หลวงพระบาง ที่รัก 1

ตั้งแต่เริ่มสร้างบล็อค กลุ่มท่องเที่ยวต่างแดน ยังไม่เคยมาใส่ข้อมูลใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากมีเรื่องท่องเที่ยวไทยไว้ก่อนแล้วก็มีอันต้องคอเดี้ยง (หมอบอกโรค คอมอักเสบ ฮ่า) วันนี้น่าจะเริ่มได้บ้าง ค่อยๆเอาละกัน อย่าหักโหม ฮา

เรื่องไปหลวงพระบางนี่ ใฝ่ฝันมานานแล้ว ตั้งแต่เห็นภาพ อ่านจากหนังสือ เสียงร่ำลือที่ใครๆ เค้าไปมาแล้วเอามาเล่า มันดูเหมือนน่าจะไปง่ายๆ แต่ก็ยากนา

มีโอกาส ก็พยักหน้ากับเพื่อนๆกลุ่มเที่ยวแล้วตกลงไปกันทั้งหมด 17 คน อายุเฉลี่ย คราวนี้น่าจะมากจริงๆๆ สักราว ๆ 56-57 ปี

บ้านอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพฯกะเชียงใหม่ เลยขึ้นรถไฟไป เชียงใหม่ แล้วไปนอน พัก 1 คืนสายๆก็ไปสนามบินเชียงใหม่ แล้วออกเดินทาง โดยสายการบินลาว น่ารัก ระคน น่าตื่นเต้น ไม่เคยขึ้นเครื่องแบบนี้มาก่อน




อ้อลืมบอกว่า ไปกันมาตั้งแต่เดือน ตุลา ปี 48 แล้วค่ะ เรื่องไม่ค่อยสดเหมือนคนอื่น แต่อยากเล่าไว้ให้ตัวเองฟังค่ะ

ขึ้นเครื่องแล้วแอบสวดมนต์เล็ก ๆ พนักงานสวย ดูกล่องอาหารว่าง สิยังน่ารักเลย จำปาลาว หรือลั่นทม ที่บ้านเราเก่าก่อน เรียกกันมา ปัจจุบันพากันเรียก ลีลาวดี



แอบถ่ายมุมสูง



เดินทางถึงท่าอากาศยาน ภายในเวลาประมาณ 1ชั่วโมงกว่า เท่าๆไป ภูเก็ต




ตรวจคนเข้าเมือง ก็เป็นเรื่องเรียบง่าย
เริ่มเทียบเคียงภาษา ของเรา กับของลาว


พาเราไปกินอาหารมื้ออะไรไม่รู้ ตอนเรารอขึ้นเครื่องที่เชียงใหม่ก็กิน เพราะมันเที่ยงแล้ว พอขึ้นเครื่อง ก็มีอาหารว่าง กว่าจะถึงหลวงพระบาง เข้าร้านอาหาร ( ตามรายการทัวร์ น่ะจ้ะ) ก็บ่ายแก่ ๆ อาหารใช้ได้ ลาบก็มีกลิ่นอายคล้ายๆลาบเมืองเชียงใหม่น่ะแหละ

อ้าวลืมโชว์ภาพ ยานพาหนะ ของเรา ที่ มีหลายคนจะขึ้นรถผิด ข้าง 5555 เพราะว่าเขาขับด้านซ้าย เราก็ต้องขึ้นรถด้านขวา พรรคพวกวิ่งขึ้นด้านซ้ายกันเป็นประจำ มีฮา


หลังอาหารเราแลกเงินกันง่าย ๆ ที่ร้านอาหารนั่นแหละ คิดว่าไม่ซื้ออะไรมาก จะเอาไว้ ใส่บาตรพระ วันสุดท้ายของรายการ
แล้วเราเดินทางไปชม วัดวิชุนราช ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัย ค.ศ. 1503-1504
ไกด์ลาว ชื่อ อนุกร อินทิราวงศ์ ท่าทางใจเย็น อารมณ์ดี คงเซ็งหน่อยๆ ที่ต้องมาเจอ ครูแก่ๆ ช่างไซ้ อยากรู้ไปแทบทุกเรื่อง ตอบคำถาม แทบไม่ทัน

วัดนี้มีพระธาตุ เจดีย์องค์ใหญ่ เรียก พระธาตุหมากโม
วัดนี้เดิมเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง




จากนั้นเดินทางไปวัดเชียงทอง วัดคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง โปรดให้สร้างโดย พระเจ้าไชษเชษฐาธิราช ต่อมาก็ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้าชีวิตลาว ต่อๆมา
หน้าวัดมีถนนหัวโค้ง ริมแม่น้ำ ซึ่งมีแม่น้ำคาน มาบรรจบกับแม่น้ำโขง ดูยิ่งใหญ่มาก เมื่อยืนอยู่ที่บันไดขึ้นลง บริเวณวัด
เราอยู่ที่นี่กันนาน เพื่อดื่มด่ำกับ ความงาม ทั้งภายใน และบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะผนังสิม (โบสถ์) ทั้งภายใน และนอกสวย จริงๆ








เย็นลงเรารีบเร่งไปขึ้นยอดพระธาตุ ภูสี
เพื่อชมพระอาทิตย์ตก และชมวิว เมืองหลวงพระบาง

( เล่าแล้วก็ขำ ว่า ไม่เข้าใจมนุษย์ว่า ไปไหนๆ ก็ต้องไปดู พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก)
โอ้โฮ โหด มัน ฮา จริงๆ ร่ำๆ จะแวะนั่งกลางทางซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่มี คนไฮเปอร์ไปด้วย คราวนี้น่ะ และเข็นกันขึ้นไป จนถึงจุดมุ่งหมาย

ดูรูปซิ




พอลงจากยอด ภูสี ก็ได้เวลา ตลาดมืด ของหลวงพระบางพอดี แต่เรา เดินๆดู ก็เหมือนๆบ้านเรางานผ้า งานฝีมือเยอะ มาก นึกสงสาร แม่ค้าอ้อนวอนว่าช่วยเปิดซิงหน่อย (อีนี้เราพูดเอง) เลยซื้อผ้าปักสวยๆ ผืนใหญ่มา เมื่อลูกสาวกลับมาเมืองไทย เลยยกให้ไป เผื่อมีโอกาสใช้ที่เมืองนอก



เข้าที่พักเกือบ 2 ทุ่ม โรงแรม RAMA
แหมๆๆๆๆ ให้มันได้งี้ซิ ไม่มีลิฟท์ หรอกค่า ทำเป็นโรงแรม แถบยุโรปเล๊ย เดินลากกระเป๋ากันซะ ฮึ่ม
เอาละ มีแอร์ เป็นใช้ได้ ฮ่ะ ทีวี ช่องต่างๆในบ้านเราดูได้ สบายเลย ของเขา 4 ทุ่ม ก็ปิดแล้ว
พักยก นะคะ

Create Date : 12 พฤษภาคม 2549 Last Update : 12 พฤษภาคม 2549 16:21:17 น. Counter : 628 Pageviews.		2 comments
Share Tweet