ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

โตโยต้า เปิดตัว “คัมรี ใหม่…The New Icon of Elegance”

โตโยต้า เปิดตัว
“คัมรี ใหม่…The New Icon of Elegance”
พร้อมพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด “ฮิวจ์ แจ็คแมน”

011

     มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ร่วมแถลงข่าวแนะนำรถยนต์นั่งขนาดกลางสุดหรู ใหม่ล่าสุด “คัมรี ใหม่…The New Icon of Elegance” เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอรถยนต์ซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่ล่าสุด คัมรี ใหม่ ที่สมบูรณ์แบบด้วยภาพลักษณ์อันหรูหรา โฉบเฉี่ยว สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล สะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกครบครัน

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โตโยต้า คัมรี เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์นั่ง ขนาดกลางในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นกว่า 14 ล้านคัน โดย Generation ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มียอดจำหน่ายรวมในประเทศ ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 ทั้งสิ้น กว่า 40,000 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น คัมรี ไฮบริด ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อคุณภาพ และสมรรถนะของระบบไฮบริดของโตโยต้า นับเป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของโตโยต้า คัมรี”

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ““สำหรับ คัมรี ใหม่ ในครั้งนี้ ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแนวคิด New ERA Sedan คือ การสร้างสรรค์เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกด้าน ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เป็นเจ้าของ โดยผสมผสานระหว่างความสง่างามเหมาะกับผู้บริหาร ที่ต้องการความภูมิฐานประกอบกับเส้นสายรายละเอียดที่ดูทันสมัย โดยการออกแบบภายนอกเป็นลักษณะ Keen look เพิ่มอารมณ์แห่งความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง หรูหรา พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และที่พิเศษสุด คือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-iW พร้อมระบบการฉีดน้ำมันแบบ D-4S ที่เที่ยงตรง แม่นยำ ทุกจังหวะการขับเคลื่อน ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบสม่ำเสมอ และประหยัดเชื้อเพลิงอย่างยอดเยี่ยม และท้ายที่สุดที่จะขาดไม่ได้และเป็นไฮไลท์ของคัมรีใหม่ คือ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล”
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า “กลยุทธ์ด้าน การสื่อสารของคัมรีใหม่ ภายใต้แนวคิด The New Icon of Elegance นิยามใหม่แห่งความภาคภูมิ ซึ่งในครั้งนี้ เราได้ค้นพบบุคคลที่สะท้อนภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ และเปี่ยมด้วยพลังในการใช้ชีวิต ที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของคัมรี่ใหม่ ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) นักแสดงฮอลลีวู้ด ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเราได้เลือกใช้สื่อโฆษณาที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และสื่อโฆษณากลางแจ้ง ให้ลูกค้าได้รับทราบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่มีระดับเหนือใครของลูกค้าคัมรี ด้วยการสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดยการต่อยอดความสำเร็จของ กิจกรรม The Ultimate Experience ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

และในวันที่ 13 – 15 มีนาคมนี้ เราได้เตรียมจัดงานเปิดตัวคัมรี่ใหม่อย่างยิ่งใหญ่สู่สาธารณชน โดยจะเปิดตัวพร้อมกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ”

022

เลือกเป็นเจ้าของ “CAMRY…The New Icon of Elegance” รุ่นใหม่ล่าสุด
6 รุ่น 2 ขนาดเครื่องยนต์
– 2.5L Hybrid Premium
– 2.5L Hybrid Navigator
– 2.5L Hybrid CD
– 2.5G
– 2.0G Extremo
– 2.0G

7 สี รวม 2 สีใหม่
– Grayish Blue Mica Metallic (สีใหม่)
– Dark Brown Mica Metallic (สีใหม่)
– White Pearl Crystal**
– Attitude Black Mica
– Silver Metallic
– Gray Metallic
– True Blue Mica Metallic**
(**สีที่มีเฉพาะในรุ่นไฮบริดเท่านั้น)

พบกับ ภาพลักษณ์ใหม่ของยนตรกรรมที่ก้าวล้ำเหนือใคร “คัมรี ใหม่….The New Icon of Elegance” 13 – 15 มีนาคมนี้ ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าวและโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 413 แห่ง ทั่วประเทศ

0333

0444

055

066




 

Create Date : 19 มีนาคม 2558   
Last Update : 19 มีนาคม 2558 22:20:55 น.   
Counter : 972 Pageviews.  

