การละเล่นพื้นบ้านล้านนา
5 เมษายน 2553 : การละเล่นพื้นบ้านล้านนา จากงาน สืบสานมรดกไทย เทิดไ้ท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เชียงใหม่
เมื่อวานวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2553 มีเพื่อนส่งข้อมูลให้ฟังว่าตอนเย็น-ค่ำมืดที่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์มีจัดงาน .......ว่างๆ แวะไปถ่ายรูปได้ ได้ยินมาแค่นั้น ก็ไม่รู้ว่าชื่องานอะไร รูปแบบเป็นอย่างไร แต่ก็พอเดาๆ ได้อยู่ เพราะรู้ว่าต้องแสงน้อยๆ แน่เลย งานนี้เลยเตรียมเลนส์ไป 2 ตัว เป็นเลนส์ F2.8 ทั้ง 2 ตัว ช่วงสั้น 17-50 mm Tamron : ช่วงยาว 70-200 mm Sigma
พอไปถึงบริเวณงาน บนเวทีมีการแสดงดนตรีสะล้อซอซึงอยู่ เดินไปรอบๆ เห็นเด็กน้อยแต่งตัวน่ารัก กำลังเล่นการล่ะเล่นพื้นบ้านของล้านนากันอยู่ คราวนี้ไม่รอช้าแอบถ่ายภาพเด็กๆ ที่เล่นการละเล่นอย่างสนุกสนาน
ไม้โก๋งเก๋ง เป็นการเล่นที่เล่นได้ทั้งเด็กชาย หญิง สร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย การทรงตัว โดยใช้ไม้ไผ่ลำขนาดเหมาะมือจับ หรือกำโดยรอบ ยาวประมาณ 2 เมตร ตัดหัวท้ายให้เรียบ ส่วนไม้ไผ่สำหรับยืนเหยียบใช้ไม้ไผ่ตัดเป็นท่อนจำนวน 2 ท่อน ยาวพอเหมาะกับการยืน หรือโดยประมาณท่อนละ 8 นิ้ว จากนั้นเจาะรูตรงบนของลำข้อไม้ไผ่ด้านปลาย(ท่อนสั้นที่ใช้ยืนเหยียบ) ให้ทะลุทั้งสองด้าน ให้เจาะบริเวณเหนือข้อไม้ไผ่ ให้มีขนาดกว้างพอที่จะสอดไม้ท่อนสั้นเข้าไปในไม้ไผ่ท่อนยาวที่ใช้เป็นด้ามจับ ยึดด้วยตะปู หรือสลักไม้ไผ่ก็ได้ โดยให้มีระดับการยืนที่สูงพอประมาณ แต่ควรติดตั้งบริเวณข้อไม้ไผ่เช่นกันเพื่อความแข็งแรง
เด็กๆ จะหัดยืนบนท่อนไม้เพื่อทรงตัว และเมื่อทรงตัวได้แล้ว จึงลองก้าวเดิน ถ้าเดินเก่งแล้วก็นำมาเดินแข่งกันได้เป็นที่สนุกสนาน
หนูน้อยคนนี้เก่ง เล่นเดินบนอากาศได้ด้วย
สิกกะโหล้ง เป็นการเล่นของทั้งเด็กชาย หญิง ที่สร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย การทรงตัว ความสามารถทักษะในการประยุกต์อุปกรณ์การเล่น โดยการนำกะลามะพร้าว(ขูดผิวด้านนอกเรียบ) ผ่าครึ่งใบ เจาะรูร้อยเชือกใช้ไม้ไผ่ยาว 2 นิ้วขัดปลายเชือกไว้ด้านในกะลา ส่วนเชือก ยาวประมาณ 1.5 เมตร หรือ แล้วแต่ขนาดของผู้เล่น
เด็กๆ จะถอดรองเท้า และใช้นิ้วเท้า(นิ้วโป้ง-นิ้วชี้) คีบเชือกเอาไว้ แล้วขึ้นยืนบนกะลาทั้งสองเท้า ใช้มือดึงเชือกไว้ เหมือนขี่ม้า แล้วก้าวเดิน โดยไม่เท้าตกจากกะลา และเมื่อเดินกันเก่งแล้ว ก็มักจะมาเดินแข่งขันกัน
คู่นี้ก็เดินแข่งกันมา แล้วขาก็มาหล่นแตะพื้นอยู่ตรงหน้า เลยตัดสินให้ใครชนะไม่ทันเลย สงสัยต้องไปถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง มาตัดสินระหว่างคู่นี้แล้ว
บะข่าง หรือ บะข่างโว่ เป็นบะข่าง(ลูกข่าง) ชนิดหนึ่ง ด้วยภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของคนล้านนาในสมัยก่อน สามารถปั่นบะข่างแล้วทำให้เกิดเสียงดังในขณะที่บะข่างหมุน ด้วยแรงดันของลมที่วิ่งผ่านช่องว่างของกระบอกไม้ไผ่(ที่เจาะเป็นรูเฉียง) เมื่อกระบอกไม้ไผ่หมุน แรงดันลมจะทำให้เกิดเสียง โว่...โว่...
