| | ชมพู่ อารยา สุดตื่นเต้นเดินพรมแดงเมืองคานส์ มั่นใจทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วไม่สนเสียงวิจารณ์ชุดไม่สวย ลั่นใครไม่ไปยืนตรงนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง ปลื้มสื่อเกาหลีชมเป็น คิมแตฮี เมืองไทย โต้เตรียมอำลาวงการแต่อาจรับงานน้อย ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต ไปเดินพรมแดงงานเทศกาลหนังเมืองคานส์เป็นปีที่ 2 ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของลอรีอัล ประเทศไทย แต่ไม่ค่อยจะเป็นที่ฮือฮาซักเท่าไหร่ เพราะปีนี้ดันไปเดินในช่วงรัฐประหาร ผู้คนก็เลยให้ความสนใจกับข่าวการเมืองมากกว่า เช่นเดียวกับปีที่แล้วที่โดน หญิง รฐา โพธิ์งาม ซึ่งไปร่วมงานในฐานะนักแสดงหนัง Only God Forgives ขโมยซีน เพราะหญิงทำคนไทยประเทศและชาวต่างชาติประทับใจกับการไหว้ที่งดงามบนพรมแดงเมืองคานส์ จนเป็นที่ชื่นชมไปทั่ว อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุขภายใต้การรัฐประหารของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลอรีอัลก็ได้จัดงาน Inside Cannes Beauty by L'OREAL Paris Makeup เผยถึงเบื้องลึกพรมแดงของชมพู่ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจว่าปลื้มสุดๆ เพราะมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมงานระดับมืออาชีพ แต่ไม่วายเจอวิพากษ์วิจารณ์ชุดไม่สวยทั้งที่ติดอันดับ best dress 1 ใน 6 ชุดที่ดีที่สุด จากผลโหวตในวันที่ 8 ของงาน ปีนี้ตื่นเต้นสนุกดีค่ะ เรียกว่าได้ประสบการณ์ดีๆ เยอะ ถึงตอนนี้ก็ยังตื่นเต้นเพราะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดาราที่ดังมากๆ ทางลอริอัลวางเราไว้สองลุกส์ ซึ่งชมก็แฮปปี้ทั้ง 2 ลุกส์นะคะ ซึ่งในการตัดสินใจเลือกชุดแต่ละครั้งมันก็มีหลายๆ ปัจจัยและมีความกดดันเยอะพอสมควร ถามว่าเรียบร้อยเกินไปไหม เรียบร้อยคือยังไงคะ ไม่เซ็กซี่เหรอ ถ้าชมเลือกเซ็กซี่ ฟีดแบ็กก็คงออกมาอีกแบบหนึ่งค่ะ ชมว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์มันมีอยู่แล้ว ทำอะไรมันต้องมีคนติชมว่าเรายึดมั่นกับสิ่งที่เราต้องทำดีกว่า และชมรู้สึกว่า ณ เวลานั้นเราตัดสินใจดีที่สุดแล้ว สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็คงมี แต่ถ้าไม่ไปยืนตรงนั้นเองก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเราเก็บทุกอย่างมาแบกไว้ไม่ได้ ก็พอจะทราบว่าวันแรกมีคนไม่ถูกใจบ้างแต่เราก็ติด best dress นะ ชมคิดว่ามันเป็นเรื่องของมุมมองและทัศนคติค่ะ เราทำอะไรก็นึกถึงแฟนๆ คนไทย แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเราไปอยู่ตรงนั้นทีมงานทุกคนเขา ก็มีมุมมองอีกแบบหนึ่งเป็นมุมมองของเขา ซึ่งเราไปถึงโน่นแล้วเราจะยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ไม่ได้ เราก็ต้องเปิดรับตรงนั้นด้วย ชมให้คุณค่ากับสิ่งนี้เพราะว่ามันคือประสบการณ์และมันคือโอกาสที่เราได้ไปทำงานกับทีมงานระดับโลก ทุกๆ อย่างที่ตัดสินใจมันมีเหตุผลอยู่แล้ว