พิศวาสทาสทราย [ ตัวอย่างเนื้อเรื่อง ]

“นัฐชา! นี่มันเรื่องอะไรกัน ตอบผมมาซิ! ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร”

 


                “จักร...คุณฟังนัฐก่อนนะคะ นัฐไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร นัฐไม่รู้จักเขา ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเขาพูดเรื่องบ้าอะไร เชื่อนัฐนะคะจักร เชื่อนัฐนะคะ”

 


นัฐชาหน้าตื่น หันซ้ายแลขวาสลับกันไปมาระหว่างผู้เป็นเจ้าบ่าวกับบุรุษแปลกหน้า แม้เวลานี้จะโกรธจนควันออกหู ที่ชายผู้นั้นกระทำการจาบจ้วงกับตน จนอยากจะเข้าไปตบเขาสักฉาดให้หายแค้น แต่หล่อนก็เลือกที่จะให้ความสนใจกับว่าที่เจ้าบ่าว เพราะเห็นว่าสิ่งที่สมควรจะกระทำที่สุดในขณะนี้ ก็คือต้องเรียกความเชื่อมั่นจากชายคนรักให้กลับคืนมาเสียก่อน ด้วยไม่ต้องการให้เหตุการณ์เลวร้ายลงมากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นนัฐชาจึงสาวเท้าเข้าประชิดผู้เอ่ยสัตย์สาบานเคียงคู่กับตนต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ก่อนจะเกาะเกี่ยวท่อนแขนของเขาไว้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับชายคนรัก

 


                “ไม่เอาน่า...นัฐชา อย่าบอกนะ ว่าคุณลืมคืนวันที่ร้อนเร่าของเราสองคนไปแล้ว ผมยังจำได้เลย ว่าคืนนั้นน่ะ คุณออดอ้อน...” ปฏิกิริยาดังกล่าวทำให้นัยน์ตาสีดำสนิทที่แฝงความดุดันจ้องมองหญิงสาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ทว่าน้ำคำที่เอื้อนเอ่ยออกไปกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

 


                “นี่! อย่ามาพูดพล่อย ๆ ให้ฉันเสียหายแบบนี้นะ ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน อย่าว่าแต่หน้าเลย ชื่อก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วฉันจะไปทำเรื่องบ้า ๆ แบบนั้นกับคุณได้ยังไงกัน” ถ้อยคำยั่วยุที่ได้ยินได้ฟัง ทำให้นัฐชาถึงกับควันออกหู ด้วยเข้าใจผิดคิดไปว่าชายผู้นั้นและสมัครพรรคพวกจงใจมาป่วนงาน เพราะได้รับการว่าจ้างจากญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของหล่อนหรือไม่ก็ของชายคนรัก

 


                “นัฐชา คุณจะปฏิเสธให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อคุณกับผมต่างก็รู้ ๆ กันอยู่ ว่าเรา...” สายตาเย้ยหยันคล้ายจะเป็นต่อจ้องมองท่าทีหญิงสาว

 


                “หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าคิดจะก่อกวนกันไม่เลิกละก็ เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่” นัฐชารั้งชายกระโปรงขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าหาอย่างเอาเรื่อง ใบหน้าสวยหวานที่ตกแต่งไว้อย่างประณีตบึ้งตึง ด้วยกำลังคิดว่าหากแปลงร่างเป็นยักษ์ได้ ก็คงจะทำไปแล้ว เพราะเวลานี้หล่อนอยากจะหักแขนหักขาชายปากสามหาวผู้นี้ เอามาขบเคี้ยวก่อนจะกลืนกินลงท้อง ชนิดที่เรียกว่าไม่ให้หลงเหลือกระดูกเลยสักชิ้น

 


                “ว้ายย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ! จักรคะช่วย...”                  

