Group Blog
 
All blogs
 
SuperJunior Idol World ดราม่า เคล้าน้ำตา ฮาเล็ด กับละคร Goong T



ตั้งใจว่าสัปดาห์นี้ จะเขียนถึงรายการ Family Outing ที่ค้างคาใจมานาน แต่เมื่อหยิบ Super Junior Idol World ที่เพื่อนไรต์มาให้ออกเปิดดูเมื่อคืนก่อนแล้ว อดไม่ได้จริงๆ ที่จะปล่อยข้ามไป ไม่ว่ายังไงต้องเขียนถึงให้ได้

Super Junior เป็นอีกหนึ่งกลุ่มศิลปินบอยแบนด์เกาหลีที่มีความชื่นชอบเป็นอย่างมาก ทั้งที่ไม่เคยฟังเพลงหรือเห็นภาพผลงานผ่านสายตา ไม่ว่าจะเป็นการร้อง การเต้น การแสดงคอนเสิร์ตหรือแม้แต่มิวสิควิดิโอ

เพราะความเข้าใจส่วนตัวคือ เมื่อฟังไม่รู้เรื่อง จะฟังไปไย ?

ก่อนหน้านั้นเคยได้ยินชื่อวงมานานเพราะมีเพื่อนที่ชอบ Super Junior เอามากๆ แม้จะถูกหยิกแกมหยอกว่า วัยไม่เอื้ออำนวย หล่อนก็หาสนใจไม่ เพราะถือคติ "จงอย่าได้แคร์" ตอนนั้นจึงเข้าใจเอาเองว่าในวงนี้มีแต่หนุ่มรุ่นกระเตาะหรือ ? โดยมีชื่อที่คุ้นหูคือ คิมคิบอม เชวีวอน และ คิมฮีชอล

เพิ่งมารู้จักหน้าตาคนเหล่านี้ก็เมื่อตอนเริ่มดู รายการ X man อีกเหมือนกัน

ยอมรับว่า เชวีวอน และคิมคิมบอม เป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลามาก แต่ก็เฉยๆ เพราะคนหล่อก็ใช่ว่าจะเข้าตากรรมการเสมอไป

แต่มีอยู่ 2 คนที่ดึงดูดความสนใจ



หนึ่งในนั้นจะเป็นใครที่ไหนถ้าไม่ใช่ "ดอกไม้งามแห่ง SJ" เขาก็คือ คิมฮีชอล นั่นเอง ปกติผู้หญิงจะประทับใจผู้ชายที่ตรงไหน ความน่ารัก ความหล่อ ความเท่ห์ ความมาดแมน ? คิมฮีชอล อยู่เหนือความคาดหมายทั้งปวง ผู้ชายคนนี้สวยเกินไปที่จะดูน่าหลงใหลแบบชายในฝัน แต่เพราะความสุดแสบเกินคาดคิดและความฮาเกินคาดหวังของเขานั่นเอง ที่ทำให้ประทับใจและกลายเป็นสุดโปรดในวง SJ


ส่วนอีกคน คือ อีฮยอกแจ หรือ อึนฮยอก หน้าขาวๆ ปากแดงๆ แก้มตอบๆ ตัวผอมๆ ของเขาคนนี้ ช่างไปละม้ายคล้ายคลึงกับ "โยสุเกะ คุโบซึกะ" King of G-boys หัวหน้าแก๊งนังเลงข้างถนนจากซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง IWGP ไม่ถึงกับเหมือนมากซะทีเดียว แต่เห็นหน้าอึนฮยอกทีไรเป็นต้องนึกถึงโยสุเกะ หน้าตาเหมาะเป็นพี่น้องกันมาก

SJ มีตั้ง 13 คน แต่ชอบแค่ 2 คน มันไม่เป็นการดูถูกวงบอยแบนด์ชื่อดังระดับแถวหน้าของเอเชียไปหน่อยเหรอ ?

หากจะมีใครคิดแบบนี้ ต้องบอกว่า เดี๋ยวสิคะ .. ก็ยังไม่รู้จักแต่ละคนมากนัก แถมบางครั้งคราวที่เห็นบางคน ท่านก็ดันยืนอยู่บนเวทีเดียวกับที่มีดาวเด่นดงบังชินกิอย่าง ยูโน ยุนโฮ แสงออร่าเลยเลือนลางไปนิดและมองไม่ค่อยเห็น จนกระทั่งเริ่มดูรายการที่มีเพียงสมาชิก SJ กันเอง และดูด้วยความสุขเป็นพิเศษเพราะได้มาจากการหยิบยืมซึ่ง ฟรีล้วนๆ

เป็นเรื่องอีกแล้วทีนี้

เพราะชอบทุกคน!

โอวพระเจ้า อานุภาพแห่งพิษบอยแบนด์ช่างรุนแรงนัก



ชอบเข้าไปไหวได้ยังไงตั้ง 13 คน คงเป็นเพราะการทำรายการเกมโชว์วาไรตี้ต่างๆ ของทีวีเกาหลีด้วย เพราะดูทีไรมักจะเห็นได้ว่ามันเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านดีๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยโปรโมตศิลปินของชาติได้อย่างดีเยี่ยม (ใช้ภาษาเรียบร้อยมากไปมั้ยเนี่ย)

SJ มีดีที่ตรงไหน ความเป็นบอยด์แบนด์ที่มีแต่คนหล่อๆ หน้าตาดีๆ ก็งั้นๆ แหละ เพราะขึ้นชื่อว่านักร้องวัยรุ่น หายากนะที่ไม่หล่อไม่สวยใช้ความสามารถอย่างเดียว ยิ่งถ้ารวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนถึงไม่ใช่ทุกคน แต่อย่างน้อยตั้องมีสักคนสองคนที่หล่อ

โดยส่วนตัวแล้ว

ความดีความชอบของ SJ ข้อที่ 1 การเป็น "เจ้าแห่งความฮา" ความฮาเป็นหลัก ความน่ารักเป็นรอง เพราะความฮานี่แหละที่ทำให้สมาชิก SJ ไม่ว่าจะหล่อไม่หล่อ สูงต่ำ อ้วนผอม ดูแล้วน่ารักกันไปหมดทุกๆ คน ความตลกของคนหนึ่งจะส่งเสริมความตลกไปยังอีกคนหนึ่ง จนกลายเป็นหมู่คณะของความฮา โดยเฉพาะฮีชอลที่ฮาสุดโต่งและสามารถเฉลี่ยความฮาของเขาไปยังน้องๆ ในวงได้อย่างทั่วถึง การออกรายการแต่ละครั้งของ SJ จึงไม่เคยขาดเสียงหัวเราะสนุกสนาน

สามช่าในรายการชิงร้อยชิงร้าน ไอ้วอก ไอ้ไหล ไอ้พี่ยม พี่อู๊ด ไอ้จวบ เจ๊มินท์ และนังกอล์ฟในละครเป็นต่อ เคยช่วยทำให้หายเครียดเพราะความฮาได้แบบไหน SJ ก็ช่วยได้ไม่น้อยไปกว่ากัน ต่อให้เป็นตลกคณะชวนชื่น เชิญยิ้ม หรือคณะไหน ขอรับรองว่าตลกคณะ SJ สู้ได้ไม่มีแพ้



SUPER JONIOR IDOL WORLD
( มีทั้งหมด 8 Episodes)


หนึ่งในรายการที่ SJ ทั้ง 6 คน พากันฮาได้แหลกลาญ
(คังอิน / ฮีชอล / อีทึก / ชินดง / ซองมิน / อึนฮยอก - กลุ่ม Super Junior T)

มีคิมนายอง เป็น MC ผู้ดำเนินรายการ

เริ่มต้นเล่นกันเบาะๆ ด้วยเกมเบาๆ



เกมพูดคำผวน
จะมีเพลง มีท่า และการเอ่ยคำ เกมนี้ต้องตั้งสติและมีสมาธิในการเล่นให้ดีๆ เครื่องมือลงโทษสำหรับคนพลาดคือเทปกาวสีดำที่จะถูกนำมาทำศัลยกรรมบนใบหน้า บวกกับค้อนพลาสติกที่ใช้ทุบหัว เกมเด็กๆ แบบนี้มันยากที่จะบอกว่าฮาแบบไหน เอาเป็นว่ามันฮาก็แล้วกัน ใครแพ้มากที่สุดจะมีการลงโทษพิเศษซึ่งต่อให้หน้าหนาขนาดไหนก็ต้องรู้จักกับคำว่าอายกันบ้างล่ะ

