มรกตนาคสวาท : แมวๆ พิคเจอร์

ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ
<<
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 กรกฏาคม 2548
 
 

...สามจอกสี่จอกกรอกเข้า เมรีขี้เมาก็หลับไป...

เขียนบล็อกวันนี้เพราะสะดุดใจกับการตอบของพี่ที่รักในบล็อกถัดไปจากหน้านี้น่ะค่ะ
พี่เขาพูดถึงเรื่องแอลกอฮอล์ขึ้นมา วันนี้มาหยาเลยมีเรื่องเล่า (ยาวๆ อีกแล้ว) เกี่ยวกับความไม่ดีไม่งามของตัวเองในช่วงชีวิตหนึ่งที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเมรัยมาให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ

บอกก่อนนะคะ เรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องดี สาวๆ อ่านแล้วควรคิดตาม หนุ่มๆ อ่านแล้วห้ามดูถูกดูหมิ่น มันเป็นแค่ช่วงอารมณ์หนึ่งของสาวอ่อนประสบการณ์ในโลกแห่งความจริงที่ออกจะงี่เง่าๆ อยู่สักหน่อยเท่านั้นเอง

และผู้ปกครองควรพิจารณาหากเด็กๆ วัยรุ่นมาอ่านบล็อกนี้นะคะ เพราะเรื่องวันนี้เป็นเรื่องในมุมมืดๆ มุมหนึ่งของข้าพเจ้าเท่านั้นค่ะ






อิอิ ไม่ต้องตกใจนะคะ ว่าทำไมเอารูปผู้หญิงที่ไหนมาโพสต์ก่อน

ผู้หญิงคนนี้เป็นพริตตี้ประจำบู๊ตศูนย์เอกศิลป์อุตสาหกรรม ที่เป็นผู้แทนจำหน่ายกล้องยี่ห้อ Ricoh ที่ข้าพเจ้าใช้อยู่น่ะค่ะ

ที่เอาภาพของน้องเค้ามาโพสต์ก่อน เพราะวันนี้จะพูดถึงมูลเหตุแห่งการถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลที่ข้าพเจ้าเพิ่งซื้อวันแรก

ภาพน้องคนนี้ เป็นภาพที่สามที่ถ่ายด้วยกล้องริโก้ที่เพิ่งซื้อมาในวันนั้นน่ะค่ะ อิอิ ทำไมถึงเอาภาพที่สามขึ้นก่อนภาพแรกนะเหรอคะ หงิหงิ ม่ายบอก ม่ายบอก

แต่อ้ะ ๆ บอกก็ได้ ก็ภาพแรกที่ถ่ายน่ะ คือ ภาพของตัวข้าพเจ้าเองอ้ะ (แต่คนอื่นกดชัตเตอร์ให้นะคะ ฮี่ๆๆ) นั่นแน่ อยากเห็นกันแล้วใช่ไหมคะเนี่ย อิอิ

เอ๊ ให้ดูดีหรือเปล่าหนอ ดีหรือเปล่าหนอ หงิหงิ





อุ๊บส์ เผลอตัวให้ดูไปซะแย้ว ฮี่ๆๆ มีใครตกใจขวัญหายยามดึกๆ ไหมเนี่ย (ตอนอัพบล็อกเนี่ย ก็เกือบๆ ตีหนึ่งแย้ว จะได้หายง่วงเนาะ อิอิ)

รูปต่อไป เราก็มาดูหน้าตาของเจ้าแสนโก๊ะ อคติเวทย์ กล้องดิจิตอลที่ข้าพเจ้าได้ครอบครองเป็นเจ้าของจากการกัดฟัน ควักเงินส่วนตัวเรือนหมื่นซื้อมาในครั้งนั้นกันดีกว่า

อิอิ ตอนแรกๆ เจ้าแสนโก๊ะ ก็ขาวอย่างที่เห็นเนี่ยอ้ะค่ะ





แต่อนิจจา ได้ใช้เจ้าแสนโก้ตัวขาวๆ นี่ได้แค่เก้าวันเองค่ะ มันก็มีปัญหาเรื่องชุดเลนส์ เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นเจ้าแสนโก้ ตัวดำๆ อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้แทน


ว่ากันตามจริง ข้าพเจ้าชอบสีบรอนซ์เงินแบบนี้มากกว่าแฮะ





เอาละ เล่าเรื่องต่อ มูลเหตุของการซื้อกล้องดิจิตอลของข้าพเจ้าน่ะเหรอ เคยเล่าไว้ในกระทู้ในพันทิปหลายหนละ แต่จะเอามาเล่าอีกในบล็อก มีไรปะ ฮี่ๆๆๆ

ถ้าบอกว่า ข้าพเจ้าซื้อกล้องดิจิตอลตามคำแนะนำของพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง มาเพื่อเยียวยาอาการอกหักของตัวเอง คุณผู้อ่านจะบอกว่า มันน่าเกลียดน่ากลัวตัวละบาท หรือว่า มันดูไร้สาระไปหน่อยหรือเปล่าคะเนี่ย แหะๆ


แต่มันก็คือความจริงอ้ะค่ะ ...
ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ ว่าคุณแม่มดมาหยา ก็รู้จักอาการอกหักกับเขาด้วย ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ อิอิ (จะพูดซ้ำเป็นโฆษณาน่าเบื่อทำไมล่ะเนี่ย ยัยมาหยา หืมมมมม )





เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนอายุสามสิบถ้วนพอดี (พอทราบอายุขวัญตาน้องเอยพี่มานั่งทำตาปริบๆ) ข้าพเจ้าเลิกร้างกับคุณแฟนที่รักกันมาห้าปี ถึงขั้นวางแผนจะแต่งงานกันหลังเรียนจบ อาจจะด้วยอาถรรพ์ปีที่ห้า หรือยังไงไม่ทราบ ที่สุดเรื่องก็จบลงตรงที่เขาโทรมาขอเลิก บอกว่า เขาขอยกเลิกแผนการที่จะไปอยู่เชียงใหม่กับข้าพเจ้า เพราะเขาไม่แน่ใจแล้วว่า ข้าพเจ้ารักเขาจริงหรือไม่ ฮ่วยยยยยยยย

ข้าพเจ้าก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งสิคะท่านผู้ชม โอ๊ย ร้องเป็นวรรคเป็นเวร ไม่คิด ไม่คาด และไม่ฝัน ว่าตัวเองจะมาอกหักเอาตอนอายุฉามฉิบ แง้ๆ


แต่ก็อ้ะนะ แม้จะรู้ว่า ยังไงก็ต้องเลิกมันก็ทำใจไม่ค่อยได้สักที ก็แหม คบกันมาห้าปี ไม่ใช่เด็กเล่นขายของนี่นา
ในเมื่อทำยังไงก็ลืมไม่ได้สักที ข้าพเจ้าก็งี่เง่า หาวิธีการทำให้ลืมเขา โดยการไปจี๋จ๋ากับคนอื่นที่พอเห็นว่าข้าพเจ้าเลิกกับคุณแฟนแล้ว ก็เลยเข้ามาในชีวิต ฮ่าๆๆ อารมณ์นั้น คนมันกำลังอกหักแบบไม่คาดคิด ก็เลยเอาวะ เผื่อจะลืมเขาได้ เลยตกลงลองคบเป็นแฟนกับชายหนุ่มอีกคน


มารู้ทีหลังว่า วิธีนี้ไม่ได้ดีอะไรเลย มีแต่จะทำร้ายตัวเองมากยิ่งขึ้น คุณผู้หญิงทั้งหลาย หากผ่านมาอ่าน ก็จงจำไว้เลยนะคะ อย่าคิดจะคบใครเพื่อให้ลืมใคร เพราะมันทดแทนกันไม่ได้

อีกอย่าง ถ้าคุณเจอคนดีก็ดีไป แต่ถ้าคุณเจอคนที่เขาคิดจะเล่นๆ กับคุณ คุณจะยิ่งช้ำใจหนัก เหมือนที่ข้าพเจ้าเจอนี่แหละ

หุหุหุ






ที่สุดสามอาทิตย์ถัดมา ข้าพเจ้าก็ถูกบอกเลิกอีกครั้ง จากหนุ่มคนนี้แหละ คนที่คิดว่าจะมาแทนคนที่ข้าพเจ้ารักได้นี่แหละ แหะแหะแหะ ด้วยเหตุผลที่ว่า "เราไปกันไม่ได้" (เหตุผลเบสิกมากๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ)


โอ๊ย ตอนนั้นโลกถล่มแผ่นดินทลายเลยล่ะค่ะ

สาวแก่อายุ ๓๐ ไม่ได้รับการเหลียวแลจากชายหนุ่มที่เจ้าหล่อนคิดจะมอบชีวิตให้หากได้แต่งงานกัน ความรู้สึกเป็นไงเนี่ย อย่าให้พูดเลยค่ะ

คือมันบอกไม่ถูก มาถึงตอนนี้สองสามปีผ่านไป ย้อนกลับไปมองตัวเองอีกครั้ง บางทีก็อดขำและอมยิ้มไม่ได้ เออแน่ะ ทำไมเราช่างเพี้ยนไปได้ถึงเพียงนั้น

ไม่ได้โกรธผู้ชายทั้งสองคนที่บอกเลิกนะคะ เพราะเขาคงมีเหตุผลของเขาจริงๆ ก็ไปกันไม่ได้ ถ้าฝืนใจอนาคตก็คงลำบาก หากเขาจะผิดก็ผิดนิดเดียวตรงที่มาให้ความหวังเราเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆ

ความรู้สึกที่ย้อนมองกลับไปก็คือโกรธตัวเอง ว่าทำไมหนอ ตอนนั้นเราไม่เข้มแข็งเลยหนอ ปล่อยชีวิตให้ชอกช้ำกับเรื่องไร้สาระได้มากมายขนาดนั้น

จากวันที่ถูกบอกเลิก ข้าพเจ้าก็เอาแต่นอนร้องไห้ บางวันอยู่คนเดียวไม่ได้ ก็ออกไปนอนบ้านพี่สาว ให้พี่สาวดุเล่นๆ จะได้หายบ้า พี่สาวก็แสนดี คอยดูแลแต่ไม่ยอมดุ คงจะเพราะพี่ก็เจอเรื่องราวคล้ายๆ กันมา เลยเข้าใจอารมณ์มั้ง

แล้วก็อาจจะเป็นเพราะพี่สาวไม่ดุ และเอาแต่ปลอบโยนด้วยความรักนี่ด้วยแหละ ทำให้ข้าพเจ้าเริ่มมีพลังกายพลังใจเข้มแข็งขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ดีมากพอ

ข้าพเจ้าเริ่มหันมาสนใจสุราเมรัย (เด็กและเยาวชนห้ามเอาอย่างเป็นอันขาดนะคะ ที่เล่าให้ฟังเนี่ย เพื่อจะบอกว่า มันไม่ดีเอามากๆ จริงๆ) ฮ่าๆ ไม่ถึงขั้น "เหล้า" หรอกค่ะ เพราะสุขภาพร่างกายอย่างข้าพเจ้า กินเหล้าเข้าไปก็ตายพอดี ไม่ต้องห่วงค่ะ

จริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าก็มีอาการความดันต่ำเป็นโรคปรกติอยู่แล้ว หมอสักคนที่เคยไปรักษาบอกข้าพเจ้าว่า ที่เขาว่ากันว่า กินเบียร์วันละแก้ว ก็อาจจะดีขึ้น ข้าพเจ้าก็เลยแอบๆ กินเบียร์มาตั้งแต่นั้นแหละ ฮ่าๆๆ แต่ไม่เคยกินจนเมาสักที และด้วยความเคารพตัวเอง ข้าพเจ้าก็จะไม่กินให้ใครเห็น หรือหากจำเป็น ก็จะกินให้น้อยที่สุด บอกตัวเองว่า แก้วเดียวพอ ทุกที ดังนั้น มาดสาวสวย จึงไม่เคยเป็นเมรีขี้เมาต่อหน้าใครๆ เด็ดขาด และยืนยันได้ว่า ไม่เคยเมาจนขาดสติก่อวีรกรรมอะไรเลย อาจจะเป็นเพียงแค่อยากรู้อยากลอง ก็เลยดื่มๆ เล่นๆ นิดๆ หน่อย

เกิดอาการอกหักอย่างนี้ ตอนนั้นก็เลยพอตอนค่ำๆ ไม่มีใครให้โทรคุยด้วย นอกจากพี่สาว ซึ่งข้าพเจ้าก็เกรงใจพี่เค้ามากๆ ก็เลยไม่ค่อยจะอยากโทรไปกวน ข้าพเจ้าก็ซื้อเบียร์มานั่งดื่มคนเดียวในห้อง ดื่มแล้วก็ร้องไห้ เป็นอย่างนี้อยู่เป็นเดือน ฮ่าๆๆ งานการที่เคยวิ่งฉิวๆ ก็เฉื่อยชาลงตามลำดับ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ไม่มีใครรู้เลยแม้แต่สักคนเดียว เพราะข้าพเจ้าชอบอยู่คนเดียวอยู่แล้ว ก็ขังตัวเองไว้ในห้องพักนั่นแหละ

จะออกไปนอกห้องก็ต่อเมื่อไปส่งงานครู ไปหาข้าวกิน หรือไม่ก็ไปหาข้าวของมาตุนเท่านั้น

อ่า คนที่ห่วงว่าจะโทรมสุดขีด ก็ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะหลังจากอกหักแล้ว ข้าพเจ้าก็ซอยผมสั้นมากกกกกกกกกกกกกก เพื่อปิดบังให้ใบหน้ากลมๆ ไม่ดูโทรมจนเกินไปนัก (มาคิดตอนนี้ เสียดายมากๆ เลยอ้ะ ตอนนั้นผมยาวถึงเอวแล้วด้วย แง้ๆ)






เป็นอย่างนั้นอยู่ได้ไม่นาน เรื่องการอกหักครั้งนี้ ก็รู้ไปถึงพี่ชายที่เคารพคนหนึ่ง (ข้าพเจ้ามีพี่สาวกับพี่ชายร่วมโลกอยู่เยอะมากๆ และเป็นพี่สาวพี่ชายที่หวังดีต่อกันโดยสนิทใจจริงๆ ตรงนี้แหละ ที่ข้าพเจ้าโชคดีมากๆ)

พี่ชายคนนี้เริ่มมาชวนไปเที่ยว อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่เที่ยวกลางคืนค่ะ ไม่ต้องตกใจ อิอิ เที่ยวตามต่างจังหวัดน่ะค่ะ ประมาณจังหวัดอยุธยา สระบุรี ไปดูทุ่งทานตะวัน ไปบางปูดูนกนางนวล ชวนพี่สาวไปด้วยอีกคน ไม่ได้ไปกันตามลำพังนะคะ

แล้วนอกจากนี้ พี่ชายท่านนี้ก็เพิ่งซื้อกล้อง DSLR มาใช้ ท่านก็กำลังหานางแบบสาวสวยอยู่ ท่านก็เลยขอร้องแกมบังคับให้ข้าพเจ้าเป็นนางแบบให้ อิอิ (เข้าทางคนงามเลยวุ้ย) ซึ่งนั่นก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องเริ่มดูแลตัวเอง เบียร์ที่แอบๆ กินมาตลอดสามสี่เดือน ก็ค่อยๆ ห่างออกไป ห่างออกไป (แต่ยังไม่เลิกหรอก วันไหนเหงาๆ ก็นั่งดื่มเงียบๆ คนเดียว การนอนให้หลับโดยไม่พึ่งเบียร์เนี่ยเป็นเรื่องที่สุดแสนจะยากสำหรับข้าพเจ้าเลยหละ ตอนนั้นอ้ะ)

เรื่องก็ดำเนินแบบนิยายน้ำเน่าแบบนี้มาได้จนถึงปลายปี 2546 (ตัดฉับเข้ารายการจริงเลยดีกว่า) พี่ชายคนดีคนนี้ ก็ชวนไปเดินหาซื้ออุปกรณ์ถ่ายรูปในงานโฟโต้แฟร์ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ แล้วก็เกิดการยุกันไปมาจนข้าพเจ้าได้กล้องใหม่มาหนึ่งตัว พี่ชายได้อุปกรณ์อื่นๆ ไปอีกบานตะไท ฮ่าๆๆ







