Group Blog
 
All blogs
 
Skin Care จาก ดร.เห็ดสด

ในบรรดาผลิตภัณท์ของ Origins ไลน์ Mega Mushroom (AKAเห็ดสด-ผู้เขียน) ที่อ้างว่าเป็นการร่วมมือกันคิดค้นและวิจัยของทางบริษัทกับ Dr. Andrew Weil นั้น ขายดีมากๆๆๆ
และก็เป็นสินค้าราคาสูงเทียบกับตัวอื่นๆในแบรนด์เดียวกัน

สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา
ชื่อของ ดร.ไวล์(หลายคนอ่านว่า ดร.เวร ก็มีบ้างประปราย) จะไม่ค่อยรู้จักเท่าไร ดังนั้นคิดว่าในตลาดทางเอเชีย สินค้าตัวนี้อาจจะมีวิธีเรียกลูกค้าต่างกัน

ที่อเมริกา ดร.ไวล์เป็นที่รู้จักกันดีในด้าน Integrated Medicine
หรือแพทย์ทางเลือก
ดร.ไวล์เป็น botanist และเป็น Harvard-trained medical doctor รวมทั้งไปเรียนปรุงยาจากจีน ชอบนั่งมาธิ สนิทกับเจ๊โอปร้าและลุงลารี่ คิง
ดังนั้น เมื่อมีพลังendorsement จากceleb ต่างๆ ชื่อของ ดร.ไวล์จึงแพร่หลายในหลายๆครัวเรือน

ดร.ไวล์เขียนหนังสือหลายเล่ม ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ lifestyle ของคนสูงวัย กลุ่มลูกค้าที่รัก ดร.ไวล์ จะมีแนวคิด(ที่ได้มาจาก ดร.ไวล์)ว่า

แม้ว่าจะแก่ ก็แก่อย่างมีคุณภาพ
แม้ว่าจะแก่ ก็สวยแบบแก่ๆ
สวยแบบแก่ๆคืออะไร
ความสวยแบบนี้ คือสวยแบบธรรมชาติ
ไม่ใช่สวยแบบ artificial ไม่ใช่การแก่แล้วต้องไปทำ face lift
ไม่ใช่สวยแบบทำให้หน้าเด็กลงรอยเหี่ยวหายไป
เพราะมันเป็นไปไม่ได้จากการใช้ครีมแค่ไม่กี่บาท
แต่สวยแบบที่คนในวัยนั้นๆจะสามารถสวยได้
อย่างเป็นธรรมชาติ

ในหนังสือของดร.ไวล์ ก็ได้แนะนำการกิน-อยู่
อย่างมีคุณต่อสุขภาพและจิตใจไว้ ซึ่งถ้าใครสามารถทำตามนี้ได้จริงๆ เราก็เชื่ออะนะว่า
คงจะแข็งแรงม๊ากกกกกกกกก

ยกตัวอย่างเช่น

อาหารการกิน - ดร.เห็ดได้แนะนำให้คนกินปลาที่จับมาจากเลค ไม่ใช่ปลาเลี้ยงในฟาร์ม หากไปซุปเปอร์มาเกต ก็ต้องให้แน่ใจว่า ปลานั้นจับมาจากทะเลสาปจริงๆ

การออกกำลัง-
ดร.เห็ดได้แนะนำให้คนว่ายน้ำทุกวัน (โอเค อันนี้ดี)
แต่...
ไม่ควรจะว่ายน้ำคลอรีน (อ้าว?)
ควรจะว่ายน้ำในสระที่ขุดขึ้นมาและควบคุมคุณภาพน้ำเอง
(ทำไงล่ะ แกว่งฉานฉ้มฤา?)