เกมพูดให้ไว
แต่ละคนจะได้กระดาษเนื้อความมาอ่าน จดจำ และออกมาพูดต่อหน้ากล้องให้ครบถ้วนกระบวนความ ทั้ง 6 คน ได้ข้อความอย่างเดียวกัน ดังนั้นตอนที่เพื่อนคนอื่นออกไปอ่านก็สามารถเก็บเอาส่วนที่เพื่อนๆ จดจำ มาปะติดปะต่อกันได้ แต่อีกนั่นแหละ มันไม่ง่ายและมันก็ฮา โดยเฉพาะเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของสุดแสบคิมฮีซอล (ทำมันทุกวิถีทางสิน่า)

เกมนี้สำคัญอย่างไร
ใครชนะจะได้สิทธิ์ขาดในการเป็นผู้เลือกบทบาทการแสดงละครให้กับเพื่อนแต่ละคนและพบกับความฮาที่มากกว่าใน

Goong T

เมื่อ 6 หนุ่มไอดอลต้องแสดงละครดราม่า
ซองมิน : พระมเหสีฮีบิน
อึนฮยอก : องค์ชายเกเร
อีทึก : องค์ชายแสนดี
ชินดง : เพื่อนองค์ชายอึนฮยอก
คังอิน : ขันที
ฮีชอล : คุณหนู ฮวางจินี่


ขอยืนยันว่ามันเป็นละครดราม่าค่ะ และขอนั่งยันนอนยันว่ามันขำโฮกมาก ดูไปก็นั่งขำ อะฮะฮ่า อะฮะฮ่า อยู่ตลอด ขอชมชองมินที่เล่นเป็นพระมเหสีตัวร้ายได้เก่งมาก คังอินขันทีเจ้าเล่ห์ผู้น่ารัก และสุดยอดดาราตุ๊กตาทอง คิมฮีชอล ผู้รับบทคุณหนูฮวางจินี่



แม้ว่าใครๆ จะเห็นฮีชอลเป็นดอกไม้งาม เป็นพี่สาวใหญ่ของวง SJ เพราะไม่ว่าจะหน้าตา หรือลีลาท่าทาง ช่างดูเหมาะเจาะกับการเป็นผู้หญิง ดูหญิงๆ อยู่เสมอ ถึงจะยอมรับว่าฮีชอลเป็นคนประหลาดสองเพศคือมีทั้งบุคลิกผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในตัวเอง เวลาจะชมแต่ละทีไม่รู้จะเอายังไงดีกับคำว่า "หล่อ" หรือ "สวย" แต่สำหรับเราแล้วไม่ว่าดูยังไงๆ ก็เห็นฮีชอลเป็นผู้ชายอยู่ตลอดเวลา แม้ยามแสดงบุคลิกหญิงๆ จะเนียนเมือนมีสปีชีส์ของสตรีเพศอยู่ในตัวเองมากแค่ไหน ในสายตาก็ยังเห็นฮีชอลเป็นผู้ชายที่สุดแสบอยู่นั่นเอง และก็เพราะในยามปกติฮีซอลไม่ได้ดูตุ้งติ้งเลยสักนิด ทำให้เวลาทำตัวเป็นผู้หญิงทีไร เป็นต้องรู้สึกหมั่นไส้อย่างสุดซึ้ง



การแสดงเป็นผู้หญิงสำหรับฮีชอลแล้วดูเหมือนมันจะง่ายแค่กระพริบตาราวกับว่ามันมีอยู่ในสายเลือด (เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้) แต่ใช่ว่าฮีชอลจะปลื้มถ้าต้องแสดงเป็นผู้หญิง ออกหน้าเซ็งทันทีเมื่อได้บทคุณหนูจินี่ และพยายามอย่างเหลือเกินเพื่อให้มีการเปลี่ยนบทกันเกิดขึ้น แต่ไม่สำเร็จ (ถามหน่อยเถอะคุณฮีชอล เกี่ยงทำไมคะ คุณเกี่ยงทำไม หน้าตาคุณนี่เหมาะจะเป็นพระเอกหรือ ? )

ทำให้นึกถึงฮีชอลใน SJ Full House เพราะเขาสุดแสนจะมีความสุขเมื่อได้รับบทบาทเป็น "พระราชา"

ละครนี้มีชื่อเรื่องว่า Goong T เป็นการถ่ายทำเหมือนอย่างละครทั่วไปค่ะ ไม่ใช่การแสดงสดบนเวที เป็นละครดราม่าเคล้าน้ำตาที่ฮาได้ใจ เรื่องราวก็การแย่งชิงบัลลังค์ความรักและอำนาจ ของสององค์ชาย หนึ่งคุณหนู หนึ่งพระมารดา และไสยศาสตร์มนต์ดำ (เอ่อ .. มันก็นะ ขอเขียนคูณความโอเว่อร์ใส่เข้าไปนิดนึง)


เกมจับโกหก

เริ่มต้นด้วยการแบ่งทีม ในโคล่า 6 แก้วนี้ที่ทุกคนต้องดื่มกันคนละแก้ว จะมีอยู่ 3 แก้วเป็นโคล่าผสมซีอิ้วขาวและน้ำส้มสายชู MC คิมนายอง ให้ผู้อาวุโสได้เลือกแก้วก่อน 3 ผู้อาวุโส อีทึก คังอิน ฮีซอล ดี๊ด๊าขึ้นมาทันที แต่สิทธิ์ของผู้สูงอายุก็ไม่ช่วยอะไรหรอก เพราะสีของน้ำทุกแก้วไม่แตกต่างกัน แบ่งทีมตามประเภทของน้ำที่ดื่ม 3 คนดื่มโคล่าจริง และอีก 3 ดื่มโคล่าผสม เล่นกันตลกค่ะแทบดูไม่ออกว่าใครกันแน่ที่ดื่มโคล่าผสมเข้าไป

เกมจับโกหกเริ่มขึ้นแล้ว กติกาคือ ตั้งคำถาม และให้คำตอบ ฟังดูง่ายๆ แต่มันไม่ง่ายเพราะเจ้าเครื่องจับเท็จที่เป็นกรรมการหลักของเกมนี้แหละ ทีมไหนแพ้จะต้องถูกลงโทษ

ฮีชอล คังอิน อีทึก อยู่ทีมเดียวกัน ในท่ามกลางสมาชิกวง SJ สามหนุ่มนี้เป็นผู้ได้ชื่อว่า
“มีความสามารถในการใช้ปากทำให้คนอื่นสยบได้” (เอ่อ .. นั่นถือเป็นความสามารถพิเศษหรือคะ)

จะกล่าวถึงเฉพาะคำถามนะคะ เพราะคำตอบเป็นความฮาที่ยากจะอธิบายให้เห็นภาพได้

คังอิน VS ชินดง



คังอิน : ท่ามกลางสาวๆ ที่นายไปเดทมาด้วยก่อนหน้านี้ มีคนดังที่พวกเรารู้จักบ้างมั้ย
คังอิน : หลังจากนายเดบิวต์ นายเคยขอเบอร์สาวๆ แล้วโดนปฏิเสธบ้างไหม
แต่ละคำถามของคังอิน จัดการ ชินดงได้อยู่หมัด

คังอิน VS อึนฮยอก (อะฮ้า อึนฮยอกไม่ใช่หมูๆ)


อีกอย่าง "ผมรู้เรื่องพี่คังอินมากอยู่นะ"
อีกอย่าง "ผมจะไม่ทำให้คนดูผิดหวัง"
และอีกอย่าง "ผมไม่กลัวพี่คังอินหรอก" (ต่อให้มีวาจาสยบมารก็เถอะ)