New MG3 แฮทช์แบคน้องใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 แสน

บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย ส่ง MG3 เอ็มจี 3 ทั้งแฮทช์แบค (Hatchback) และครอส (Xross) ลงตลาดซับคอมแพ็ค (Sub-compact) หรือบีเซ็กเมนต์ (B-Segment) มุ่งแย่งส่วนแบ่งตลาด รุกเติมสีสันความสนุกเต็มพิกัดบนท้องถนนเอาใจคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ความสนุก (FUN) ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในทุกการใช้งาน

MG3_02

MG3 เอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบและพัฒนาตามแนวคิด Brit Dynamic (บริท ไดนามิก) มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ MG3 เอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบที่ศูนย์ออกแบบรถยนต์ Birmingham Design Centre ของ MG ในประเทศอังกฤษโดยทีมวิศวกรและนักออกแบบกว่า 360 คน ได้ร่วมกันออกแบบและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์

MG3_13

เอ็มจี 3 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู และรุ่นครอส (Xross) ที่ตกแต่งให้มีความโดดเด่นแบบรถเอสยูวี (SUV) เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยคุณลักษณะเด่นด้านการขับขี่ คุณภาพ ดีไซน์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ความคุ้มค่าของราคาที่แข่งขันได้และออปชั่นต่างๆ พร้อมบริการหลังการขายและเครือข่ายผู้จำหน่ายในปัจจุบันทำให้เรามั่นใจว่าเอ็มจี 3 จะประสบความสำเร็จ  และเอ็มจีจะก้าวมาเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่จะครองใจผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความแตกต่าง ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว

MG3_17

เอ็มจี 3 ยังมีสีภายนอกแบบทูโทนให้เป็นทางเลือกของลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยตัวถังสีเหลืองหลังคาสีดำ (Tudor Yellow – Black Top) ตัวถังสีแดงหลังคาสีขาว (Regal Red – White Top) และตัวถังสีฟ้าหลังคาสีขาว (Thames Blue – White Top) นอกจากนี้เอ็มจี 3 ยังให้อิสระแก่ลูกค้ามากขึ้นในการตกแต่งภายนอกของรถยนต์ให้ตรงกับสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง อาทิ สติกเกอร์ตกแต่งหลังคา 5 สไตล์ ได้แก่ Scottish Kilt , Brit Pop,  MOD, Union Jack และ London Tube รวมทั้งฝาครอบกระจกมองข้าง 4 สี

MG3_11

สำหรับรุ่นครอส MG3 เพิ่มความสนุกทุกมุมมองด้วยกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต พร้อมชุดแต่งรอบคันและRoof Rail ให้คุณโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พร้อมใช้งานที่หลากหลาย และไม่ว่าไลฟ์สไตล์ของคุณจะเป็นแบบใด ก็สามารถเลือกออกไปสนุกได้ในแบบของคุณเอง

MG3_10

MG3 เอ็มจี3 เพิ่มความเท่หรูหรากับหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า เช่นเดียวกับรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังให้ความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ด้วยที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (LED Daytime Running Light – DRL) ที่ติดตั้งในรุ่น D และ X ที่ให้ทั้งความสวยงามและโดดเด่นไม่เหมือนใคร

MG3_14

MG3 เอ็มจี 3 มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุดที่ 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic (เซเลเมติก) พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และแบบแมนวล (Manual) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ตอบสนองนโยบายการใช้น้ำมันทดแทน

MG3_07

นอกจากนี้ MG3 เอ็มจี 3 ยังเพิ่มความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยมากมายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่ ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control) ช่วยควบคุมรถให้มีเสถียรภาพในขณะเข้าโค้งให้ความปลอดภัยและความมั่นใจอย่างสูงแก่ผู้ขับขี่ ระบบการช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill-Start Assist System)  ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS –  Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake – Force Distribution) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor Control Slide Retainer) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC – Electronic Stability Control) โครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัย (USD – Ultimate Stiffness Design)  และ ระบบเสริมแรงเบรก (BA – Brake Assist)

MG3_15

มร. หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย กล่าวว่า “เอ็มจี มีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัว “เอ็มจี 3” ลงสู่ตลาดประเทศไทย ทางบริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่สามารถเปิดตัวรถยนต์เอ็มจีรุ่นที่สองภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่ได้เปิดตัวรถยนต์เอ็มจีรุ่นแรกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พนักงานเอ็มจีทุกคนในประเทศไทยรู้สึกยินดีที่ได้เป็น

