ไปมาแล้ว...นางยวน
ปกติเราจะไปเที่ยวทะเลใกล้ๆกรุงเทพฯ แต่คราวนี้อยากออกไปไกลขึ้น เอ ไม่ใช่สิ จริงๆแล้วไกลมากนะหนิ ที่เราตัดสินใจเลือกนางยวนก็เพราะว่าเพื่อนแนะนำ อีกอย่างการประเดิมทะเลสวยๆ ขอเป็นการเดินทางที่สะดวกนิดส์นึงก็น่าจะดี(คิดเองนะ) เราจองผ่านagency pk 3วัน2คืน 5,000บาท พักที่นางยวนไดฟ์รีสอร์ท โดยเดินทางไป-กลับกับบ.เรือเร็วลมพระยา จ่ายเพิ่มจากค่าpk 700บาท ออกเดินทางคืนวันที่ 21/3/52 ผู้ร่วมเดินทางส่วนใหญ่มีแต่ต่างชาติ มีรถทั้งหมด 3คัน รถออก 3ทุ่มตรงตามกำหนดการเป๊ะเชียะ ขาไปได้รถคันใหญ่นั่งสบาย รถจะหยุดพักเป็นระยะๆ รถหยุดทีไรเราก็ตื่นตามทุกที ประมาณตี 2กว่าๆ รถจะจอดที่ร้านอะไรไม่รู้(ง่วงเลยจำชื่อร้านไม่ได้อ่ะ) ให้ชาวคณะเข้าห้องน้ำ ทานอาหาร(ใครจะหิวเนี่ย) แวะซื้อขนม+ของฝาก พอรถออกจากร้านฝนก็เริ่มตกลงมา ถึงท่าเรือทุ่งมะขามน้อยตอนตี 5 ตามกำหนดการเป๊ะอีกเช่นเคย งัวเงียลงมาจากรถ ไปถ่ายรูปดีกว่า



ที่เห็นไกลๆโน่นน่ะ เรือที่จะพาเราข้ามน้ำข้ามทะเล


ประมาณ 6โมงก็จะเรียกไปรับสติ๊กเกอร์ กับtagมาติดกระเป๋า ไปนางยวนจะได้สติ๊กเกอร์สีเขียว ส่วนสีแดงเบอร์ 8 เป็นสติ๊กเกอร์เบอร์ที่นั่งรถมาจ้ะยังไม่ได้ดึงออก สังเกตุดูแล้ว มีแต่คนไปลงเกาะเต่าทั้งน้าน ดีแฮะ


ขอถ่ายรูปกับป้ายนิดนึงนะ


เค้าจะเรียกขึ้นเรือตอน 7โมง เรือลำใหญ่ดีอ่ะ แต่กันไว้ดีกว่าแก้ กินยาแก้เมาแล้วนอน(เหมือนดื่มวีต้าแล้วนอนยังไงยังงั้น) ตื่นอีกทีก็ถึงเกาะนางยวนแล้ว พี่น้อยผู้ดูแลเกาะมารอรับเราอยู่แล้ว เดินตามแกไปcheck-in ต้อนรับด้วย welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบ ดื่มไปแล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูป อภัยให้ด้วยนะค่ะ


เราจองโซน A ลุ้นอยู่ว่าจะได้ห้อง A5 ที่วิวดีดีรึปล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเล็กน้อย ไม่เป็นไร A7 ก็ได้ค่ะ คล้ายๆสวรรค์ชั้น 7 หยวนๆ


beach bar ระหว่างรอเรือมารับข้ามไปฝั่งเขาใหญ่ค่ะ


ซูมไปซูมไป น้ำท่วมสันทรายตอนเช้าจนถึงประมาณบ่ายๆ แต่เช้าเนี่ยท่วมสูงทีเดียวเชียว มีฝรั่งคนนึงไม่รอนั่งเรือ เดินข้ามไปเองโอ้โห น้ำท่วมถึงเอวเลยแฮะ


ถึงแล้วจ้า ฝั่งที่เราพักเรียกว่าเขาใหญ่


ภายในห้องพักจ้ะ ห้องเล็กๆ แต่ติดนิดนึงตรงที่แสงไฟในห้องมันไม่ค่อยจะสว่างเอาซะเลย หรือว่าเป็นเพราะต้องประหยัดไฟรึป่าวไม่รู้ แอร์เปิดได้ตลอดไม่จำกัดเวลา มีเครื่องเล่นVCDให้ด้วย(อันนี้พอจะรู้มาบ้างแล้วจากการหาข้อมูลในBPเนี่ยแหละ) มองออกมาจากห้องพักเห็นห้อง A5 อยู่ข้างล่างห้องเราเลย เล็งแล้วก็เล็งอีก เอ...น่าจะไม่มีคนเข้าพักนะ





ที่เห็นเป็นดำๆมุมขวาบน คือก้อนหินนะค่ะ เดินออกไปดูนอกบ้านมาเป็นก้อนหินอันใหญ่เลยค่ะ ห้องน้ำมีสายฉีดชำระ แต่ไม่มีชักโครกนะจ้ะ