 


แต่แทนที่นัฐชาจะได้ประทุษร้ายชายปากดีนั่นอย่างที่ตั้งใจไว้ กลับถูกมือหนารั้งร่างเข้าหา กว่าที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ท่อนแขนกำยำก็ตรึงรัดหล่อนไว้จนดิ้นไม่หลุด วูบหนึ่งนัฐชารู้สึกใจหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาดุดันที่จ้องมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แม้น้ำเสียงกระด้างที่ลอดผ่านไรฟันจะแผ่วเบาพอให้ได้ยินเพียงแค่สองคน แต่มันก็ทำให้ทุกอณูขุมขนบนเรือนร่างของหญิงสาวลุกชันและไร้การขัดขืนอย่างสิ้นเชิง 

 


“หุบปาก! แล้วมองไปที่ประตู ถ้ายังอยากให้พ่อแม่มีชีวิตอยู่ละก็ ทำทุกอย่างตามที่ผมสั่ง

 


เพียงแค่ไล่สายตาไปหยุดยังปากประตูโบสถ์ นัยน์ตาคู่สวยก็เบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก เมื่อพบว่าบิดามารดายืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของชายฉกรรจ์หน้าตาเหี้ยมโหดนับสิบ ที่ล้วนแล้วแต่ถืออาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ก็รู้สึกเหมือนใจทั้งดวงไม่อยู่ที่อกซ้าย หากแต่หล่นหายและสูญสลายไปในอากาศ ใบหน้างามถอดสีจนขาวซีด ความหวาดกลัวที่วิ่งเข้ามาจับขั้วหัวใจ ทำให้หญิงสาวรีบตวัดสายตาวิงวอนบุรุษผู้นั้น แต่ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับเป็นเพียงน้ำเสียงกระด้าง ที่ส่งผ่านริมฝีปากที่กำลังแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน

 


                “กอดผมสิ! แล้วจูบผมด้วย ทำแบบเดียวกับที่คุณคิดจะทำกับไอ้หมอนั่น

 


นัฐชายืนนิ่งไม่ไหวติง ด้วยถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังนั้นทำให้ชาไปทั้งตัวและความรู้สึก ช่วงชีวิตที่ผ่านมา หล่อนไม่เคยคิดที่จะให้ร้ายหรือทำร้ายผู้ใดให้ต้องเจ็บปวด เท่าที่จำได้...หล่อนไม่เคยรู้จัก หรือแม้แต่พบหน้าบุรุษผู้นี้มาก่อนเสียด้วยซ้ำ แล้วทำไม? ทำไมชายผู้นี้ถึงได้คิดร้ายกับหล่อน เขาทำตัวไม่ผิดกับเป็นเจ้าชีวิต บีบบังคับข่มขู่ให้ต้องกระทำในสิ่งที่ไม่เต็มใจ แววตาดุดันที่จ้องมองมาแต่ละครั้ง ก็เชือดเฉือนไม่ผิดกับปลายมีดแหลมคม ที่พร้อมจะกรีดลงมาบนกลางใจของหล่อน หากยังมัวแต่ลังเล หรือไม่ยอมตัดสินใจอะไรลงไปให้เด็ดขาด

 


ในเมื่อไม่มีหนทางให้เลือกมากนัก ถ้าอยากให้เรื่องจบ ก็คงต้องจำยอม ริมฝีปากได้รูปเม้มสนิทอย่างคนใช้ความคิดคลี่ออก ก่อนที่จะตวัดแขนทั้งสองขึ้นสอดประสานรอบท้ายทอยบุรุษ แล้วโน้มศีรษะเขาลงมาแตะแต้มเรียวปากอิ่ม สัมผัสเพียงแผ่วที่ไร้อารมณ์และความรู้สึก หาใช่สิ่งที่ผู้ออกคำสั่งต้องการ สัมผัสแข็งกระด้างที่สร้างความเจ็บแปลบบริเวณต้นแขนทั้งสองข้างจึงเกิดขึ้นทันที เมื่อมือแข็งราวคีมเหล็กกระชากร่างบางเข้าหาแล้วตรึงรัดไว้ในวงแขน ส่งผลให้ทุกสรรพางค์แนบชิดจนไม่หลงเหลือช่องว่างใด ๆ ให้ได้เห็น สรีระที่ต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ ทำให้สองอารมณ์สองความรู้สึกเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ด้วยหนึ่งนั้นหน้าม้านก่อนจะขึ้นสีด้วยความโกรธและเขินอาย ส่วนอีกหนึ่งเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน พลางโน้มหน้าลงประกบกลีบปากอิ่มที่เพิ่งจะทอดถอนอย่างดุดันราวกับจะสั่งสอน