คังอิน : ในวงของเรา ใครคือสมาชิก 3 คนแรก ที่นายคิดว่าดังที่สุด
อึนฮยอก : ขึ้นอยู่กับว่า เกี่ยวกับเรื่องอะไร (เป็นคำถาที่ทำให้อึนฮยอกระวังตัวแจ ..)
คังอิน : เอาแบบรวม ๆ
(คำถามที่ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งแบบนี้ มันตอบยากนะพี่คังอิน ไม่ว่าพูดความจริงหรือโกหก ผมก็ลำบากใจ)
ถึงคราวอึนฮยอกตั้งคำถามบ้าง
อึนฮยอก : พี่คังอิน พี่ชอบสาวอกโตใช่ไหม .... (ฮ่าๆ สะใจโก๋ )
มีคำถาม ต้องมีคำตอบ มีคนรอฟัง และมีเครื่องจับเท็จ และงานนี้มีเหงื่อตกกันบ้างล่ะ (ไม่ว่าพี่จะตอบยังไง พวกเราก็รู้ความจริงได้จากเครื่องจับเท็จอยู่ดีนั่นแหละ)
คังอิน : ทั้งก่อนและหลังเดบิวต์นายเคยโหลดหนังโป๊แล้วเก็บไว้ใน PMP และนำติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยใช่ไหม
ปากสยบมารของคังอินทำงานอีกครั้ง อึนฮยอกคะจะตอบแบบไหนเครื่องจับเท็จมันก็ทำงานอยู่ งานนี้ไม่รอด
คังอิน : ใน 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือนผ่านมานี้ นายมีแฟนรึเปล่า ว่าไง นายมีแฟนหรือเปล่าเดือนนี้
อึนฮยอก : พี่คังอิน พี่เคยคิดจะแย่งตำแหน่งหัวหน้าวงไปจากพี่อีทึกใช่ไหม
บอกแล้ว อึนฮยอกไม่ใช่หมูในอวย เพราะคำถามนี้ ทำเอาชองมินและชินดง ขำร่วงลงมาจากที่นั่ง

อีทึก VS อึนฮยอก



อีทึก : ท่ามกลางเหล่าสมาชิก SJ ของเราที่มีกันมากกว่า 2 คน ใครคือคนที่นายไม่สามารถอยู่ร่วมได้
อีทึก : นายมีเบอร์ของสาวๆ คนดังเยอะเลย ตั้งแต่นายเป็นดีเจ ว่าแต่มีคนไหนที่นายชอบจริงๆ บ้าง
หลังจากที่ทำตัวเป็นพิธีกรซะเอง และไม่มีใครอีกแล้วที่จะสนุกสนานกับการเฝ้าดูการทำงานของเครื่องจับเท็จไปมากกว่าฮีชอล เพราะทำหน้าที่จับตาดูเครื่องในระยะประชิดพร้อมกับพากษ์เสียงให้กับการทำงานของมันด้วย ขำลั่น ส่งเสียงฮ่าฮ่าฮ่าดังอยู่ตลอด ถึงคราวตัวเองบ้างล่ะทีนี้

ฮีชอล VS ซองมิน



ซองมิน : มีสาวคนดังเคยให้เบอร์พี่บ้างไหม
ฮีชอล : นายไม่พอใจ อีทึก ฮีชอล และคังอินเลย (อ๊ะ .. นี่กำลังล้วงลึกความรู้สึกในใจของชองมินเหรอ ทำไมเขาไม่พอใจพี่ๆ ล่ะ)
ซองมิน : พี่ชอบผู้หญิงรวยๆ ที่มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน (คำถามนี้ ช่างเป็นการแก้แค้นอันสาสมกับคุณพี่สุดแสบ)
การทำงานของเครื่องจับเท็จ ทำให้เกมนี้ฮาได้สนุกมากเลยค่ะ

เบื้องหลังของการถ่ายทำ Goong T

ชองมินกับบทร้องไห้สะเทือนใจในตอนจบ ( ขอยืนยันว่ามันเป็นดราม่า ที่ชองมินต้องเสียน้ำตามากมาย แต่เราดูแล้วขำมาก) เพราะชองมินอินจัดเกินไป เขาจึงร้องไห้ไม่หยุดแม้ว่าผู้กำกับจะสั่ง cut และองค์ชายอีทึกในอ้อมกอดก็ลุกไปไหนต่อไหนแล้ว ทีมงานพยายามจะช่วยให้ชองมินหยุดร้องไห้ นึกภาพนะคะ ชองมินให้ชุดพระมเหสีย้อนยุควิกผมอันโตกับอาการร้องไห้อย่างมากมาย ทีมงานพยายามเข้ามาช่วย
"เอาวิกออกก่อนดีมั้ย เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพระมเหสีฮีบิน"
(ชองมินเอ๊ย อินอะไรขนาดนั้น ความจริงแล้วมันขำมากมายค่ะคุณน้อง)


เบื้องหลังการเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับอึนฮยอก
ดูแล้วจะเข้าใจหัวอกของน้องๆ SJ เพราะพี่ๆ แต่ละคนในวงไม่ว่าจะเป็น คังอิน ฮีชอล อีทึก ... พวกเขาช่างเป็นพี่ที่ ................ เฮ้อ ในชีวิตจริงของ SJ จะเป็นที่พึ่งพาให้น้องๆ ได้บ้างมั้ยเนี่ย ดูแล้วให้นึกสงสัย ไม่รู้ใครเป็นพี่เป็นน้องกันแน่ บุคลิกของโซนพี่กับโซนน้องใน SJ มันช่างกลับตาลปัดกันเสียจริง (โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าใน SJ 13 คน คิบอม ผู้มีอายุอ่อนเป็นอันดับ 12 นั่นแหละ ที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุดในวง)

ใส่สเก็ตเก็บรูปสาว

ทุกคนต้องใส่รองเท้าสเก็ต เพื่อเก็บรูปนักร้องนักแสดงหญิงที่เกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นเวทีผู้ชนะคือคนเก็บรูปได้มากที่สุด
ค่าของชัยชนะคือ เขาจะเป็นองค์ประธานในการเล่นเกมชิงเงินรางวัล นั่นคือมีอำนาจ (นิดหน่อย) ในการตัดสินใจ



เกมที่ว่านี้คือ

เกมใช่ หรือ ไม่ใช่ อยู่ หรือ ไป

มีสาวงาม 10 คน กับกระเป๋าสีเหลี่ยมที่ถืออยู่ 10 ใบ ในกระเป๋าแต่ละใบมีจำนวนเงินตั้งแต่ 10 วอน ไปจนถึง 1 ล้านวอน SJ จะช่วยกันเลือกกระเป๋าได้เพียง 1 ใบ และเลือกเปิดใบอื่นทิ้งไปเรื่อยๆ เพราะกระเป๋าที่เลือกไว้ยังสามารถขอสับเปลี่ยนกับใบอื่นๆ ได้ การเปิดกระเป๋าแต่ละใบก็เหมือนกับการเปิดเงินทิ้ง ค่าของเงินที่เปิดทิ้งไป มันบ่งบอกถึงค่าของเงินในกระเป๋าที่เลือกไว้ เช่น ถ้า 200,000 วอน 500,000 วอน หรือ 50,000 วอน เปิดไปแล้ว ที่ถืออยู่อาจจะเป็น 1,000,000 หรือ 100 วอน มันเป็นไปได้ เกมนี้จึงลุ้นกันสนุกค่ะ



ยังไม่จบที่เงินรางวัล

เพราะความสนุกสุดยอดของ Super Junior รdol world จะเกิดขึ้นที่นี่
ในสถานที่หนึ่งของการถ่ายทำ และความเป็น Reality



ชวนเพื่อนมานวดกันเถอะ

ไม่มี MC ค่ะ คังอินเป็นผู้ดำเนินรายการเองในครั้งนี้

เกมโทรศัพท์หาเพื่อนสมาชิกแต่ละคนต้องโทรหาเพื่อนของตัวเอง และขอให้เพื่อนมาหา มันจึงเป็นเรื่องของการขอร้องต่อเพื่อน "เดี๋ยวนี้ เวลานี้ ณ ที่แห่งนี้"
เงื่อนไขคือ ห้ามบอกว่าชวนมานวด และห้ามบอกว่ากำลังถ่ายทำรายการ
แพ้ชนะมันมีผลอย่างไร ?
ก็ถ้าเพื่อนไม่มา .... นั่นมันจะหมายความว่ายังไงล่ะ ?
เกมนี้วัดใจเพื่อน ถ้าไม่มีใครโผล่มา พออนุมานได้ว่าเป็นคนไม่มีใครคบ (และมันกระทบกระเทือนถึงภาพลักษณ์ด้วยX