ได้เวลาไปทานกลางวันแล้ว เดินไปรอเรือดีกว่า มุมนี้ถ่ายจากห้อง A10 น่าจะเป็นห้อง family ห้องขนาดใหญ่มี 2ชั้นด้วย อยู่ริมทะเลเลยล่ะ แต่วันที่เราไปไม่มีคนพัก เห็นช่วงขาวๆของน้ำทะเลรึปล่าว นั่นแหละตรงสันทราย สรุปว่าเล็งไปเล็งมา ท่าทางจะต้องเดินข้ามไปเองซะแล้ว เห็นมีริวิวไว้ว่ามีปลิงทะเล confirmว่ามีจริง แต่มันไม่ได้อยู่ตรงสันทรายที่เราต้องเดินข้ามไปหรอก ใครที่กลัวคงสบายใจได้นิดนึงมั้ง


อาหารกลางวันมื้อแรก เป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ คนมาเข้าคิวรอตักอาหารเยอะมาก ส่วนใหญ่น่าจะเป็นone day trip อ้อ! วันที่เราไปมีนางงามมาถ่ายแบบ(เค้าเรียกอะไรนะ ถ่ายแบบแนะนำตัวใช่ป่ะ)ไปประกวดด้วยนะ แต่เวทีไหนไม่รู้เหมือนกัน


หลังจากอิ่มแล้ว ก็เดินถ่ายรูปซะหน่อย


ต้องถ่ายรูปกับป้ายด้วย


โดดคนเดียวก็ได้ สบายอยู่แล้ว


แมวติดเกาะที่นี่ค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ แล้วก็ขี้อ้อนด้วย เพื่อนเรากลัวแมวมาก ชาตินี้คงหมดสิทธิ์ไปเกาะนางยวนแล้วล่ะ ในภาพเราไม่ได้หยาบคายนะค่ะ เค้าเข้ามาลูบไล้เท้าเราเอง


อันนี้ชอบค่ะ เหมือนเค้ายิ้ม


ถ่ายตอนเย็นน้ำลดแล้วค่ะ กำลังจะเดินไปจุดชมวิวอีกฟากฝั่งนึง


หันมองกลับมา


นับจากจุดนี้ ต้องเดินขึ้นไปอีกไกลเหมือนกัน ไม่เหนื่อยนะ แค่ไปถึงไม่อยากคุยกับใคร ขอพักหายใจก่อน..เอง


นี่แหละจ้ะ อยากบอกว่าของจริงสวยกว่านี้อีก เราถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งอ่ะ มือไม้สั่นเทานิดนึง ขอพักหายใจอีกแป๊บ


ตรงนี้เป็นท่าเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ที่เห็นภูเขาข้างขวา นั่นล่ะเกาะเต่า ใกล้กันมากมาก


ได้เวลาไปทานอาหารเย็นกันแล้ว เป็นเมนูเซ็ท ในภาพยังขาดแกงอีก 1ถ้วย แต่พอแกงมาอาหารอย่างอื่นก็ถ่ายไม่ได้แล้วล่ะสิ มันไม่สมบูรณ์


เช้าวันใหม่ โปรแกรมวันนี้ ไปดำน้ำกัน วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเลย มื้อเช้าก็เป็นบุฟเฟ่ต์ทั่วไป


ไปคราวนี้ลงทุนและเตรียมตัว ซื้อซองกันน้ำไว้ถ่ายใต้น้ำด้วย เชิญรับชมได้เลยค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ภาพไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อย่าว่ากันนะ ดูกันยาวๆไปเลย ไม่ต้องถามว่านั้นคืออะไร เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะจ้ะ

จุดแรกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ น้ำลึกเกินไปไม่ค่อยเห็นปะการังสวยๆ จริงๆแล้วพี่สงกรานต์คนขับเรือ บอกแล้วแหละให้ไปตรงหิน ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ตรงหินมันจะมีอะไรก๊าน เลยได้แบบนี้ไง


















อันนี้ขอบอก ของจริงงามสุดๆ เวลาแสงแดดส่องลงมากระทบกับน้ำเบื้องล่าง ปลาสีฟ้าจะระยิบระยับแวววาว บอกได้คำเดียวว่าคุ้ม


แสงแดดส่องลงมากระทบแล้วก็ได้แบบเนี้ยจ้ะ


ปลาที่นี่เราว่าเยอะมากๆ (ก็มาครั้งแรกที่นี่ที่เดียวเนาะ ยังไงก็ต้องเยอะอยู่แล้ว) แต่ถ่ายรูปไม่ค่อยทัน


