|
ชีวิตนักเรียนไทยใน Wellington ตอนที่ 8
ในช่วงหน้าหนาว อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วว่า เวลลิงตันหนาวสุดๆ แม้ไม่หนาวเท่าเกาะใต้ แต่ลมที่เวลลิงตันที่พัดกระหน่ำ จนได้รับฉายาว่า windy wellington ก็เพิ่มความหนาวเหน็บให้แทรกเข้าไปในทุกขุมขน
เด็กไทยส่วนใหญ่ ขนเสื้อผ้ากันหนาวไปจากเมืองไทยกระเป๋าเบ้อเริ่ม ... และส่วนมากก็แทบใช้กันหนาวไม่ได้ เสื้อผ้าที่เมืองไทย เอาไว้กันความหนาวแบบเมืองไทย ... เจอความหนาวที่นิวซีแลนด์ ... เอาไม่อยู่
เนื้อผ้าเสื้อกันหนาวจากเมืองไทย ความแน่นของเส้นใย ... ไม่แน่นมาก ... เพราะทำเอาไว้ระบายลม
สังเกตุนักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวนิวซีแลนด์หน้าหนาว ... ใส่เสื้อผ้าซ้อนกันหนาอย่างกับเอสกิโม ... เวลาเดิน แขนขากางพอๆ กับหุ่นยนต์ ... ที่หุบแขนไม่ลง ... เพราะเสื้อผ้าหนามาก ... จนมันค้ำรักแร้เอาไว้ ...
คนนิวซีแลนด์ ใส่เสื้อกันหนาวบางๆ ตัวเดียว ... กันหนาวได้ชะงัด ...
อย่างเสื้อกันหนาวที่นิยมในนิวซีแลนด์ ยี่ห้อ Kathmandu - กาฏมัณฏุ ตัวข้างล่างนี้
เสื้อกันหนาว ยี่ห้อ Kathmandu
ผมไม่ทราบว่า มันทอเนื้อผ้าแน่นมาก หรือมันใส่เตาไฟฟ้า ถุงน้ำร้อน ผ้าห่มนวม หรืออะไรก็ตามแต่ไว้ข้างใน ... รู้แต่ว่า อุ่นดีมาก ... ตัวเดียวอยู่เลย
ฝรั่งมันเอาไว้ใส่เดินป่า ปีนเขา ที่เรียกว่า tracking
เด็กไทยขนเสื้อกันหนาวไปจากเมืองไทย ... ไปเจอเจ้าเสื้อ Kathmandu ... ลืมของที่ขนมาจากเมืองไทยทันที
อีกอย่างหนึ่งที่เห็นคือ ... เด็กไทยเวลาไป นิยมแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น ...
น้องผู้หญิงคนหนึ่งไปเรียนภาษาที่เวลลิงตัน ... ตอนแรกนึกว่ามาจากเกาหลี ... ใส่เสื้อหนังพลาสติค ทรงนักดับเพลิง ... สีเหลืองสด ... กระโปรงสั้น ถุงเท้ายาวย่นๆ ยาวถึงเข่า
เด็กไทยยังงง ... ฝรั่งยิ่งงงใหญ่ ... มันนึกว่ามาเล่นละครสัตว์ หรือมาถ่ายมิวสิควีดิโอ
เสื้อผ้าบางอย่างอยู่เมืองไทยราคาแพง ... แต่ไปถึงนั่น ไม่มีใครรู้จัก
เสื้อผ้าที่นิวซีแลนด์บางยี่ห้อแสนแพง แต่อยู่เมืองไทยก็ไม่มีใครรู้จักเหมือนกัน
เช่น Kathmandu, Canterbury
นักเรียนไทยอยู่ไป อยู่ไป ... หันไปซื้อเสื้อผ้าที่เป็นแฟชั่นของที่นิวซีแลนด์ใส่กัน ... ของที่ขนไปจากเมืองไทย เก็บอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ใส่ในตู้เก็บของของโฮมสเตย์
อีกอย่างหนึ่งที่นักเรียนไทย โดยเฉพาะผู้ชายเจอกันมาก คือ ต้องทาครีมในหน้าหนาว ไม่งั้นปากแตก ผิวลอกเป็นขุยๆ
... เฮ้ย ... เอ็งกำลังจะลอกคราบเหรอ ... เพื่อนๆ เห็นหน้าตาหนุ่มน้อยจาก กทม. แห้ง แตก เป็นขุย ลอกเป็นแผ่นๆ เพราะอากาศหนาว
อากาศมันหนาว ... ข้าไม่รู้จะทำไง ... ปากก็แตกจนแสบไปหมดแล้ว ... มันอธิบายพลางปลิ้นริมฝีปากให้เพื่อนดู
อื้อฮือ ... เพื่อนๆ คราง ... ยังกะขาดน้ำมาเป็นชาติเชียวนะเอ็ง ...