เกมนี้ทำให้ฮีชอลเกิดอาการ "อารมณ์เสีย" เพราะบ้านเกิดของฮีชอลอยู่ คังวอนโด เมืองชนบทที่ห่างไกลจากโซลมากนัก เขาไม่มีเพื่อนสนิทมากนักที่นี่ ไม่สนิทพอจะขอร้องให้ออกมาหาในยามดึกดื่นขณะนี้ (ขณะถ่ายทำเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว)

หรือพูดตรงๆ ตามคำบอกของฮีซอลเองคือ "ฉันเป็นคนไม่มีเพื่อน"
ชินดงพร่ำรำพันถึงความยากของเกม เพราะบ้านเกิดเขาอยู่อิลซาล (ขออภัยถ้าสะกดไม่ถูก) มันไกลจากที่นี่นะ ถ้าเพื่อนจะมาหาอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง คังอินให้ความเห็นว่าไม่นานขนาดนั้นจากอิลซาลมาที่นี้เต็มที่ก็ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งหรืออาจเร็วได้กว่านั้น แต่ชินดงยังคงบ่นอยู่นั่นเอง แล้วจะไม่ให้คนคังวอนโดอารมณ์เสียได้ยังไงกัน เกมนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฉันไม่มีเพื่อนที่นี่นะ

เราจะได้เห็น ลูกล่อลูกชน อันชวนตลกขบขันของเหล่าสมาชิก SJ ทั้ง 5 คน (อีทึกไม่ได้ร่วมในการถ่ายทำนี้) พวกเขาจะใช้วิธีการและคำพูดแบบไหนเพื่อล่อหลอกเพื่อนของตัวเองให้มาหาได้ อย่าลืมว่าเงื่อนไขคือ "ที่นี่ เดี๋ยวนี้ เวลานี้"

ไล่การโทรทีละคน แต่ระหว่างที่คนอื่นกำลังโทรดูเหมือนอึนฮยอกกับฮีชอลจะใช้กลโกง แอบส่ง Message ยุกยิกกันใหญ่ เพราะถ้าให้เพื่อนรู้ว่าขอการช่วยเหลือครั้งนี้เพื่ออะไร มันอาจจะง่ายเข้า ( ฉันกำลังถ่ายทำรายการ ได้โปรดเถอะ ช่วยชีวิตฉันด้วย)



พวกเขาตลกมากจริงๆ แต่ตลกที่สุดคงหนีไม่พ้นคนคังวอนโด

ฮีซอลดูจะอับจนสิ้นหนทางกับเกมๆ นี้ เขาต้องโทรหาเพื่อนเป็นลำดับสุดท้ายหลังจากที่ทุกคนโทรและฟังดูจะหลอกชวนเพื่อนมาได้สำเร็จ (น่าภาคภูมิใจมาก) ทุกคนกำลังจดจ้องขณะที่เขาโทร

แต่แล้วสายตาของเพื่อนทุกคนก็หันไปจับจ้องที่จอภาพ .. มีอะไรเกิดขึ้นในนั้น ?

หนึ่งในทีมงานรีบวิ่งหลบไปข้างหลัง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เล่ห์เหลี่ยมของฮีชอลมีมากกว่าส่ง message ภาพจับที่ชายคนนั้น เขาคือผู้จัดการของ SJ ที่รับโทรศัพท์ "ฮีชอล วางสายเดี๋ยวนี้นะ!" และเขาก็ปิดประตูหนีออกไป

ฮ่าๆๆ แสบเหลือเกินจริงๆ ฮีชอลคนนี้ ยังไม่ทันจะแอบขอร้องพี่ทีมงานช่วยเป็นเพื่อนกำมะลอให้หน่อย (ถึงยังไงคนทางบ้านก็ไม่รู้จักอยู่แล้ว) แต่พี่เค้าดันอยู่ในวงจรของกล้อง ความลับเปิดเผย และถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ฮีซอลส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร

"พี่ อย่าเพิ่งไป พี่มินโซง ช่วยผมด้วยพี่!"

(ฮีซอลคะ คุณเป็นคนสุดแสบที่ตลกมากจริงๆ ให้ตายเหอะ)



เมื่อไม่ได้ผล ฮีชอลต้องพยายามต่อไป เขาโทรหาเพื่อนคนหนึ่ง
เธอเป็นผู้หญิงและน่าจะเป็นคนในวงการด้วยกัน (จอนเฮบิน)

ฮีชอล : คุณ คุณต้องมาช่วยผมเดี๋ยวนี้นะ (อย่าเพิ่งร้องไห้นะฮีชอล)
ผมไม่เคยขอร้องคุณแบบนี้มาก่อนเลยนะ ( มันช่างเป็นช่วงเวลาที่กดดันสำหรับเขาจริงๆ)
เฮบิน : ฉันอายที่จะไปพบคุณในที่ๆ มีผู้ชายอยู่กันเยอะๆ
ฮีชอล : ที่นี่ผมก็อายเหมือนกันนะคุณ ผมอายมากด้วย
แต่เธอก็ปฏิเสธ
ฮีชอล : คุณไม่ต้องการแบบนี้ ถ้าคุณมาหาผมตอนนี้ภาพลักษณ์ของผมก็จะกลับมาเป็นปกติ
เฮบิน : การเป็นอยู่รวมกันของเด็กๆ ฉันไม่คุ้น
ความเศร้าขั้นสูงสุดของฮีชอล แล้ว SJ เป็นเด็กแบบไหนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะอยู่ด้วย

เฮบิน : ทำไมเธอไม่โทรไปขอร้องคนอื่นแทน ลองโทรหาแชฮยอนสิ
แชฮยอนไหนกัน ใช่ ลีแชฮยอนหรือเปล่า?
ฮีชอล : ผมโทรหาพี่แชฮยอนแล้ว แต่ติดต่อเธอไม่ได้ ผมโทรหาคนอื่นๆแล้วด้วย ติดต่อใครไม่ได้เลย ได้โปรดเถอะ คุณต้องมานะ คุณเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมมี
เฮบิน : คุณก็ .. มันไม่ใช่อย่างนั้น
ลางสังหรณ์แห่งการสูญเสีย
ฮีชอล : อย่าเพิ่งวางสายนะ คุณไม่สามารถทำอะไรที่ไม่สุภาพในตอนนี้ได้
เผลอหลุดแล้วฮีชอล พูดแบบนั้นเธอก็จับได้น่ะสิ

เฮบิน : ทำไม คุณอยู่ในรายการเหรอ
ฮีชอล : ไม่นะ ผมบอกคุณแล้วไงว่าไม่
แค่นั้นแหละเธอวางสายไปโดยไม่มีร่ำลา
มันเป็นคืนเหงาบนดาวเคราะห์ของคิมฮีชอล

จากนั้นในช่วงพักการถ่ายทำ ยังคงมีการโทรหาเพื่อนกันอยู่เพื่อจะหาคนที่มาเป็นแขกในคืนนี้

แค่โทรหาเพื่อนของตัวเอง มันเป็นเกมแค่เบาะๆ ความยากของจริงมันอยู่ตรงนี้
ระหว่างรอเพื่อนมาเป็นแขกร่วมรายการ พวกเขาจะเล่นแกล้งกัน

"เหยื่อ" จะต้องเป็นคนดังในวงการเท่านั้น คนคังวอนโด มีปัญหาอีกแล้ว

ฮีชอล : นี่พวกเราจะต้องโทรอีกเหรอ (ออกอาการหมดแรง ล้มพับ) พวกนายต้องการจะฉ่าฉันให้ตายใช่มั้ย ฉันไม่เอาด้วยแล้ว ฉันไม่เล่น ฉันไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว (แต่เกมมันต้องเป็นเกมค่ะฮีชอล ทำใจซะ)



เกมโทรศัพท์หาคนดัง

ทุกคนต้องโทรหาเพื่อนคนดังของตัวเอง เพื่อจะขอร้องในภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ เพื่อนต้องเชื่อฟังและตอบตกลงอย่างไม่มีเงื่อนไข จึงจะถือว่าสำเร็จ
คนล้มเหลวจะถูกเปิดเผยรูปสมัยก่อนเดบิวต์

พวกเขาเลือกหมายเลขนำโชคของตัวเอง เพื่อเสี่ยงทายเลือกภารกิจตามหมายเลขนั้น หลังจากเลือกหมายเลข ภารกิจที่เขียนไว้บนบอร์ดก็ถูกเปิดเผย เอ่อ ..แต่ละเรื่องที่ต้องขอให้เพื่อนทำ ความเห็นคือ ยอมให้เปิดเผยรูปเก่าๆ ก่อนเดบิวต์ไปเลยจะง่ายกว่ามั้ย?

เส้นสายโยงภารกิจของแต่ละหมายเลขถูกทำให้ลุ้นนิดนึง พวกเขาเห็นภารกิจที่ต้องทำ แต่ไม่ชัดเจนว่าตัวเองจะได้ภารกิจไหน ฮีชอลประกาศจุดยืน "ถ้าผมต้องขอให้เพื่อนเข้าร่วมการทดสอบการเข้ากันของไขกระดูก ผมจะไม่ทำ" (หนึ่งในภารกิจ ที่ดูจะยากที่สุด)



คังอิน กับภารกิจ ต้องมีเรื่องทะเลาะกับผู้หญิงของตัวเอง ช่วยแก้ตัวให้หน่อย

เขาโทรหารุ่นพี่ในวงการ (จองฮยอนคุน) เมื่อคนรับสายเห็นเป็นรุ่นน้องสนิทโทรมา ไม่รู้ว่ามีการถ่ายทำรายการ ภาษากันเอง และคำสบถจึงหลุดออกมาตามใจสะดวก คุยกับคังอินแต่มีเอ่ยพาดพิงถึงฮีชอล ที่กลั้นหัวเราะตัวงออยู่ไม่ห่างออกไป เรื่องการแสดงคังอินน้อยหน้าใครที่ไหน เรื่องการเป็น “เจ้าแห่งบทบาท” เขาก็หนึ่งในตองอู

คังอินต้องสร้างเรื่องให้รุ่นพี่ตอบตกลงจะคุยกับผู้หญิงของเขาให้ แล้วจะไปหาผู้หญิงที่ไหนล่ะ ชินดง ชินดง นายช่วยพี่หน่อย ชินดงรับโทรศัพท์มาคุย จะเล่นบทเป็นผู้หญิงเสียงหวานซะหน่อย แต่เพราะชินดงไม่เนียนพอ ความเลยแตก
"คุณเป็นใคร เสียงคุณใช่ผู้หญิงแน่เหรอ"
"คุณเป็นใครบอกมาเดี๋ยวนี้" ไปไม่รอดแล้ว ชินดงจำต้องแนะนำตัว
"พี่ครับ ผมชินดงนะครับ" “อะไรนะ ใครนะ” “ชินดงเองครับ”
"เอ้อชินดงเหรอ แล้วนี่มันยังไงกัน (พวกนายกำลังล้อเล่นกับพี่อยู่เหรอ)
"คังอินนายไปตายซะ นายไปตายซะ" โทรศัพท์ส่งกลับไปหาคังอิน

รุ่นพี่ : คังอิน นายอยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่
คังอิน : ผมขอโทษนะครับพี่ ความจริงแล้วพวกเรากำลังถ่ายรายการกันอยู่ และเมื่อกี๊ก็คือชินดงครับ

ตกใจ ตกใจ ถ่ายรายการอยู่เหรอ

รุ่นพี่ : ฉันทำอะไรลงไปบ้างเนี่ย ไม่นะ ฉันก็แค่สบถเอง
คังอิน : และนั่นมันจะทำให้ภาพพจน์ของพี่เปลี่ยนไปในวันพรุ่งนี้ (มีขู่)
รุ่นพี่ : ไม่มีทาง คนอย่างฉันไม่มีวันตายน้ำตื้นแค่นี้หรอก ฉันก็แค่กังวล ว่าทำไมไม่ด่านายให้มากกว่านี้ (ฮีชอลออกอาการ สะใจมาก)
แต่ทั้งที่อยากจะด่า รุ่นพี่ยังอดแสดงความห่วงใยออกมาไม่ได้
รุ่นพี่ : คังอิน นี่มันดึกมากแล้วนะ นายยังถ่ายรายการอยู่อีกเหรอ นายควรมีเวลาพักผ่อนบ้างนะ อย่าทำงานหนักมากเกินไป

เป็นน้ำใจและมิตรภาพต่างวัยที่น่ารัก ถือว่าคังอินทำภารกิจนี้สำเร็จด้วยดี




อึนฮยอก กับภารกิจเข้าตาจน ต้องการความช่วยเหลือ

ยืมเงิน 10 ล้านวอน มันดูยากไปนะ คังอินจึงปรึกษากับเพื่อนและผ่อนผันให้อึนฮยอกด้วยการลดจำนวนลงเหลือเพียง 5 ล้านวอน อึนฮยอกจะโทรหาใครดี เพื่อนๆ แนะนำ “จุนซูสิ โทรหาจุนซู” ( ซีอา จุนซู ดงบังชินกิ - เพื่อนสนิท) แต่จุนซูอยู่ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ ค่าโทรศัพท์ต้องแพงแน่เลย อึนฮยอกจึงตัดสินใจโทรหานักร้องสาว ลี โบรัม

โทรมา ตอนประมาณเที่ยงคืน ตีหนึ่ง แล้วบอกว่าขอยืมเงิน 5 ล้านวอน โบรัม ช็อค!

ฉันจะเอาที่ไหนมาให้นาย ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้ และฉันต้องทำเพื่ออะไร นายจะเอาเงินไปทำอะไร อึนฮยอกนึกหาเหตุผลไม่ออก จึงบอกโบรัมแต่เพียงว่า เขาเดือดร้อนและต้องการเงินจริงๆ นะ แต่จะเอาไปทำอะไรฉันบอกเธอไม่ได้ ( ยืมเงิน 5 ล้านวอนโดยไม่ยอมบอกเหตุผลความจำเป็นเนี่ยนะ อึนฮยอกคะ กล้าหาญมาก)

น้ำเสียงโบรัมบ่งบอกชัดว่าอึดอัดกับสถานการณ์นี้ เธอถูกเพื่อนในวงการขอยืมเงิน 5 ล้านวอนในกลางดึกของคืนวันหนึ่ง (ตลกมากเลย)

แต่เพราะความเป็นเพื่อน และความสุภาพของอึนฮยอก ถึงเธอจะไม่มีเงินจำนวนนั้นในตอนนี้ แต่โบรัมก็แสดงน้ำใจของเธอออกมา ด้วยการรับปาก "ก็ได้ ฉันจะลองหาทางดู พรุ่งนี้ ฉันจะลองหาทางให้นะ"

เธอรับปากทั้งที่ไม่รู้ถึงเหตุผลที่อึนฮยอกต้องการใช้เงิน ภารกิจของอึนฮยอกถือว่าสำเร็จ ลีโบรัม เธอแน่มากค่ะ มิตรภาพความเป็นเพื่อนได้ถูกพิสูจน์แล้ว (แล้วนี่ถ้าไม่รับปากจะช่วย ภาพพจน์ของโบรัมจะเป็นยังไง ? ยัยขี้งก? ช่างเป็นเกมกลั่นแกล้งที่น่ากลัวมาก )

สุดท้าย ช่วยตอบคำถามหน่อยนะโบรัม คำถามสั้นๆ ใน SJ ของเรา เธอชอบใครมากที่สุด บอกมาหน่อย 3 คน ที่เธอชอบ หนุ่มๆ ทั้งหลาย ลุ้นกันตัวโก่งเชียว แต่อันดับหนึ่งในใจของโบรัม “ฉันเหรอ ต้องพี่อีทึกสิ” ฮีชอลโกรธกับตัวเลือกของโบรัม

“ที่สองเหรอ พี่ชินดงไงล่ะ” ( oh yess คือชินดงของเรา) ฮีชอลหูฝาดไปอีกเพราะหลงได้ยินว่าโบรัมเอ่ยชื่อของตัวเอง

ที่สามล่ะ “พี่คังอิน”
คังอินกระเด้งตัวออกมาจากโซฟา ดีใจราวกับถูกหวยรางวัลที่ 1

และกล้องก็หันไปจับความเศร้ารันทดของสองหนุ่มที่ถูกโบรัมทอดทิ้ง ฮีชอลและซองมิน



ชินดง กับภารกิจ ขอร้องเพื่อนให้ไปแจกลายเซนต์ที่งานเปิดร้านใหม่ของญาติ

ดูเหมือนจะง่ายแต่มันก็ไม่ง่ายนะคะ เพื่อนๆ ปรึกษากัน มันควรเป็นร้านอะไรที่เหมาะสมกับการจัดให้มีการแจกลายเซ็น ชินดงโทรหาดาวตลก บิฮยอน คิชู และเขาทำมันสำเร็จอย่างรวดเร็ว และง่ายดายอย่างเหลือเชื่อ
มาถึง Highlight ของเกม



ซองมินกับภารกิจขอร้องเพื่อนให้มาเข้ารับการตรวจการเข้ากันของไขกระดูก

แค่คังอินเอ่ยเปิดภารกิจ ฮีชอลก็ลุกขึ้นมาทำท่าหมดอาลัยกับภารกิจนี้
"ฉันจะบ้าตาย เพราะฉันไม่มีเพื่อน"

ซองมิน ...ผู้เคยแสดงบทบาทพระมเหสีฮีบินจอมริษยามาแล้วอย่างยอดเยี่ยมในคราวก่อน จะทำเรื่องนี้สำเร็จลงได้หรือไม่

ซองมินโทรหาเพื่อนรุ่นพี่อาวุโส อีจองคยู หลังจากรุ่นพี่จองคยูรับสาย

องค์ลงค่ะ ซองมินสวมวิญญาณนักแสดงทันที

น้ำเสียงอันสุดเศร้าหมองหลังจากทักทายจึง บอกเล่าเรื่องราว

ซองมิน : พี่ครับ ที่จริงผมมีข่าวร้าย น้องชายผมป่วยมาก พี่จะช่วยน้องชายผมหน่อยได้ไหม

คิมฮีชอล ผู้เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ ทำมือเป็นรูปกากบาทและกลั้นหัวเราะหงายหลังดิ้นไปบนโซฟา พร้อมกับทำปาก
"เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้"

รุ่นพี่คนนี้ใจดีนะ :เอ้อ เหรอ แล้วเป็นยังไงบ้างซองมิน พี่พอจะช่วยอะไรได้บ้าง
ซองมิน : พี่ครับ พี่ช่วยมาเข้ารับการตรวจหน่อยได้ไหม (น้ำเสียงเศร้าสุดๆ)
รุ่นพี่ : ตรวจเหรอ ตรวจอะไร (น้ำเสียงชักเป็นกังวล) บริจาคเลือดเหรอ ?
อารมณ์มันเริ่มได้แล้ว ซองมินเริ่มพาตัวเองเข้าสู่โหมดร้องไห้

ซองมิน : ไม่ครับ นั่นไม่ใช่ พี่ช่วยมาตรวจการเข้ากันของไขกระดูกได้มั้ยครับ

สิ้นเสียงคำว่า "การเข้ากันของไขกระดูกเท่านั้นแหละ" อึนฮยอกที่กลั้นหัวเราะอยู่อย่างสุดกำลัง ขำดิ้นลงมากองที่พื้น ส่วนฮีชอลถึงกับหมดแรงร่วงลงมาจากโซฟา และกลั้นหัวเราะเกลือกกลิ้งอยู่ตรงนั้น (เชื่อผมเถอะ เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้)



รุ่นพี่ : เอ่อ ตรวจไขกระดูกเหรอ มันเป็นยังไงล่ะ ตรวจดูว่ามีอะไรอยู่ในกระดูกฉันบ้าง ใช่มั้ย แบบนั้นน่ะเหรอ
คำถามอันไร้เดียงสาและน้ำเสียงที่ตื่นกลัว

ซองมิน : ครับ และมันจะเจ็บนิดหน่อยนะครับ พี่พอจะมาตรวจได้ไหม
ชินดงที่นั่งอยู่ข้างๆ ซองมิน แหงนหน้ากลั้นเสียงหัวเราะชักจะทนไม่ไหวแล้ว ไถลตัวลงมาจากโซฟาและพยายามอย่างยิ่งไม่ให้หัวเราะออกมา

อย่างไม่มีใครคาดคิด รุ่นพี่รับปาก : ก็ได้ ฉันจะทำ

ซองมินอ้าปากเหวอด้วยความดีใจ ไม่ได้คาดหวัง แต่ในที่สุดพี่เค้าก็รับปากว่าจะทำ เห็นมั้ย ได้ยินกันมั้ยครับ พี่เค้ารับปากว่าจะทำ

รุ่นพี่ : เป็นน้องนายหรือ น้องชายนายแท้ๆ หรือเปล่า

ซองมินลืมตัวดีใจมากไปหน่อย พอถูกถามจึงนึกได้ว่าการคุยยังไม่จบ
ทำเสียงสะอื้นไห้ทันที ( ช่างเปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้อัตโนมัติมากค่ะ)
และอธิบายต่อ

ซองมิน : ครับ น้องชายผมเอง ถ้าตรวจแล้วพบว่าไขกระดูกเข้ากันได้ พี่จะช่วยบริจาคไขกระดูกให้น้องผมได้มั้ยครับ
คำ “พี่จะบริจาคให้ได้ไหม” ทำเอาอึนฮยอก ขำกลิ้งลงมาจากโซฟาและดิ้นงออยู่ตรงนั้น ส่วนฮีชอล ไม่ไหวแล้ว ผมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ผมต้องไปให้พ้นจากที่นี่ โอว พระเจ้า ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องนี้มันจะเป็นไปได้

รุ่นพี่ : แล้วจะให้ไปตรวจเมื่อไรล่ะ
ซองมิน : อีก 2 วันครับ
รุ่นพี่ : อืม สองวันนี้ฉันก็ไม่มีอะไร ได้ ฉันจะไปตรวจ
ซองมิน : แล้วพี่จะช่วยบริจาคให้น้องผมได้มั้ยครับ ( ยังไม่เลิก )
รุ่นพี่เงียบไปอึดใจก่อนจะตอบ :"ได้สิ พี่จะทำแน่นอน"

เสียงฮือฮาจะสมาชิก SJ ที่บ่งบอกถึงความประทับใจในตัวรุ่นพี่ จองคยู พวกเขายกมือส่งเสียงเชียร์ "อีจองคยู! อีจองคยู! อีจองคยู!" คังอินส่งเสียงเข้าไปในโทรศัพท์ " พี่จองคยูครับ พี่แน่มาก ผมนับถือพี่จริงๆ"

เมื่อความจริงเปิดเผยก็เป็นเวลาของการขอโทษขอโพย ถึงจองคยูไม่โกรธ แต่ซองมินก็สมควรโดนด่าเล็กน้อย "คราวหลังนายอย่าทำแบบนี้กับฉันอีกนะ" (ไม่งั้น ฉันเอานายตายแน่) ด้วยความเป็นห่วงกังวล รุ่นพี่คนนี้ดูเหมือนว่าจะหยิบกุญแจมาที่รถและเตรียมตัวออกมาจากบ้าน เพื่อมาหาซองมิน (ซับคำพูดของรุ่นพี่ตรงนี้ค่อนข้างไว และเนื้อความไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก จึงไม่แน่ว่าเข้าใจถูกต้องหรือเปล่านะคะ)

เหลือคนสุดท้ายที่เสียเปรียบ จะมีใครยังรับโทรศัพท์ในเวลาแบบนี้อีกไหม



คิมฮีชอล กับภารกิจชวนเพื่อนไปเที่ยว

“ผมเอาไอ้นี่ออกก่อนได้มั้ย” (อุปกรณ์ที่ช่วยให้คนอื่นๆ ได้ยินเสียงของฝ่ายผู้รับสายด้วย) “ผมไม่อยากอายไปมากกว่านี้แล้ว”

