|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บทที่4 พอตเตอร์ทั้งเจ็ด
แฮร์รี่วิ่งกลับขึ้นมาที่ห้องนอนของเขา ตรงไปที่หน้าต่างทันเห็นรถของครอบครัวเดอร์สลีย์เลี้ยวออกจากถนนหน้าบ้านไปยังซอยพรีเว็ต หมวกแหลมของดีดาลัสมองเห็นได้ชัดอยู่ระหว่างป้าเพ็ดทูเนียกับดัดลีย์ รถเลี้ยวขวาที่สุดซอย กระจกรถเป็นสีแดงสดครู่หนึ่งเนื่องจากตะวันตกดิน แล้วก็ลับสายตาไป แฮร์รี่หยิบกรงเฮ็ดวิก ไม้กวาดไฟร์โบลต์ และเป้สัมภาระ หันกลับไปมองยังห้องที่ดูเรียบร้อยผิดหูผิดตา แล้วก็เดินลงบันไดกลับไปยังโถงอย่างทุลักทุเล แล้ววางสัมภาระต่างๆ ไว้ที่ตีนบันได แสงอ่อนลงทุกที โถงทางเดินเต็มไปด้วยเงาจากแสงอาทิตย์ยามเย็น เขารู้สึกแปลกที่ยืนอยู่ตรงนั้นในความเงียบและรู้ตัว ว่ากำลังจะจากบ้านนี้ไปเป็นครั้งสุดท้าย นานมาแล้ว เวลาเขาถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่นี่ขณะที่ครอบครัวเดอร์สลีย์ออกไปเที่ยวกันถือได้ว่าเป็นของขวัญที่หายาก เขาจะรีบฉวยของกินจากตู้เย็นแล้ววิ่งขึ้นไปเล่นคอมพิวเตอร์ของดัดลีย์หรือไม่ก็เปิดโทรทัศน์แล้วเปลี่ยนช่องดูรายการตามใจอยาก เขารู้สึกแปลกและว่างเปล่าเมื่อนึกย้อนถึงความทรงจำเหล่านั้น ราวกับนึกถึงน้องขายที่หายไป ไม่อยากดูบ้านนี้เป็นครั้งสุดท้ายหน่อยเหรอ เขาถามเฮ็ดวิกที่ยังซุกหัวตัวเองอยู่ใต้ปีก เราจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้วนะ แกจำช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ไหม ดูที่พรมเช็ดเท้านี้สิ อะไรนะ... ดัดลีย์อ้วกลงที่นี่หลังจากที่ฉันช่วยเขาไว้จากผู้คุมวิญญาณไง... กลายเป็นว่าเขาก็ขอบใจในที่สุด เชื่อไหมล่ะ ...และฤดูร้อนปีที่แล้ว ดัมเบิลดอร์เดินผ่านเข้ามาทางประตูนี้... แฮร์รี่นึกอะไรต่อไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง และเฮ็ดวิกก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย แต่ยังคงซุกหัวอยู่ใต้ปีกเช่นเดิม แฮร์รี่หันหลังให้กับประตูหน้าบ้าน และใต้นี้ เฮ็ดวิก -- แฮร์รี่ดึงประตูใต้บันไดเปิดออก -- ที่ที่ฉันเคยนอนอยู่ไง! ตอนนั้นแกยังไม่รู้จักฉันเลย -- ให้ตายสิ ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าห้องนี้มันเล็ก... แฮร์รี่มองเข้าไปเห็นกองรองเท้าและร่ม พลางนึกว่าเขาเคยตื่นขึ้นทุกเช้าที่นี่ ลืมตาเห็นด้านใต้ของบันได และมักจะเห็นแมงมุมอยู่ตัวสองตัว ช่วงเวลานั้นคือก่อนที่จะรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ก่อนที่เขาจะรู้ถึงเหตุของการเสียชีวิตของพ่อแม่ หรือรู้ถึงเหตุผลของสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขา แต่แฮร์รี่ยังจำฝันที่อยู่กับเขามาตลอด เช่นฝันประหลาดเกี่ยวกับแสงสีเขียว และฝันถึงรถมอเตอร์ไซค์บินได้ที่เกือบทำให้ลุงเวอร์นอนขับรถชนเมื่อเขาเอ่ยถึง เกิดเสียงแสบแก้วหูดังขึ้นมาใกล้ๆ แฮร์รี่สะดุ้งตัวตรงขึ้นมา ทำให้หัวกระแทกกับขอบประตูเตี้ยๆ เขาหยุดเลือกใช้คำสบถที่ลุงเวอร์นอนชอบใช้ แล้วรีบกลับไปที่ห้องครัวขณะที่มือยังกุมหัวตัวเองอยู่ แล้วจ้องออกไปนอกสวนหลังบ้าน อากาศบริเวณนั้นดูเหมือนกระเพื่อมเป็นระลอก แล้วก็มีร่างปรากฏขึ้นทีละ ร่างเมื่อคาถาพรางตัวหมดฤทธิ์ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือแฮกริดที่สวมหมวกกันน็อคและแว่นตานั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่มีรถเล็กๆ สีดำพ่วงอยู่ด้วย คนอื่นรอบๆ เขาลงจากไม้กวาด และสองคนที่ลงจากม้าโครงกระดูกมีปีกสีดำ แฮร์รี่ดึงประตูหลังบ้านเปิด แล้วรีบออกไปท่ามกลางพวกเขา มีเสียงกรี๊ดและทักทายก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะเหวี่ยงแขนกอดเขาเช่นเคย รอนตบหลังเขาเบาๆ และแฮกริดพูดว่า โอเคใช่ไหม แฮร์รี่ พร้อมรึยัง แน่นอนครับ แฮร์รี่พูด ยิ้มกว้างให้ผู้คนรอบๆ ตัวเขา แต่ผมไม่นึกว่าจะมากันมากขนาดนี้! เปลี่ยนแผน แม้ด-อายคำราม