หลังจากได้กล้องแล้ว พี่ชายก็พอไปที่สวนหลวง ร.๙ แล้วก็ปล่อยข้าพเจ้าไปตามทาง พร้อมกับคำพูดที่ว่า อยากถ่ายอะไรก็ถ่ายไปนะ ไม่ต้องมาถามว่าถ่ายยังไง อะไรให้มากมาย ขี้เกียจตอบ ฮ่าๆๆ


นั่นแหละค่ะ ปฐมบทการถ่ายภาพของมาหยาหละ เริ่มต้นที่ เสรีภาพ การปล่อยใจไปตามจินตนาการ ไม่มีกฎใดๆ บังคับทั้งสิ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมภาพของข้าพเจ้าจึงออกมาเพี้ยนๆ แปลกๆ แทบทั้งสิ้น


ซึ่งส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า ตัวเองโชคดีที่สุด ที่เริ่มต้นการถ่ายภาพแบบนี้ เพราะมันคือการถ่ายภาพเพื่อความสุขจริงๆ จังๆ





และหลังจากวันนั้น ข้าพเจ้าก็เข้ามาเล่นที่โต๊ะกล้อง เว็บพันทิปอย่างเต็มตัว เริ่มเรียนรู้เทคนิควิธีการถ่ายภาพจากเซียนๆ ทั้งหลายในห้องนั้น ด้วยวิธีครูพักลักจำ เน้นขำเน้นฮา เน้นน่ารัก และอารมณ์ดีเป็นหลัก จนกระทั่งชีวิตดำเนินมาถึงทุกวันนี้ โดยลืมอาการอกหักรักสลายม่ายขันหมากในครั้งนั้นได้อย่างสิ้นเชิง

วันนี้ให้เจอหน้าชายหนุ่มทั้งสองคนดังกล่าว ข้าพเจ้าก็ยังทักทายพูดคุยกับเขาได้ตามปรกติ ไม่มีปัญหาใดๆ ติดอยู่ในใจอีกต่อไป



เอ๊ะ หลายคนมีคำถามว่า ชีวิตคนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลักมืออย่างนี้ได้จริงๆ หรือ

ตอบว่าจริงค่ะ หากเรามีอะไรมาทำให้เราสนใจได้มากกว่าอาการเจ็บปวดของตัวเอง ไม่นาน เราก็จะลืมสภาพแย่ๆ ของตัวเองวันนั้น

ดังนั้น ตอนนี้ใครที่กำลังรู้สึกแย่ๆ ลองหาอะไรทำแล้วจะดีขึ้นค่ะ โลกไม่ได้ถล่มทลายไปจริงๆ ซะหน่อย ยังคงหมุนอยู่เหมือนเดิม และพระอาทิตย์ก็ขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตกเหมือนเดิมด้วย ฮี่ๆๆ

ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์ ในช่วงแรกก็ยอมรับล่ะค่ะ ว่ายังแอบๆ ดื่มอยู่บ้าง เวลาที่อารมณ์มันลึก มันคิดถึงและโหยหาใครบางคน (หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็สร้างกำแพงปิดตัวเองจากโลกภายนอก และเลือกที่จะไม่เปิดรับใครเข้ามาในชีวิตอีกเลยจนกระทั่งต้นปีนี้) แต่ก็เปลี่ยนจากเบียร์เป็นขวด มาเป็น ไวน์คูลเลอร์ขวดเล็กๆ วันละขวดสองขวดแทน

โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตก ฟ้าร้อง ซึ่งเป็นเวลาที่ข้าพเจ้าเกลียดการอยู่คนเดียวมากที่สุด หุหุ

แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้ามาเลิกพฤติกรรมเมรีขี้เมาแบบนี้อย่างเด็ดขาดได้ตั้งแต่ราวๆ เดือนตุลาคมปีที่แล้วนี้ ตามคำขอของพี่ชายคนดีอีกคน (บอกแล้วไง ข้าพเจ้ามีพี่ชายเยอะมากและเป็นพี่ชายในความหมายของพี่ชายจริงๆ ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่อะไรที่ไม่ดีทั้งนั้น)

พี่ชายขอไว้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพของตัวข้าพเจ้าเอง โหย ไม่น่าเชื่อ เกือบปีแล้วเหมือนกันนะเนี่ย ฮี่ๆ มาหยาเก่ง เก่ง เก่ง





จริงๆ หลายๆ คนคงค่อนว่า วันนี้มาหยาเขียนบล็อกได้เรื่อยเปื่อย วนไปวนมา เหมือนไม่ได้เรียบเรียง

สารภาพว่าตอนนี้ตาจะปิดอยู่แล้วค่ะ แต่เรื่องมันพรั่งพรู ก็เลยต้องรีบพิมพ์ เดี๋ยวจะลืมอารมณ์อยากเขียนซะหมด แล้วติดไว้ก่อน พรุ่งนี้จะมาเรียบเรียงใหม่ ให้ดีกว่านี้ค่ะ


หากใครผ่านมาอ่านตอนนี้ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ อิอิ อาจจะวกวนสับสนเหมือนคนเมา (จริงๆ ไม่เมาแต่ง่วงซะขนาดนี้ ฮ่าๆๆ)


ภาพทั้งหมดในบล็อกนี้ ที่เป็นภาพข้าพเจ้า พี่ชาย ชื่อ พี่เสือ เป็นคนถ่ายให้ค่ะ ส่วนภาพอื่นๆ ล้วนเป็นฝีมือของข้าพเจ้าทั้งสิ้น