 


“ไอ้บ้าเอ้ย! ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ”

 


หลังจากที่จักรพงษ์หายตกตะลึง ชายหนุ่มก็ปรี่เข้าไปกระชากตัวผู้ที่กำลังกระทำจาบจ้วงกับคนรักของตน กำปั้นล้วน ๆ ที่ส่งผ่านตามแรงอารมณ์คุกรุ่นกระแทกลงบนใบหน้าคมคายนั่น โดยที่ผู้ถูกกระทำไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย เลือดสีแดงสดไหลซึมจากริมฝีปาก ขณะที่ร่างสูงใหญ่มีอาการเซซวนเล็กน้อย เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น ทำให้ชายฉกรรจ์นับสิบต่างกรูกันขึ้นมาบนแท่นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปกป้องคุ้มกันผู้เป็นนาย และหมายจะรุมสกรัมชายผู้นั้นในทันที

 


“อย่า! เราจัดการเองได้”

 


                บุรุษหน้าตาคมคายส่งเสียงปราม ก่อนจะใช้หลังมือปาดเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมจากมุมปาก เขาสะบัดศีรษะเล็กน้อยเหมือนจะเรียกสติ ก่อนจะตวัดสายตาดุดันกวาดมองคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่เคียงกัน

 


                “มาหาผม...นัฐชา”

 


                เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ หญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ก็ตั้งท่าจะขยับ แต่ติดที่ว่าชายคนรักที่ยืนอยู่เบื้องหน้านั้นขวางไว้ จักรพงษ์ไม่ไว้ใจชายแปลกหน้าผู้นี้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าท่าทีที่แสดงออกจะเป็นเพียงการยื่นมือออกมาข้างหน้าคล้ายจะร้องขอ โดยไม่มีท่าทีว่าจะจู่โจมหรือมุ่งร้าย แต่ทว่าแววตาที่แสดงออกกลับแข็งกระด้าง ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ภายใน

 


“ไม่นะนัฐ! ผมอยู่นี่ทั้งคน คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”

 


                “ผมบอกให้คุณมาหาผมเดี๋ยวนี้ นัฐชาเมื่อเห็นว่าสิ่งที่พูดออกไปไร้ผล นัยน์ตาดุดันจึงจ้องเขม็งผ่านบุรุษเบื้องหน้าไปยังสตรีที่ยืนอยู่ด้านหลัง น้ำเสียงราบเรียบที่เปลี่ยนเป็นกร้าวขึ้นตามแรงอารมณ์ ส่งผลให้หญิงสาวถึงกับหน้าซีดตัวสั่น ความรู้สึกหวาดกลัวที่ก่อเกิด ทำให้นัฐชารีบก้าวออกมายืนเบื้องหน้าแล้วสาวเท้าเข้าหาคนออกคำสั่ง ราวกับว่าตกอยู่ใต้มนต์สะกด

 


“นัฐ! อย่าไป ได้โปรด...” จักรพงษ์พยายามจะคว้าตัวหญิงสาว แต่เขาก็ถูกชายฉกรรจ์ชุดดำสี่ห้าคนขวางเอาไว้ จึงได้แต่ทรุดตัวลงนั่งส่งคำวิงวอนไล่หลังหญิงสาวอยู่ตรงนั้น

 


“ขอโทษนะคะจักร นัฐ...นัฐคง...แต่งงานกับคุณไม่ได้แล้ว มันจำเป็...”

