ไปมาแล้ว...ราชบุรี
หลังจากเริ่มหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ก็มาสะดุดที่นี่ "ราชบุรี"
เพราะจำได้ว่ามีรีสอร์ทอยู่ที่นึงที่เคยอยากไป พอเวลาผ่านก็หลงลืมมันไปซะยังงั้น ครั้งนี้เลยตั้งใจหาข้อมูลเป็นพิเศษ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก แทบทุกอย่างมีอยู่ในโลกออนไลน์นี้อยู่แล้ว
รีสอร์ทแห่งนี้มีชื่อว่า //www.sceneryresort.com ตั้งอยู่ที่อ.สวนผึ้ง (คาดว่าหลายคนคงรู้จักดีอยู่แล้วเนาะ) ที่นี่มีบ้านพักเพียงแค่ 7 หลังเท่านั้น รับรองว่าได้รับความเป็นส่วนตัวสุดๆ
ด้วยเหตุนี้ทำให้การจองที่พัก ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนเลยทีเดียว และเสน่ห์ทีน่ารักของที่นี่อีกอย่างก็น่าจะเป็นเจ้าแกะน้อยใหญ่ที่จะออกมาต้อนรับเรา ทั้งเช้า-เย็น รับรองว่าใครได้ไปเจอะเจอเจ้าแกะต้องหลงรักเข้าจังจัง
ส่วนสนนราคาที่พักก็แพงเอาเรื่อง อยู่ที่ประมาณ 3-5 พันบาท+อาหารเช้า+ซาวน่า+ยิงธนู+ความรู้สึกดี๊ดี

จากการserchหาในเว็บททท. ก็เลยได้สถานที่น่าแวะระหว่างการเดินทางพ่วงมาด้วย แถมยังศึกษาเส้นทางจากในgoogle mapอีกตะหาก
รับรองได้เลยว่า การออกเดินทางครั้งนี้ของเราต้องสนุกแน่นอน

บอกก่อนว่าถ่ายรูปไว้พอสมควร แต่เอามาลงนิดหน่อยก็พอม้าง... เพราะส่วนใหญ่จะติดคนมากกว่าวิว ฮิ้วฮิ้ว

เราออกเดินทาง วันอาทิตย์ที่ 4 ม.ค. 2552

จุดแรกที่เราแวะก็คือ
"วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม(ข้อมูลจากททท.) ตั้งอยู่ที่ต.แพงพวย ถ.บางแพ-ดำเนินสะดวก พระอุโบสถสร้างสมัยอยุธยาตอนปลายและเป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปหยกปางต่างๆ ภายในวัดมีอุทยานการศึกษาและสวนป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพื้นที่กว่า 200ไร่ มีนิทรรศการเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ และมีการสอนปฏิบัติธรรมวิปัสสนา สำหรับชาวไทยและชาวตปท.ทุกวันอาทิตย์"

ภายในวัดร่มรื่น กว้างขวางใหญ่โต เดินทางถึงวัดก็ประมาณ10โมงเช้า เลยไม่ได้เดินดูปราสาท(ไม่รู้จิงจิงว่าเป็นปราสาทอะไรแต่สวยงามมาก) ถ่ายรูปน้อยด้วย เพราะว่าเราต้องทำเวลาในการไปที่อื่นต่อน่ะ

กราบหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อสด(เหมือนมากๆ)


ออกเดินทางกันต่อ.......
จุดที่สองที่เราแวะก็คือ
"อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม (ข้อมูลจากททท.) มีเนื้อที่ประมาณ 45ไร่ ภายในบริเวณมีอาคารจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสบุคคลสำคัญ ลานพระสามสมัย กุฏิสงฆ์ และเรือนไทย 4 ภาค เปิดให้เข้าชมทุกวัน ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 เด็ก 20 ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 เด็ก 100"

ศ.มล.ปิ่น มาลากุล


ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์


ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์


...