อย่างเช่นสระว่ายน้ำในบ้านของดร. สร้างขึ้นมาโดยใช้วิธีการ
บำบัดน้ำ โดยใช้เครื่องจับอิเลคตรอน หรือไอออน(ไรสักอย่าง พอดีเรียนสายวิทย์แต่ยังโง่อยู่)
เครื่องนี้ก็จะจับสารสกปรกในน้ำ และนำไปกำจัดทิ้ง โดยไม่ต้องใช้สารเคมีฆ่าเชื้อโรคใดๆ เท่านี้ ก็จะแข็งแรงเชียว

หรือ...
หาเวลาว่ายน้ำในทะเลสาป
ทุกๆseason ที่ดร.จะได้ไปบรรยายที่แคนาดา หรือจัดแคมป์ในรีสอร์ทหรือสปา
ดร.จะได้ไปว่ายน้ำในทะเลสาปแห่งหนึ่งของแคนาดา
ซึ่งทะเลสาปนี้ ว่ากันว่ามีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังของคนเรามาก
ดังนั้น ดร.อยากให้ทุกๆคนได้มีโอกาสไปว่ายน้ำที่ทะเลสาปนี้
กันทุกๆคนนะจ๊ะ รับรองแข็งแรงแน่ๆจ้ะ

แม้ว่าหลังจากอ่านหนังสือของ ดร.ไวล์จบแล้ว อยากจะเขวี้ยงทิ้งหรือเติมหนวดให้กับหน้าของดร.ไวล์
ในหนังสือ (ทำไม่ได้อะ หนังสือแพง แต่เติมหนวดในโบรชัวร์ กับ leaflet ไปหลายอันแล้ว อิอิ)

แต่เมื่อมาดูที่ตัวสินค้าที่ว่ากันว่า ดร.ไวล์ช่วยคิดนั้น ก็มีความน่าสนใจอยู่เหมือนกัน



สินค้าชุดแรกที่ออกมา ก็ได้แก่
Plantidote™ Mega-Mushroom Face Serum
Plantidote™ Mega-Mushroom Face Cream
สองตัวบนไว้ทาทา
สองตัวล่างไว้หม่ำหม่ำ
Plantidote™ Mega-Mushroom Supplement
Nite-trition™ Restful Sleep Supplement

แนวคิดก็คือ ดร.เห็ดสดเชื่อว่า คนเรามีการอักเสบอยู่ในร่างกาย การที่ผิวเราแสดงทีท่าปฏิกิริยาอะไรๆต่างๆออกมา ก็เพราะการอักเสบนั้น เช่น สิว หนอง พุพอง น้ำเหลือง
รอยย่น ตกกระ โรเซเชีย(หน้าแดง) ผิวแห้งขุย etc etc..

การรักษาอาการอักเสบ ก็ทำได้โดย รวมพลังเห็ดสดต่างๆที่มีอยู่ ได้มาเป็นสูตรส่วนผสมตั้งชื่อว่า
Mega Mushroom complex
รวมทั้งขมิ้นกับปูน ขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูดเครื่องยาต่างๆ (ส่วนผสมเราก็จำไม่ได้หมดหรอกนะ ขออย่าถือสา) เอามาทาถูทาถู
บนผิวหน้า ก็จะช่วยลดการอักเสบลง เรียกว่า reduce the appearance ของพวกปฏิกิริยานี้ออกไป

ส่วนตัวที่เอาไว้หม่ำนั้น เป็นวิตามิน สำหรับ hair-skin-and-nail และ nite-trition สำหรับคนหลับยาก

ต่อไปนี้เป็นรีวิว

สำหรับ face serum นั้น ถือว่าเป็นที่นิยมสูงสุด เราได้ลองใช้(ได้ขนาดเท่าจริงมาฟรีหนึ่งอันตอนไปเทรน)
ก็รู้สึกว่าชอบ คือเราจะเป็นคนหน้าแห้ง(ในตอนนั้น) และมีรอยแดงข้างจมูกเล็กน้อย พอใช้แล้ว หน้าก็ไม่ได้ชุ่มชื่นขึ้นทันที หรือผิวแห้งกลายเป็นผิวปกติไปในทันที แต่ว่ามันดู vital ขึ้น
เราใช้ร่วมกับface cream ซึ่งถ้าให้เลือกสองตัวนี้ ขอเลือก face cream เพราะเราผิวผสมค่อนไปทางแห้ง และฮอร์โมนต่ำยิ่งทำให้ผิวแห้งไปอีก
ยิ่งอยู่ที่หนาวยิ่งแห้งมากๆ face cream จะค่อนข้าง rich แต่ทาแล้วไม่มัน จริงๆเราชอบ consistency ของอีกครีมหนึ่งมากกว่า(ไว้รีวิวทีหลัง) แต่ว่าคุณประโยชน์ตัวนี้เหมาะกับเรามากกว่า

