# # # คุณภาพความคิดสามารถลิขิตชะตาชีวิต # # #


บล็อกนี้ก็เป็นอีกหัวข้อที่ดร.บุญชัย โกศลธนากุล ทำสรุปไว้ที่เว็บของอาจารย์ค่ะ
แต่ไมแน่ใจว่าได้เคยฟังที่อาจารย์จัดรายวิทยุสด ๆ หรือเปล่า
สำหรับผู้เขียนชอบหัวข้อบล็อกนี้มากค่ะ
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้เขียนเป็นไทป์ 5 ที่เป็นนักคิด นักวิเคราะห์
ที่ชอบหมกหมุ่นกับความคิด ชอบจินตนาการจนถึงฟุ้งซ่านก็บ่อยค่ะ
พอได้อ่านเรื่องนี้ จึงชอบค่ะ เพราะได้ฝึกควบคุมความคิดตัวเองค่ะ
ยังไงลองอ่านกันดูนะคะ....ถ้าชอบ....ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ทำรายการวิทยุดี ๆ ให้ผู้ฟังทุกคนค่ะ

ลามูเต้








คุณภาพความคิดสามารถลิขิตชะตาชีวิต

บทความที่นำเสนอจากหนังสือเรื่อง As a Man Thinketh โดย James Allen ผู้แต่งได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากการศึกษาพุทธศาสนามานานเป็นเวลาหลายสิบปี หนังสือเล่มนี้ผู้แต่งได้รวบรวมแง่คิดต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างแรงดลบันดาลใจ และยกระดับคุณภาพจิตใจให้สูงขึ้น มีคุณธรรมและมีระเบียบวินัยมากขึ้น

ข้อคิดดังกล่าวมีใจความสำคัญ ดังต่อไปนี้

1. มนุษย์สามารถ "เลือก" ที่จะคิดในสิ่งที่ดีได้

ความคิดสามารถกำหนดชะตาชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้ ดั่งคำพูดที่ว่า "คุณคิดอย่างไร คุณก็เป็นคนเช่นนั้น (You are what you think)" ดังนั้น หากเราต้องการมีชีวิตที่ดีเจริญก้าวหน้า เราต้องตั้งใจควบคุมความคิด โดยการเลือกคิดแต่สิ่งที่ดี ถ้ามีความคิดที่ไม่ดีผุดขึ้นมาในจิตใจ ให้รีบดับความคิดนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่จิตใจสับสนว้าวุ่น หยุดความคิดไม่ได้ เราควรสงบจิตสงบใจก่อนโดยการกำหนดลมหายใจ (อานาปานสติ) แล้วจึ่งค่อยเลือกคิดในสิ่งที่ดีต่อไป

2. ความคิดและการกระทำที่ดี ไม่เคยก่อให้เกิดผลเสียต่อเราเลย ในทางกลับกันความคิดและการกระทำที่ไม่ดีก็ไม่เคยส่งผลดีต่อเราเลย เช่นเดียวกัน

ความคิดที่ดีและการกระทำที่ดี ในที่นี้คือ การไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ส่วนความคิดและการกระทำที่ไม่ดีได้แก่ การทุศีล การสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น การคดโกงเอาเปรียบผู้อื่น การโกงบริษัท และการโกงชาติ เป็นต้น

3. มนุษย์จะมีความสุขได้จะต้องเข้าใจกฎธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น

1) ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

2) เราไม่สามารถควบคุมโลกให้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการได้

อย่างไรก็ตาม หากเราอยากให้สถานการณ์เปลี่ยน เราต้องรู้จักสร้างเหตุและปัจจัยใหม่ เพื่อทำให้สิ่งที่เราปรารถนาประสบผลสำเร็จตามที่เราวาดหวังไว้ เช่น ถ้าเราอยากร่ำรวย เราต้องรู้จักประหยัดอดออม ไม่เล่นการพนัน และรู้จักเลือกประกอบอาชีพหรือหาลู่ทางที่สามารถสร้างเงินทองได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมความดี ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นต้น

3) โลกทั้งหลายทั้งปวงเป็นเพียงโลกสมมติ

เราไม่ควรยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตมากจนเกินไป แต่เราก็ไม่ปฏิเสธโลกสมมติเหล่านั้น ฉะนั้น การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องคือ ทำทุกอย่างให้อยู่ในทางสายกลาง ทำทุกอย่างตามหน้าที่ตามที่โลกสมมติได้กำหนดไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงทำได้ โดยที่จิตใจของเราจะต้องไม่กระเพื่อม

4. ชีวิตจะมีพลังและเป็นแก่นสารสาระได้ ถ้าเรายึดมั่นในคุณธรรม ความถูกต้อง และความเที่ยงธรรม

ความถูกต้องและเที่ยงธรรมในที่นี้คือ การไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และการให้ความยุติธรรมแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เช่น การปูนบำเหน็จให้ลูกน้องตามความสามารถที่แท้จริง เป็นต้น นอกจากนั้น การยึดมั่นในคุณธรรมในที่นี้ รวมถึงการรู้จักหันกลับมามองตัวเองว่า ตัวเราเองเป็นคนดีมีคุณธรรมควรค่าแก่การเคารพนับถือหรือไม่ มากกว่าการพยายามจับผิดผู้อื่นว่ามีคุณธรรมเพียงพอแล้วหรือยัง

5. จิตสามารถสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง

ถึงแม้ว่าจิตจะเป็นตัวกำหนดให้เรามีบุคลิกลักษณะ และนิสัยที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์และการปรุงแต่งของจิตนั้น ๆ แต่จิตนั้นเองก็สามารถเป็นตัวสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดขึ้นตามที่ใจเราต้องการได้ ฉะนั้น หากเราอยากเป็นคนดีและมีความสุข เราก็สามารถกำหนดเองได้ด้วยจิตของเรานั่นเอง เช่น จิตเมื่อประสพกับสิ่งที่ไม่พอใจก็เกิดการปรุงแต่งเป็นอารมณ์โกรธ ทำให้เรามีกิริยาเกรี้ยวกราดและโหดร้าย แต่หากจิตมีความเมตตาและอยากให้อภัย กิริยาอันดุร้ายและอารมณ์อันรุนแรงก็สามารถสลายอารมณ์โกรธนั้นไปได้ เป็นต้น

6. เราเป็นคนเช่นไรสวรรค์ก็จะประธานสิ่งที่ตรงกับคุณภาพจิตของเรามาให้ มากกว่าจะประธานในสิ่งที่เราปรารถนา (We do not attract what we want, but attract what we are)

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย สิ่งที่เราได้รับก็จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีคุณค่าอะไร ถ้าเราเป็นคนที่หงุดหงิดและขุ่นเคืองผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เราประสบก็มักจะเป็นสิ่งที่ขัดหูขัดตาอยู่ร่ำไป ถ้าเราเป็นคนที่ละโมบโลภมาก เราจะรู้สึกขาดแคลนและอิจฉาริษยาผู้อื่นอยู่ตลอดเวลาหาความสุขมิได้ หรือถ้าเราเป็นคนที่เบื่อหน่ายชีวิต สิ่งรอบข้างที่เราประสบก็มักจะเป็นสิ่งที่ซ้ำซากและจำเจ ฉะนั้น หากเราประสบความล้มเหลวหรือพลาดหวังในชีวิต จงอย่ากล่าวโทษชะตาฟ้าลิขิต แต่ให้สำรวจมุมมองและการกระทำของตัวเองว่า ที่ผ่านมาเราได้ทำในสิ่งที่เหมาะสม ควรค่าแก่การได้รับในสิ่งที่เราปรารถนาแล้วหรือไม่ และมีจุดไหนบ้างที่เรายังไม่ได้ทำหรือขาดตกบกพร่องไป

7. ความคิดที่ดีมีคุณธรรมเป็นรากฐานของความมีบุญญาบารมี และเป็นที่เคารพรักของผู้อื่น

ถึงแม้ว่าบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยหรือมีการศึกษาสูงจะเป็นที่น่าชื่นชมและน่าเคารพแก่คนทั่วไป แต่หากบุคคลเหล่านั้นขาดคุณธรรมความดี ความร่ำรวยและความรู้ต่าง ๆ ที่สั่งสมมาก็จะกลับกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าได้ภายในเสี้ยววินาที แต่คุณธรรมต่างหากเล่า จะเป็นสิ่งที่คงทนและอยู่คู่กับบุคคลผู้มีคุณธรรมไปตราบนานเท่านาน เป็นที่น่าสรรเสริญ รักใคร่ และศรัทธา แก่บุคคลทั่วไป


8. ลักษณะนิสัยของมนุษย์ไม่ได้ถูกกำหนดจากบุคคลรอบข้างและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น แต่บุคคลรอบข้างและสถานการณ์ดังกล่าว เป็นเพียงปัจจัยเสริมที่ทำให้นิสัยที่แท้จริงของมนุษย์ได้แสดงออกมา (Circumstances do not make a person, they reveal him)

มนุษย์ส่วนใหญ่เมื่อประสบกับความล้มเหลว หรือสิ่งที่ไม่น่าพอใจ มักกล่าวโทษบุคคลรอบข้างและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นว่า เป็นต้นเหตุของสิ่งที่ตนเองกำลังประสบ ผู้แต่งเชื่อว่า การคิดเช่นนี้จะยิ่งเป็นการมอบชะตาชีวิตของตนเองไว้ในอุ้งมือของผู้อื่น เพราะบุคคลรอบข้างและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการจะกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง เราจะต้องหัดเปลี่ยนมุมมองและนิสัยของตัวเองแทนที่จะคอยโทษผู้อื่นอยู่ร่ำไป



Create Date : 06 มีนาคม 2554
Last Update : 6 มีนาคม 2554 0:34:55 น.
Counter : 1569 Pageviews.

1 comments
  
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ที่สมหวังและไม่สมหวัง เพราะผลจากกรรมเก่า มิฉนั้น โลกนี้ย่อมมีแต่คนรวย
โดย: คนจริง IP: 115.87.186.175 วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:7:33:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลามูเต้
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



ไทป์ 5....การง่วนอยู่กับรูปแบบที่คุ้นเคยจนสามารถมองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เคยเห็นมาก่อนได้
All Blog