คุณสืบ นาคะเสถียร


จริงๆยังมีบุคคลสำคัญอีกหลายท่านนะ ไปต่อดีกว่า ลานพระสามสมัย


ด่านต่อไปคือ ถ้ำชูชก ตอนไปเจอลูกวัวมันตื่นคนหรืออะไรไม่รู้แหละ ดีนะที่เค้าผูกเชือกไว้กับต้นไม้อยู่แล้ว แต่ต้นไม้อยู่ใกล้ปากทางเข้าถ้ำ แต่มันก็กระโดดดึ๋งดั๋งอะไรของมันไปเรื่อยเลย ไม่รู้ใครเอามาไว้ตรงนี้น้อ...
ภายในถ้ำค่อนข้างมืด เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลยแหละ ส่วนภาพสุดท้ายก่อนออกจากถ้ำเป็นชูชกท้องแตกตาย หยองมาก


ออกจากถ้ำ ด่านต่อไปคือ กุฏิสงฆ์ ซึ่งจะมีหุ่นขี้ผึ้งของพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในแต่ละภาค เช่น สมเด็จโต หลวงปู่แหวน เดินต่อไปอีกก็จะเป็น บ้านไทย 4 ภาค เรียกว่าเดินกันคุ้มราคาค่าเข้าชมแหละ
เดิมทีตั้งใจจะแวะเที่ยวอีก1ที่ ก็คือวัดช่องลมในตัวเมืองราชบุรี แต่สารภาพว่า ขับรถหลงทาง หาทางไปวัดไม่เจอ งงมาก ต้องพื่งคนราชบุรีช่วยชี้แนะ สุดท้ายไม่ไปแล้ววัด หาทางไปรีสอร์ทดีกว่า 555


น่าจะเคยเห็นกันแล้วเนาะ รู้สึกจะเคยออกรายการทีวีด้วยนะเนี่ย


โฉมข้างน้องแกะ ไม่รู้ตัวนี้ใช่ทูโทนรึป่าว แต่มันก็มี 2 สีอ่ะเนาะ


อยากจะบอกว่าตอนแรกก็หวั่นๆ เพราะเราไม่คุ้นกับเค้า แล้วเค้าชอบกระโดดด้วย (กลัวโดนโดดถีบ) แต่พออยู่ไปซักพักอยากกระโดดขึ้นขี่กั๊บกั๊บ ต้องเอาฟางแห้ง(มั้ง)ล่อเค้าเข้ามาใกล้ๆ น่ารักมากมาก หลงรักเต็มๆ พอกลับมากรุงเทพฯ เห็นอะไรเป็นแกะไปหมดเลย


ส่วนเจ้าตัวนี้ เค้าเรียกว่ามีสัมมาคารวะ นอบน้อม น่าเอ็นดู


ต้นอะไรไม่รู้ เออเนาะ อยากรู้เหมือนกัน ใครรู้บ้าง


ช่วงที่เราไปตอนกลางวันร้อนมาก 30องศาเลยเชียว แต่พอตกเย็นช่วงที่ออกไปถ่ายรูปน้องแกะ อากาศดีสุดๆ ยิ่งพอเริ่มมืดนะ ถึงกับหนาวทีเดียวเชียว อันนี้ถ่ายรูปหน้าGift Shop รู้สึกจะปรับค่าISOนะ อย่าถามว่าเท่าไหร่จำไม่ได้แล้วอ่ะ


สถานที่คลายหิว บนดาดฟ้าของที่พักจ้ะ โรแมนมากมาก ตอนแรกเราก็เดินไปที่ร้านอาหารนะ แต่สุดท้ายก็สั่งอาหารแล้วให้เค้ามาส่งที่ดาดฟ้าที่พัก