ดวงตาวิเศษหมุนคว้างไปมาตั้งแต่บนท้องฟ้าไปถึงสวนอย่างรวมเร็ว เขาถือถุงใหญ่สองถุง เข้าไปข้างในก่อนเถอะ แล้วฉันจะอธิบายแผนให้ฟัง แฮร์รี่นำเข้าไปในห้องครัว ขณะที่พวกเขาพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แล้วก็นั่งลงหรือยืนพิงอุปกรณ์ครัวที่ป้าเพ็ดทูเนียทำความสะอาดอย่างไร้ที่ติ รอน สูงดูเก้งก้าง เฮอร์ไมโอนี่ ผูกผมเป็นหางม้า เฟร็ดกับจอร์จยิ้มเหมือนกัน บิล ผมยาวใบหน้าเต็มไปด้วยแผลเป็น คุณวีสลีย์ ใบหน้าใจดี หัวเริ่มล้าน แว่นตาดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แม้ด-อาย มีขาเดียว ดวงตาวิเศษสีฟ้าสดใสหมุนอยู่ในเบ้า ท็องส์ผมสั้นสีชมพูสีโปรด ลูปินผมสีอ่อนลงอีกและดูแก่ขึ้น เฟลอร์ผอม ผมยาวสีเงินบลอนด์ คิงสลีย์ หัวล้าน ผมเข้ม ไหล่กว้าง แฮกริด ผมและเครายุ่งเหยิง ยืนค้อมหลังไม่ให้หัวชนเพดาน และมันดังกัส เฟล็ทเชอร์ ตัวเล็กสกปรก ดวงตาห่อเหี่ยว ดูเหมือนว่าใจของแฮร์รี่จะพองโตขึ้นเมื่อได้เห็นทุกๆ คน แม้แต่มันดังกัสที่เขาพยายามจะบีบคอเมื่อครั้งที่แล้วที่เจอกัน คิงสลีย์ ผมคิดว่าคุณจะตามอารักขานายกมักเกิ้ลเสียอีก เขาถาม ให้เขาดูแลตัวเองคืนนึง คิงสลีย์ตอบ เธอสำคัญกว่า แฮร์รี่ ทายสิๆ ท็องส์ถาม ขณะที่ตนนั่งอยู่บนเครื่องซักผ้า แล้วก็แกว่งมือซ้ายให้เขาดู แหวนวงหนึ่งสะท้อนแสงเป็นประกายอยู่ คุณแต่งงานแล้วเหรอครับ แฮร์รี่ร้องเสียงหลง หันไปหาลูปิน ฉันขอโทษที่เธอไปร่วมงานไม่ได้นะ แฮร์รี่ งานเงียบๆ น่ะ เยี่ยมมากเลยครับ ยินดี -- เอาล่ะ เอาล่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อทีหลัง! มู้ดดี้คำราม แล้วทั้งห้องครัวก็เงียบลง เขาวางถุงใหญ่ลงที่พื้นแล้วหันไปหาแฮร์รี่ จากที่ดีดาลัสพยายามจะบอกเธอ เราล้มเลิกแผน ก เพียส ธิคนีสกลายเป็นพวกนั้นไปแล้ว ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เขาขู่ที่จะจับพวกเราเข้าคุกถ้าพยายามจะต่อบ้านนี้เข้ากับเครือข่ายผงฟลู จัดกุญแจนำทาง หรือว่าหายตัวเข้าออก อ้างว่าเพื่อปกป้องเธอไม่ให้คนที่เธอก็รู้ว่าใครเข้ามาจับตัวได้ งี่เง่าชัดๆ เพราะที่จริงคาถาของแม่เธอก็ป้องกันไว้แล้ว กลายเป็นว่าไม่ให้เธอออกจากที่นี่ได้ปลอดภัย ปัญหาที่สองคือ เธอยังอายุไม่ถึง หมายความว่าพวกเขายังมีตัวติดตามเธออยู่ ผมไม่ -- ตัวติดตามไง ตัวติดตาม! แม้ด-อายพูดอย่างหมดความอดทน คาถาที่ตรวจจับการใช้เวทมนตร์รอบๆ คนที่อายุไม่ถึงสิบเจ็ดปี วิธีที่กระทรวงตามการใช้เวทมนตร์โดยคนที่ยังอายุไม่ถึง ถ้าเธอ หรือใครก็ตามรอบๆ ตัวเธอร่ายคาถาให้เธอออกจากที่นี่ ธิคนีสก็จะรู้ และพวกผู้เสพความตายด้วย เราจะรอไม่ให้ตัวติดตามหมดอายุไม่ได้ เพราะเมื่อเธออายุครบสิบเจ็ดแล้วคาถาป้องกันของแม่เธอก็จะเสียไปด้วย ง่ายๆ ก็คือ ธิคนีสคิดว่าเขาเก็บตัวเธอไว้ได้แล้ว ช่วยไม่ได้ที่แฮร์รี่จะเห็นด้วยกับธิคนีสที่เขาไม่รู้จักนื้ แล้วเราจะทำยังไงละครับ เราจะใช้การเดินทางวิธีเดียวที่เหลืออยู่ วิธีเดียวที่ตัวติดตามไม่สามารถตรวจจับได้เพราะเราไม่ต้องร่ายคาถานั่นคือไม้กวาด เธสตรอล และมอเตอร์ไซค์ของแฮกริด แฮร์รี่มองเห็นช่องโหว่ในแผนนี้ แต่ไม่พูดอะไรให้แม้ด-อายได้พูดถึงเอง ทีนี้ คาถาของแม่เธอจะเสื่อมลงในสองเงื่อนไข คือเมื่อเธออายุครบสิบเจ็ด หรือ -- มู้ดดี้ชี้ใบ้ไปรอบๆ ห้องครัวเอี่ยมอ่อง -- เธอไม่เรียกที่นี่ว่าเป็นบ้านของเธออีก เธอและลุงกับป้าจะแยกทางกันไปคืนนี้ โดยเข้าใจตรงกันว่าจะไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ถูกต้องใช่ไหม แฮร์รี่พยักหน้า ทีนื้ เมื่อเธอออกจากที่นี่ จะไม่กลับมาอีก และคาถาก็จะเสื่อมลงเมื่อเธอออกจากระยะของมัน เราเลือกจะให้มันเสื่อมก่อนเพราะอีกทางหนึ่งก็คือรอให้คนที่เธอก็รู้ว่าใครมาจับตัวเธอไปเมื่อเธออายุครบสิบเจ็ด อย่างเดียวที่เรามีก็คือคนที่เธอก็รู้ว่าใครไม่รู้ว่าเราจะออกในคืนนี้ เราได้ปล่อยข่าวลวงไปในกระทรวง พวกเขาคิดว่าเธอจะไม่ย้ายออกไปจนกว่าจะถึงวันที่สามสิบ อย่างไรก็ตาม