 


นัฐชาผินหน้ากลับไปมองเบื้องหลัง แต่ทว่าดวงตาคู่สวยที่รื้นไปด้วยหยาดน้ำตากลับต้องหลุบสายตาลงต่ำ หล่อนไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับคนรัก จึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนหลุดน้ำเสียงสั่นเทาออกจากเรียวปาก หญิงสาวพูดได้เพียงไม่กี่ประโยค ก็เหมือนมีก้อนสะอื้นวิ่งขึ้นมาอุดตันอยู่บริเวณลำคอ จึงตัดสินใจหันกลับแล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อ จนกระทั่งมาหยุดอยู่เบื้องหน้าชายผู้นั้น

 


ทันทีที่เหลือบตาขึ้นมองก็เหมือนใจจะหล่นหายเสียให้ได้ เมื่อพบว่าดวงตาสีนิลที่จ้องมองอยู่ก่อน นั้นฉาบไว้ด้วยความแข็งกระด้างและฉายแววชิงชังอย่างเห็นได้ชัด หากนัฐชาตาไม่ฝาด หล่อนเห็นบุรุษผู้นั้นกำลังแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน ร่างบางสะดุ้งสุดตัวหลุดจากภวังค์ เมื่อฝ่ามือร้อนผ่าวแตะลงมาที่ไหล่กลมกลึง ก่อนจะกระชากเข้าหาและโอบไว้อย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เสมือนหนึ่งถือสิทธิ์ในฐานะเจ้าชีวิต ผู้มีสิทธิ์ขาดเหนือร่างกายของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว ความหวาดกลัวที่แผ่ซ่านไปทุกอณูขุมขน ส่งผลให้ร่างทั้งร่างนั้นเย็นเฉียบเหมือนยืนอยู่ในจุดเยือกแข็ง หยาดน้ำใสจากดวงตาคู่สวยจึงเอ่อล้นลงอาบสองข้างแก้ม

 


แต่ก็น่าแปลก...ที่จู่ ๆ บุรุษผู้นั้นกลับหันมายิ้มให้ พลางไล้ผ้าเช็ดหน้าผืนบางซับหยาดน้ำตาไปบนใบหน้าสวย กว่าที่หญิงสาวจะรู้ว่าน้ำใจที่หยิบยื่นให้นั้นคืออสรพิษร้าย ก็สูดดมกลิ่นฉุน ๆ ที่ไม่คุ้นเคยเข้าไว้จนเต็มปอด อาการตาพร่ามัวเกิดขึ้นในบัดดล แขนขาก็เหมือนจะหมดแรงเอาเสียดื้อ ๆ สติสัมปชัญญะที่ลดน้อยถอยลงตามลำดับ ทำให้หญิงสาวยืนโงนเงนไปมาก่อนจะล้มลงในอ้อมแขนของบุรุษ สำเหนียกสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบ คือเสียงกร้าวประกาศก้องต่อหน้าแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน

 


“ผู้หญิงคนนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของราชสกุลมูฮาลาฟ ผมขอคืน

 


สิ้นสุดน้ำคำงานวิวาห์ก็สิ้นสุด บุรุษหน้าตาคมคายช้อนร่างไร้สติของหญิงสาวเข้าสู่อ้อมแขน แล้วพาเดินฝ่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานนับร้อยชีวิต โดยไม่มีใครหรือผู้ใดกล้าขัดขวาง เพราะต่างก็หวั่นเกรงอาวุธสีดำสนิทที่อยู่ในมือชายชุดดำนับสิบ ที่เดินประกบคุ้มภัยให้ผู้เป็นนายทางเบื้องหลัง

 






Free TextEditor


Create Date : 06 เมษายน 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 12:13:48 น. 0 comments
Counter : 205 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

z-simlee
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ห้อง..."ทิตภากร & พาสเวิร์ด"
คำเตือน... ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อกเป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
Cute Cursors from Dollielove.com
[Add z-simlee's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com