Harley-Davidson เผยราคา Street 750 พร้อมเครื่อง Revolution X ตัวใหม่ สินสุดการรอคอยสำหรับสาวกเครื่อง V-Twin เมื่อ Harley-Davidson เปิดตัว Street 750 สุดคลาสสิคพร้อมเครื่องยนต์ Revolution X แบบระบายความร้อนด้วยน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เห็นจะโดนใจสุดก็เห็นเป็นราคาที่ 449,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าที่แฟนๆ คาดไว้เล็กน้อย Harley-Davidson Street 750 คันนี้มาพร้อมกับแนวคิดสำหรับการขับขี่ในเมือง มันคือการขับขี่ในลักษณะเดินหน้าสลับกับการหยุดรถ ซึ่งเครื่องยนต์ Revolution X รุ่นใหม่ล่าสุดแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 749 ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็นเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ที่สร้างขึ้นเพื่อการขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะ ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หมายความว่าเครื่องยนต์จะสามารถรักษาอุณหภูมิและสมรรถนะการทำงานให้คงที่อย่างมีคุณภาพ กระบอกสูบทำมุม 60 องศา 4 วาล์วต่อหัว แรงบิดมหาศาลที่รอบต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนท้องถนนในเมืองมากที่สุด เบาะนั่งอยู่สูงจากพื้นเพียง 25.7 นิ้ว และโครงรถที่แคบก็ทำให้หยั่งเท้าลงพื้นได้ง่ายขึ้น ขณะที่คุณวางเท้าบนแกนพักเท้า รถจะมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ, ดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมลูกสูบคาลิเปอร์คู่, ล้อหน้า 17 นิ้วและล้อหลัง 15 นิ้วพร้อมฐานล้อขนาด 60.4 นิ้ว, เรือนไมล์ไฟฟ้า, เบาะนั่งแบบ 2-Up พร้อมที่ยึดเท้าสำหรับผู้โดยสาร โดยราคาของ Harley-Davidson Street 750 นี้อยู่ที่ 449,000 บาท //men.mthai.com/car/superbike/10155.html   Create Date : 28 สิงหาคม 2558     0 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2558 8:36:55 น.     Counter : 1276 Pageviews.   Share Tweet

ทีเอสแอล คว้า New Mazda MX-5 มาให้อวดโฉมเป็นรายแรก หลังจาก New Mazda MX-5 เปิดตัวที่ต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้นำเข้ารถยนต์สปอร์ตเปิดประทุนสุดเฉี่ยว New Mazda MX-5 เข้ามาจำหน่ายเป็นรายแรกในประเทศไทย ด้วยราคาสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 2,xxx,xxx บาท พร้อมโปรโมชั่น แพ็คเกจทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว โอซาก้า พร้อมที่พักโรงแรม 5 ดาว และอาหารสุดหรูทุกมื้อ อีกทั้งพาคุณตระการตากับงาน Tokyo Auto Salon 2016 มูลค่า 200,000 บาท/2ท่าน/คัน พร้อมออกเดินทาง 14-18 ม.ค.59 นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล  ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้นำเข้า New Mazda MX-5 รถเปิดประทุนเจเนเรชั่นใหม่ล่าสุดเข้ามาจำหน่ายเป็นรายแรกในประเทศไทย เพื่อเอาใจลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของก่อนใคร ด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ SKYACTIV-G ขนาด 1,496 ซีซี ตัวรถได้รับการออกแบบด้วยวิศกรรมสกายแอคทีฟ SKYACTIV ออกแบบให้มีความพริ้วไหวในตัวถังที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักด้านหน้าและด้านหลังในอัตราส่วน 50:50 ทำให้ตัวรถมีความสมดุลสูงในน้ำหนักที่เบาเพียง 1,000 กิโลกรัม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ SKYACTIV-G ขนาด 1,500 ซีซี ให้กำลัง 131 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตั้นเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้การขับขี่มีความคล่องตัวและเร้าใจ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและหรูหรา มีให้เลือกทั้งเบาะหนังและเบาะผ้าที่มีการตัดเย็บอย่างปราณีตและเรียบหรู พร้อมระบบเสียงสเตอริโอจาก BOSE (เฉพาะรุ่น) ด้านการประหยัดพลังงาน New Mazda MX-5 มาพร้อมกับระบบ i-ELOOP และ i-STOP (เฉพาะรุ่น) สามารถสะสมพลังงานได้เมื่อรถวิ่ง และประหยัดพลังงานเมื่อรถจอด ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานลงได้ 10% โดยจะแสดงผลการขับประหยัดน้ำมันแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ INTELLIGENT DRIVE MASTER ในอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 18.6 กม. /ลิตร เชิญมาสัมผัสก่อนใครกับ New Mazda MX-5 ในราคาเริ่มต้น 2,xxx,xxx บาท ที่โชว์รูม ทีเอสแอล ทั้ง 4 สาขา แจ้งวัฒนะ สาทร ทองหล่อ (สุขุมวิท55) และภูเก็ต //men.mthai.com/car/news/10134.html   Create Date : 26 สิงหาคม 2558     0 comment Last Update : 26 สิงหาคม 2558 8:51:54 น.     Counter : 687 Pageviews.   Share Tweet