MG3_08

ส่วนหนึ่งในการผลิตเอ็มจี 3 รถที่มีมาตรฐานยุโรปให้กับพี่น้องคนไทย การเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี ที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน และผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตและขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง  โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาในกลุ่มประชาคมอาเซียนและประเทศอื่นๆ นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และยกระดับความสามารถของบริษัทฯ ให้ตอบสนองผู้บริโภคชาวไทยได้ในทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการด้านการใช้งานอย่างแท้จริง”

MG3_16

เอ็มจี 3 ยังมอบความมั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกัน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นานถึง 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพแล้ว การบริการหลังการขายยังเป็นสิ่งที่เอ็มจีให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด จึงได้เดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อความอุ่นใจในการใช้งานรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่น นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการ และศูนย์ฝึกอบรมเอ็มจีตั้งอยู่ที่ซอยอ่อนนุช เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมรอบด้าน และสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายจากบริษัทฯ

MG3_18

ทั้งนี้เอ็มจีเซอร์วิสเซนเตอร์ มีบริการช่วยเหลือเคลื่อนที่ (MG Mobile Service) อีกหนึ่งในการบริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร เพื่อช่วยเหลือและให้บริการกับลูกค้าเอ็มจีทุกท่าน ให้รู้สึกอบอุ่นใจในทุกเส้นทางเดินทางอันสุดพิเศษ

MG3_19

ราคา MG3 เอ็มจี 3 แบ่งเป็น รุ่นแฮทช์แบ็ค (Hatchback) 5 ประตู ได้แก่ รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ 479,000 บาท รุ่น (กลาง) D เหมาะกับผู้มองหาความคุ้มค่าที่ 509,000 บาท รุ่น (ท็อป) X พร้อมติดตั้งหลังคาซันรูฟที่ 559,000 บาท

MG3_06

ราคา MG3 สำหรับรุ่นครอส (Xross) จะมีเพียงรุ่นท็อปรุ่นเดียว คือ รุ่น X พร้อมหลังคาซันรูฟราคา 595,000 บาท ทั้งนี้ทุกท่านสามารถพบกับเอ็มจี 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้ ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2015 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี และโชว์รูมเอ็มจีทุกแห่งทั่วประเทศ

New MG3 แฮทช์แบคน้องใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 แสน

New MG3 แฮทช์แบคน้องใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 แสน

New MG3 แฮทช์แบคน้องใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 แสน

New MG3 แฮทช์แบคน้องใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 แสน




 

Create Date : 18 มีนาคม 2558   
Last Update : 18 มีนาคม 2558 23:18:38 น.   
Counter : 1498 Pageviews.  

Porsche Cayman GT4 สมาชิกใหม่ของครอบครัวปอร์เช่ GT

เคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) สมาชิกใหม่ของครอบครัวปอร์เช่ GT เผยโฉมแล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ได้แนะนำรถสปอร์ต GT ในรุ่น เคย์แมน (Cayman) โดยได้รับส่วนประกอบต่างๆ มาจากรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ซึ่งเคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) สามารถทำเวลารอบสนามแข่ง Nürburgring ฝั่ง North Loop ได้อย่างเหนือชั้น นั่นคือ 7 นาที 40 วินาทีเท่านั้น ส่งผลให้เคย์แมน จีที4 กลายมาเป็นรถรุ่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มตลาดเดียวกัน และเป็นเสมือนคำสัญญาและการยืนยันว่าปอร์เช่จะยังคงเดินหน้าพัฒนารถสปอร์ต 2 ประตูสำหรับอนาคตจากแผนกมอเตอร์สปอร์ต ณ เมือง Weissach ต่อไป

Porsche_Cayman_GT4_3
เครื่องยนต์ ตัวถัง เบรก และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของ เคย์แมน จีที4 เน้นในเรื่องของการขับขี่เพื่อความคล่องตัวมากที่สุด และยังคงสมรรถนะที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เหมาะกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ตามแบบฉบับของรถสปอร์ตปอร์เช่ 2 ประตู เครื่องยนต์มีขนาด 3.8 ลิตร 6 สูบ พละกำลังแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 385 แรงม้า (283 กิโลวัตต์) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่นำมาจากรุ่น 911 คาเรร์ร่าเอส (911 Carrera S) นั่นเอง ระบบส่งกำลังมาในรูปแบบระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชั่วโมง อยู่ที่ 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำแค่เพียง 10.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (9.70 กิโลเมตร/ลิตร) ตัวถังสามารถลดระดับให้ต่ำลงได้อีก 30 มิลลิเมตร ส่วนระบบเบรกนำมาจากรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) นั่นเอง

