมาก ๆ


โดย: เจกเบ่ง วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:11:57:39 น.  

 
ทำดีเอาใว้เยอะๆ... ตายไปคนจะได้เห็นในความดจะได้มีค่าในี


โดย: เก๋ IP: 203.113.17.148 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:13:46:13 น.  

 
ไม่ได้ไปจริงๆอย่างที่พี่ต่อว่านั่นแหละ
วันนี้ก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน
นอนหลับสบายเลยล่ะ


โดย: ryuzaki วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:17:47:17 น.  

 
ยาว สุด ๆ อ่านไม่จบ ขอภาคย่อได้ป่าว


โดย: varissaporn327 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:12:48:28 น.  

 


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:14:22:46 น.  

 
Thank you so much.
Glitter Photos


โดย: Jeab (rayasuree2526 ) วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:0:06:09 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะฉันเชื่อในบุญและปาปฉันเชื่อในกรรมดี
แวะเอาข้าวทอดแหนมปั้นมาฝากค่ะ(ขโมยเค้ามา)



โดย: เจี๊ยบ (ตะวันยิ้มร่า ) วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:16:36:40 น.  

 
อ่านจบเลย ยาวจัง ทำดีไว้เยอะๆตายไปจะได้ไม่ลำบาก


โดย: erina วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:20:18:46 น.  

 
สาธุ ทำดีได้ดี ขอบคุณคะที่แวะไปเยี่ยมและขอบคุณสำหรับบทความดีๆ


โดย: ใยนุ่น (ใยนุ่น ) วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:0:52:10 น.  

 
เป็นเรื่องที่น่าคิดครับตามหลักทางวิทยาศาสตร์เหติการณ์แบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้และก็มีหลักฐานน้อยมากที่คนตายแล้วฟื้นจะกลับมาเล่าเรื่องราวให้ฟัง
สวัสดียามเช้าครับคุณต่อตระกูล ผมแวะเข้ามาชวนดื่ม casablangca coaktail ครับฟมหวังว่าคุณต่อตระกูล น่าจะชอบนะครับ(ผิดศีลข้อ 5 เต็มๆเลยเรา)


โดย: veerar วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:9:59:14 น.  

 
นรกเป็นเช่นไร?

นรก คือ ภพที่มีแต่ความร้อนรนทุกข์ทรมานหลบหนีไม่ได้ พระเถระท่านหนึ่งกล่าวเปรียบไว้น่าฟังว่า “ ท่านเคยฝันร้ายที่ต้องถึงกับสะดุ้งตื่นหรือเปล่า? ความรู้สึกในนรกก็เหมือนกันกับฝันร้ายอย่างสุดๆ ต่างกันแต่ในนรกไม่มีโอกาศผวาตื่นเท่านั้นเอง!”

อ้างอิง : คัมภีร์พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ
- เล่มที่ ๒๘ หน้า ๒๕๑ ( เนมิราชชาดก )
- เล่มที่ ๒๘ หน้า ๔๗ ,๕๓ ( สังกิจจชาดก )
- เล่มที่ ๒๙ หน้า ๔๘๒
- เล่มที่ ๑๔ หน้า ๒๔๒
- เล่มที่ ๒๘ หน้า ๕๒
- เล่มที่ ๑๔ หน้า ๒๕๙
- เล่มที่ ๑๙ หน้า ๖๒๕
- เล่มที่ ๒๖ หน้า ๑๖๘




นรกมีจริงหรือ โปรแกรมท่องนรก v.2.0

//www.mahamodo.com/downloads/programsdetail.asp?id=999998
//www.mahamodo.com/images/downloadnow.gif
//www.samathi.com/meditation/showthread.php?t=637
//www.palungjit.com/board/showthread.php?p=676009
//bannpeeploy.exteen.com/20070829/entry-9



โดย: montasavi IP: 202.28.111.17 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:15:16:19 น.  

 
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ตามมาอ่านคับ
สบายดีนะครับ

โอม มาพักร้อน ปลายเดือน พย จะกลับไปทำงานแล้วคับ..

อยากเห็นโอมพาเที่ยว เมืองเจียงฮาย แว๊บไปที่บล๊อกละกันครับ

ระบายความรู้สึก.. จากบ้านนอก อิอิ

แล้วจะมาแอ่วหาบ่อย ๆ นะครับ

ชอบอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิต และธรรมะครับ


โดย: OHM in BKK (sochana9 ) วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:16:05:50 น.  

 
อ่านแล้ว ต้องพยายามรักษาศีลห้าไว้ให้ได้เลยแต่ ไก่ชอบผิดศีลข้อการฆ่าสัตว์ (มด แมลง) อ่ะ ทำไงดีคุณต่อ


โดย: kai (Sweet evil ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:11:13:43 น.  

 
แวะพาน้องอ๊อฟ AF มาเยี่ยมคร๊า...