ลูกค้าส่วนมาก ถ้าเป็นคนมีอายุหน่อย เราจะแนะนำให้ใช้ face cream (ถ้าเขาตั้งใจจะเลือกลองใช้แค่หนึ่งตัว) แต่ถ้าเป็นคนหน้ามัน หรือผิวผสม ไม่ต้องการ moisturize ผิวเท่าไร เราก็บอกว่า ใช้ face serum ก็แล้วกัน

เพื่อนเราที่ทำงานด้วยกัน ชื่อ เอซร่า
เอซร่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งคือเขาเป็นโรค Epidermolysis Bullosa อธิบายง่ายๆก็คือ ปกติคนเราจะมีผิวหนังสามชั้น(ไม่ใช่ไขมันนะ...ผิวหนังอะ หนังแท้ หนังกำพร้า หนัง...whatever) นั่นแหละ มันจะมีชั้นๆ แต่ของเอซร่าเนี่ย จะเทียบเท่าผิวแค่หนึ่งชั้นหรือสองชั้นเท่านั้น จะขาดไปชั้นหนึ่งที่ทำหน้าที่ยึดอีกสองชั้นเอาไว้
สีผิวของเขาก็จะอย่างที่เรียกว่า skin discoloration คือจะไม่เท่ากันไปทั้งหมดเลย (ด่างๆ)

So...เวลาคนปกติโดนอะไรข่วนถลอกไม่มีแผล ของเอซร่าจะมีแผล แต่ถ้าคนปกติมีแผล ของเอซร่าจะเป็นแผลแบบ super swollen แล้วสีผิวเขาก็จะเหมือนถ้าจับไปตากแดดอีกนิดเดียวก็คงจะไหม้
ส่วนเล็บของเอซร่า (ถ้าใครจำได้เรื่องเล็บอักเสบหนองพุ่งของเรา) เอซร่าได้เคยเล็บหลุดมาหมดแล้วทุกนิ้ว!!

สมัยเอซร่าเป็นเด็ก อายุ 4-5 ขวบ ก็เล่นกับญาติ อายุ 7 ขวบ คุณญาติก็มีเพื่อน 7 ขวบเหมือนกัน ซึ่งเพื่อน7ขวบเนี่ย เป็นเด็กโรคประสาทคือ ต้องกินยา เพื่อให้เคมีในสมองมันสมดุล ไม่งั้นก็จะเป็นบ้า พอดี๊ พอดี วันที่เล่นกัน เด็กคนนี้ไม่ได้กินยาเลย และสองคนนี้ก็เอาเด็กน้อยเอซร่าไปเล่นแต่งตัวตุ๊กตา คือเอซร่าก็เป็นตุ๊กตานั่นแหละ พอแต่งตัวเสร็จแล้วก็คงจะน่ารัก เพื่อนญาติ(หรือญาติเองมั้ง จำไม่ได้) ก็ แบบว่า อู๊ยยย น่ารักจังงงงงงเยยยย แล้วก็หยิกแก้ม แล้วเนื้อเอซร่าก็หลุดออกมา !!!

