My life For myself
Group Blog
 
All Blogs
 

อุปกรณ์ชิ้นที่ 1 :: Printer ตอนเลือกแบบไหนดี

จะทำหนังสือทำมือแบบครบวงจร คงต้องมี Printer ครับ ไม่งั้นจะพิมพ์ยังไง

Printer ทุกวันนี้แบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ

1. Dot Matrix ที่ใช้พิมพ์ใบเสร็จแบบมีสำเนาอะครับ

2. InkJet ใช้น้ำหมึก Print นานหน่อย

3. Laser แบบที่เครื่องใหญ่ๆ Print คมๆ เร็วๆ

Print ที่ผมเลือกใช้คือ InkJet ครับ ที่ไม่เอา Laser เพราะต้นทุนต่อหน้าของ Laser แพงกว่าครับ และ Laser ที่พิมพ์สีได้ราคาแพงครับ

จริงหรอที่ต้นทุน Laser แพงกว่า ไหนบอกว่าเติมผงหมึกครั้งละ 500 Print ได้ 3000 กว่าแผ่นไง

คำตอบคือ 3000 ที่เขาบอกนั้นคือ 3000 แผ่นที่มีสีดำอยู่ 5% ของกระดาษ A4 แต่ผมได้ลองคิดดูแล้วโดยการพิมพ์เรื่องให้เต็มหน้า A4 ใช้ Font 14 แล้ววัดว่ามีต้องใช้หมึกดำคิดเป็นประมาณกี่ % ของหน้า A4 ซึ่งคำตอบคือประมาณ 7% (ถ้าอยากรู้ว่าคิดยังไงจะบอกให้ภายหลังนะครับ) ทำให้จากที่ควร Print ได้ 3000 แผ่น ก็ Print ได้เพียง 2142 แผ่นเท่านั้นเองครับ

ตกแล้วคิดเป็นแผ่นละ 0.23 บาทต่อแผ่นสำหรับค่าหมึกนะครับ

แต่ถ้าเป็น Inkjet + หมึกเทียม เอาจากโดยเฉลียนะครับ 1 ตลับดำ Print ได้ 200 แผ่น 1 ตลับ 8 cc หมึกผม cc ละบาท คิดเป็นค่าหมึก 200 แผ่น 8 บาท ตกแผ่นละ 0.04 บาท อืมๆๆ ต่างกันเยอะแฮะ

แต่อย่างไรก็ตามยาดำของ Inkjet คือ มันไม่กันน้ำครับ แต่อย่างไรก็ตามอีกไม่นานหมึก Durabright ที่กันน้ำแบบเป็นมิตรกับเครื่อง Print (Part หลังๆจะบอกว่าทำไมไม่เป็นมิตร) กำลังจะออกมาแล้ว ราคาิคิดว่าน่าจะอยู่ราวๆ cc ละ 1.50 บาท

เรื่องความเร็วนั้น ถ้าคุณต้องการแบบเร็วๆ Inkjet ก็ทำได้เหมือนกันครับ แต่ราคาเครื่อง Inkjet ที่ Print ได้เร็วๆจะพอๆกับเครื่อง Laser เลยครับ เช่น Epson T30 ส่วนถ้าเป็นเครื่องราคาถูกๆ ประมาณ 1500 บาท จะพิมพ์ช้ากว่า Laser 2 ถึง 3 เท่าเลยครับ

เรื่องความทนทานนั้น เป็นอีกเรื่องที่คนใช้ Inkjet บ่นมาตลอด (โดยเฉพาะ Epson) ว่าหัวตันบ่อยมาก ทางออกง่ายๆคือ หาน้ำหมึกดีๆ และเปิดปิดเครื่องวันละครั้ง เพราะทุกครั้งที่เปิดเครื่อง เครื่อง Inkjet จะพ้นน้ำหมึกที่ค้างอยู่ทิ้ง ซึ่งถ้าทำทุกวันก็จะไม่มีน้ำหมึกค้างอยู่ที่หัวพิมพ์เป็นเวลานาน เครื่องจะอยู่นานมากขึ้นครับ




 

Create Date : 29 มกราคม 2553    
Last Update : 29 มกราคม 2553 12:17:11 น.
Counter : 823 Pageviews.  

ความฝันของคนแต่งหนังสืออย่างผม

เรื่องความฝันของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน วันนี้ก็จะขอบ่นละกัน (อีกแล้ว) ว่าเขียนไปทำ

1. อยากให้คนอ่าน
2. ก็เหมือนข้อ 1
3. พอละ...คิดไม่ออกจริงๆ

ผมจำได้นะ ตอนเด็กๆ แต่งเสร็จแอบไปให้เพื่อน เสร็จแล้วถามใหญ่เลยว่า เปงไงวะสนุกไหม เหอๆๆๆ มีความสุขดีนะที่เห็นคนอื่นได้อ่านเรื่องของเราเหอๆๆ จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังมีความสุขอยู่เหมือนกัน เวลาที่คนอื่นได้อ่านเรื่องของผม