ทาครีม ... ทาลิปมัน ... เพื่อนแนะนำ
เกิดมาไม่เคย ... ยิ่งทาครีมหน้าเหนียวเหนอะหนะ ... นอนไม่ได้เลย ... มันคราง
.. ไม่ได้ ... ต้องทา ... ไม่งั้นเป็นหนักกว่านี้ ... เพื่อนรุมขู่
โดนขู่มากๆ ต้องไปซื้อครีมกับลิปมันมาจากร้าน Farmers ที่ Queensgate ใน Lower Hutt
ห้างควีนส์เกต (Queensgate) ใน Lower Hutt, Wellington
คืนแรกของการทาครีม ... นอนไม่หลับ ... หน้าเลอะ เหนียวหนึบเหมือนทากาว ... แก้มไปโดนหมอน โดนที่นอนทีไร เป็นต้องสะดุ้งตื่นทุกที ...
ตื่นทั้งคืน ... เดินงุ่นง่านจนปวดฉี่ เข้าห้องน้ำอีกตลอดคืน ...
โฮมสเตย์นึกว่าท้องเสีย ... ไปหายากับผงเกลือแร่มาให้ทาน ...
พยายามอธิบาย แต่ภาษาอังกฤษไม่แข็ง ... เลยต้องกินยาแก้ท้องเสีย กับผงเกลือแร่ ... เพราะทนโฮมสเตย์เซ้าซี้ไม่ได้ ... ซวยจริงๆ ... ไอ้ครีมเฮงซวยนี่ มีผลข้างเคียงอย่างนี้เอง ...
วันรุ่งขึ้นทาลิปมันไปโรงเรียน ... เพื่อนๆ มองกันจนเหลียวหลัง ... ชักสงสัย จนต้องเดินไปหาเด็กไทยด้วยกัน
... เอ็งเป็นอะไร ... เพื่อนทัก ... ทาปากสีชมพูเชียวนะ ...
เฮ้ย ... มันร้องตกใจ ... ลิปมัน ... ไม่มีสีไม่ใช่เหรอ
ใครบอกเอ็งว่าลิปมัน ... นี่มันลิปสติกสีชมพูเลยล่ะ ...