ตอนนั้น เพื่อนของญาติก็หน้าซีด และไปหลบอยู่ตรงมุมห้อง และไม่พูดอีกเลย จนผู้ใหญ่ต้องพาไปรักษาที่รพ.บ้าเลย จนหลังจากนั้น เขาก็ไม่หายคือ...ดีขึ้น แต่ว่า ดีขึ้นจาก เสตจที่แย่ ไม่ใช่ดีขึ้นจากเสตจก่อนหน้านี้ (เสตจก่อนที่จะแก้มหลุด เขาก็จะเป็นเด็กธรรมดาถ้ากินยา แต่หลังจากแก้มหลุด ก็บ้ามาก และดีขึ้นคือ บ้านิดๆ)
เอซร่าบอกว่า ยังรู้สึกว่า ส่วนนึงเป็นความผิดของเขาหรือเปล่า

เวลาเอซร่าใช้ของอะไรหรือว่าแต่งหน้าให้ลูกค้า แล้วไม่ได้ล้างออก จะมีผื่นขึ้นทันที บางทีก็ลามขึ้นไปที่แขน
ดังนั้นที่ร้านก็จะต้องมี แอลกอฮอล์ติดเอาไว้ให้เอซร่าล้าง
(เขาก็จะชอบล้างมือ ชอบสะอาด แต่ไม่ล้างหนักขนาด Howard Huge ในหนังนะ)

แต่ผิวอย่างเอซร่า ใช้face creamตัวนี้แล้ว ไม่แพ้
ดังนั้นเวลาเอซร่าสั่งของจากบริษัท(ตามโควต้าที่ได้ฟรี) เอซร่าจะใช้สั่ง face cream มาทีละสองสามกระปุกเลย
ความด่างๆของเขาก็น้อยลง(ก็ยังด่างอยู่ แต่มันก็ดูดีขึ้นเหมือนกัน แต่เขาก็ใช้มาหลายปุกแล้วน่ะนะ)

สำหรับคนที่อยู่เมืองหนาว เราก็แนะนำ face cream แต่ถ้าอยู่เมืองร้อนแบบไทย ก็อย่าใช้เลย เพราะคนไทยไม่ชอบหน้ามันๆ ไม่ชอบหน้าฉ่ำๆ เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองไทยเราก็ไม่ชอบหน้ามันๆ แต่มาอยู่ที่หนาวๆและด้วยอายุที่มากขึ้น ก็อยากให้หน้ามันๆชุ่มๆนั่นแหละ
ถ้าอยากลอง ก็ลอง face serum
แต่คิดว่าที่เมืองไทย คงจะมี face lotion ซึ่งออกมาสำหรับคนหน้ามันโดยเฉพาะ แต่ไหนๆถ้าจะลองหนึ่งอย่าง ก็ลอง face serum ไปเลยดีกว่า

บล็อคหน้าจะมารีวิวเรื่อง face cleanser โลชั่นล้างหน้าเห็ด
รวมถึงตัวอื่นๆประปรายในไลน์เห็ดสด


Create Date : 14 สิงหาคม 2550
Last Update : 14 สิงหาคม 2550 3:13:13 น. 8 comments
Counter : 853 Pageviews.

 
อืม ตอนซื้อครีมทาหน้าก็ลืมนึกถึงครีมอภิมหาเห็ดไปเลยแฮะ แต่งบไม่ถึงอยู่ดีอ่ะ ไว้หางานทำได้ก่อนละกัน เจอกันแน่ แต่มันไม่ช่วยเรื่องปรับสีผิวใช่มั้ย ตอนนี้พี่มีปัญหามากที่สุดก็หน้าตกกระนี่แหละ


โดย: Thai Wahine วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:2:39:16 น.  

 
อ่านแล้วกลัวแทนเพื่อนแพรว ยังงี้ควรติดป้ายหรือใส่เสื้อ
เขียนว่าห้ามหยิกห้ามหยอกแรงๆเนาะ

ช่วงนี้พี่ไม่ได้ใช้ครีมเห็ดเพราะว่ามันเข้มข้นไป
หันไปใช้ครีมยี่ห้ออื่นพลางๆก่อนรอหนาวใหม่ค่อยงัดมาใช้ใหม่
แต่ตอนใช้ครั้งแรกนี่ก็ดีจริงๆ ที่ลอกๆข้างจมูก คืนเดียวหายเลย

อ่านรีวิวแล้วก็นึกได้ว่ามีแบบหยอดกินกะเค้าอยู่ขวด
รีบไปหยอดกินทันที กินไปได้ครึ่งขวดแล้ว ไม่รู้สึกถึง
ความเปลี่ยนแปลงใดๆ สงสัยจะช่วยไม่ขึ้น 55


โดย: BRo0Ke. วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:3:09:31 น.  