เรากำลังสู้อยู่กับคนที่เธอก็รู้ว่าใคร เราเลยจะหวังแค่ให้เขาจำวันผิดไม่ได้ เพราะแน่นอนว่าเขาจะต้องให้ผู้เสพความตายสักคนสองคนคอยลาดตระเวนอยู่บนฟ้าในบริเวณนี้แน่ๆ เผื่อเอาไว้ เราเลยจัดการป้องกันอย่างเน้นหนาที่สุดเท่าที่เราทำได้ให้กับบ้านประมาณโหลนึง เพื่อให้ดูเหมือนเป็นที่ที่จะซ่อนตัวเธอไว้ และทุกหลังก็มีความเกี่ยวข้องกับภาคี เช่นบ้านฉัน บ้านคิงสลีย์ บ้านป้ามิวเรียลของมอลลี่ พอนึกภาพออกใช่ไหม ครับ แฮร์รี่พูด แต่ไม่ค่อยเป็นจริงเท่าไหร่ เพราะเขายังเห็นช่องโหว่ในแผนการอยู่ เธอจะไปที่บ้านพ่อแม่ของท็องส์ เมื่อเธอเข้าในรัศมีของคาถาป้องกันแล้วเธอก็จะใช้กุญแจนำทางไปยังบ้านโพรงกระต่าย มีคำถามไหม เอ่อ -- มีครับ แฮร์รี่พูด ตอนแรกเขาอาจไม่รู้ว่าผมจะไปบ้านไหนในสิบสองหลัง แต่ว่าไม่ดูชัดเจนเหรอครับว่า -- เขานับจำนวนคนในห้องอย่างรวดเร็ว -- เราสิบสี่คนบินตรงไปที่บ้านของพ่อแม่ของท็องส์ อ้อ มู้ดดี้พูด ฉันลืมพูดประเด็นสำคัญไป เราทั้งสิบสี่คนจะไม่ได้บินตรงไปที่บ้านพ่อแม่ของท็องส์ แต่จะมีแฮร์รี่ พอตเตอร์เจ็ดคนบินอยู่บนท้องฟ้าคืนนี้ แต่ละคนจะมีคู่ดูแล และมุ่งหน้าไปที่บ้านแต่ละหลัง มู้ดดี้หยิบขวดแก้วที่ใส่อะไรสักอย่างที่ดูเหมือนโคลนออกมาจากเสื้อคลุม ไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้อีก เราก็เข้าใจแผนการที่เหลือในทันที ไม่! เขาพูดเสียงดัง เขาก้องอยู่ในห้องครัว ไม่มีทาง! ฉันบอกเขาแล้วว่าเธอต้องพูดแบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่พูด มีน้ำเสียงพอใจเจืออยู่ ถ้าคุณคิดว่าจะให้คนหกคนเสี่ยงชีวิต -- -- เพราะเป็นครั้งแรกของเรา รอนพูด นี่มันไม่ใช่ ปลอมตัวเป็นผม -- ก็ ไม่มีใครชอบจริงๆหรอกนะ เฟร็ดพูดอย่างจริงใจ ลองคิดดูว่าถ้าเกิดอะไรผิดพลาดแล้วเราต้องตัวผอมแห้งอย่างนั้นตลอดไปเนี่ย แฮร์รี่ไม่ยิ้ม พวกคุณก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าผมไม่ให้ความร่วมมือ คุณต้องเอาเส้นผมจากผมอยู่ดี ว้า แผนนี้ใช้ไม่ได้ซะแล้ว จอร์จพูด ไม่มีโอกาสเลยที่เราจะเอาผมนายมาได้ ช่าย สิบสามคนต่อหนึ่งคนที่ยังใช้เวทมนตร์ไม่ได้ เราคงไม่มีโอกาสเลยแหละ เฟร็ดพูด ขำ แฮร์รี่พูด ตลกมากเลย ถ้าจำเป็นเราก็ต้องใช้กำลัง มู้ดดี้พูด ตาวิเศษสั่นเล็กน้อยเมื่อเขาจ้องไปยังแฮร์รี่ ทุกคนในที่นี้อายุครบกันหมดแล้วนะ พอตเตอร์ และทุกคนก็พร้อมจะเสี่ยง มันดังกัสยักไหล่แล้วทำหน้าเบ้ ตาวิเศษของมู้ดดี้หันไปมองเขาที่ทางข้างของหัว อย่าเถียงกันอีกเลย เวลาหมดไปเรื่อยๆ แล้ว ฉันขอแค่ผมเธอซะหน่อยไอ้หนู เร็ว แต่นี่มันบ้าแล้ว ไม่จำเป็น -- ไม่จำเป็นเหรอ! มู้ดดี้คำราม ทั้งที่คนที่เธอก็รู้ว่าใครอยู่นั่นและอีกครึ่ง กระทรวงเป็นพวกเขาเนี่ยนะ พอตเตอร์ ถ้าเราโชคดี เขาก็เชื่อข่าวปลอมและวางแผนจะโจมตีเธอในวันที่สามสิบ แต่เขาต้องบ้าไปแล้วถ้าไม่ได้ให้ผู้เสพความตายคอยจับตามองไว้ ถ้าเป็นฉันก็จะทำอย่างนี้แหละ พวกนั้นอาจจะยังมาเอาตัวเธอไม่ได้เพราะคาถาของแม่เธอยังอยู่ แต่มันก็ใกล้เสื่อมและเขาก็พอรู้ตำแหน่งคร่าวๆ แล้วด้วย โอกาสเดียวของเราคือต้องใช้เหยื่อล่อ แม้แต่คนที่เธอก็รู้ว่าใครก็ไม่สามารถแยกตัวเองออกเป็นเจ็ดร่างได้ แฮร์รี่เห็นสายตาของเฮอร์ไมโอนี่แล้วรีบมองไปทางอื่นทันที ทีนี้ พอตเตอร์ -- ผมของเธอ แฮร์รี่ชำเลืองมองไปทางรอน ที่กำลังทำหน้าที่อ่านได้ว่า ทำซะที มาทางเขาอยู่ เร็ว! มู้ดดี้พูด ขณะที่ทุกคนจ้องมาที่เขา แฮร์รี่ก็ยกมือขึ้นบนหัว รวมผมกระจุกหนึ่งแล้วดึงออก ดี มู้ดดี้พูด เดินโขยกเขยกมาข้างหน้าพร้อมกับเปิดฝาขวดน้ำยา ใส่มาเลย แฮร์รี่ปล่อยเส้นผมลงในของเหลวข้นเหมือนโคลน วินาทีที่มันสัมผัสผิว น้ำยาก็เริ่มเกิดฟองและควัน แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีทองใสๆ โอ้ ของเธอดูน่ากินกว่าของแครบกับกอยล์เยอะเลย เฮอร์ไมโอนี่พูด ก่อนจะเห็นรอนเลิกคิ้วขึ้น ทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อยแล้วพูดว่า