ภาพไม่ชัดและขนาดเล็ก เพราะการจัดเก็บที่ไม่ดี ทำให้ต้นฉบับเสียหายไปมากค่ะ ต้องขออภัยด้วยนะคะ

แต่มันเป็นภาพชุดแรกที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลที่ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของมันจริงๆ ได้แค่นี้จริงๆ ค่ะ สำหรับวันแรกที่จับกล้อง หงิหงิ


สงสัยไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวพับไปหน้าจอ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ
พรุ่งนี้จะมา rewrite ใหม่อีกรอบค่ะ


ป.ล. ถ้าใครอ่านแล้วผิดหวังกับพฤติกรรมแย่ๆ ของข้าพเจ้าจริงๆ ข้าพเจ้าต้องขออภัยจริงๆ นะคะ

ปัจจุบันไม่มีพฤติกรรมทั้งหมดนี้แล้วค่ะ ไม่แตะของมึนเมามาเกือบปีแล้วจริงๆ

เพียงเพราะอยากเป็นคนดีของพี่ชายคนหนึ่งจริงๆ จังๆ ซึ่งถ้าพี่ชายผ่านมาก็โปรดสบายใจนะคะ ว่าน้องสาวคนนี้เป็นคนดีมากๆ แล้วค่ะ ไม่หันกลับไปข้องเกี่ยวกับสุราเมรัยให้เป็นเมรีขี้เมาอีกแน่นอนค่ะ เชื่อข้าพเจ้าเหอะ อิอิ


ขอตัวไปแบบงงๆ ก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาแก้ไขเรื่องนี้ให้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ สัญญาค่ะ










 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2548
47 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2548 2:27:19 น.
Counter : 3253 Pageviews.

 

คนอ่านก็เริ่มง่วงค่ะ

แต่ไม่งง ไม่งง

ฝันดีนะคะ ^^



...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 3 กรกฎาคม 2548 2:34:27 น.  

 

ไม่งงหรอกครับ ย้อนอดีตขึ้นไปได้ก็รุ้เรื่องแล้วครับ

แอลกฮอลล์ไม่ดีจริงๆ
ดื่มแล้วสติหายเกลี้ยง
ถึงจะแก้วเดียว

แต่ไอเราก็ดันดื่มอยู่
(ดื่มเฉพาะออกงาน)

 

โดย: Aloha007 3 กรกฎาคม 2548 3:05:07 น.  

 

มาลงชื่อคนนอนดึกค่ะ
เรื่องเล่าวันนี้ให้แง่คิดดี ๆ กับตัวเองค่ะ ขอบพระคุณมากที่มาเล่าแบ่งปันประสบการณ์

Hello เองก็อยากถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนพี่ (อ้าว รู้อายุซะละ ขอเรียกพี่เลยละกัน )

เรียนจบเก็บเงินซื้อกล้องได้ จะหัดถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนพี่เลยค่ะ

 

โดย: Hello_Hello 3 กรกฎาคม 2548 3:26:03 น.  

 



cheer up เอาน่า ยังไงๆๆ ต้องมีวันที่ฟ้าใสมั่งแหละค่า

 

โดย: Kofschip 3 กรกฎาคม 2548 4:44:44 น.  

 

สนุกดีครับ อ่านเพลินดีออก

 

โดย: คนบาป (กลับใจ) IP: 203.151.140.123 3 กรกฎาคม 2548 7:35:49 น.  

 

เคยเป็นครับ เคยใช้เหล้า แต่ไม่ได้ผล ใช้เวลาได้ผลที่สุดครับ เหอ เหอ

 

โดย: ultraman seven 3 กรกฎาคม 2548 9:46:26 น.  

 

ไม่งงคะ ไม่งง

อ่านแล้วคิดอะไรได้เยอะเลยคะพี่มาหยา

 

โดย: แก้วการะบุหนิง 3 กรกฎาคม 2548 11:15:08 น.  

 

ชื่นชมจังเลยค่ะที่คุณแอนเอาประสบการณ์แบบนี้มาเล่าให้ฟัง

และรู้สึกดีใจแทนอ่ะค่ะที่คุณแอนมีเพื่อน พี่ ที่รู้จักดีๆ ทุกคนคอยสนับสนุน ช่วยเหลือ และให้กำลังใจ ตรงนี้สำคัญมากๆ เลยแหละ คนเรามีเพื่อนเยอะไม่ได้แปลว่าทั้งหมดจะรักชอบเราทั้งหมด แต่คุณแอนโชคดีจังที่มีเพื่อน พี่ ที่รู้จักเยอะแล้วเกือบทุกคนเค้ารักเราด้วยใจ น่ารักจริงๆ ค่ะ

 

โดย: JewNid 3 กรกฎาคม 2548 11:35:25 น.  