ดำน้ำทั้งหมด 3 จุด+1 จุดแรกน้ำลึกไปหน่อยไม่ค่อยเห็นประการังแปลกๆ จุดที่สองคลื่นใต้น้ำแรงมาก ประคองตัวนิ่งๆถ่ายรูปแทบไม่ได้เลย แต่ก็มีปะการังสวยกว่าจุดแรก และจากจุดนี้เองที่ทำให้เราเมาคลื่นจนอวัยวะภายในสั่งการให้เอาอาหารมื้อเช้าออกมาสู่ภายนอก แต่ก็ทำให้ร่างกายสบายขึ้น พี่สงกรานต์เอายาหม่องมาให้ พร้อมบอกว่าจุดนี้น้ำแรง ถ้าใครร่างกายไม่แข็งแรงจะเป็นแบบนี้แหละ จากจุดนี้เลยเกิดคำถามขึ้นมาในใจ เอ..แล้วถ้าเรากินยาแก้เมาเนี่ย มันจะช่วยได้ปะ เริ่มสงสัยว่ายาแก้เมาทำให้เราง่วง หรือปรับร่างกายเราให้สมดุล ใครรู้ช่วยบอกด้วยนะค่ะ จุดที่ 3 เราเลยไม่ลงน้ำ กลัวว่าอาหารกลางวันที่กินลงไปจะออกมาอีก แต่เป็นทีน่าเสียดายเพราะว่าจุดนี้สวยที่สุด ฮือฮื้อฮือ ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้ หลังจากนั้นพี่สงกรานต์ก็พาเราไปอ่าวshark อดใจไม่ไหว เป็นไงเป็นกัน พี่เค้าพาลงไปดูเลยแหละ เราว่าเราเห็นนะ ตัวเล็ก แต่มันเร็วอ่ะ พี่เค้าบอกว่ามันกลัวคน ต้องเงียบๆ พอเข้าไปใกล้มันก็หนีเราแล้ว


นอกจากจะมีแมวติดเกาะแล้ว ที่นี่ยังมีหมาติดเกาะด้วย ที่เราเห็นก็ 3 ตัวนะ แต่พอนึกได้ว่าต้องถ่ายรูป เลยได้เจ้าตัวเนี้ยมา เหมือนแกะมั้ย


อาหารเย็นไม่ได้ถ่ายมา เป็นเมนูเซ็ท ของหวานก็คือกล้วยหอมทอด แต่เราเลาะกินแต่กล้วย เก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ตกมาให้ชม ไม่เห็นใช่มะ ไม่สวยใช่มะ บังคับให้ดูแล้วกัน คนมันอยากถ่ายนิ เมฆเยอะจริงๆ


วันกลับแล้ว เบื้องหลังพี่ซัน ผู้แข็งแรง ไม่รู้วันนึงต้องพายรับส่งกี่ครั้งนะเนี่ย เราประทับใจตรงที่พี่เค้าจะมายืนรอขนกระเป๋าอยู่แถวห้องพักเลยล่ะ


มื้อเช้าไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกละ เป็นบุฟเฟ่ต์จ้ะ ระหว่างรอเรือมารับกลับอย่าปล่อยให้ปากว่าง


หน่วยเสบียง


ต้องกลับแล้ว


ปิดท้ายด้วยภาพพาโนรามา ภาพแรก ถ่ายจากหน้าห้อง A10 ภาพที่สอง จุดชมวิวจ้ะ




จะจบแล้ว แต่ขออีกนิดนึงนะ
ขากลับพี่น้อยจะมาส่งเราขึ้นเรือลมพระยา ซึ่งเรือจะแวะไปส่งคนที่เกาะเต่าก่อน แล้วถึงจะกลับไปที่ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย เรือมาถึงท่าประมาณ 11โมง มีเวลาให้เราได้ทานข้าวเที่ยง ก็ซื้อตรงนั้นแหละ ราคาอยู่ที่ 50 บาทขึ้นไป ขากลับได้รถเล็กนั่งไม่สบายเท่าไหร่ กินยาแก้เมาแล้วนอนไปเลย รถจะแวะที่เพชรบุรี หาอะไรรองท้องเล็กๆน้อยๆ เลยไปคุยกับคนขับขอลงมหาชัย เพื่อจะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา แต่เราคงบอกไม่ถูกเองไม่ครบถ้วนทุกถ้อยคำ เด็กรถมาถามเราว่าลงตรงตลาดกุ้งได้มั้ย มันก็อยู่แถวมหาชัยนั่นแหละ ความที่ไม่อยากเรื่องมากไปกว่านี้ okได้(แต่ในใจมันอยู่ตรงไหนหว่า) สรุปว่า พอลงรถเจอต่างด้าวเพียบเลย นี่ชั้นอยู่ประเทศอะไรกัน ตั้งสติไว้ เรียกแท็กซี่กลับบ้านดีกว่า จริงๆเราต้องการลงมหาชัยเมืองใหม่น่ะ บ้านเราอยู่แถวเซ็นทรัลพระราม 2 แต่จากตลาดกุ้งไปถึงบ้าน ค่าแท็กซี่ 150 กว่าบาท คิดในแง่ดี เราถึงบ้านเร็วขึ้น เรายังปลอดภัย ถือเป็นอีก 1ประสบการณ์ชีวิตที่จะไม่มีวันลืม ได้รู้จักตลาดกุ้งด้วย

จบจริงๆแล้วจ้า ขอบคุณที่เข้ามาชมนะค่ะ



Create Date : 18 เมษายน 2552
Last Update : 15 มกราคม 2556 13:41:53 น.
Counter : 642 Pageviews.

0 comment

กะทิหวาน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Don't judge a book by its cover
  •  Bloggang.com