อันนี้ปิ้งเองเล้ย เค้ามีบริการปิ้งให้ด้วยนะ คิดแค่ชุดละ 200 บาทเอง แง๊ว ใครไปแนะนำเลยให้สั่ง ของเราสั่งชุดเนื้อ อืม..จำราคาไม่ได้อีกละ เนื่องจากตัดสินใจอยู่นานว่าจะทำblogดีมั้ย ข้อมูลหลายอย่างเลยลบเลือนไป ถ้าจำไม่ผิด 350บาทป่าวหว่า มี 4 ไม้ เตือนไว้ก่อนอย่ามัวแต่คิดว่า อาไร้ กะอีแค่ 4 ไม้จะสะทกสะเทือนอวัยวะภายในช้าน ขอบอกว่า 4 ไม้โตๆ อื้อหือ อิ่มสุดๆ ต้องสั่งก่อนไปนะจ้ะ เค้าจะเตรียมไว้ให้ อ่อ แต่มีอยู่อย่างนึงที่เราไม่ค่อยประทับใจ คือว่าตอนที่เราไปที่หน้าfrontถามเรื่องบาบีคิวที่สั่งไว้ แล้วเจอผู้หญิงอ้วน(จริงๆเคยได้อ่านเรื่องเค้ามาบ้างแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกันป่าว) เราว่าเค้าพูดจาไม่ค่อยน่าฟังนะ แต่อาจจะเป็นคนแบบนั้นรึป่าว เราไม่แน่ใจ เค้าย้อนถามเราว่าเราพักที่นี่รึป่าว อันนี้ก็ไม่รู้อีกว่าถ้าไม่พักที่นี่ก็สามารถสั่งบาบีคิวได้ใช่มั้ย แล้วจะให้สั่งก่อนเข้าพักทำไม แล้วถ้าเราเป็นลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้าน เราจะมาถามหาบาบีคิวที่frontเหรอ

ด้วยความที่ไม่เจียมอวัยวะภายใน เลยสั่งอาหารอย่างอื่นมาอีก เสียดายของจริงๆ จะยัดก็ไม่ไหวแล้ว



อันนี้ลองเล่นดูอ่ะ ใช้ไฟฉายจะทำเป็นรูปหัวใจซะหน่อย แล้วไมมันไม่เป็นหัวใจให้เลย จำจากหนังปิดเทอมใหญ่ฯมา ใครทำเป็นช่วยบอกทีเน้อ


เช้าแล้วจ้า หลังจากที่พล่ามมานาน ได้เห็นซะที นี่แหละบ้านที่เราพัก หลังนี้ชื่อว่า คาทาดินจ้ะ ตอนเช้าก็อากาศดีสุดสุด 17องศา คิดดูสิ


โฉมหน้าbreakfastจ้ะ เค้าจะให้เลือกตอนcheck-inเลย รู้สึกจะมีพวกข้าวต้มด้วยม้าง(จำไม่ได้อีกละ เฮ้อ) แล้วก็มีพวกขนมปังด้วย เราอิ่มนะ อร่อยด้วย โทรให้เค้าเอามาเสริฟที่ดาดฟ้า แต่รู้สึกว่าน่าจะให้ส่งที่ดาดฟ้ากันแทบทุกหลังเลยมั้ง เราเห็นพนง.ถือถาดอาหารเดินกันให้ว่อนเลย ฮิฮิ ก็แหมมันดีกว่าทานที่ร้านเยอะเลยนี่นา



รูปลำธารด้านหลังรีสอร์ท สังเกตุดีดีจะเห็นเหมือนหมอก(หรือควัน)อยู่เหนือผิวน้ำด้วย อย่างที่บอกว่าอากาศค่อนข้างเย็นทีเดียว ที่ลำธารจะมีซาวน์น่า แล้วก็มีชิงช้า รู้สึกว่าหน้าน้ำจะมีพายเรือคายัค แต่ช่วงที่เราไปก็หน้าน้ำนะ หน้ำน้ำแห้งน่ะ


อันนี้ชอบอ่ะ ที่มาของคำว่า ไอ้ตูดเป็ด


รูปสุดท้ายละ ขอบอกว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะว่าคันธนูมันหนักอ่ะ เค้าให้ผู้เข้าพักเล่นฟรีได้ 30นาที แต่เรายิงแค่ชุดเดียวก็จอดแล้ว


จบแล้วจ้า ขอบคุณที่เข้ามาชมนะค่ะ



Create Date : 18 เมษายน 2552
Last Update : 15 มกราคม 2556 13:40:29 น.
Counter : 1047 Pageviews.

1 comment

กะทิหวาน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Don't judge a book by its cover
  •  Bloggang.com