Virtual Water Trade

รบกวนอธิบายเกี่ยวกับ Virtual water trade ได้มั้ยคะ แล้วคิดว่า
Virtual water trade กับ water footprint จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยในอนาคตอย่างไรบ้างคะ ขอบคุณค่ะ



virtual water trade เกิดจากการ import/export สินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งการกระทำนี้ สามารถมองในมุมของทรัพยากรน้ำ และ วิเคราะห์ได้ว่าการ import/export นั้นก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทรัพยากรธรรมชาติหรือไม่ในมุมมองของทรัพยากรโลก


ยกตัวอย่างเช่น


1. ไทยส่งออกข้าวให้กับอินโดนีเซีย 100 ตัน/ปี โดยที่ไทยใช้น้ำในการผลิตข้าว 1 ตัน 5,455 ลบ.ม. ขณะที่ถ้าอินโดนีเซียผลิตเอง จะใช้น้ำ 3,103 ลบ.ม./ตัน เมื่อคำนวณ virtual water trade ก็จะได้ว่า เกิดการ “ขาดทุน” (Global water loss) เป็นจำนวน 100*(3,103-5,455) = -235,200 ลบ.ม./ปี เนื่องจากข้าวที่อินโดฯนำเข้านั้น หากผลิตเองใช้น้ำน้อยกว่านั่นเอง


2. USA ส่งออกข้าวให้กับเม็กซิโก 100 ตัน/ปี โดยที่ USA ใช้น้ำในการผลิตข้าว 1 ตัน 1,275 ลบ.ม. ขณะที่ถ้าเม็กซิโกผลิตเอง จะใช้น้ำ 2,182 ลบ.ม./ตัน


เมื่อคำนวณ virtual water trade ก็จะได้ว่า เกิดการ “ประหยัด” (Global water saving) เป็นจำนวน 100*(2,182-1,275) = 90,700 ลบ.ม./ปี เนื่องจากข้าวที่เม็กซิโกนำเข้านั้น หากผลิตเองใช้น้ำมากกว่านั่นเอง



ผลกระทบเนื่องจาก virtual water trade และ water footprint ต่อประเทศไทยในขณะนี้และในอนาคตอันใกล้ คงยังไม่มีผลอย่างมากเท่าใด แต่ภาคส่งออกสินค้าเกษตร ควรศึกษาเกี่ยวกับ water footprint และการใช้ทรัพยากรน้ำในการผลิต เนื่องจากสินค้าของเรา โดยเฉพาะข้าว มีคุณภาพสูงก็จริง แต่ว่าก็มีการใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองมากกว่าประเทศผู้ผลิตอื่นๆ ซึ่งหากประเทศคู่ค้าใส่ใจจะเลือกซื้อจากผู้ส่งออกที่มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเรา ก็จะทำให้ไทยเสียรายได้จากจุดนี้ค่ะ







Free TextEditor



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 19:13:42 น.
Counter : 782 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pHaiyLueNa
Location :
Lüneburg  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



New Comments