ก็น้อมรับทุกคำวิจารณ์แต่ว่าอย่างที่บอกถ้าไม่ได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น คงไม่มีใครเข้าใจค่ะ เผยสุดปลื้มติดอันดับ best dress ชุดที่ดีที่สุดในวันที่ 8 ของงาน แถมสื่อเกาหลียกย่องให้เป็น คิมแตฮี เมืองไทย ไม่เคยคิดว่าจะติดอันดับค่ะ แต่คิดว่าการได้อันดับ best dress มันค่อนข้างจะมีผล อย่างแรกคือต้องยอมรับว่าเมื่อเทียบกับดาราคนอื่นๆ เราเป็นดาราเบอร์เล็ก เพราะฉะนั้นเรื่องชุดมันค่อนข้างสำคัญเหมือนกัน ชมพยายามทำให้ดีที่สุด เราไม่แน่ใจว่าทุกคนจะรู้จักเราไหม แต่เราต้องดึงความสนใจมาให้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีอะไร ต้องงัดออกมาให้หมด วันแรกที่ไปแล้วได้ยินเขาเรียกชื่อเราความรู้สึกมันต่างกัน ปีแรกที่เราไปเราจะอารมณ์ประมาณ...มองฉันสิ เวลาเราถูกเรียกชื่อแล้วหันไปมองเขา ไปเล่นกับกล้องเขาความรู้สึกมันต่างกัน ชมคิดว่าเขาคงจำเราได้บ้างจากปีก่อน แต่ไม่ใช่สื่อทั่วโลกที่รู้จักชม พอปีนี้เขาจำเราได้มันก็ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกในด้านจิตใจ อย่างกรณีสื่อเกาหลียกให้เป็น คิมแตฮีเมืองไทยก็ขอบคุณมาก เวลาต่างชาติเขาเขียนถึงเราแบบนี้ก็ชื่นใจค่ะ เล่าเหตุการณ์สุดระทึก แหวนเพชรเม็ดเป้งหวิดหายบนเครื่องบิน แต่โชคดีที่ได้คืนอย่างคาดไม่ถึง เรื่องราคาของแหวนเพชรที่ชมเกือบทำหายก็อย่าไปพูดถึงเลย (หัวเราะ) คือตอนที่อยู่บนเครื่องบินเขาจะมีถุงที่ให้ใส่พวกยาสีฟัน แปรงสีฟัน ครีมต่างๆ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าผิวแห้งเลยขอทาครีมหน่อยเดี๋ยวไปถึงคานส์ผิวไม่สวย พอต้องทาครีมชมก็ถอดเพชรเก็บไว้ในกระเป๋า แล้วปรากฏว่าชมต้องไปต่อเครื่องอีกแล้วไม่ได้เอาไปด้วยก็วางไว้เฉยๆ โดยแหวนก็ยังอยู่ในนั้น พอเดินออกมาสักพักหนึ่งก็นึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งไปดู ในที่สุดก็หาเจอค่ะ ซึ่งมันไม่ควรเจอมันอัศจรรย์มาก ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้แค่ว่าเราวางไว้ตรงไหน ทั้งเจ้าหน้าที่ของสายการบินและตำรวจที่สนามบิน แต่กว่าจะได้คืนก็มีปัญหาเรื่องการสื่อสารพิธีการ ชมเป็นคนมีความเชื่ออย่างหนึ่ง ชมรู้สึกว่าเวลาชมดวงไม่ดีชมจะเสียเพชร เพราะปีที่เป็นปีชงเพชรก็หาย คนโบราณจะบอกว่า ของแบบนี้มันรับเคราะห์แทนเรา เรื่องของมูลค่าก็ส่วนหนึ่งแต่เรื่องจิตใจก็สำคัญ เพราะนั่นแปลว่าเรากำลังดวงไม่ดี ปรากฏพอได้มาคืนรู้สึกโล่งใจมากไม่มีใครทำอะไรฉันได้ (หัวเราะ) พร้อมกันนี้ชมพู่ยังได้ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะลาวงการว่า ไม่เป็นความจริง แต่อาจจะรับงานน้อยลง ลาไปไหน (หัวเราะ) ถ้าต้องออกจากวงการ ชมคงทำอะไรไม่เป็นค่ะ อีกอย่างเราถลำลึกเข้ามาตรงนี้แล้ว เพียงแต่อาจทำน้อยลงเพราะทำงาน 7 วันมาทั้งชีวิต ในวันที่เรามีแรงก็ทำแต่คงไม่ได้เป็นแบบนี้ไปตลอด ส่วนจะรับงานน้อยลงไหม พูดยากค่ะรอดูไป 1 - 2 ปีก่อนแล้วกันค่ะ ชมไม่ได้กังวลว่าพอข่าวออกไปแบบนี้แล้ว จะทำให้ผู้จัดเข้าใจผิด แต่ถ้าอยากรู้อะไรโทร.มาถามชมได้นะคะ ตอนนี้ชมยังไม่ไปไหนเพราะยังสนุกกับงานอยู่ค่ะ
|