สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จย่าของพสกนิกรสยาม

ทูลกระหม่อมฯที่เคารพรัก

สมเด็จพระบรมราชชนก ทรงพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช และมีพระนามที่เรียกกันในหมู่พระประยูรญาติว่า “ทูลกระหม่อมแดง” ทรงเป็นพระอนุชาในสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ผู้ทรงอุปการะเลี้ยงดูสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระบรมราชชนนียังทรงพระเยาว์

สมเด็จพระบรมราชชนกทรงเริ่มเรียนแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเสตต์ เมื่อพระชนมายุเกือบ ๒๕ พรรษา จึงมีพระชนมายุสูงกว่านักเรียนไทยอื่นๆหลายปี ทรงวางพระองค์ประหนึ่งผู้ดูแลนักเรียนไทย ไม่ได้ทรงดูแลเฉพาะนักเรียนทุนส่วนพระองค์หากทรงเป็นธุระดูแลนักเรียนทั้งหลายอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนจากกระทรวงต่างๆ หรือนักเรียนทุนส่วนตัวที่ผู้ปกครองได้ฝากฝังไว้แล้ว

ที่ประทับของสมเด็จพระบรมราชชนกเป็นที่ชุมนุมของนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในเมืองใกล้เคียง โปรดให้นักเรียนไทยได้เข้าเฝ้าฯ อย่าใกล้ชิด ทรงต้อนรับอย่างไม่ถือพระองค์แลไม่โปรดพิธีรีตองตามราชประเพณี เวลาเข้าเฝ้าฯ ไม่โปรดให้นักเรียนหมอบกราบ ทรงให้นั่งเก้าอี้ นักเรียนบางคนก็นั่งแต่เพียงครึ่งๆเท่านั้น เมื่อมีผู้กราบบังคมทูลว่า การที่พระองค์ปฏิบัติเช่นนั้นเป็นที่เสื่อมเสียพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนกรับสั่งว่า “ถ้าฉันจะมัวระวังเกียรติ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันละ นั่งเฉยๆก็แล้วกัน เพราะทำอะไรก็อาจเสียพระเกียรติ”

สิ่งหนึ่งที่ทรงเตือนนักเรียนไทยอยู่เสมอ คือให้อยู่อย่างประหยัด ให้เป็นพลเมืองที่ดี ให้นึกถึงการไปรับใช้ประเทศชาติและประชาชน ทรงสอนว่า

“ค่าใช้จ่ายของนักเรียนไทยในอเมริกา คือเงินของประเทศที่ต้องเสียไป ถ้าเอามาใช้เสียในทางที่ไม่จำเป็น ก็เท่ากับตัดโอกาสคนอื่นที่จะได้ใช้สอยบ้าง เพราะเงินของเรามีปริมาณจำกัด เงินที่นักเรียนแต่ละคนนำไปใช้ในอเมริกานั้น ค่าใช้จ่ายวันเดียวพอจะเลี้ยงครอบครัวตาสีตาสาได้ตั้งเดือน การตั้งใจเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ”

นอกจากนี้ยังเคยรับสั่งบ่อยครั้งว่า

“เงินที่ฉันได้ใช้ออกมาเรียน หรือให้พวกเธอออกมาเรียนนี้ไม่ใช่เงินของฉัน แต่เป็นเงินของราษฎร เขาจ้างให้ฉันออกมาเรียน ฉะนั้นเธอต้องตั้งใจเรียนให้ดีให้สำเร็จ เพื่อจะได้กลับไปทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ และขอให้ประหยัดใช้เงินเพื่อฉันจะได้มีเงินช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป”

เรื่องไม่โปรดการฟุ่มเฟือยนั้นเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป มักมีผู้กำชับนักเรียนไทยที่เพิ่งไปถึงใหม่เป็นหนักหนาให้ระมัดระวังการใช้จ่าย อย่าสุรุ่ยสุร่ายเป็นอันขาด เพราะทูลกระหม่อมฯไม่โปรด บางครั้งถึงขนาดที่ว่านักเรียนไทยที่จะเข้าเฝ้าฯ ณ ที่ประทับก็จะผูกเนคไทและสวมเสื้อผ้าชุดเก่าๆสักหน่อยเพื่อให้เป็นที่พอพระราชหฤทัย