ติดตั้งมาเพื่อการขับขี่เสมือนในสนามแข่ง: ปอร์เช่ เคย์แมน (Porsche Cayman) คันแรกที่มาพร้อมกับแรงกดบนเพลาทั้ง 2 ด้าน

Porsche_Cayman_GT4_5

สำหรับภายนอกของ เคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) จะมีความแตกต่างกับรุ่นคูเป้เครื่องยนต์วางกลางรุ่นอื่นอย่างชัดเจน ชิ้นส่วนต่างๆได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น ช่องดักอากาศทางด้านหน้า และปีกด้านหลังที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ในแพ็คเกจ aerodynamic package และได้รับการออกแบบมาเป็นระบบเพื่อเพิ่มแรงกดให้กับรถมากขึ้น เคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) ยังสามารถติดตั้งชิ้นส่วนอื่นๆ ตามต้องการเพื่อการใช้งานแบบสปอร์ตได้ ระบบเบรกเซรามิก PCCB สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้ อีกทั้งยังมีเบาะแบบคาร์บอนไฟเบอร์ carbon fibre reinforced plastic (CFRP) รวมถึงแพ็คเกจ Sport Chrono ที่มาพร้อมกับ Track Precision app และแพ็คเกจ Club Sport ที่สามารถเลือกติดตั้งได้เช่นกัน

Porsche_Cayman_GT4_6

ภายในห้องโดยสารของเคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยเฉพาะ และพร้อมจะทำให้พวกเขาได้รับความสุนทรีย์ในการขับขี่อย่างเต็มที่ เมื่อพวกเขาได้นั่งที่เบาะ ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงความเป็นสปอร์ตทันทีผ่านหนังแท้และหนัง Alcantara ที่ได้รับการผสมผสานไว้ได้อย่างลงตัว พวงมาลัยแบบสปอร์ตของเคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) จะรองรับการควบคุมและการตอบสนองที่แม่นยำในทุกสถานการณ์

Porsche_Cayman_GT4_1

เทคนิคหลากหลายด้านของรถสปอร์ต GT คันใหม่นี้ได้รับมาจาก 911 จีที3 (911 GT3) ซึ่งเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางและเป็นตัวแทนที่ดีเยี่ยมของการขับขี่ที่คล่องตัว อีกทั้งยังเป็นสร้างสรรรค์ตามแบบฉบับของรถรุ่นต่างๆ อย่าง 904 จีทีเอส (904 GTS) , 911 จีที1 (911 GT1) , คาร์เรร่า จีที (Carrera GT) และ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder)

Porsche_Cayman_GT4_2

รถสปอร์ต GT จากปอร์เช่คันนี้คือการเชื่อมต่อระหว่างความน่าหลงใหลและเสน่ห์ระหว่างการใช้งานจริงทั้งในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหลักสำคัญของความเป็นรถสปอร์ตของแบรนด์นั่นคือ Intelligent Performance ซึ่งผู้ขับขี่ 4 คนจาก 5 คนของรถสปอร์ตปอร์เช่ จะใช้รถรุ่นนี้ในสนามแข่งเช่นกัน

เคย์แมน จีที4 (Cayman GT4) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรมยานยนต์ Geneva International Motor Show ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

Porsche_Cayman_GT4_4

เคย์แมน จีที4 (Cayman GT4): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบในเมืองอยู่ที่ 14.8 ลิตร/100 กิโลเมตร; (6.75 กิโลเมตร/ลิตร) นอกเมืองอยู่ที่ 7.8 ลิตร/100 กิโลเมตร; (12.82 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 10.3 ลิตร/100 กิโลเมตร; (9.70 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาบอนไดออกไซด์ (CO2 ) อยู่ที่ 238 กรัม/กิโลเมตร




 

Create Date : 13 มีนาคม 2558   
Last Update : 13 มีนาคม 2558 23:02:25 น.   
Counter : 1125 Pageviews.  

Toyota เปิดตัว Camry 2015 ปรับโฉมใหม่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว Toyota Camry รถยนต์ซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่ พร้อมนำเสนอเทคโยโลยีล้ำยุคในรูปโฉมใหม่ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เป็นเจ้าของ กับการปรับโฉมใหม่ให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โดยกันมีทั้งหมด 6 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และ เครื่องยนต์เบนซิน

New_Camry_15

Toyota Camry ตัวใหม่นี้ภายนอกได้ทำการปรับโฉมใหม่ โดยกันชนหน้าที่มาพร้อมไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าโครมเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์คู่พร้อมปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไลท์ LED เพื่อส่องสว่างไปได้ไกลยิ่งขึ้น คิ้วไฟท้ายแบบโครเมี่ยมที่มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED สะดุดตาและมองเห็นได้ในระยะไกล

New_Camry_2

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมไฟสัญญาณในตำแหน่งที่มองเห็นไม่ชัด แอร์โรไดนามิก ฟิน ช่วยปรับการไหลตามหลักอากาศพลศาสตร์ลดแรงต้านอากาศข้างตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายใหม่ พร้อมยางขนาด 215/60 R16 (เฉพาะในรุ่น 2.0G) และล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17 (เฉพาะในรุ่น 2.5G)

New_Camry_13

ภายในสีเบจ พร้อมลายไม้สีน้ำตาลดำ ให้ความรู้สึกหรูหรา มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด4.2 นิ้ว กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง, จอแสดงข้อมูลรวม, ระบบ Hands_Free แบบไร้สาย Bluetooth เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่บปรับด้านหลังคนขับ เพื่อให้รู้สึกสบายขณะขับขี่ มีช่องต่อ USB/VTR/AUX

New_Camry_5

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ที่ชาร์จแบบไร้สายบริเวณกล่องคอนโซลกลางรองรับระบบการชาร์จไฟแบบ QI ชาร์จไฟได้เพียงแค่วางสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนถาดชาร์จ (ระบบชาร์จไฟต้องใช้คู่กับอุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่น)

เครื่องเล่น DVD พร้อมลำโพง JBL Green Edge Touch 10 พร้อมระบบนำทาง (In-car Navigator) ที่รองรับบริการ Smart G-Book (เฉพาะในรุ่น 2.5G) แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบปรับอากาศแบบ Dual Auto ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุมระดับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา

New_Camry_11

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) รักษาระดับความเร็วรถให้คงที่ เพื่อลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ทางไกลเป็นเวลานาน ระบบเชื่อมต่อ Hands-free แบบไร้สาย Bluetooth เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยระบบเชื่อมต่อไร้สาย ที่เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับระบบ Hand free ในรถ จับคู่กับโทรศัพท์มือถือได้ 5 เครื่อง บันทึกเลขหมายได้ถึง 1,000 เลขหมาย พร้อมระบบควบคุมโทรศัพท์ ผ่านจอ LCD ระบบสัมผัส หรือปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย (เฉพาะในรุ่น 2.5G) ม่านบังแดดไฟฟ้าที่กระจกหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

New_Camry_10

สำหรับผู้ที่ชอบความสปอร์ตทางโตโยต้าได้ให้ทางเลือกกับคุณด้วย Camry 2.0G Extremo ซึ่งตกแต่งสไตล์สปอร์ต แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา ด้วยไฟท้ายรมดำ ชุดสเกิร์ตสปอร์ตรอบคัน ท่อไอเสียคู่ สปอยเลอร์หลัง เหล็กค้ำโช้คแบบยืดหยุ่น(Performance Damper) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่ ภายในห้องโดยสารใช้สีดำ พร้อมตะเข็บสีแดง

New_Camry_7

ส่วนในด้านระบบความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) หากมีรถอยู่ในมุมอับสายตาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยกระจกมองข้าง ระบบจะมีสัญญาณเตือนที่กระจกมองข้างด้านนั้นๆ ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวด้านหลังรถ (Rear Cross Traffic Alert) คอยตรวจจับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ด้านหลังรถ โดยแสดงการเตือนผ่านไฟกระพริบที่กระจกข้างพร้อมเสียงสัญญาณเตือน

ไฟฉุกเฉิน (Emergency Stop Signal) เมื่อเบรกกระทันหัน ไฟเลี้ยวทุกดวงจะกระพริบโดยอัตโนมัติในทันที ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ป้องกันรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน

และในรุ่น HV Premium ยังมีระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-crash System) เรดาห์บริเวณหน้ารถจะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหน้า และทำการส่งสัญญาณเตือน และระบบช่วยเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) เมื่อคุณขับรถออกนอกช่องทางโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว หรือเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ MID