ไม่มี,ไม่พกใบขี่ ปรับเพิ่ม 5พัน - 1 หมื่น เห็นด้วยหรือไม่? เมื่อวานนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยหลังที่ได้ประชุมคณะอนุกรรมการประสานงานแก้ไขปัญหาจราจร เพื่อหวังว่า เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว และเร่งด่วนในเขต บชน. และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น โดย บชน.เสนอให้มีการปรับเพิ่มโทษผู้ขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต ดังนี้ "จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 พัน-1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" (เดิมโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) เบื้องต้นที่ประชุมเห็นด้วย แต่เสนอว่าควรมีการเพิ่มโทษให้มากกว่าที่ บชน.เสนอ เพราะต้องการให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวต่อกฎหมายมากขึ้น โดยมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปศึกษารายละเอียดและนำกลับมาเสนอที่ประชุมภายในเดือนกันยายนนี้ ลองมาเทียบกับโทษปรับของประเทศต่างๆ ดูหน่อย ไหม? 1. สิงคโปร์หากไม่มีใบขับขี่ถูกปรับหนักมากถึง 1.2 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากผิดครั้งที่ 2 ปรับเพิ่มเป็น 2.5 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี 2. ญี่ปุ่นปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี  ขณะที่เมืองไทย โทษปรับไม่มีใบขับขี่ของไทยน้อยมาก ทำให้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขับรถแบบไม่สนใจวินัยจราจร ทำให้เกิดปัญหารถติดขัด ขอบคุณข่าวจาก : มติชน   Create Date : 20 สิงหาคม 2558     0 comment Last Update : 20 สิงหาคม 2558 8:48:25 น.     Counter : 1127 Pageviews.   Share Tweet

ฮอนด้า เปิดตัว New Forza 300 สีใหม่เจ็บแสบ เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัว New Forza 300 สีใหม่สุดเร้าใจถึง 5 เฉดสี ได้แก่ สีเหลืองเลมอนไอซ์ สีส้มไนตริก สีน้ำเงินแคนดี้แคริบเบี้ยน สีขาวเพิร์ลฮอริซัน และสีดำด้านเมทัลลิคกันพาวเดอร์ เพียบพร้อมด้วยความหรูหราในสไตล์บิ๊กสกูตเตอร์ระดับท็อปคลาสด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับการใช้ชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่ ขับขี่สนุกคล่องตัว พร้อมความสบายระดับเฟิร์สคลาสด้วยเบาะนั่งแบบซิทอินและแผงหน้าปัดที่โฉบเฉี่ยว เดินทางไกลในวันหยุดได้อย่างสะดวกสบายด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 300 ซีซี พร้อมระบบเบรก Combined ABS เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 159,000 บาท นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทยเปลี่ยนไปจากเดิมมาก รถจักรยานยนต์ไม่ได้เป็นแค่พาหนะแต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนหรือไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งโดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีความชัดเจนในเรื่องรสนิยมการใช้ชีวิตที่เปิดกว้าง คนกลุ่มนี้ทำงานหนักแต่ก็ชอบสังสรรค์และชอบออกเดินทางไปต่างจังหวัดในวันหยุดกับกลุ่มเพื่อนด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ในรูปแบบทัวริ่ง ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆผ่านผลิตภัณฑ์ของเราให้กับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ ด้วยการนำเสนอ New Forza 300 ซึ่งเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาสที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสันโดดเด่นทันสมัย และมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่เหมาะสมกับการเดินทางไกลแต่ก็มีความคล่องตัวสำหรับการเดินทางในเมืองด้วยเช่นกัน ถือเป็นรถที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความหรูหรา แต่ยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ขับขี่ที่มีหลายด้านอีกด้วย New Forza 300 (นิวฟอร์ซ่า 300) โดดเด่นเร้าใจด้วยสีสันใหม่ 5 เฉดสีภายใต้คอนเซปต์ Make Life Release ได้แก่ สีเหลืองเลมอนไอซ์ สีส้มไนตริก สีน้ำเงินแคนดี้แคริบเบี้ยน สีขาวเพิร์ลฮอริซัน และสีดำด้านเมทัลลิคกันพาวเดอร์ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 300ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI มั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่ด้วยระบบเบรก Combined ABS ดีไซน์หรูหราเหนือระดับจากการออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียด ไฟหน้าคู่ขนาดใหญ่พร้อมไฟหรี่ แผงหน้าปัดสุดโฉบเฉี่ยวและเบาะนั่งขนาดใหญ่พร้อมพนักพิงหลังแบบซิทอินให้ความรู้สึกสบายเหมือนนั่งอยู่ในรถยนต์ แผงคอนโซลด้านหน้าสามารถเปิดปิดเพื่อเก็บของได้ทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับสมาร์ทโฟน พื้นจัดเก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดยักษ์ความจุมากกว่า 62 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ถึง 2 ใบ เอ.พี. ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Forza 300 ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 159,000 บาท //men.mthai.com/car/motercycle/honda/10077.html   Create Date : 14 สิงหาคม 2558     0 comment Last Update : 14 สิงหาคม 2558 8:41:37 น.     Counter : 1088 Pageviews.   Share Tweet