อ้อ เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร -- น้ำยาของกอยล์ดูเหมือนขี้มูกเลย เอาล่ะ พอตเตอร์ตัวปลอม เข้าแถวตรงนี้ด้วย มู้ดดี้พูด รอน เฮอร์ไมโอนี่ เฟร็ด จอร์จ และเฟลอร์ ยืนเข้าแถวที่หน้าอ่างล้างจานที่ส่องแสงเป็นประกายของป้าเพ็ดทูเนีย ขาดไปหนึ่ง ลูปินพูด นี่ แฮกริดพูดขึ้นมา แล้วก็ยกตัวมันดังกัสขึ้นมาที่คอเสื้อด้านหลัง แล้วปล่อยลงที่ข้างๆ เฟลอร์ เธอทำจมูกย่นแล้วเลื่อนตัวไปยืนอยู่ระหว่างเฟร็ดกับ จอร์จแทน ฉันบอกแล้วว่าอยากเป็นคนคุ้มกัน มันดังกัสพูด หุบปาก มู้ดดี้คำราม ฉันบอกแกแล้วไอ้หนอนเอ๋ย ผู้เสพความตายจะพยายามจับตัวพอตเตอร์ ไม่ใช่ฆ่า ดัมเบิลดอร์พูดมาตลอดว่าคนที่แกก็รู้ว่าใครอยากจะจัดการกับพอตเตอร์ด้วยตัวเอง คนคุ้มกันนั่นแหละที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะผู้เสพความตายจะฆ่า มันดังกัสดูไม่มั่นใจนัก แต่มู้ดดี้ก็เอาแก้วหกแก้วออกมาจากเสื้อคลุม แจกให้แต่ละคน แล้วรินน้ำยาสรรพรสลงแก้วละนิด เอาล่ะ ... รอน เฮอร์ไมโอนี่ เฟร็ด จอร์จ เฟลอร์ และมันดังกัสดื่มพร้อมกัน ทุกคนหอบหายใจและทำหน้าเบ้เมื่อกลืนน้ำยาลงคอ แล้วร่างของแต่ละคนก็เปลี่ยนไปในทันทีราวกับขี้ผึ้งร้อนๆ เฮอร์ไมโอนี่และมันดังกัสสูงพรวดขึ้น รอน เฟร็ด และจอร์จหดเตี้ยลง สีผมเข้มขึ้น ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่กับเฟลอร์เหมือนถูกบีบเข้าไปกับกระโหลก มู้ดดี้ที่ดูไม่ค่อยสนใจเท่าไร กำลังแก้มัดปากถุงใหญ่ที่นำมาด้วย เมื่อเขายืนตัวตรงขึ้นอีกครั้งก็มีแฮร์รี่ พอตเตอร์หกคนหอบหายใจอยู่เบื้องหน้า เฟร็ดกับจอร์จหันหน้าเขาหากันแล้วพูดพร้อมกันว่า ว้าว เหมือนกันอย่างกับแกะ! ไม่รู้สิ ฉันว่ายังไงฉันก็ดูดีกว่านาย เฟร็ดพูด พิจารณาเงาตัวเองจากกาต้มน้ำ เหอะ ดูเงาตัวเองในฝาปิดเตาไมโครเวฟ บิล อย่ามองมานะ -- ฉันน่าเกลียด คนที่เสื้อผ้าหลวมเกิน ให้มาเอาชุดใหม่ที่นี่ มู้ดดี้พูด ชี้ไปยังถุงใบแรก ถ้าคับเกินก็เหมือนกัน อย่าลืมแว่นตาล่ะ มีอยู่หกคู่ในช่องข้างๆ และพอแต่งตัวเสร็จแล้วก็มีเป้ของอยู่ในอีกถุง แฮร์รี่ตัวจริงคิดว่านี่เป็นสิ่งที่แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา และก็เห็นบางอย่างที่ประหลาดมากๆ เขามองตัวปลอมค้นของในถุง ดึงเสื้อผ้าออกมา สวมแว่นตา ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เขารู้สึกเหมือนอยากจะขอให้แต่ละคนรักษาหน้าเขาสักหน่อย เมื่อแต่ละคนเริ่มถอดเสื้อผ้าอย่างสบายใจกว่าปกติเมื่ออยู่ในร่างของแฮร์รี่ ฉันว่าแล้วว่าจินนี่โกหกเรื่องรอยสักนั่น รอนพูด มองไปที่อกตัวเอง แฮร์รี่ สายตาเธอแย่มากเลยนะ เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะที่เธอสวมแว่นตา เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว แฮร์รี่ตัวปลอมทั้งหลายก็หยิบเป้และกรงนกฮูกที่มีตุ๊กตานกฮูกอยู่ข้างใน ดีแล้ว มู้ดดี้พูดเมื่อในที่สุดแฮร์รี่ที่แต่งตัวเรียบร้อย สวมแว่น และแบกเป้ทั้งเจ็ดคนหันหน้ามาทางเขา จับคู่ตามนี้ มันดังกัสจะไปกับฉันด้วยไม้กวาด ทำไมผมต้องไปกับคุณด้วยล่ะ แฮร์รี่ที่อยู่ใกล้ประตูหลังที่สุดพูด เพราะแกต้องถูกจับตามองมากที่สุดไงล่ะ มู้ดดี้พูดเสียงดัง และแน่นอนว่าตาวิเศษของเขาไม่เลื่อนไปจากมันดังกัสขณะที่เขาพูดต่อ อาร์เธอร์กับเฟร็ด ผมจอร์จครับ ฝาแฝดที่มู้ดดี้ชี้อยู่พูดขึ้น พอเราเป็นแฮร์รี่แล้วคุณแยกเราไม่ออกเหรอครับ โทษที จอร์จ ผมแค่แหย่คุณเท่านั้นแหละ ที่จริงผมน่ะเฟร็ด -- เลิกเล่นซะที! มู้ดดี้คำราม อีกคนนึง จะเป็นจอร์จ หรือ เฟร็ด หรือใครก็ตาม ไปกับรีมัส มิสเดอลากูร์ -- ผมพาเฟลอร์ไปด้วยเธสตรอลเอง บิลพูด เธอบอกว่าไม่ชอบไม้กวาดเท่าไหร่ เฟลอร์เดินไปข้างๆเขา ส่งสายตาที่แฮร์รี่หวังว่าจะไม่เกิดบนใบหน้าเขาอีกให้กับเฟลอร์ มิสเกรนเจอร์ไปกับคิงสลีย์ โดยเธสตรอล -- เฮอร์ไมโอนี่ดูพอใจเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของคิงสลีย์ แฮร์รี่รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มั่นใจในไม้กวาดเหมือนกัน ทีนี้ก็เหลือเธอกับฉันแล้วแหละ รอน! ท็องส์พูดอย่างสดใส ชนตั้งเหยือกล้มเมื่อเธอโบกมือให้ รอนดูไม่พอใจเท่ากับเฮอร์ไมโอนี่ และเธอก็อยู่กะฉันนะแฮร์รี่ โอเคนะ แฮกริดพูด ดูกังวลเล็กน้อย เราจะไปกันด้วยมอเตอร์ไซค์ ไม้กวาดหรือเธสตรอลแบกฉันไม่ไหวร๊อก ไม่ค่อยมีที่เหลือเท่าไหร่อะ เธอนั่งที่รถพ่วงเล็กข้างๆ นี่ละกัน เยี่ยมเลยครับ แฮร์รี่พูดไม่ค่อยตรงกับที่คิดเท่าไหร่ เราคิดว่าพวกผู้เสพความตายจะคิดว่าเธอจะขี่ไม้กวาด มู้ดดี้พูด เหมือนว่าเขาจะเดาความารู้สึกของแฮร์รี่ได้ สเนปมีเวลาจะบอกเรื่องเกี่ยวกับเธอที่เขายังไม่ได้บอกอีกมาก ดังนั้น ถ้าเราเจอกับผู้เสพความตายก็พนันได้ว่าพวกนั้นจะพยายามจัดการกับพอตเตอร์ที่ดูขี่ไม้กวาดคล่อง เอาล่ะ เขาพูดต่อ ผูกปากถุงที่มีชุดของพอตเตอร์ตัวปลอมอยู่ แล้วนำไปทางประตู อีกสามนาทีก่อนที่ถึงเวลาออกเดินทาง ไม่จำเป็นต้องล็อคประตู ถ้าพวกผู้เสพความตายมาก็กันไว้ไม่ได้หรอก... มาเร็ว... แฮร์รี่วิ่งกลับไปที่โถงเพื่อหยิบเป้สัมภาระ ไฟร์โบลต์ และกรงเฮ็ดวิก ก่อนจะกลับมารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ที่สวนหลังบ้าน ทุกคนต่างเตรียมไม้กวาดพร้อมแล้ว คิงสลีย์ช่วยเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นบนเธสตรอลตัวใหญ่สีดำ พร้อมกับที่บิลช่วยเฟลอร์ แฮกริดยืนอยู่ข้างๆ มอเตอร์ไซค์ สวมแว่นตา นี่เหรอครับ มอเตอร์ไซค์ของซิเรียส คันนี้แหละ แฮกริดพูด ยิ้มกว้างให้กับแฮร์รี่ และครั้งสุดท้ายที่เธอขี่นี้แน่ะแฮร์รี่ ฉันยังอุ้มเธอด้วยมือเดียวได้อยู่เลย! ช่วยไม่ได้ที่แฮร์รี่จะรู้สึกเหมือนถูกดูถูกเมื่อขึ้นนั่งบนรถพ่วงข้างๆ เขาอยู่เตี้ยกว่าคนอื่นๆหลายฟุต รอนยิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ในรถพ่วงเตี้ยๆ เหมือนเด็ก แฮร์รี่วางเป้และไม้กวาดไว้ที่เท้าและวางกรงเฮ็ดวิกไว้ระหว่างขา เขาไม่รู้สึกสบายเลย อาร์เธอร์ปรับอะไรนิดหน่อยให้น่ะ แฮกริดพูดเหมือนกับไม่เห็นความไม่สบายตัวของแฮร์รี่ เขานั่งลงบนมอเตอร์ไซค์ ซึ่งส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วจมลงในดินหลายนิ้ว มีอยู่ที่ที่จับแล้ว ความคิดฉันเองล่ะ เขาชี้นิ้วไปยังปุ่มสีม่วงใกล้หน้าปัดความเร็ว ระวังหน่อยนะแฮกริด มิสเตอร์วีสลีย์พูด เขายืนอยู่ข้างๆ ถือไม้กวาดอยู่ ผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้ดีหรือเปล่า และขอให้ใช้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เอาล่ะ มู้ดดี้พูด ทุกคนพร้อมแล้วนะ ฉันอยากให้ทุกคนออกตัวพร้อมกัน ไม่งั้นแผนลวงจะไม่ได้ผล ทุกคนขึ้นไม้กวาดของตนเอง จับแน่นๆ นะรอน ท็องส์พูด แฮร์รี่เห็นรอนส่งสายตาขอโทษไปทางลูปินก่อนจะเอามือจับเอวของเธอ แฮกริดสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์ มันส่งเสียงดังเหมือนมังกรและรถพ่วงก็เริ่มสั่น ขอให้โชคดีทุกคน มู้ดดี้ตะโกน เจอกันในอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงที่บ้านโพรงกระต่าย นับสามนะ หนึ่ง... สอง... สาม เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ส่งเสียงคำราม แฮร์รี่รู้สึกวูบอย่างรุนแรง เขากำลังบินขึ้นบนฟ้าอย่างรวดเร็ว น้ำตาไหลเล็กน้อย ผมปัดเสยขึ้นไปจากใบหน้า รอบๆตัวเขา ไม้กวาดหลายด้ามก็พุ่งทะยานขึ้นมา หางยาวสีดำของเธสตรอลก็สะบัดผ่านไป ขาของเขาที่อยู่กับเป้และกรงเฮ็ดวิกเจ็บและเริ่มชา เขารู้สึกไม่สบายมากเสียจนเกือบลืมหันกลับไปมองบ้านเลขที่สี่ ซอยพรีเว็ตเป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อเขามองออกไปก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นหลังไหน พวกเขาบินสูงขึ้นไปในท้องฟ้า แล้วทันไดนั้นเอง พวกเขาก็ถูกล้อม ร่างคลุมศีรษะอย่างน้อยสามสิบร่างลอยข้างอยู่กลางอากาศ ล้อมสมาชิกภาคีที่เพิ่งบินขึ้นมาเป็นวงกลมขนาดใหญ่ เสียงกรีดร้อง มีลำแสงสีเขียวออกมาจากทุกด้าน แฮกริดร้องเสียงหลงแล้วมอเตอร์ไซค์ก็หมุนคว้าง แฮร์รี่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน ไฟตามถนนอยู่เหนือหัวของเขา เสียงตะโกนดังมาจากรอบๆตัว เขาเกาะรถพ่วงไว้แน่นเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ กรงเฮ็ดวิก ไม้กวาดไฟร์โบลต์ และเป้สัมภาระของเขาหลุดจากใต้เข่า ไม่นะ -- เฮ็ดวิก! ไม้กวาดของเขาพุ่งลงไปที่พื้น แต่เขาสามารถคว้าหูหิ้วเป้และยอดกรงไว้ได้เมื่อมอเตอร์ไซค์หมุนกลับมาเหมือนเดิม เขารู้สึกโล่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีแสงสีเขียววาบหนึ่ง นกฮูกกรีดเสียงร้องแล้วล้มลงบนพื้นกรง ไม่ -- ไม่! มอเตอร์ไซค์พุ่งไปข้างหน้า แฮร์รี่เห็นผู้เสพความตายกระจัดกระจายออกเมื่อแฮกริดพุ่งทะลุวงกลมออกมา เฮ็ดวิด -- เฮ็ดวิก -- แต่มันนอนนิ่งราวกับของเล่นอยู่ที่พื้นกรง เขารับไม่ได้ และความกลัวคนอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นมาก เขาเหลือบมองกลับไปเห็นกลุ่มคนมากมาย ประกายแสงสีเขียว และคนสองคู่ทะยานไกลออกไป แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร -- แฮกริด เราต้องกลับไป เราต้องกลับไป! เขาตะโกนสู้กับเสียงเครื่องยนต์ ดึงไม่กายสิทธิ์ออกมา วางกรงเฮ็ดวิกไว้ที่พื้น ไม่เชื่อว่ามันตายแล้ว แฮกริด กลับไป! งานของฉันคือพาเธอไปให้ปลอดภัยนะแฮร์รี่ แฮกริดตะโกนแล้วเร่งเครื่องยนต์ หยุด -- หยุด! แฮร์รี่ตะโกน แต่เมื่อเขาหันกลับไปมองก็มีสำแสงสีเขียวสองลำพุ่งผ่านหูซ้ายของเขาไป ผู้เสพความตายสี่คนออกจากวงตามพวกเขามา เล็งตรงไปที่หลังของแฮกริดหักหลบ แต่ผู้เสพความตายก็ไล่กวดเข้ามา เสกคำสาปใส่พวกเขามากขึ้นอีก และแฮร์รี่ก็ต้องก้มต่ำเพื่อหลบคำสาปเหล่านั้น เขาบิดตัวอยู่ในรถพ่วงแล้วร้องตะโกน สตูเปฟาย! แล้วลำแสงสีแดงก็พุ่งออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขาเอง แหวกผ่านช่องว่างระหว่างผู้เสพความตายทั้งสี่คนที่ไล่มา จับไว้ แฮร์รี่ เดี๋ยวจัดการเอง! แฮกริดคำราม แล้วแฮร์รี่ก็หันไปมองทันเห็นแฮกริดทุบปุ่มสีเขียวใกล้หน้าปัดน้ำมัน กำแพงอิฐแข็งๆ พุ่งออกมาจากท่อไอเสีย แฮร์รี่ยืดคอเห็นมันขยายออกไป ค้างอยู่กลางอากาศ ผู้เสพความตายสามคนหักหลบได้ แต่คนที่สี่ไม่โชคดีอย่างนั้น เขาหายไปจากสายตาแล้วร่วงเหมือนก้อนหินจากหลังกำแพง ไม้กวาดแตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้เสพความตายคนหนึ่งชะลอและช่วยไว้ แต่ทั้งผู้เสพความตายและกำแพงถูกกลืนเข้าไปในความมืดเมื่อแฮกริดหมอบต่ำที่แฮนด์บังคับแล้วเร่งความเร็วขึ้น คำสาปพิฆาตพุ่งผ่านหัวของแฮร์รี่อีกจากผู้เสพความตายที่เหลืออีกสองคน มันเล็งตรงมาที่แฮกริด แฮร์รี่ตอบโต้ด้วยการเสกคาถาสะกดนิ่งกลับไป ลำแสงสีแดงและสีเขียวชนกันกลางอากาศกลายเป็นประกายหลากสี ทำให้แฮร์รี่คิดถึงดอกไม้ไฟ และมักเกิ้ลข้างล่างที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบนนี้ อีกทีนะแฮร์รี่ จับให้ดี! แฮกริดตะโกน แล้วเขาก็กดปุ่มที่สอง ครั้งนี้มีตาข่ายพุ่งออกมาจากท่อไอเสีย แต่พวกผู้เสพความตายพร้อมแล้ว ไม่ใช่แค่หลบทัน แต่คนที่ชะลอไปช่วยเพื่อนยังตามมาทันอีกด้วย ตอนนี้สามคนกำลังไล่ตามมอเตอร์ไซค์อยู่ และยิงคำสาปไล่มาด้วย ทีนี้ล่ะ แฮร์รี่ จับแน่นๆ! แฮกริดตะโกน และแฮร์รี่ก็เห็นเขาทุบปุ่มสีม่วงใกล้กับหน้าปัดความเร็ว เกิดเสียงคำรามกึกก้อง มังกรไฟสีฟ้าก็ระเบิดพุ่งออกมาจากท่อไอเสีย แล้วมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับกระสุนปืนพร้อมกับเสียงโลหะบิด แฮร์รี่เห็นผู้เสพความตายหักหลบเปลวไฟออกไปจากสายตา และขณะเดียวกัน รถพ่วงก็สั่นอย่างน่ากลัว โลหะที่เชื่อมมันไว้แตกออกจากความเร่งเมื่อครู่นี้ โอเคแล้วแหละแฮร์รี่! แฮกริดตะโกน เขาเอนตัวไปข้างหลังเนื่องจากความเร็ว ไม่มีใครควบคุมมอเตอร์ไซค์อยู่ และรถพ่วงก็เริ่มบิดอย่างน่ากลัวจากความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ฉันจัดการเองแฮร์รี่ ไม่ต้องห่วง! แฮกริดตะโกน แล้วดึงร่มลายดอกไม้สีชมพูออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แฮกริด! ไม่! ให้ผมทำ! เรปาโร! เกิดเสียงปังขึ้นแล้วรถพ่วงก็หลุดออกจากมอเตอร์ไซค์ แฮร์รี่พุ่งไปข้างหน้าจากแรงเคลื่อนของรถ แล้วรถพ่วงก็เริ่มตกลง แฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่รถพ่วงอย่างหมดหวังแล้วตะโกน วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า! รถพ่วงลอยขึ้นเหมือนลูกลอย ควบคุมไม่ได้แต่ยังอยู่กลางอากาศ เขารู้สึกโล่งใจครู่หนึ่งก่อนที่คำสาปจะพุ่งผ่านเขาไปอีก ผู้เสพความตายสามคนตามเข้ามาใกล้แล้ว ฉันมาแล้วแฮร์รี่! แฮกริดตะโกนออกมาจากความมืด แต่แฮร์รี่รู้สึกว่ารถพ่วงกำลังตกลงอีกแล้ว เขาก้มต่ำเท่าที่จะทำได้ ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังกลุ่มร่างที่เข้ามาแล้วตะโกน อิมเปดิเมนต้า! คาถาโดนผู้เสพความตายตรงกลางที่อก ครู่หนึ่งที่ผู้เสพความตายคนนั้นกางแขนกางขาค้างอยู่กลางอากาศราวกับชนกำแพงล่องหน เพื่อนของเขาอีกคนเกือบจะชนกับเขา รถพ่วงเริ่มร่วงลงอีก แล้วผู้เสพความตายที่เหลือก็ยิงคาถาใกล้จนแฮร์รี่ต้องพุ่งหมอบที่ขอบรถ กระแทกฟันหลุดออกไปซี่หนึ่ง ฉันมาแล้ว แฮร์รี่ ฉันมาแล้ว! มือขนาดยักษ์คว้าด้านหลังของเสื้อคลุมแฮร์รี่ แล้วดึงออกมาจากรถพ่วงนั้น แฮร์รี่ดึงเป้สัมภาระตามมาเมื่อเขาขึ้นนั่งหันหลังให้กับแฮกริด ขณะที่เขาทะยานขึ้นฟ้าจากผู้เสพความตายทั้งสองคน แฮร์รี่ก็ถ่มเลือดออกจากปาก ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังรถพ่วง แล้วตะโกน คอนฟริงโก้! แฮร์รี่รู้ว่าต้องทำให้เฮ็ดวิกเจ็บปวดอย่างมากเมื่อมันระเบิด ผู้เสพความตายที่อยู่ใกล้รถพ่วงที่สุดถูกแรงระเบิดกระเด็นออกไปจากไม้กวาดออกไปจากสายตา เพื่อนของเขาถอยกลับแล้วหายไปสายตา แฮร์รี่ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ แฮกริดร้อง ฉันไม่น่าซ่อมเองเลย -- ไม่มีที่ให้เธอ -- ไม่เป็นไรหรอกครับ ขับต่อไปเถอะ! แฮร์รี่ตะโกนกลับไป ผู้เสพความตายอีกสองคนโผล่ออกมาจากความมืด ใกล้เข้ามา คำสาปพุ่งผ่านอากาศอีกครั้ง แฮกริดก็หับหลบซิกแซก แฮร์รี่รู้ว่าแฮกริดไม่กล้าใช้ปุ่มมังกรไฟอีกเพราะแฮร์รี่นั่งอยู่อย่างอันตราย แฮร์รี่เสกคาถาสะกดนิ่งอีกหลายครั้ง แต่แทบจะไม่ได้ช่วยให้ผู้ไล่ตามห่างออกไปสักเท่าไหร่ เขาเสกคาถาป้องกันอีกครั้ง ผู้เสพความตายที่อยู่ใกล้ที่สุดหักหลบเพื่อหลบคาถา ทำให้ฮู้ดเลื่อนเปิดออก และจากลำแสงสีแดงของคาถาสะกดนิ่งต่อมาของเขา แฮร์รี่ก็เห็นใบหน้าไร้ความรู้สึกอย่างแปลกๆของสแตนลีย์ ชันไพก์ -- สแตน -- เอ็กซ์เปลลิอาร์มัส! แฮร์รี่ตะโกน อยู่นี่ อยู่นี่ ตัวจริงอยู่นี่! เสียงตะโกนของผู้เสพความตายที่สวมฮู้ดอยู่ดังสู้เสียงเครื่องยนต์มาถึงแฮร์รี่ ครู่ต่อมา ผู้ไล่ตามทั้งสองก็ถอยออกไปจากสายตา แฮร์รี่ เกิดอะไรขึ้น แฮกริดตะโกนถาม พวกนั้นไปไหน ผมไม่รู้ครับ! แต่แฮร์รี่กลัว ผู้เสพความตายที่สวมฮู้ดตะโกนออกมาว่า ตัวจริงอยู่นี่ เขารู้ได้อย่างไร เขามองไปยังความว่างเปล่ารอบๆ ตัว และรู้สึกถึงความน่ากลัวของมัน พวกเขาหายไปไหน เขาหันไปข้างหน้าแล้วคว้าด้านหลังของแจ็คเก็ตของแฮกริดไว้ แฮกริด ใช้มังกรไฟอีกทีเถอะ รีบไปจากที่นี่! จับแน่นๆ ละกัน แฮร์รี่! เกิดเสียงดังกึกก้องอีกครั้งแล้วเปลวไฟสีฟ้าก็พุ่งออกมาจากท่อไอเสีย แฮร์รี่รู้สึกว่าตัวเองไถลหลุดจากที่นั่งที่มีอยู่เล็กน้อย แฮกริดล้มทับลงมาข้างหลังบนตัวเขา แทบจะคุมแฮนด์ไม่อยู่ ฉันว่าเราสลัดมันหลุดแล้วแหละแฮร์รี่ เราทำสำเร็จแล้ว! แฮกริดตะโกน แต่แฮร์รี่ไม่คิดเช่นนั้น ความกลัวพุ่งขึ้นมาเมื่อเขามองซ้ายมองขวาหาผู้ไล่ตามที่เขามั่นใจว่าจะมา ... ทำไมพวกนั้นถึงถอยกลับไป คนหนึ่งยังมีไม้กายสิทธิ์อยู่ ... อยู่นี่ ตัวจริงอยู่นี่ ... ทำไมพวกนั้นถึงพูดถูกเมื่อเขาปลดอาวุธ สแตน ... ใกล้ถึงแล้ว แฮร์รี่ จะถึงแล้ว! แฮกริดตะโกน แฮร์รี่รู้สึกว่ามอเตอร์ไซค์ร่วงลงเล็กน้อย แม้ว่าแสงไฟข้างล่างยังดูเหมือนดวงดาวที่อยู่ห่างไกล แล้วแผลเป็นบนหน้าผากของเขาก็แสบร้อนราวกับไฟ ขณะเดียวกัน ผู้เสพความตายโผล่ออกมาทั้งสองข้างของเขา คำสาปพิฆาตพลาดแฮร์รี่ไปไม่กี่มิลลิเมตร ร่ายมาจากข้างหลัง แล้วแฮร์รี่ก็เห็นเขา โวลเดอมอร์บินเหมือนควันอยู่ในสายลม ไม่มีไม้กวาดหรือเธสตรอล ใบหน้าที่เหมือนงูเรืองแสงอยู่ในความมืด นิ้วมือสีขาวยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นอีกครั้ง แฮร์รี่ร้องตะโกนด้วยความกลัวแล้วบังคับให้มอเตอร์ไซค์พุ่งดิ่งลง แฮร์รี่จับแน่นเพื่อรักษาชีวิต แล้วร่ายคาถาสะกดนิ่งไปทุกทิศทุกทาง เขาเห็นร่างบินผ่านไปและรู้ว่าต้องเสกโดนสักคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงดังและเห็นประกายไฟจากเครื่องยนต์ รถมอเตอร์ไซค์หมุนควงแหวกอากาศ อยู่นอกการควบคุมโดยสิ้นเชิง ลำแสงสีเขียวพุ่งผ่านพวกเขาไปอีก แฮร์รี่ไม่รู้เลยว่าทิศไหนเป็นทิศไหน แผลเป็นยังแสบร้อนอยู่ เขาคิดว่าคงจะตายในอีกไม่กี่วินาที ร่างสวมฮู้ดบนไม้กวาดอยู่ห่างเขาไม่กี่ฟุต เขาเห็นมันยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น ไม่! แฮร์รี่ตะโกนอย่างโกรธแค้น แล้วกระโดดออกจากรถไปยังผู้เสพความตาย แฮร์รี่ผวาเมื่อเห็นทั้งแฮกริดและผู้เสพความตายร่วงหายไปจากสายตา น้ำหนักรวมของทั้งสองหนักเกินไปสำหรับไม้กวาด แฮร์รี่หนีบเกาะกับรถด้วยเข่าทั้งสองข้างแทบจะไม่อยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงโวลเดอมอร์กรีดร้อง เสร็จข้า! จบแล้ว เขาไม่เห็นหรือได้ยินว่าโวลเดอมอร์อยู่ตรงไหน เขาเห็นผู้เสพความตายหลบออกไปแล้วได้ยิน อะวาดา -- ความเจ็บปวดจากแผลเป็นทำให้เขาหลับตา ไม้กายสิทธิ์ขยับไปด้วยตัวของมันเอง เขารู้สึกว่ามันลากมือของเขาเป็นวงเหมือนกับแม่เหล็กขนาดใหญ่ แล้วเห็นเปลวไฟสีทองพุ่งออกมาผ่านเปลือกตาที่กึ่งปิดอยู่ ได้ยินเสียง ป๊อก และเสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้น ผู้เสพความตายที่เหลือตะโกน และโวลเดอมอร์ก็กรีดร้องว่า ไม่! แฮร์รี่รู้สึกตัวว่าจมูกของตนอยู่ห่างจากปุ่มมังกรไฟเพียงนิ้วเดียว เขาต่อยมันลงไปด้วยมือที่ไม่ได้ถือไม้กายสิทธิ์ แล้วรถก็พ่นเปลวไฟออกไปในอากาศอีก ตัวรถพุ่งตรงไปที่พื้น แฮกริด! แฮร์รี่เรียก จับรถมอเตอร์ไซค์ไว้แน่น แฮกริด -- แอกซีโอ แฮกริด! รถมอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วขึ้นอีก พุ่งไปยังพื้น ใบหน้าของแฮร์รี่อยู่ระดับเดียวกับแฮนด์บังคับ เห็นเพียงแค่แสงไฟไกลๆนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นๆ เขากำลังจะตกพื้นและก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากด้านหลัง ไม้กายสิทธิ์ของแก เซลวิน เอาไม้กายสิทธิ์มาให้ฉัน! เขารู้สึกถึงโวลเดอมอร์ก่อนจะเห็น เขามองไปข้างๆ แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีแดงนั้น แน่ใจว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาเห็น โวลเดอมอร์เตรียมสาปเขาอีกครั้ง แล้วโวลเดอมอร์ก็หายตัวไป แฮร์รี่มองลงไปแล้วเห็นแฮกริดนอนแผ่อยู่ที่พื้นใต้เขา เขาคว้าเบรก แต่ก็ตกลงในบ่อโคลนพร้อมกับเสียงปะทะแสบแก้วหู
* หมายเหตุ : หากมักเกิ้ลคนไหนอ่านเอกสารนี้แล้วไม่ซื้อหนังสือของลิขสิทธิ์ ขอสาปให้เป็นหนอนฟลอบเบอร ์
Create Date : 09 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 27 สิงหาคม 2550 2:41:01 น. |
|
1 comments
|
Counter : 306 Pageviews. |
|
|
|
โดย: mukgu วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:18:35:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
เป็นแค่ผู้หญิงที่สับสนในตัวเอง ไม่แน่ใจว่าจะหวาน จะเปรี้ยว หรือจะห้าว ก้อมันแล้วแต่อารมณ์นะ
ถามจิงจิงแอมกะน้องเหมือนกันปละ (ดูรูปข้างบนเลย) อิอิ
|
|
|
|
|
|
|