 
ชอบครีมเห็ดเวลาใช้ก่อนนอนแล้วตื่นมาหน้านุ่มจ๊ะ
แล้วกลิ่นจะเหมือนกับอะโรมาบางอย่างไปในตัวด้วย


โดย: Second impact วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:3:25:55 น.  

 
ว่าแต่ดร.เห็ดนี่ หน้าตาเค้าเป็นเช่นไรฤา เด้งดึ๋งแค่ไหน

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสนใจสกินแคร์พวกนี้เท่าไหร่เลย เปลืองนั่นเอง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ซื้อได้เยอะ เพราะซื้อที่ดิวตี้ฟรีเมื่อไหร่ก็ได้ ถูกอยู่แล้ว แถมเป็นลูกเรือยังได้ลดเพิ่มอีก ยิ่งถูกเหมือนได้เปล่าเข้าไปใหญ่ (เวอร์เข้าไป)

พอตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ตัวที่จำเป็นต้องใช้จริงๆน่ะ มีไม่กี่อัน เช่น ครีมทาหน้าไม่ให้แห้งตึงก็พอ อายครีม และครีมกันแดด เน้นเรื่องนอนให้พอ ถ้าได้นอนเต็มที่หน้าจะตึงๆ เต็มๆ อมชมพูขึ้นมาเอง โชคดีที่หน้าท๊นทน ไม่มีสิว แต่ดันมีกระ

ลองใช้ spot corrector มาหมดทุกยี่ห้อแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Clarins Lancome Biotherm ฯลฯ ไม่สะทกสะเทือนแม้แต่น้อย

เมื่อก่อนเซ็งนิดๆ แต่หลังๆพอเฉยๆกะมัน ช่างมัน รู้สึกว่ามันจะเริ่มจางลง แต่ก็ยังพอเห็นรางๆอยู่


โดย: เอสเจ~* วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:6:57:46 น.  

 
สนใจตัวนี้ตั้งกะออกโฆษณาหลายปีแล้ว แต่ว่าลืมไปสนิทเลยไปหาอื่นๆ มาทดสอบ วันนี้ได้มาอ่านแบบนี้แล้วทำให้อยากลองอีกค่ะ


โดย: ชฎาแหลม (ชฎาแหลม ) วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:10:13:01 น.  

 
พี่อ้อม - สำหรับพวกฝ้าๆกระๆ คิดว่าคงต้องใช้ติดต่อกันนานๆน่ะค่ะ (กรณีจากเอซร่า)

พี่บุก - ยังไม่เคยลองพวกกินๆนะ สมัยทำงานก็มีลูกค้ามาซื้อบ้าง มีไม่เยอะหรอก แต่คนที่ชอบก็ชอบจริงๆ หมดแล้วก็ซื้อ จะหน้าเดิมๆ (สงสัยจะอร่อยถูกใจ)

พี่แอน - พี่แอนไม่ต้องใช้ไรก็สวยง่ะค่ะ

คุณแก้ว - คุณแก้วก็เหมือนพี่แอน อิอิ

จริงๆช่วงที่เราป่วยแล้วไม่ได้ไปไหนเลย อยู่ในห้องตลอดเป็นเดือน กระก็จางลงนะคะ

คุณชฏาแหลม - ลองดูแล้วช่วยบอกด้วยนะคะ อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าใช้ในอากาศแบบเมืองไทยจะเป็นยังไง



โดย: Superfunkycalifragisexy วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:10:41:31 น.  

 
น่าลองจัง


โดย: None of it วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:13:55:39 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปชิมอาหารที่บ้านเรานะกั๊บ


โดย: fat_louie วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:15:58:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Superfunkycalifragisexy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Although I am an architect by trainning, I consider myself as a designer focusing on educational aspects and had joined many organizations and programmes.

My interests in education has been supported by my family. I hope to use my design ability to enhance the learning experience of people especially children.


Friends' blogs
[Add Superfunkycalifragisexy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.