|
|
*** ความเชื่อ ***
เราเป็นคนหนึ่งที่เชื่อใครได้ยากมากเราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆหรือน่าจะเป็นมาตั้งแต่ได้เรียนหนังสือวิชาศีลธรรมสมัยเรียนชั้นประถม และมีเรื่องหลักกาลามสูตร ว่าด้วยอย่าเพิ่งเชื่อ 10 อย่าง
ตั้งแต่นั้นมาเรากลายเป็นคนเชื่อคนยาก ใครจะบอกใครจะกล่าวอะไรเราต้องตรองดูก่อน แม้ไม่ทุกครั้งแต่ก็เป็นส่วนมาก
อันนี้คือผลดีคือเราไม่เป็นคนที่ใครๆจะหลอกได้ง่ายๆ เมื่อโตขึ้นเราเป็นคนที่กลัวผีมากๆ การกลัวผีนี้เราว่าเป็นความไม่รู้เป็นความหลงอย่างหนึ่ง และเป็นทุกข์
พอไม่รู้ว่าผีคืออะไรก็กลัวไว้ก่อนที่สุดของความกลัวของคนเราคือความตาย เพราะกลัวตายเลยกลัวผีจะมาหักคอหรือผีจะมาหลอก เรากลัวผีมากขนาดลูกของตัวเองแท้ๆเรายังกลัว กลัวจนไม่กล้าอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว
จนกระทั่งวันหนึ่งเราไม่ไหวแล้วบอกกับตัวเองว่าต้องมีวิธีอะไรสักอย่างที่ทำให้ความกลัวหมดไปเราเดินไปที่แผงขายหนังสือหน้าบ้านและเราได้พบพระพุทธทาสทางหนังสือ
ท่านพระพุทธทาสเขียนวิธีขจัดความกลัวเอาไว้ละเอียดมาก ตั้งแต่เราได้พบพระพุทธทาส ความกลัวผีของเราก็หายไปจนบัดนี้ รวมทั้งความกลัวด้านอื่นๆด้วย เราได้อ่านหนังสือของพระพุทธทาสหลายเล่ม เรามีความศรัทธาพระพุทธทาสมาก
เมื่อก่อนชีวิตของเราเต็มได้ด้วยความทุกข์ เราเป็นคนคิดมาก และค่อนข้างละเอียดอ่อน คนอื่นเค้าไม่ค่อยคิดแต่เรากลับเก็บมาคิดและเป็นทุกข์ซะมากมาย
เมื่อเราได้พบพระพุทธทาสเราก็ได้พบพระพุทธเจ้าด้วย เพราะพระพุทธเจ้าทรงบอกว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
เมื่อก่อนเราเป็นคนเจ้าทุกข์ แต่พอมาศึกษาคำสอนของพระพุทธทาส ความเป็นคนเจ้าทุกข์ของเราก็ลดน้อยลงไป จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เรามีความทุกข์ไม่มากแล้ว และหากเมื่อไหร่เรามีความทุกข์ เราก็รีบขจัดมันออกไปอย่างเร็ว พอไม่นานมันก็จางคลายไป
เราชอบฟังพระเทศมาก เกือบทุกครั้งที่เราขับรถ เราจะเปิดฟังพระเทศนาธรรมในรถ เราฟังหลวงพ่อสนองท่านเทศนาธรรมเราชอบฟังมาก ทุกครั้งที่เราได้ฟังธรรมจิตใจเราผ่องใสมากๆ พอเราไปอ่านพระไตรปิฎกเราจึงเข้าใจว่าทำไมเราจึงเป็นเช่นนั้น
คนเรามีความคิดและชีวิตเป็นของตัวเองหลากหลายมาก ทุกคนมีพื้นฐานชีวิตไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่คนเราจะเชื่อใครหรือไม่เชื่อใคร คือความศรัทธา
ใครจะศรัทธาใครหรือไม่ศรัทธาใครก็แล้วแต่บุคคลนั้นจะมีความคิดเช่นไรเป็นสิทธิและเสรีภาพของบุคคลนั้นไม่มีใครว่า
สำหรับเรา เราเชื่อพระพุทธเจ้า เราเชื่อพระพุทธทาสเพราะเราเทียบเคียงกับชีวิตของเราเอง เราไม่เทียบเคียงกับคนอื่นและไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น
เมื่อเรามีทุกข์แล้วมีคนมาบอกว่า ให้ทำแบบนี้แบบนั้นแล้วความทุกข์จะหมดไป เมื่อเรามีความศรัทธามีความเชื่อเราจึงปฏิบัติตาม เมื่อปฏิบัติตามแล้ว ความทุกข์ของเราหมดไปจริงๆ หมดไปแบบน่าอัศจรรย์จริงๆ
ใครจะพูดใครจะว่าอย่างไรเราไม่สนใจทั้งนั้น เพราะเราปฏิบัติเอง รู้เองเห็นเอง เข้าใจเอง
และเวลาเรามีความทุกข์เวลาเราน้ำตานองหน้าไม่มีใครมาช่วยเราได้ แต่คนที่ช่วยเราได้คือพระพุทธเจ้าและพระพุทธทาส และตอนนี้ก็มีหลวงพ่อสนองอีกหนึ่งท่าน
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรถูกทุกอย่าง และไม่มีอะไรผิดทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีวิธีเลือกเฟ้นเอาสิ่งต่างๆมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง และเมื่อตัวเองได้รับประโยชน์จึงมีการเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นๆด้วย
พระพุทธเจ้าบรรลุธรรมอันประเสริฐ เมื่อพระองค์ท่านตรัสรู้แล้วหมดทุกข์แล้วพระองค์ท่านก็เมตตาเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นหมดทุกข์ด้วย
มีพระพุทธ ก็มีพระธรรมคำสอน และมีพระสงฆ์ ผู้รับคำสอนมาปฏิบัติจนหมดทุกข์ พระสงฆ์เมื่อหมดทุกข์แล้วก็เผื่อแผ่ให้ผู้อื่นหมดทุกข์ตามไปด้วย องค์พระรัตนตรัย จึงเกิดขึ้นบนโลกนี้
พระพุทธทาส และหลวงพ่อสนองแห่งวัดสังฆทาน ก็เป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในหลายๆแสนองค์หรือมากกว่าบนโลกนี้ ที่เมตตาช่วยให้ชาวโลกมีความทุกข์หมดไป สิ้นเชิง หรือลดน้อยลงไปถึงน้อยมากๆ
เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับความเมตตาจากพระพุทธทาส และหลวงพ่อสนอง แห่งวัดสังฆทาน....
| Create Date : 19 ธันวาคม 2555 |
| Last Update : 20 ธันวาคม 2555 14:29:25 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 835 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
นามแฝง ชื่อ รักดี
ชอบดอกไม้ รักหมา
ไม่รังเกียจแมว
ไม่อาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
อยู่กับปัจจุบัน
และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ไม่กังวลหรือเป็นทุกข์
กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [