ตั้งแต่วันที่ Chevrolet Trailblazer เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย อาจจะต้องย้อนไปนานกันสักนิด แต่นั้นผมเองยังจำได้ว่า เป็นรถรุ่นที่อยากลองขับมากที่สุดในกลุ่มรถครอบครัว ด้วยรูปร่างของตัวรถที่ขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกบึกบึนสุดๆ มันก็แทบทำให้ผมจินตนาการต่อไปถึงการขับขี่ที่มั่นคง หนักแน่นทุกโค้ง ภาพในหัวที่กำลังขับรถบนถนนมุ่งหน้าสู่ต่างจังหวัดเกิดขึ้นทันที

ด้วยดีไซน์ของรถ Chevrolet Trailblazer ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งและความหรูหราเข้าด้วยกัน ดวงตาไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์(เฉพาะรุ่น LTZ,LTZ1) เข้าคู่แบบกระจังหน้าสองชั้นขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกเท่ๆ แมนๆ ลุยๆ แต่ก็แฝงความหรูของดวงตาไฟหน้าเอาไว้ สอดคล้องกับไฟท้ายที่ลงตัวเข้ากับรูปร่างใหญ่โตด้วยไฟท้ายแบบ LED ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง และไฟเบรกดวงที่สาม แต่ถึงอย่างนั้นตอนแรกผมเองก็คิดว่าด้วยรถที่รูปร่างใหญ่โตแบบนี้ การขับคงยากเอาการ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ผมชอบรถคันนี้ส่วนหนึ่งเลย ทัศนวิสัยการขับขี่ดีมาก ตำแหน่งที่นั่งคนขับสามารถมองได้กว้าง ยิ่งสำหรับผมที่เป็นคนขับรถแล้วต้องมองเห็นส่วนหน้ารถเพื่อกะระยะหน้ารถได้ เทรลเบลเซอร์ ทำได้ถูกใจผมเลยในส่วนนี้

มาเข้าเรื่องถึงตัวรถกันดีกว่า ที่อัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาแน่นสุดๆ พร้อมเครื่องเล่น DVD ,ระบบนำร่อง Navigator ที่ติดตั้งมาให้ ซึ่งหลังจากที่ผมลองกดๆ จิ้มๆ อาจจะต้องทำความเข้าใจกับ Navigator ติดรถคันนี้ก่อน จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก ต้องเรียนรู้เอาอ่ะว่ากันตรงๆ ต่อมาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chevrolet คือระบบ Mylink ที่เชื่อมมือถือของคุณเข้ากับรถได้อย่างง่ายดาย ใช้ฟังเพลง, โทรศัพท์ ก็ว่ากันไป เชื่อมต่อทุกความบันเทิง เลือกดูหนังผ่าน USB หรือ AUX หรือเลือกดูภาพใน Gallery ได้แบบสไลด์โชว์ พร้อมระบบตัดสัญญาณภาพอัตโนมัติ หรือเชื่อมต่อแบบไร้สาย ด้วย Bluetooth ใช้งานโทรศัพท์หรือค้นหาหมายเลขจาก Phone Book เลือกตั้งค่ารถยนต์ได้ตามต้องการ เช่น ระบบเสียงเตือน, ระบบส่องสว่าง และระบบ Auto Door Lock แถมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบครูซคอนโทรล ที่ทำให้การขับทางไกลเป็นเรื่องสบายๆ ไม่ปวดเมื่อยลำบากคนขับอีกต่อไป

ต่อกันเรื่องของภายในห้องโดยสาร ซึ่งเบาะที่นั่งเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ต้องบอกว่าแถว 3 นั่งไปสบายกว่าที่คิดได้เยอะ สามารถนั่งกันได้จริงๆ ไม่ได้ทำไว้หลอกๆ แถมเมื่อพับเก็บเบาะก็กลายเป็นพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ ในส่วนการขับ Chevrolet Trailblazer คันนี้พร้อมลุยกับคุณจริงๆ ทั้งเครื่อง 2.5 และ 2.8 ซึ่งในตัวเครื่อง 2.8 นั้นแรงมากพอที่จะเร่งแซงได้ดั่งใจอย่างสบาย ช่วงล่างที่แน่นนึบ ลดการสั่นสะเทือนได้อย่างดี จะเสียอย่างเดียวก็คือคุณมองไมล์มาอีกที รถคุณขับวิ่ง 160 กม./ชม. ในแบบที่ไม่รู้ตัว

เรื่องการขับถือว่าเป็นหัวใจสำคัญสำหรับ Chevrolet Trailblazer คันนี้จริงๆ ยิ่งสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อได้ สภาพทางจะเป็นยังไงไม่สนแล้ว มันยังทำให้ผมนึกถึงโฆษณาตัวนี้ได้อยู่เลย ที่ขับอยู่บนถนนดีๆ อยู่ๆ ก็หักเลี้ยวเข้าพง เข้าป่า มันได้ความรู้สึกนั้นจริงๆ ครับในเรื่องการขับ พร้อมทั้งมั่นใจในความปลอดภัยที่ทาง Chevrolet Trailblazer มอบมาให้ทั้ง ระบบเบรก  Disc-Brake 4 ล้อ พร้อมระบบความปลอดภัยรอบคัน ABS (Anti-Lock Braking System) ป้องกันล้อล็อก, EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบกระจายแรงเบรก, TCS (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ESC (Electronic Stability Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, PBA (Panic Brake Assist) ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน, CBC (Cornering Brake Control) ระบบสร้างสมดุลขณะเบรกในโค้ง, HBA HBA(Hydraulic Brake Assist) ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก, HBFA (Hydraulic Brake Fade Assist) ระบบชดเชยแรงดันน้ำมันเบรก

ยังไม่พอแถมใส่ระบบ ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน HAS (Hill Start Assist) ในขณะรถหยุดบนทางลาดชัด ระบบจะสั่งการอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้ไหลลงจากทางลาดชัดในขณะออกตัวเมื่อขึ้นหรือลงทางลาดทั้งยังช่วยหยุดรถให้นิ่งอยู่กับที่ และ HDS (Hill Descent Assist) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC (Hill Descent Control) เพียงกดปุ่มเปิดการทำงาน ระบบจะสั่งให้เครื่องยนต์และเบรกทำงานสัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ เพื่อจำกัดความเร็วของรถไว้ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการลงเขาอย่างปลอดภัยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน

สุดท้ายที่ผมอยากจะบอกสำหรับรถคันนี้ เป็นรถที่เหมาะกับการขับออกไปลุยๆๆๆๆ ออกไปเที่ยวๆๆๆๆ วิ่งทางไกล ลุยมันทุกที่ ความรู้สึกเป็นแบบนี้แท้จริง เอาเป็นว่าเมื่อคุณได้เป็นเจ้าของ Chevrolet Trailblazer แล้วคุณอยากอยากออกไปขับตลอดเวลา ด้วยสมรรถนะของตัวรถ ที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุดจริงๆ

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2558 22:51:04 น.		0 comments
Counter : 2161 Pageviews.
Share Tweet