มาสด้า เปิดตัว New Mazda BT-50 Pro ปิกอัพสไตล์สปอร์ต บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มอุณหภูมิตลาดรถปิกอัพของไทยให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัว New Mazda BT-50 Pro มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด พร้อมฟังค์ชั่นการใช้งานเทียบเท่ารถยนต์นั่งระดับหรู และให้ความอเนกประสงค์ดั่งรถเอสยูวี ลบภาพความเป็นปิกอัพสไตล์เดิมๆ จนหมดสิ้น มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังแรง ดีไอ-ธันเดอร์ โปร (Di-THUNDER PRO) อัดแน่นด้วยออฟชั่นที่ใส่มาแบบเต็มๆ เสริมระบบความปลอดภัยรอบทิศทาง เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 561,000 บาทเท่านั้น พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ รถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ที่มอบความสะดวกสบายสไตล์รถยนต์นั่ง แต่ให้ความบึกบึนดั่งเช่นรถอเนกประสงค์เอสยูวี ด้วยการดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่เพื่อให้แข็งแกร่งดุดันยิ่งขึ้น มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่  TOUGH AS LIFE “นิยามแกร่ง คุณเท่านั้นที่กำหนด” มาดูที่การออกแบบภายนอกกัน Mazda BT-50 Pro ใหม่ ตัวนี้ออกแบบชุดกระจังหน้าใหม่ ด้วยกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้าในรถทุกรุ่น, ไฟหน้าดีไซน์ใหม่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว, ซุ้มล้อขนาดขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรถ, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวเพิ่มความหรูหรา, ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ลให้ออกมาสไตล์รถเก๋งแยกเป็นสองส่วนตามแบบรถยนต์นั่ง, ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 16, 17 นิ้ว ลวดลายแนวสปอร์ต ส่วนภายในนั้นออกแบบมาให้ความรู้เหมือนรถยนต์นั่ง การออกแบบเลย์เอาต์คอนโซลหน้าด้วยรูปทรงที่ไม่สมมาตรโดยเป็นมุมเปิดกว้างจึงทำให้ห้องโดยสารด้านหน้ากว้างขวาง ในขณะที่ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับการขับขี่บนเบาะนั่งที่โอบกระชับแบบสปอร์ต การวางเลย์เอาท์ในส่วนผู้ขับขี่ที่โอบล้อมให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง (Wraparound driving environment) โทนสีนั้นเลือกใช้โทนสีดำเป็นสีหลักตัดกันด้วยการตกแต่งสีเทาดำกันเมทัล ในชิ้นงานที่ผู้ใช้จะต้องสัมผัสจะเลือกใช้วัสดุที่ทำจากโครเมี่ยมดูหรูหรา เบาะนั่งมีให้เลือกถึง 3 แบบ และเบาะผ้าลาย 2 แบบ ทั้งแบบมาตรฐานและแบบสปอร์ตขึ้นอยู่กับระดับของรุ่นรถ ด้านความปลอดภัย มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ มาพร้อมระบบต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกการเดินทาง เช่น ระบบเบรก ABS 4 ล้อ Antilock Braking System 4W-ABS, ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System TCS, ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ Dynamic Stability Control DSC, ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน Emergency Brake Assist EBA, Brake Override System BOS ระบบอัตโนมัติที่จะตัดการทำงานของคันเร่งในกรณีที่แป้นเบรกและคันเร่งถูกเหยียบในเวลาเดียวกัน, ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินจะกะพริบเมื่อเกิดการเบรกฉุกเฉิน Emergency Stop Signal ESS, ระบบควบคุมการทรงตัวเมื่อบรรทุก Load Adaptive Control LAC, ระบบช่วยการทรงตัวลากจูง TSM, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ Roll-Over Mitigation ROM, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist HLA, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control 4WD only, เพิ่มกล้องมองหลังเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งกว่า โดยจอภาพจะอยู่ที่กระจกมองหลังที่สามารถปรับลดแสงได้โดยอัตโนมัติ, ไฟหน้าพร้อมกับฟังค์ชั่น เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติและที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติช่วยลดแสงไฟหน้าของรถที่ตามหลังไม่ให้เข้าตารบกวนผู้ขับขี่ ด้านเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของ Mazda BT-50 Pro นั้นมีทั้ง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO 2.2 ลิตร คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น 4 สูบ 16 วาล์ว  ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า (110kw) ที่ 3,700 รอบ แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ และ Di-THUNDER PRO 3.2 ลิตร ครั้งแรกของมาสด้ากับเครื่องยนต์ 5 สูบ ที่ให้ความจุกระบอกสูบขนาดใหญ่แต่มีขนาดกระทัดรัด ให้ประสิทธิภาพสูง และให้สมรรถนะที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถกระบะในท้องตลาด ด้วยกำลังถึง 200 แรงม้า (147kw) ที่ 3,000 รอบ และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ อีกทั้งยังให้การประหยัดน้ำมันและสมรรถนะด้าน NVH ที่ช่วยให้การขับขี่ในห้องโดยสารที่เงียบ ในส่วนของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อทุกรุ่นมีฟังค์ชั่นสวิทช์ Shift on-the-fly ควบคุมด้วยไฟฟ้า ช่วยเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนระหว่างการขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในระหว่างขับขี่ได้โดยไม่ต้องหยุดรถ อีกทั้งระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป Limited Slip Differential ในรุ่น 2.2 Hi-Racer ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรด ป้องกันล้อหมุนฟรี ส่วนรุ่น 3.2 ลิตร 4×4 มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Dynamic Stablility Control: DSC) พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 80 เซนติเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง Hi-Racer และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และระดับ 60 เซนติเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยที่เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของรถยังทำงานได้ตามปกติ เพราะวางตำแหน่งของอัลเทอเนเตอร์ Alternator ไว้ในตำแหน่งที่สูงกว่ารถปิกอัพทั่วไป ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล Di-THUNDER PRO 2.2 และ 3.2 ลิตร มาพร้อมเทอร์โบแปรผัน Variable-nozzle turbocharger สำหรับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร และ 2.2 ลิตรระดับกำลังสูง โดยสำหรับเครื่องยนต์ 2.2 ลิตรระดับกำลังปานกลางจะมาพร้อมกับเทอร์โบแบบ Fixed-geometry turbocharger อินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ถูกนำมาใช้กับเทอร์โบในทุกๆ รุ่น รวมทั้งระบบการหมุนเวียนไอเสียไหลกลับที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยลดอุณหภูมิการเผาไหม้และปริมาณการปล่อย NOX ราคาของ มาสด้า บีที-50 โปร แบ่งเป็น 16 รุ่นย่อยใน 4 รุ่นหลัก ทั้งในเครื่อง 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร เบนซินและดีเซล โดยมีราคาดังนี้ รุ่นสแตนดาร์ดแค็ป STD เครื่องยนต์ดีเซล – รุ่นสแตนดาร์ดแค็ป 2.2 S ราคา 561,000 บาท รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC เครื่องยนต์ดีเซล – รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 S ราคา 612,000 บาท – รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 V ราคา 657,000 บาท – รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 Hi-Racer ราคา 688,000 บาท – รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 Hi-Racer ABS ราคา 741,000 บาท รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 S ราคา 652,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 V ABS ราคา 784,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ราคา 780,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS ราคา 815,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS AT ราคา 858,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS เบาะหนัง AT ราคา 893,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 4×4 3.2 R ABS/DSC/เบาะหนัง ราคา 996,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 4×4 3.2 R ABS/DSC/เบาะหนัง AT ราคา 1,023,000 บาท รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร – รุ่นสแตนดาร์ดแค็ป STD 2.5 S ราคา 561,000 บาท – รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.5 S ราคา 612,000 บาท – รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.5 S ราคา 652,000 บาท //men.mthai.com/car/news/10041.html   Create Date : 09 สิงหาคม 2558     0 comment Last Update : 9 สิงหาคม 2558 11:46:55 น.     Counter : 1021 Pageviews.   Share Tweet