อีกเรื่องหนึ่งที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงสั่งสอนนักเรียนอยู่เสมอคือ หลักของการทำงาน ซึ่งสรุปได้ว่า ก่อนอื่นต้องมีความรู้ในสิ่งที่พึงกระทำ (Knowledge) ประการที่สอง ต้องมีไหวพริบในการกระทำ (Intelligence) และประการที่สาม ต้องมีความละเอียดถี่ถ้วน (Thoroughness) เพื่อให้จำง่ายๆให้รวมอักษรหน้าของคำภาษาอังกฤษแค่ละคำเข้าด้วยกัน ก็จะอ่านได้ว่า คิด (KIT) ซึ่งจำง่าย เพราะมีสำเนียงเป็นภาษาไทยเตือนให้ใช้ความคิด

ที่มา : พระมามลายโศกหล้า เหลือสุข
(อัพเดท 12-6-50)

....................................................................

สมเด็จพระราชชนนี สมเด็จผู้ทรงใฝ่ศึกษา

ครั้งที่สมเด็จพระราชชนนียังทรงประทับ ณ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อทรงว่างจากพระราชภารกิจในการถวายอภิบาลพระโอรสธิดาซึ่งยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระบรมราชชนนีเสด็จไปทรงศึกษาที่มหาวิทยาลัยโลซานน์แบบไม่นับหน่วยกิต เสด็จไปทรงฟังบรรยายวิชาที่โปรดเป็นชั่วโมงๆ ทรงสนพระราชหฤทัยวิชาปรัชญาและวรรณคดี ต่อมาทรงศึกษาหลายวิชาเพิ่มขึ้น ค่าลงทะเบียนแบบไม่นับหน่วยกิตแพง จึงทรงลงทะเบียนสมัครเป็นนักศึกษา เพื่อทรงประหยัด ทรงเริ่มศึกษาในมหาวิทยาลัยโลซานน์ก่อน พ.ศ.๒๔๘๕ ก่อนพระธิดาจะทรงเข้าศึกษา ณ มหาวิทยาลัยดังกล่าวเสียอีก

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงอธิบายวิธีการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ขณะนั้นว่า มีการเรียนเป็น ๒ แบบ แบบแรก คือเรียนแบบเก็บหน่วยกิต (credit) ผู้สนใจสมัครเป็นนักศึกษาต้องเสียค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงห้องสมุด ค่าบำรุงสโมสรนักศึกษา เป็นต้น ส่วนอีกประเภทเป็นการเรียนแบบไม่นับหน่วยกิต (audit) ผู้ที่สนใจใฝ่หาความรู้เฉพาะวิชาอาจเลือกเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งก็ได้ ไม่ต้องลงทะเบียนเป็นนักศึกษา แต่ต้องเสียค่าลงทะเบียนชุดวิชานั้นๆ แพงกว่านักศึกษาทั่วไปเกือบเท่าตัว ไม่มีการบังคับให้แต่งเครื่องแบบ และไม่จำกัดอายุ ถือว่านักศึกษาทุกคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว

การเรียนในมหาวิทยาลัยที่สวิสเซอร์แลนด์ ตอนต้นภาคการศึกษา นักศึกษาจะต้องนำสมุดไปให้อาจารย์ผู้สอนลงนามว่าเข้าเรียน และเมื่อปลายภาคก็นำไปให้อาจารย์ลงนามอีกครั้งว่าว่าได้เข้าฟังการบรรยายจนครบหลักสูตร ไม่มีการบังคับว่านักศึกษาต้องสอบไล่เมื่อใด ก็ไปแจ้งกับสำนักเลขานุการเพื่อขอสอบ เมื่อสอบไล่จนครบหลักสูตรแล้วจึงจะได้รับปริญญา ถ้าไม่สอบไล่ก็ไม่ได้รับปริญญา แต่ก็ไม่ถือว่ามีความผิดแต่อย่างใด

สมเด็จพระบรมราชชนนีเสด็จไปทรงฟังการบรรยายวิชาต่างๆ ทรงทำการบ้านส่งพระอาจารย์ แต่ไม่เคยทรงสอบเลย ทรงเรียนด้วยพระราชหฤทัยใฝ่รู้ “เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง”

ที่มา : พระมามลายโศกหล้า เหลือสุข
(อัพเดท 10-6-50)

...............................................................

เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี เสด็จร่วมพิธีข้ามอิเควเตอร์

เมื่อครั้งสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินทางทะเลระหว่างวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยเรือหลวงพระที่นั่งจันทร จากประเทศไทยถึงประเทศสิงคโปร์ เมื่อเรือหลวงจันทรแล่นมาไกล้ถึงประเทศสิงคโปร์ก็จะแล่นผ่านเส้นศูนย์สูตร นายทหารเรือและผู้ตามเสด็จ ได้ทำพิธีข้ามอิเควเตอร์ถวายทอดพระเนตร

พิธีข้ามอิเควเตอร์ เป็นประเพณีของชาวเรือที่ทำกันมาทั่วโลก เมื่อเรือเดินสมุทร ไม่ว่าจะเป็นเรือสินค้า เรือรบ หรือเรือท่องเที่ยว จะแล่นผ่านเส้นศูนย์สูตร ก็จะทำพิธีข้ามอิเควเตอร์เพื่อเคารพพระสมุทร เทพเจ้าแห่งท้องทะเล หากเรือเดินสมุทรนั้นผ่านอิเควเตอร์ครั้งแรก หรือนานๆครั้ง ก็จะทำพิธีนี้ แต่ถ้าผ่านเสมอๆก็เพียงแต่ชะลอความเร็วก็เป็นการแสดงความเคารพพระสมุทรแล้ว ตามประวัติ พวกไวกิ้ง แซกซอน และพวกนอร์มัน ได้ทำพิธีนี้มาแต่สมัยโบราณ และสืบทอดมาในหมู่ชาวเรือจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่เข้าร่วมพิธีหากเป็นนักท่องเที่ยวก็ถือว่าเป็นผู้บรรลุการเดินทางในมหาสมุทร โดยจะได้รับประกาศนียบัตรเป็นที่ระลึกที่ได้เดินทางข้ามอิเควเตอร์ ถ้าเป็นทหารเรือก็ถือว่ามีประสบการณ์ขั้นลายครามทีเดียว

พิธีข้ามอิเควเตอร์มีรายละเอียดโดยสรุปว่า ในคืนก่อนที่เรืจะแล่นผ่านเส้นศูนย์สูตร ปีศาจทะเลตนหนึ่ง (สมมุติให้คนในเรือคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนปีศาจดูน่ากลัว) ไต่ขึ้นมาทางสายสมอเรือ ยืนอยู่ที่หัวเรือ ขอเข้าพบผู้บังคับการเรือหรือนายยามเรือ แล้วแจ้งว่า “พรุ่งนี้ พระสมุทร จะขึ้นมาที่เรือ เพื่อทำพิธีข้ามอิเควเตอร์” ปีศาจทะเลก็สอบถามชื่อเรือ จำนวนลูกเรือ ความประสงค์ของการเดินเรือ เพื่อนำไปแจ้งต่อพระสมุทรก่อนที่จะเสด็จมาทำพิธีให้ แล้วปีศาจทะเลนั้นก็พลันหายไปในความมืด

วันรุ่งขึ้น เมื่อเรือกำลังแล่นผ่านอิเควเตอร์ กัปตันจะจอดเรือทอดสมอทำพิธี พระสมุทรเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พร้อมด้วยบริพารเสด็จขึ้นประทับบนดาดฟ้าเรือ เพื่อทำพิธีข้ามอิเควเตอร์ มีทั้งพระสมุทร พระแม่คงคา ลูกหลวง ปีศาจทะเล อนุศาสนาจารย์ นักเดินเรือ นายยามประจำวัน ผู้พิพากษา ทนายความ ช่างตัดผม แพทย์ หมี และตำรวจ ซึ่งทุกคนแต่งตัวตามจินตนาการในบทบาทนั้นๆ เมื่อประจำที่เรียบร้อยแล้ว ปีศาจทะเลจะนำความไปบอกนายยามเรือให้ไปแจ้งผู้บังคับการเรือเพื่อมาถวายการต้อนรับพระสมุทร ผู้บังคับการเรือซึ่งจัดแถวรออยู่แล้วจึงสั่งให้เป่าแตรเป็นสัญญาณแห่งการต้อนรับและเริ่มพิธีการ เรือบางลำอาจมีการยิงสลุตจุดพลุดังกึกก้องทั่วท้องทะเลด้วย