"ฉันกำลังเบื่อ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันเถอะ" ภารกิจนี้ง่ายกว่าใครเขา แต่ผลลัพธ์ยอดแย่เป็นที่สุด เพราะมันยิ่งกว่าล้มเหลว คิมฮีซอลไล่เบอร์โทรหาเพื่อนคนดังที่รู้จัก แต่ว่า ...ไม่มีเบอร์ไหนที่โทรติดเลย ... ( ตอนนั้นเลยเวลาเที่ยงคืนมานานแล้วค่ะ เพื่อนที่แต่ละหนุ่มโทรไปกำลังเตรียมตัวเข้านอน บางคนก็อยู่บนเตียงแล้ว)

แม้ชายหนุ่มที่ไม่เชื่อในพลังแห่งมิตรภาพและความเป็นเพื่อนแท้แบบคิมฮีชอลจะแพ้ราบคาบ แต่ท้ายที่สุดรูปสมัยก่อนเดบิวต์ก็ถูกเปิดเผยออกมาทุกคน ไม่เฉพาะแต่คิมฮีชอลเท่านั้น



การมาถึงของแขกรับเชิญ

และแล้วแขกคนแรกก็มาถึง สีของเล็บเท้าที่เข้ากันกับกางเกงขายาวสีแดงแป๊ดที่ปรากฏในจอภาพบ่งบอกว่าเธอเป็นเพศหญิง ฮีชอลตื่นเต้นและโอ้อวดเพื่อนๆ ด้วยความภาคภูมิใจที่เพื่อนของเขามาถึงเป็นคนแรก ทำให้เพื่อนทุกคนพลอยตื่นเต้นไปด้วย เมื่อเธอปรากฏตัวเข้ามาในห้อง คังอินส่งเสียงร้องด้วยความแปลกใจ

"โอ๊ะ! นูนิ่ม นูนิ่มมา มาได้ยังไงกันครับ!"
(นูนิ่ม = นูน่า + นิม นูน่า คือ พี่สาว ส่วนนิม เป็นคำสุภาพเรียกต่อท้าย)

เธอคือคุณย่าของ กาโยเวิร์ล บังชิลี (ไม่รู้จัก) เป็นคุณป้าวัยอาวุโสที่ดูจะรู้จักมักคุ้นกับดีกับสมาชิก SJ ฮีซอลสวมกอดเธอด้วยความรักใคร่และความดีใจอย่างที่สุด (นูน่ามาช่วยชีวิตครั้งนี้ ผมเป็นหนี้บุญคุณอย่างสูง) คังอินก็เข้ามากอดเธอด้วย

ฮีชอลไม่ได้คาดหวังมากนัก แต่เธอก็มา

เบื้องหลังคิมฮีชอลโทรหาเธอระหว่างพักการถ่ายทำถูกเปิดเผย ดูฮีชอลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก (มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของผมนะ ไม่ว่ายังไงผมต้องหาเพื่อนมาเป็นแขกรายการวันนี้ให้ได้)



ฮีชอลโทรศัพท์ :
"ผมขอโทษครับนูน่า นี่มันดึกมากแล้ว" (แต่นูน่าช่วยมาหาผมได้มั้ยครับ)

"จริงหรือครับนูน่า นูน่าจะมาจริงเหรอ"
ฮีชอลผุดลุกด้วยความดีสุดขีดเมื่อเธอรับปาก

"จริงๆ นะครับ ผมจะบอกคนเขียนสคริปต์ไว้เลยนะว่านูน่าจะมา แค่แต่งหน้านิดหน่อย"
"มาจริงๆ นะครับ"

นูน่าให้เหตุผลว่า "เค้าไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ เนื่องจากบ้านเกิดของเค้าอยู่ที่คังวอนโด ฉันถึงต้องมาที่นี่เพื่อช่วยเชียร์เค้า"

สมาชิก SJ ดูตื้นตันกับน้ำใจของเธอมาก โดยมิได้นัดหมาย คังอินลุกขึ้นมาเต้นเพื่อนๆ ก็ลุกออกมา พวกเขาแสดงมินิคอนเสิร์ตน้อยๆ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของเธอ

เมื่อแขกรับเชิญมาถึงจะต้องเลือกหยิบคำถามจากกล่องมา 1 ใบ
คำถามของนูน่า “คุณประทับใจในตัวเพื่อนของคุณตรงไหน”

ฮีชอล : ผมรู้สึกขอโทษจริงๆ เกี่ยวกับคำว่าเพื่อน ผมขอโทษครับนูน่า
เพราะมันมีช่องว่างระหว่างวัย การจะเรียกคุณป้าสูงวัยที่เป็นเหมือนผู้ปกครองว่าเพื่อน มันก็ยังไงๆ อยู่นะ
คังอินว่า : แต่ถ้าเทียบกับผู้ปกครองของเราจริงๆ นูน่าก็เหมาะกับการเป็นเพื่อนมากกว่านะครับ
ชองมิน : คุณแม่ผมเกิดปี 1964 ฮะ

ทำนูน่าหัวเราะลั่นกันเชียว เด็กๆ พวกนี้

ข้อภูมิใจที่นูน่ามีต่อฮีชอล

“ฮีชอลของเราน่ารักและหล่อมาก เค้าไม่หยุดแค่นี้แน่นอน แต่เค้าจะเป็นศิลปินที่มากความสามารถ เพราะเค้าไม่ใช่คนที่ใครจะเหมือนเค้าได้ ต่อให้อีก 10 ปี 20 ปี ก็ไม่มีใครที่จะเหมือนเค้าได้"

ที่ว่าไม่มีใครจะเหมือนเค้าได้ เห็นด้วยอย่างแรงค่ะป้า เพราะเค้าเป็นคนไม่เหมือนใคร หาไม่ได้อีกแล้วคนแปลกประหลาดแบบนี้

และที่สำคัญคือสวมวิญญาณนักแสดงได้สารพัดคนสารพัดอย่างในแบบที่เรียกว่า "ทันทีทันควัน" แค่หันหน้าพลิกไปพลิกมาก็เปลี่ยนได้เป็นคนละคนแล้ว แค่เห็นท่าทาง หรือปฏิกิริยาของใครแค่เพียงนิดเดียว ฮีชอลสามารถจะจดจำมาทำเลียนแบบได้หมด น่าทึ่งจริงๆ ระดับรางวัลออสการ์ยังไม่คู่ควรกับความสามารถทางการแสดงของคิมฮีซอลค่ะ เพราะเขาคือ ปิศาจพันหน้า สามารถจัดการกับบทบาทที่ได้รับแค่เพียงกระพริบตา (ฮ่าๆ อันนี้เป็นความชื่นชมและฉายาที่มอบให้ด้วยความรักส่วนตัวนะคะ)



หลังจากหนุ่ม ๆ คุยกับบังชิลีอยู่ครู่ใหญ่ เพื่อนๆ ของสมาชิกคนอื่นก็ทยอยตามเข้ามา

เพื่อนคังอิน มากัน 2 คน คนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศชื่อ “อันบยอค” อีกคน คือ “ดงซอน” นักร้องวง Banana Boat (กลุ่มแรฟเปอร์ ที่ป๊อบที่สุดในเกาหลี) แต่ เอ่อ ... คังอินคะ พามาผิดฝาผิดตัวหรือเปล่า นั่นเพื่อนแน่หรือคะ หรือว่าความจริงแล้วคือศัตรู ถึงได้ทำท่าทางเหมือนจะชวนกันทะเลาะตลอด และเผากันแหลกลาญไม่มีไว้หน้า

เพื่อนของซองมิน มากัน 4 คน เป็นผู้หญิง 3 ผู้ชาย 1 ทั้งหมดเป็นกลุ่มรุ่นพี่ที่มหาลัยซึ่งซองมินสนิทสนมด้วย เพราะคนที่มาหน้าตานสะสวยผิวผ่องปากแดงน่ารัก อีกคนก็ดูเป็นสาวเปรี้ยวมั่นใจ เพื่อนๆ จึงเริ่มไล่ต้อนซองมิน เพื่อนรุ่นพี่เหรอ ? แล้วเคยออกเดทกันบ้างหรือเปล่า?