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยแบบป้องกันผู้ขับและผู้โดยสารด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ช่วยลดแรงกระแทกด้านข้างลำตัว

New_Camry_14

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน โดยรุ่น 2.5G ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร 2AR-FE DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i พละกำลัง 181 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 231 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift รองรับเชื้อเพลิง E20

ในส่วนของรุ่น 2.0G และ 2.0 Extremo ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 6AR-FSE DOHC 16 วาล์ว VVT-iW และ D-4S พละกำลัง 167 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift รองรับเชื้อเพลิง E20 เช่นกัน

New_Camry_8
ในส่วนของเครื่องยนต์ของรุ่นไฮบริดใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 213 นิวตันเมตรประกบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์ แรงบิด 270 นิวตันเมตร ใช้พลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดรายแรงดันไฟฟ้า 245 โวลต์และมีความจุ 6.5 แอมป์ (3 ชั่วโมง)

New_Camry_1

ในรุ่นไฮบริดจะใช้ระบบส่งกำลัง E-CVT (Electrically-controlled Continuously Variable Transmission) ชุดระบบที่ผสานการทำงานของระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า มีโหมดการขับขี่อัจฉริยะ 2 แบบ คือ โหมดการขับขี่ประหยัดน้ำมัน (ECO Mode) ระบบจะเลือกใช้กำลังในการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้เหมาะสม และโหมดโหมดการขับขี่เงียบสนิท (EV Mode) ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้การขับขี่ที่เงียบสนิท

New_Camry_3

Toyota Camry ใหม่นี้มาแบ่งออกเป็น 6 รุ่น 2 ขนาดเครื่องยนต์

Toyota Camry รุ่น 2.5L Hybrid Premium ราคาจำหน่าย 1,899,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5L Hybrid Navigator ราคาจำหน่าย 1,729,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5L Hybrid CD ราคาจำหน่าย 1,679,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5G ราคาจำหน่าย 1,569,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.0G Extremo ราคาจำหน่าย 1,429,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.0G ราคาจำหน่าย 1,319,000 บาท




 

Create Date : 11 มีนาคม 2558   
Last Update : 11 มีนาคม 2558 22:38:40 น.   
Counter : 1632 Pageviews.  

ล็อกซเล่ย์ ส่ง ‘แท็กซี่ไฟฟ้า’ ท้าดวล ALL THAI TAXI

ล็อกซเล่ย์ ควงแขน BYD ออโต้ จากจีน เตรียมเปิดตัว ‘แท็กซี่ไฟฟ้า‘ และ ‘รถโดยสารไฟฟ้า‘ ร่วมวงแข่งขันเดือด ALL THAI TAXI ของนครชัยแอร์

บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ร่วมมือกับ BYD Auto Industry ผู้นำตลาดในการผลิตแบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน เตรียมเปิดตัว ‘รถโดยสาร และรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์’ หรือแท็กซี่ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

แท็กซี่ไฟฟ้า, ล็อกซเล่ย์, ฮ่องกง, BYD auto, จีน, รถโดยสารไฟฟ้า, All Thai Taxi

รถแท็กซี่ไฟฟ้า ที่ให้บริการในฮ่องกง

โดยมีการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในวันพุธที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่า จะเปิดตัวแท็กซี่ รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไม่มีไอเสีย ไม่มีมลพิษ ช่วยให้อากาศในเมืองสะอาดขึ้น โดยใช้รถ MPV BYD รุ่น e6 มาให้บริการ

เช่นเดียวกับที่ให้บริการฮ่องกงแท็กซี่ ส่วนรถบัสโดยสารก็ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเช่นกัน เพื่อนำมาเสนอตอบความต้องการรถโดยสารรุ่นใหม่ของ ขสมก. ขณะที่ก่อนหน้านี้ นครชัย แอร์ สร้างความฝันของคนไทยให้เป็นจริง

ด้วยการเปิดตัว ALL THAI TAXI แท็กซี่ยุคใหม่ ที่ใช้รถโตโยต้า พริอุส รถไฮบริด ใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน มาให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ถือเป็นการแข่งขันด้านการตลาดที่คู่คี่สูสีมากทีเดียว




 

Create Date : 10 มีนาคม 2558   
Last Update : 10 มีนาคม 2558 23:01:50 น.   
Counter : 1210 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]