อารมณ์มันคล้ายๆกับคุณผู้หญิงที่ชอบทำอาหารเวลาทำอาหารให้คนอื่นทาน ทำเสร็จแล้วก็มันจะถามว่าอร่ิอยไหมๆๆๆ เหอๆๆทำนองนั้น แต่ของผมคงเป็นถามว่าอ่านแล้วสนุกไหมๆๆ

สิ่งที่ผมอยากจะทำมากๆๆๆ เลยนะถ้าผมรวยพอ (อย่างที่บอกแหละ มันเป็นความฝัน) คือพิมพ์เรื่องที่ผมเขียน ไปให้ทุกๆคนได้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ยากไร้ในโรงเรียนไกลๆ ที่ไม่ค่อยได้มีหนังสือ

กลับมาโลกความจริงบ้าง ตอนนี้ผมก็ทำได้แต่พิมพ์ออกมาเพื่อแจกเพื่อนๆ หรืออาจจะขายบ้างมั้ง เก็บเอาต้นทุนบ้างเหอๆๆ ไม่รู้ดิทำไม่เสร็จ ทำเสร็จค่อยคิดกัน จะขายหรือจะแจก หรือจะทั้งขายและแจกดี

================
เล่ามา 2 blog แล้วก็คิดเสียว่าเป็น บทที่ 1 ในการทำโครงงาน ต้องมี Motivation ก่อน และหลักการและเหตุผลเหอๆๆ

ตอนต่อไปจะมาเล่าว่าต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง




 

Create Date : 28 มกราคม 2553    
Last Update : 28 มกราคม 2553 22:54:47 น.
Counter : 485 Pageviews.  

ทำไมอยากทำหนังสือหรอ???

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัวเองก็อ่านนิยายไม่บ่อย

จำได้เลยนะนิยายเรื่องแรกที่ผมแต่งนี้ผมแต่งขึ้นเพื่อประชดเพื่อน 555 แต่ก็ดังกันซะงั้น เพื่อนๆต่อคิวอ่านกันเป็นแถว พอเข้ามามหาลัยผมก็ไม่ได้แต่งอีก

ตอนอยู่มหาลัย ผมเปลี่ยนจากคนแต่งเป็นคน Edit เอง ได้มีโอกาศจัดรูปแบบ สั่ง Print เอง ได้ลองเข้าเล่มเองบ้าง แต่ก็ยังไม่ โปรเท่าไหร่

จนล่าสุดผมก็เหมือนๆหาเรื่องเองแหละครับ ซื้อเครื่อง Print Epson T11 มาใหม่ ตั้งแพงแหนะ 2500 แพงโครต (ตอนนั้นนะ) ก็เลยประกาศปาวๆๆ รับ Print E-Book ใครจะ Print เอามาเลยราคาพิเศษ

จากการรับ Print E-Book ครั้งนั้นทำให้ผมไ้ด้ประสบการณ์มาเยอะ ไหนจะเรื่องกระดาษ เรื่องการเขาเล่ม และทำให้ผมรู้ว่า

1. แผ่นใสขายหน้าร้าน แผ่นละ 5 บาท แต่ผมซื้อ 10 แผ่น 17 บาท

2. ติด Max คิด 5 บาท ตัดขอบคิด 10 บาท เทปกาวคิด 10 บาท แพงไหมหละ

อันนี้ช้ำใจสุดๆ บางงานค่า Print 400 ค่าเข้าเล่ม 100 บาท อืมๆๆ น่าจะเปิดร้านเข้าเล่มดีกว่าแฮะ

3. กระดาษ Green Read ของ SCG เทพสุด ในบรรดากระดาษถ่ายเอกสารแล้ว Print คม กระดาษไม่ติดไม่งอ สุดยอดมาก

4. เครื่องยิง Max ที่สามารถยิง Max ได้ลึก 2.4 CM มีขายตั้งแต่ตัวละ 750 ยัน 4000 กว่า

และอื่นๆอีกมากมาย

กลับเข้าเรื่อง ทำไมอยากทำหนังสือหรอ...เพราะผมรู้สึกสนุกกับการเข้าเล่มครับ ทำเองก็เหนือยนะ แต่พอเสร็จแล้วก็ภูมิใจ แต่จะให้ภูมิใจมากขึ้นมันน่าจะเป็นฝีมือเราไม่ใช้ร้าน เลยคิดอยากจะทำเองละ

นึกไงกลับมาอยากเขียน มีช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่รู้มีใครเคยเป็นไหม อยากบ่น อยากคุย แต่ไม่มีคนคุยด้วย ผมอึดอัดมาก จนสุดท้ายผมก็หาทางออกของตัวเองโดยการนั่งเขียนอะไรไปเรื่อยๆ เขียนไปเขียนมา เลยทำเป็นเรื่องเลยดีกว่า เหอๆๆๆๆนะ

อืมๆๆ เหตุผลเยอะพอไหมเนี้ย เขียนไปเขียนมาเหมือนตัวเองนั่งบ่นอยู่เลย 55555




 

Create Date : 28 มกราคม 2553    
Last Update : 28 มกราคม 2553 22:38:28 น.
Counter : 599 Pageviews.  

1  2  

M|B
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่มีไรบรรยาย เหอๆๆ
Friends' blogs
[Add M|B's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.