หนอยซื้อผิด ... ยายคนขายก็ไม่บอก ... อุตส่าห์อธิบายตอนไปซื้อจนเมื่อยมือ ... ได้สีชมพูมาซะเลย
มิน่า ... ขึ้นรถไฟมาจาก Lower Hutt คนมองทั้งขบวน ... แถมไปซื้อของที่ร้านแดรี่ (Dairy) หน้าปากซอย แขกอินเดียเจ้าของร้าน มันมองไม่วางตาเลย
ถั่วมันๆ จ้า ... ถั่วมันๆ ... เพื่อนๆ หัวเราะกันครืน
มหาวิทยาลัย Victoria อีกมุมหนึ่ง
พักเรื่องนักเรียนไทยกันสักนิด อย่าว่าผมยกย่องชมเชยฝรั่งเลยนะ ... มารู้จักอาจารย์ชาวกีวีของผมกันหน่อยดีกว่า ... เขามีวิถีชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อย
ในช่วงก่อนเปิดเรียนปริญญาโท ศาสตราจารย์ ราล์ฟ เพ๊ทแมน (Prof. Ralph Pettman) หัวหน้าภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยวิคตอเรีย เชิญนักศึกษาทั้ง 16 คน ไปทานอาหารเย็นที่บ้านของเขา
Pettman เล่าให้ผมฟังว่า เขาจบปริญญาเอกจากอังกฤษ แต่งงานครั้งแรกกับภรรยาชาวออสเตรเลีย ก่อนที่จะหย่า แล้วไปเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยที่ประเทศญี่ปุ่น จนได้เจอภรรยาคนที่สอง ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียวนี่เอง
Pettman เป็นตัวอย่างผู้ที่ถ่อมตน ... ที่ผมรับเอามาเป็นแบบอย่างหลายอย่างด้วยกัน
ประการแรกคือ การไม่โอ้อวด ทะนงตัว ทั้งๆที่เขาเรียนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ ได้เกียรตินิยม เป็นศาสตาจารย์ สอนมาทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เขียนตำราหลายเล่ม
... เป็นตำราที่ผมซื้อเก็บกลับมาเมืองไทยทุกเล่ม
ไม่อาจปฏิเสธว่า เขาเป็นผู้รอบรู้ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชนิดหาตัวจับยากคนหนึ่งของโลกก็ว่าได้
แต่เชื่อหรือไม่ครับ .... Pettman พูดอยู่เสมอว่า ... ผมไม่ใช่คนที่รอบรู้ด้านรัฐศาสตร์ หรือเก่งกาจด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ... เพียงแต่ผมเป็นผู้ที่มีความสนใจด้านนี้เป็นพิเศษเท่านั้น
ฟังคำพูดถ่อมตัวของเขาแล้ว ... น่าชื่นชม ... เพราะไม่ได้พูดแบบเสแสร้ง ... พูดแบบให้คนอื่นต้องชื่นชมตัวเขาเอง ...
เป็นการพูด ที่แสดงออกถึงความสนใจ ความสามารถ และความภาคภูมิใจในตัวเอง ... แต่ก็ไม่ยกตนข่มผู้อื่น
... วันงานเลี้ยงที่บ้านของเขา ...
Pettman เดินถือถาดใส่ Chip พร้อมครีม Dip ใส่จานเดินบริการลูกศิษย์ทีละคน ทีละคน ... คุยไปด้วย เสริฟไปด้วย ...ไม่ถือตัว
... แต่ก็มีความไว้ตัวในความเป็นอาจารย์ ผสมผสานอยู่ในบุคคลิกที่ลงตัวอย่างน่าทึ่ง
อีกประการหนึ่งที่ผมชื่นชมเขา ก็คือ ... ความใฝ่รู้
Pettman จะเรียนรู้ทุกอย่าง ที่ผ่านเข้ามา จะมาก จะน้อย แล้วแต่โอกาส
เขาไปเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์อยู่ที่ญี่ปุ่นหลายปี ... ระหว่างนี้ก็ไปเรียนศิลปะต่อสู้ป้องกันตัว "ไอกิโด้" ของญี่ปุ่นไปด้วย
เรียนจนได้สายดำ ... ที่น่าทึงคือ กลับมานิวซีแลนด์ เขากลายเป็นอาจารย์สอนไอคิโด้ให้กับเด็กกีวี
เป็นทั้งปราชญ์ทางวิชาการ และเป็นทั้งโปรทางการกีฬา ..
ประโยคที่เขาพูดกับผมอยู่เสมอว่า คือ ... ความพยายามอย่างเดียว ... อาจไร้ค่า ... เพราะความพยายามต้องมีควบคู่กับสติปัญญา
ลืมบอกไป เขาเป็นพุทธ นิกายชินโตครับ
สติมี ... ปัญญาเกิด ... เหมือนหลักธรรมบ้านเราเปี๊ยบ
Create Date : 27 ตุลาคม 2551 | | |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 13:54:26 น. |
Counter : 5094 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|