โดย: เจกเบ่ง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:17:09:03 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อตระกูล สบายดีนะค่ะ ไม่ค่อยชอบดูรูปพวกนี้สักเท่าไหร่ค่ะ อิอิ


โดย: Candydolls วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:50:17 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ
เรื่องแบบนี้เพิ่งได้อ่านเองก็ที่บล๊อกคุณต่อนี่แหละค่ะ
ก่อนนี้ก็เคยได้ยินคนเล่าให้ฟัง จากที่คนเล่าเค้าอ่านมา
ตอนเด็กผู้ใหญ่ก็เล่าให้ฟังว่ามีคนตายแล้วฟื้น
ตอนตายก็ไปเจออะไรคล้ายๆแบบนี้
พร้อมกับสอนว่า เราต้องทำแต่ความดี
เมื่อตายไปจะได้ไม่ลำบาก

ตายแล้วจะเป็นไงไม่รู้ละ แต่ก็ไม่ประมาทค่ะ พยามทำความดีรักษาศิลเท่าที่ทำได้
ก็กลัวเหมือนกันแหละ อิอิ


โดย: แม่หยุมหยิม วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:22:52:49 น.  

 
แวะเข้ามาทักยามดึกครับ ขอให้มีความสุขในทุกวันนะครับ


โดย: veerar วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:21:56:35 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้ว ชวนให้คิดว่า ทุกวันนี้เราไปทำอะไรที่ไม่ดีไว้บ้างเปล่า แล้วก็มาฟังเพลงด้วยค่ะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:10:59:48 น.  

 
เข้ามาอ่านครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:14:00:53 น.  

 
บ่าย ๆ อย่างนี้ต้องนี่เลย แก้ง่วง




โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:14:16:48 น.  

 
เคยอ่านแล้วดีๆมากๆเลย มันให้ข้อคิดดีๆหลายอย่าง บายๆ


โดย: mumu (mumulove ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:16:34:53 น.  

 


โดย: พจมารร้าย วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:16:51:22 น.  

 
เป็นเรื่องเหลือเชื่อนะครับ แต่ต้องเชื่อ


โดย: basbas วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:08:52 น.  

 
อ่านเรื่องเหลือเชื่อ และ หยุดฟังรายการวิทยุ หลังเลิกงาน

ทำให้นั่งคิดถึง บรรยากาศที่บ้านด้วย

ว้าว เพลงจรัล มโนเพ็ชรด้วย


โดย: Lottelise วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:0:59:19 น.  

 
ดีจริง


โดย: ying IP: 134.65.247.9 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:7:03:59 น.  

 
ขออำลำสักระยะครับ เน็ตขัดข้องอย่างแรง T T


โดย: เจ้าของบล๊อคเองแหละ IP: 125.25.168.45 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:8:44:49 น.  

 
สวัสดีช่วงสายครับคุณ ต่อตระกูล ผมแวะเข้ามาเชิญชวนให้ดื่ม tropicana milkshakes smoothie ที่ blog ครับ หวังว่า คุณต่อตระกูล น่าจะชอบนะครับ


โดย: veerar วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:10:53:07 น.  

 
เน็ตหาย เอ้ย ไม่มีปัญหา แล้ว


รีบกลับมาไวๆนะค้า มิตรรักแฟนเพลงเยอะเหลือเกิน




โดย: Farm Girl in High Sierra วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:14:40:06 น.  

 


โดย: Mooky Miracle Mom วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:10:56:31 น.  

 
แวะมาชวนไปอ่านธรรมะกันค่ะ
จิตใจจะได้แจ่มใส่ เบิกบาน สดชื่น ๆ คร๊า!!

แต่จริง ๆ ไม่ต้องชวนก็ได้มั้ง เข้ามา blog นี้ก็มีให้อ่านเพียบเชียว!!


โดย: เจกเบ่ง วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:14:43:10 น.  

 


มาร่วมฉลอง TOP Page Views
ขอให้บล๊อกนิยม คงกระพัน ไปนานๆนะคุณต่อ



โดย: ดาวทะเล วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:16:53:13 น.  

 
ลิงน้อยกลับมาแล้วน๊าค๊า อิอิ
ห่างหายไปนาน กับภารกิจเส้นทางแห่งความฝัน
สู้ๆนะค่ะ


โดย: freedom (ยัยลิงน้อย ) วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:2:56:33 น.  

 
ภาพน่ากลัวจังแฮะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:7:39:46 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

หวังว่าคงจะสบายดีนะคะ

มีความสุขมาก ๆ นะคะ

emoemoemo


โดย: มณีไตรรงค์ วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:9:33:49 น.  

 
น่าสนใจอ่ะคับ กลัวบาปเลย


โดย: กลัวบาป (Kang Dong Ye ) วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:20:51:57 น.  

 
น่า.......กลัว


โดย: ว้าว IP: 125.25.208.132 วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:10:03:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ต่อตระกูล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
18 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ต่อตระกูล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.