วิธีการเล่น เล่นได้ 2 อย่าง แบบแรกใช้มือข้างหนึ่งถือด้ามจับที่พันเชือกเสร็จแล้ว ให้ปลายแหลมของบะข่างอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย แล้วใช้มืออีกข้างดึงเชือก บะข่างโว่จะหมุนติ้วๆๆๆ พร้อมกับมีเสียงดัง บะข่างใครหมุนนานที่สุดคือผู้ชนะ
ส่วนอีกวิธีหนึ่ง เด็กๆ จะใช้วิธีการปาบะข่างลงพื้น และเช่นกันบะข่างโว่จะหมุนติ้ว พร้อมกับมีเสียงดัง บะข่างใครหมุนนานที่สุดคือผู้ชนะ แต่วิธีนี้อันตรายหน่อย ปาไม่ดี ไปโดนคนข้างๆ ได้
และมาปิดท้ายกับหนูน้อยคู่นี้ ที่เห็นพี่ๆ เค้าเล่นกันอย่างสนุกสนาน เลยเข้าไปแจมด้วย
เห็นภาพหนูน้อย 2 คน สนอกสนใจการละเล่นบะข่าง ไม่รู้จะปั่นบะข่างหมุนได้ไหมหนอ
คอปเตอร์ไม้หมุน หรือ จานบิน เป็นอีกการละเล่นหนึ่ง ที่เล่นได้ทั้งเด็กชาย-หญิง อุปกรณ์สามารถหาได้ง่ายภายในบ้าน ได้แก่ ไม้ไอศกรีม ไม้ไผ่ หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น ลูกปัดกลมแบบมีรู นำไม้ไอศกรีมแบบแบนที่ปลายมน มาเจาะรูตรงกลาง แล้วนำ้ไม้ไผ่ หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น เสียบทะลุรูของไม้ไอศกรีมขึ้นไปเล็กน้อย จากนั้นใช้ลูกปัดมาเสียบปลายไม้ที่เจาะทะลุไม้ไอศกรีมเพื่อกันหลุด แต่คนล้านนาในสมัยก่อนคงไม่ได้ใช้ไม้ไอศกรีม คงใช้ใบไม้มาทำใบพัด หรือไม่ก็เหลาไม้ไผ่ให้แบนๆ ซึ่งเมื่อมีการทำให้ปีกของใบพัดแบนหรือเอียงไปทางซ้าย หรือ ทางขวา คอปเตอร์ไม้หมุน-จานบิน ก็จะมีทิศทางการเคลื่อนที่แตกต่างกันไปด้วย
เห็นหนูน้อยคนนี้ เล่นปั่นหมุน พร้อมกระโดดสุดตัว เลยต้องตามจับแอ็คชั่นสักหน่อย
ได้ภาพหนูน้อยแอ็คชั่นมา ส่วนคอปเตอร์บินไปหลุดเฟรมมากไปหน่อย
ขอบคุณน้องหนูทุกๆ คนที่เป็นแบบถ่ายภาพด้วยนะครับ เห็นภาพน้องหนูสนุกสนานแบบนี้ ยอมถ่ายภาพไปหมด mem ไปชุดหนึ่งเลย
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย Set นี้ด้วยนะครับ
*** คุยกันท้าย Blog จากที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าพกเลนส์ไป 2 ตัว แต่จริงๆ ใช้เลนส์ Sigma 70-200 mm. F 2.8 เพียงตัวเดียว ที่จริงก็อยากลองใช้เลนส์ normal ที่พกไปด้วย Tamron 17-50 mm. F 2.8 แต่ก็ห่วงเรื่องภาพถ่ายมุมกว้างๆ จะได้ภาพส่วนเกินๆ มาด้วย สุดท้ายยอมใช้ Sigma 70-200 mm. F 2.8 ตัวเดียวตลอดงาน
Create Date : 05 เมษายน 2553 |
|
14 comments |
Last Update : 19 เมษายน 2553 13:10:56 น. |
Counter : 16417 Pageviews. |
|
|
|