บังชิลีออกปากชมเด็กสาวๆ ที่แม้ในยามดึกดื่นค่อนคืนไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาก็ยังดูสวยสดใส

คังอิน : นูน่าครับ เมื่อกี๊นูน่าเพิ่งบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ไม่ชอบคนสวย คนหุ่นดี ไม่ใช่เหรอ
เป็นการสนทนาตอนที่ยังไม่มีแขกมาเพิ่ม
นูน่า : ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว ทำไมล่ะ ฉันก็แค่อยากกำจัดสิ่งที่สวยและหุ่นดีกว่าก็แค่นั้น
ฮีชอล ปล่อยก๊าก เกาะบ่านูน่าหัวเราะขำ (นูน่าครับ ใจเย็นๆ ครับ สำหรับพวกเราแล้ว เราไม่เห็นใครดีไปกว่านูน่าของเราเลย)

เพื่อนของอึนฮยอก มากัน 2 คน คนหนึ่งสักแขนลายหน้าตาจิ๊กโก๋ข้างซอยมาก ส่วนอีกคนหน้าตี๋ๆ ธรรมดา มีการต่อว่าต่อขานกันเล็กน้อยจากเพื่อนของอึนฮยอก เพราะเมื่ออึนฮยอกต้องการความช่วยเหลือ พวกเขามาให้ตามที่ร้องขอ แต่ในยามปกติเมื่อเพื่อนโทรหาอึนฮยอกบ้าง เขาเป็นบุคคลที่ติดต่อไม่ได้ เพราะไม่ยอมรับสาย ( ยังไง มันยังไงกันคะ อึนฮยอก ?)

เรื่องนี้ นูน่าดูจะให้ความสำคัญ ในฐานะผู้ใหญ่ผ่านน้ำร้อนมาก่อนเธอจึงช่วยอธิบายให้เพื่อนๆ ของอึนฮยอกและทุกคนฟังอย่างตั้งใจว่าการห่างหายไปหลังจากเป็นคนดังนั้น ไม่ใช่ว่าเขาเปลี่ยนไปเพราะความดัง แต่เพราะการอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแทบจะตลอดเวลาทำให้เขาไม่สะดวกที่จะรับสายหรือมีเวลาสำหรับเรื่องส่วนตัวมากนัก ในฐานะเพื่อนสิ่งที่นูน่าคิดว่าควรทำคือ โทรหาเค้าให้มากขึ้น เข้าใจเค้าให้มากขึ้น และอย่าทอดทิ้งเค้า ( จับใจ )

อึนฮยอกแนะนำเพื่อน “อินดอกครับ เขาเคยเป็นนักร้องนำของโรงเรียนด้วย” และขอให้เพื่อนร้องเพลงสักหน่อย หนุ่มสักลายส่งเสียงครวญเพลงออกมาทันที (อ๊ะ! ทำนองคุ้นๆ ) เพลง Hug หนึ่งในเพลงดังของดงบังชินกินั่นเอง อึนฮยอกทำหน้าเซ็งๆหันหน้าไปหาเพื่อน “ ร้องเพลงของพวกเราสิ” ได้โปรดเถอะเพื่อน ช่วยรักษาหน้ากันนิดนึง

เพื่อนของชินดง มากีน 2 คน เมื่อมารวมตัวกันกับชินดง ทั้งสามคนดูหน้าคล้ายกันมาก

เพื่อนๆ มากันครบหมดแล้ว หนุ่มๆ SJ ลงมานั่งกับพื้นเพื่อให้เพื่อนที่เป็นแขกมาร่วมรายการได้นั่งสบายๆ บนโซฟาบรรยากาศการพูดคุยระหว่างเพื่อนกับเพื่อนเป็นกันเอง เผากันไปเผากันมาเป็นที่สนุกสนานครื้นเครง

แต่ ช้าก่อน

การโทรศัพท์หาเพื่อนและโทรหาศิลปินคนดังทั้งหมดนี้เรียกเสียงฮาได้ระดับหนึ่งก็จริง มีเพื่อนๆ เป็นแขกร่วมรายการ มานั่งเล่าเรื่องราวเก่าๆ เผากันฮาสนุกก็ใช่ แต่หากจะเทียบกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ความฮาทั้งหมดที่ผ่านมามันแค่ฮาแบบเด็กๆ เท่านั้น ต่อไปนี้สิของจริง เพราะนี่คือการสร้างสรรค์ความฮาอย่างมีชั้นเชิง



การซ่อนกล้อง

ทุกสิ่งถูกตระเตรียมการ วางแผนมาเป็นอย่างดี เป้าหมายของการซ่อนกล้องครั้งนี้ คือ อึนฮยอก
นี่จะเป็นเรื่องของการรวมหัวกันกลั่นแกล้งอึนฮยอก เป็นพลังความสามัคคีที่จะนำไปสู่เป้าหมายความฮาอันยิ่งใหญ่

โดยมีอึนฮยอกเป็น "เหยื่อ"

กับภารกิจ "ซ่อนกล้องแกล้งอึนฮยอก"
คุณจะได้พบกับสุภาพบุรุษแสนดี เจ้าแห่งบทบาท และปิศาจพันหน้า ซึ่งเป็น

ความดีความชอบของ SJ ข้อที่ 2 คือ ศิลปการแสดงอันแนบเนียน

โปรดติดตามบล็อกต่อไป



Create Date : 18 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 3:29:17 น. 12 comments
Counter : 4124 Pageviews.

 
ชอบมากเลย อยากดู แบบเป็น ซีรี่ย์เกาหลี เลย


โดย: อร่อยมาก วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:21:00:49 น.  

 
เป็นกำลังใจให้เสมอ


โดย: nuner IP: 172.16.1.35, 203.172.204.118 วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:11:32:54 น.  

 
รักเธอไม่ยอมเปลี่ยนแปลงจะรักเธอจะเป็นยังไงฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอนะจากคนที่แอบรักเธออย่างตั้งใจหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอรักนะคนน่ารักของนุ๊กนิ๊กอยู่ในใจเสมอนะคิมฮีชอลหรือฮีชอล


โดย: รักคิมฮีชอลที่สุด IP: 192.168.1.123, 61.7.129.50 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:0:39:33 น.  

 
อยากจะเจอทุกคนจังเลยถ้าเธอมาไทยอีกเมื่อไรจะไปขอรายเซ็นทุกคนเลยโดยเฉพาะคิมฮีชอลคนที่หล่อและน่ารักอยู่ในใจเสมอนะsjรักที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: นุ๊กนิ๊กรักวงsjเสมอ IP: 192.168.1.123, 61.7.129.50 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:0:43:51 น.  

 
อยากจะเจอทุกคนจังเลยถ้าเธอมาไทยอีกเมื่อไรจะไปขอรายเซ็นทุกคนเลยโดยเฉพาะคิมฮีชอลคนที่หล่อและน่ารักอยู่ในใจเสมอนะsjรักที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: นุ๊กนิ๊กรักวงsjเสมอ IP: 192.168.1.123, 61.7.129.50 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:0:44:01 น.  

 
ชอบมาก


โดย: อึนฮยอก IP: 180.183.235.209 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:56:33 น.  

 
อีทึก ชินดง กับ ฮีชอลน่าร๊ากกกก ที่สุดเลย กรี๊ดดดดดด ชอบๆๆๆ


โดย: รัก Super junior IP: 124.121.134.176 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:14:23:40 น.  

 
รักฮีซอลจังเลย น่ารักอ่ะ


โดย: หนมตาล IP: 223.205.97.76 วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:23:00:30 น.  

 
ชอบฮีชอลกับอีทึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: mo IP: 182.93.201.103 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:45:11 น.  

 
ชอบอีทึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: กอย IP: 182.93.201.103 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:46:29 น.  

 
รักคยูฮยอนมากรักทิ้กกี้นะรักอืนยอกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: เม IP: 101.109.178.126 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:39:22 น.  

 
ฮันยองหาเซโยนะทิ้กกี้อืนยอกรักที่สุดในโลกเลย


โดย: เม IP: 101.109.178.126 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:41:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.