 

อ่านได้เรื่อยๆครับ ไม่สับสนหรอก

 

โดย: TeNZ IP: 203.144.187.18 3 กรกฎาคม 2548 11:39:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณมาหยา

ขออนุญาตเรียกชื่อจริงนะคะ

หากไม่ชอบบอกรักดีได้นะคะ

อ่านเรื่องของคุณแล้วค่ะ

รักดีอ่านช้าๆ และเรียบเรียงตามทุกคำ

พูดที่พิมพ์ออกมาทุกคำ

ณเวลานี้ รักดีคงไม่ต้องปลอบใจ

อะไรกับคุณมาหยาแล้ว

เพราะเชื่อว่า คุณมาหยา

ดีขึ้นมาก จากการที่มีงานอดิเรกดีๆทำ

รักดีเชื่อค่ะ ว่าในโลกอันแสนสับสนใบนี้

มีผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มากมาย

คนใกล้ตัวของรักดีที่สุดก็มีค่ะ

เธอทั้งสวยและอายุยังน้อย

รักดีพยายามพูดให้เค้าทำใจให้ได้

และเริ่มต้นชีวิตใหม่

บางครั้ง การไม่มีใครก็คงจะมีความเหงาบ้าง

แต่หากไม่มีเลยจริงๆ

ทุกคนก็ต้องอยู่คนเดียวได้

เชื่อว่าทุกคนเกิดมาย่อมมีทั้งคนมีคู่

และคนไม่มีคู่

ไม่มีใครบอกใครได้ว่าจะเป็นอย่างไร

การมีชีวิตด้วยตัวเองแบบไม่ทุกข์มากนัก

น่าจะดีกว่าการมีคู่แล้วทุกข์ใจมากๆนะคะ

เรื่องการดื่มเหล้า หรือเบียร์

ถ้าดื่มพอประมาณแล้วควบคุมสติได้

ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรค่ะ

ขอให้คุณมาหยามีความเข้มแข็งมากๆนะคะ

และมีความสุขในสิ่งที่พอใจในวันนี้มากๆค่ะ






 

โดย: รักดี 3 กรกฎาคม 2548 12:05:14 น.  

 

ว้า...ว่าจะเลี้ยงเบียร์สักหน่อย

ชอบประโยคนี้อ่ะ

"และด้วยความเคารพตัวเอง ข้าพเจ้าก็จะไม่กินให้ใครเห็น "

คลาสสิคมากเลย

 

โดย: ปะหล่อง IP: 61.19.32.226 3 กรกฎาคม 2548 14:04:20 น.  

 

ไม่งงค่ะมาหยา ....
ช่วงเวลาหนึ่งที่ความรู้สึกมันสับสน หรือเบาหวิว นี่ อย่างน้อยคงต้องทำอะไรซักอย่างกับชีวิตล่ะเนอะ ... เคยลองกินเบียร์แล้วก็สุราเมระยะเหมือนกัน...ก็เห็นเพื่อนกินก็ลองดูค่ะ ไม่ได้มีเรื่องเศร้าอะไรหรอก แต่อยากลองกินดู..หุหุ ผื่นขึ้นเต็มคอเลย คันซะ.เอิ๊กๆ รสชาติก็ไม่ค่อยถูกคอเท่าไหร่ เลยไม่รู้จะกินไปทำไม อิอิ ....อ่านที่มาหยาเขียนแล้วรู้สึกดีจัง... ถ้าใจเรารักชอบอะไร.... อย่างเรื่องกล้องนี่ก็ทุ่มเทอย่างจริงๆจังๆ ไปเลยเนอะ .... จะได้ไม่ต้องมาจมกับเรื่องทุกข์ใจในอดีต ... ดีใจด้วยที่ผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ค่ะ ...

 

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว 3 กรกฎาคม 2548 15:36:39 น.  

 

ha ha ha.....แล้ววันนี้กรอกไปกี่จอกแล้วจ๊ะ...เมรี....((ล้อเล่นนะคร้าบบบบ))

ผมว่า...หันไปหาแอลกอฮอล์ในเวลาไม่สบายใจไม่ดีหรอกครับ...ผมจะดื่มก็ต่อเมื่อเป็นวาระเฉลิมฉลองหรือไม่มีเรื่องทุกข์ใจ...ไม่งั้นเหล้ามันจะกินเราครับ...

 

โดย: กุมภีน 3 กรกฎาคม 2548 19:56:27 น.  

 

มะค่อยสบาย เอ้อ ง่วงนิหน่อยอะ...

 

โดย: คน ละแม IP: 203.113.67.71 3 กรกฎาคม 2548 20:57:02 น.  

 

เขียนได้ดีจัง ถ่ายก็ดีด้วย วันนี้โชคดีหลายอย่าง เอ๊ะ หรือโชคร้ายนะ ......พูดเล่นนนน)
ได้เห็นมาหยาตัวจริงซะที สวยกว่าที่คิดแฮะ
ไปฟังเพลงใหม่ของป้ามดกันไหมคะ

 

โดย: ป้ามด 3 กรกฎาคม 2548 21:53:44 น.  

 


มาทักทายค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะแยะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

 

โดย: วัฌชา 3 กรกฎาคม 2548 23:29:45 น.  

 

รูปแรกนั่นอ่ะ ผมนึกว่ากระเทยซะอีก 555

 

โดย: panumas05 IP: 58.64.126.41 3 กรกฎาคม 2548 23:31:05 น.  

 

ช้างซักขวดมั้ยเจ๊

 

โดย: อยากจะโปร IP: 61.90.48.55 3 กรกฎาคม 2548 23:38:41 น.  

 

อ่านแล้วรู้สึกดีนะคะ

 

โดย: เฉลียงสีชมพู 4 กรกฎาคม 2548 0:27:59 น.  

 

นั่นแหละค่ะ ปฐมบทการถ่ายภาพของมาหยาหละ เริ่มต้นที่ เสรีภาพ การปล่อยใจไปตามจินตนาการ ไม่มีกฎใดๆ บังคับทั้งสิ้น

*****************************************

นี่แหล่ะป้าแอนตัวจริง.....ผมอยากเห็นภาพแบบนั้นอีก

 

โดย: ตะเกียงลาน 4 กรกฎาคม 2548 8:41:58 น.  

 

สุรามาเป็นระยะระยะ

ขนาดนั่งอ่าน ยังจะพลุบคาจอเลยครับ
แล้วถ้านั่งเขียนล่ะ ไม่อยากจะนึกภาพ เป็นผมคงหัวโขกกะจอจนแตกไปแล้วล่ะครับ

 

โดย: merf1970 4 กรกฎาคม 2548 6:07:42 น.  

 

วิ้ว้วววววววว


พี่แอน ก็ ดูไปดูมา

น่าจะเป็นพิตตี้ได้เนอะ

อุอุ ขอใต้โต๊ะ 200 อะนะ -

 

โดย: **konnarrak** 4 กรกฎาคม 2548 15:42:32 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณมาหยาหรือคุณแอน...

มีอมยิ้มอ่านแล้ว ทุกตัวอักษรค่ะ
ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกลียดสักนิด
การยินยอมปลดปล่อย สิ่งที่อยู่ในตัวตน ไม่ใช่เรื่องน่าอาย สำหรับมีอมยิ้ม

อาจจะดุโง่และงี่เง่า สำหรับหลายคน (แน่ล่ะต้องมีสักคนที่คิด).....สำหรับมีอมยิ้ม ไม่ อดีต คือ อดีต

ในหนึ่งตัวตนของคนเรา
ยังแง่ที่น่ามอง น่ายินดีเสมอ
การยอมรับในสิ่งที่ตนเองเคยเป็น
นั่นหมายถึง อิสระ แห่งการปลดปล่อยจริง ๆ กระมั้งคะ


ว่าแต่ ..... ทำไม ถ่ายออกมาได้สวยจังคะ
มีอมยิ้มชอบดูภาพถ่าย และจริง ๆ อยากบอกว่าชอบถ่ายภาพ แต่ไม่กล้า.....เพราะภาพที่ออกมา ไม่เคยดูดี เหมือนราคากล้องเลย


ปลากระป๋องที่ไม่มีที่เปิดและฝาดึง
อยู่กับไก่ที่มีแต่ปากแหลม ๆ จิก


เม้นท์แบบไม่เมา....และอยากบอกว่า ชอบรูป 4711 มากฮ่ะ ห๊อมมม หอมมมม

 

โดย: มีอมยิ้ม 4 กรกฎาคม 2548 16:57:17 น.  

 

สวัสดีค่ะ เวลาเห็นชื่อ ของคุณ ทำให้ดิฉันนึกถึงพญานาคเพศหญิงที่แปลงกายเป็นหญิงสาวแสนเซ็กซี่ ค่ะ จะส่งเรื่องของคุณไปให้น้องคนหนึ่งอ่านค่ะ โลกนี้จริงๆ แล้วก็ยังมีความสวยงามว่ามั้ยคะ....

 

โดย: ไม่รักไม่มา ...Naka 4 กรกฎาคม 2548 19:19:01 น.  

 




(คุณ )มาหยา เข้มแข็ง จริงค่ะ
หนี่ฯอ่อนแอค่ะ ..

จะเอาเปนแบบอย่าง
อิ ..อิ. ..

 

โดย: หนี่หนีหนี้ 4 กรกฎาคม 2548 19:38:32 น.  

 

แวะมาดูรูปจ้า

 

โดย: Bluejade 4 กรกฎาคม 2548 20:48:31 น.  

 

สวัสดีป้าแอน
อ่านไม่งงหรอกจ้า ขอบคุณที่เอาปสก. มาเล่าให้อ่านค่า

 

โดย: jan_tanoshii 4 กรกฎาคม 2548 21:50:48 น.  

 

แวะมาเมา

 

โดย: ultraman seven 4 กรกฎาคม 2548 21:55:09 น.  

 

แอบๆมาอ่าน เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ คือจะมาขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ (เรื่องพ๊อกเก็ตบุ๊คอ่ะค่ะ) ตอนนี้เรื่องยุติแล้วค่ะ

ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ


ปล. อ่านแล้วไม่งงค่ะ

 

โดย: ~nawo~ 4 กรกฎาคม 2548 23:10:11 น.  

 

คงไม่มีใครที่จะสามารถจมตัวเองอยู่กับอดีตได้นานนักหรอกค่ะ
หันมาพบความจริงที่ยังเหลืออยู่ ความสดใสก็จะมาเยือนในไม่ช้า
ยินดีด้วยกับก้าวที่ย่างค่ะ

 

โดย: mda IP: 203.159.12.16 5 กรกฎาคม 2548 16:49:17 น.  

 

อ่านแล้วนะจ๊ะ...และได้อะไรดีๆ จากหนูมากเลย..ขอบคุณที่ฝากข้อคิดที่ดีไว้ให้

 

โดย: พี่แต(อดีตเมรีเหมียนกัลลลล) IP: 61.91.91.202 5 กรกฎาคม 2548 21:30:33 น.  

 

ได้เห็นหน้าแบบเต็ม ๆ ชัด ๆ ซะที คิก ๆ น่ารักไม่ใช่ย่อยนะเนี่ย ถ้าจับแต่งหน้าแต่งตัวซะหน่อย น้องพริตตี้ตกเฟรมไปเลยอะ
แต่แบบนี้ก็น่ารักดี เราชอบ...

 

โดย: Angel Tanya 5 กรกฎาคม 2548 23:58:49 น.  