พระสมุทรจะกล่าวปราศรัยต้อนรับ ทรงยินดีที่ได้เห็นคณะเดินทาง และอวยพรให้เดินทางด้วยความสำราญสุข จากนั้นพวกบริพารก็ให้ความช่วยเหลือลูกเรือตามถนัด เช่นใครเจ็บป่วยก็ให้หมอรักษา ใครมีปัญหาขัดแย้งก็แจ้งตำรวจ มีทนายความแก้ต่างให้ บางคนผมยาวเนื้อตัวสกปรกก็จะได้รับบริการอาบน้ำตัดผมให้หล่อเหลาขึ้น เป็นต้น

พิธีกรรมสิ้นสุดลงด้วยงานเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีปรีดา หากเป็นเรือนำเที่ยวก็จะแจกประกาศนียบัตรการเดินทางข้ามอิเควเตอร์ด้วย

สมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงทราบดีถึงประเพณีนี้จึงโปรดที่จะเข้าร่วมพิธีข้ามอิเควเตอร์ ยังความปลื้มปีติแก่ผู้ร่วมขบวนเรือครั้งนั้นเป็นล้นพ้น ทุกคนในเรือหลวงจันทรรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง ต่างสนุกสนานกับการเข้าร่วมพิธีกรรมนี้ และจดจำระลึกถึงอยู่เสมอ

ที่มา : พระมามลายโศกหล้า เหลือสุข
(อัพเดท 9-6-50)
...............................................................



Create Date : 09 มิถุนายน 2550
Last Update : 12 มิถุนายน 2550 9:02:30 น. 2 comments
Counter : 194 Pageviews.

 
เป็นนักประวัติศาสตร์ และนักภาษาศาสตร์ด้วยหรือนี่?
อย่างนี้ก็มี "ข้อมูล" เขียนงานเยอะ สิ


เว้นแต่ว่า จะไม่เมาตอนเขียน
เพราะประวัติศาสตร์มันจะพลิก...



โดย: ดาริกามณี วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:12:14:54 น.  

 
ดีใจที่ได้อ่านประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน แล้วก็ดีใจได้อ่านcommentของพี่ดาริ

พี่ตี๋สนใจทฤษฎีผสมสีของblogหนูมั้ยค่ะ?


โดย: pangz วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:21:19:28 น.  

tirannor
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




===============================
งานประพันธ์ทุกงานในเวบบล็อกนี้เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของเว็บบล็อกแต่ผู้เดียวเว้นแต่ผลงานที่ได้ระบุไว้โดยเฉพาะแล้วว่าผู้ใดเป็นเจ้าของหรือผู้สร้างสรรค์ ห้ามมิให้ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ ไม่ว่าทางใด หรือประการใดใด โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ทรงลิขสิทธิ์โดยชัดแจ้ง
(ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ให้ความร่วมมือ)===============================
NRCT.NET สารสนเทศการวิจัย
Google
อย่าลืมคอมเมนท์นะคร้าบ

บอก WEB นี้ให้เพื่อน :


คุณต้องการให้บล็อกนี้ลงข้อมูลด้านใดมากที่สุด

วรรณกรรม เรื่องสั้น บทความบันเทิงคดี
บทกลอน กวี ร้อยกรอง
วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ้าน
กฎหมาย
รูปภาพ
แหล่งท่องเที่ยว การเดินทาง
การศึกษา (ในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย)
ประวัติศาสตร์ โบราณคดี
ทิปน่ารู้ภาษาไทย
ธรรมะ ปรัชญา


อันนี้กันลากแถบก็อปปี้จ้ะ อันนี้กันคลิ๊กขวา ไม่ให้เซฟรูป
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tirannor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.