 

เห็นคุณแอนอัพบล๊อกตั้งแต่วันก่อนแล้ว แต่เพิ่งมีเวลามานั่งอ่านจริงจังค่ะ

อ่านแล้วก็รู้สึกดีมากๆค่ะ

คนเราย่อมมีเวลาที่แย่ แต่หากเรามีสติ มีความยั้งคิด แม้บางครั้ง มีพลั้งเผลออกนอกเส้นทางไปบ้าง ก็คงไม่แย่อะไรมากมาย
ดีใจที่คุณแอนมาเขียนประสบการณ์ตรงนี้ให้อ่านกันค่ะ

 

โดย: แครอทเค้ก 6 กรกฎาคม 2548 9:40:56 น.  

 

นิ่งหลายวันเลยนะครับ...นึ่งว่าเมรีน็อคไปซะแร้วววว...

 

โดย: กุมภีน 6 กรกฎาคม 2548 17:17:49 น.  

 

นารีหายไป

 

โดย: tenz 6 กรกฎาคม 2548 20:05:10 น.  

 

ฮาโหล....มีใครอยู่ไหมมมมมมม.....

 

โดย: รู้สึกแปลก 6 กรกฎาคม 2548 20:43:12 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่า ยังภ่ายภาพได้งดงามนะคะ

 

โดย: prncess 7 กรกฎาคม 2548 7:17:00 น.  

 




(คุณ )มาหยา สบายดีน๊ะค๊ะ
งาน ..คงยุ่งมากเลย
พักผ่อนมากๆคะ ..

 

โดย: หนี่หนีหนี้ 7 กรกฎาคม 2548 9:33:42 น.  

 

อืม ..........

เข้ามาอ่าน

 

โดย: Kikokku IP: 58.64.44.251 23 มีนาคม 2550 23:00:28 น.  

 

ทำบทภาพยนต์กันไม๊ครับป้าแอน เผื่อรุ่งน่ะ....

 

โดย: Free Bird IP: 203.113.61.104 23 มีนาคม 2550 23:05:26 น.  

 

วันนี้กลับมาอ่านเรื่องนี้อีกที รู้สึกแปลกๆ กับตัวเองเหมือนกัน

จะขำก็ไม่เต็มที่ จะยินดีก็ยิ่งไม่ใช่

ความเหงามันอยู่ไม่ไกลเลยเนอะ
วันนี้เกือบเผลอใจออกไปซื้อเมรัยมารับประทานอีกแล้ว

ดีนะ เพื่อนรักโทรมาชวนไปกินข้าวก่อน ไม่งั้นวันนี้แอบมีเมรีอยู่ในบ้านแฟลตนี้แน่ๆ เลย ฮี่ๆๆ

 

โดย: มรกตนาคสวาท 23 มีนาคม 2550 23:15:24 น.  

 

อ่านช้าไปตั้ง 2 ปีแน่ะ

 

โดย: MTF IP: 124.120.77.172 23 มีนาคม 2550 23:21:23 น.  

 

ถ่ายยูปเพราะโรคเดียวกันเลยป้า

ลป. วันนี้กำลังนั่งฟังเพลงเพราะจากชัฟเฟิลตัวเก่าอยู่

ยังรักชัฟเฟิลตัวนี้จนตัดสินซื้อตัวอื่นไม่ได้

ว่างๆไปเกะกันไหม

 

โดย: sirind IP: 58.8.167.157 23 มีนาคม 2550 23:27:41 น.  

 

เข้ามาอ่านเป็นครั้งที่สองครับครั้งแรกเมื่อสองเดือนก่อนครับแต่ไม่โพสตอบ

 

โดย: snoom IP: 124.157.161.6 5 มิถุนายน 2550 18:18:44 น.  

 

ป้าแอนสู้ๆๆ...........

 

โดย: จั๋งไทย IP: 203.150.194.5 20 กรกฎาคม 2550 0:58:13 น.  

 

พี่มาหยาค่ะ พี่มาหยาเข้มแข็งมากเลยค่ะ ต่างกับหนึ่งที่ยังจมอยู่กับรักครั้งแรก ที่มันยังคงฝังอยู่ในใจ หนึ่งอยากลืมมันไป เมื่อใหร่หนึ่งจะลืมมันได้เสียที

 

โดย: หนึ่ง IP: 61.7.172.166 30 กรกฎาคม 2551 23:47:22 น.  

 

ทำไมไ่ม่ชวนเราดื่มด้วยอ่ะ ตอนนั้นเราก็รักสลายดอกฝ้ายบานเหมือนกันนะ 55

 

โดย: คนสวยรายการเรื่องเก่าๆ IP: 202.28.38.140 5 กรกฎาคม 2555 16:06:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

มรกตนาคสวาท
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




มายาแห่งมาหยา

ยินดีต้อนรับ...

สู่

บล็อกคนชอบถ่ายรูปฝีมือธรรมดาๆ
หน้าตาไม่ดี นิสัยไม่ดี
งานเยอะ ไม่มีเวลาพูดเล่นกับใคร
ไม่ประสงค์จะสนิทสนมกับคนแปลกหน้า




ผีเสื้อ
ชรัส เฟื่องอารมณ์



.....ผีเสื้อตัวน้อยน้อย
บินล่องลอยกลางพนาไพร
โผผินร่อนบินระเริงใจ
คลุกเคล้าดอกไม้ใจชื่นบาน



แสงแดดยามสายสาย
งามพร่างพรายต้องสายธาร
ฉาบทองเมื่อมองแสนตระการ
ผีเสื้อสุขสราญนะเจ้าเอย



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ

... สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ...




เพลงผีเสื้อ




งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มาของข้อความ:เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา







New Comments
[Add มรกตนาคสวาท's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com