Group Blog
 
All blogs
 
2012 End of the world. ปิดตำนานหนังวันสิ้นโลก

อภิมหา “หายนะ” วันสิ้นโลก!




ข้อมูลจาก //www.majorcineplex.com/movie_detail.php?mid=210 ยังมีรายละเอียดการแนะนำภาพยนตร์ยังมีเพิ่มเติมอยู่ในลิงค์นี้นะคะ





จากตัวอย่างหนังที่ดูแล้วถึงกับ “ขนลุก” ในความยิ่งใหญ่ และสมจริงของฉาก “หายนะ” ที่ได้ประจักษ์แก่สายตาทุกคู่ไปเรียบร้อย เชื่อเหลือเกินว่า 2012 จะต้องเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนรอคอยอย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า “วันสิ้นโลก” จะเกิดขึ้นจริงตามคำทำนายหรือเปล่า? และถ้าเกิดขึ้นจริง โลกจะพบกับจุดจบอย่างไร? อยากรู้ไปดูกันเลย...

ที่ผ่านมามีคำทำนาย และทฤษฎีต่างๆ ที่ว่าด้วยการ ดับสลายของโลก เล่าขานสืบทอดต่อกันมามากมาย และเพื่อให้ทุกคนดู 2012 วันสิ้นโลก แบบได้อรรถรสยิ่งขึ้น ต่อไปนี้ คือ 5 ทฤษฎีว่าด้วย วันสิ้นโลก ที่เราเก็บมาฝากกัน


1.ทฤษฏีที่ได้รับการกล่าวขวัญและถูกอ้างอิงมากที่สุด (และเป็นไอเดียต้นคิดที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก ด้วย) คือ คำทำนายของชนเผ่ามายันที่ว่า โลกจะถึงคราวดับสูญใน วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยชุดตัวเลข 212012 โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน ซึ่งเริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (Baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี โดยคำทำนายได้ระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารไล่เรียงตั้งแต่ ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่ง ไปจนถึงสงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนไหนรอดชีวิต
 
2. นอกจากทฤษฎีวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ระนาบเดียวกับใจกลางของทางข้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะปะทะกับพลังงานทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23.11 น. และสมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ของ ดีเอ็นเอ ซึ่งบางทีอาจจะทำให้
มนุษยชาติต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง!

3. มีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ภูเขาไฟใต้น้ำ ครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่ต้องระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

4. มีนักวิทยาศาสตร์บางรายบอกว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกจะเป็นภัยคุกคามที่ย้อนกลับมาทำลายล้างมนุษยชาติเองในท้ายที่สุด โดยในบทความเรื่อง “วันสิ้นโลก” ของ ไมเคิล แฮนลอน ในเว็บไซต์เดลี เมล์ ระบุว่า วันสิ้นโลก ที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากหายนะทั้งหลายตามคำทำนายใดๆ แต่มาจากภัยเงียบที่ก่อตัวมานาน ซึ่งมนุษย์ไม่เคยใส่ใจต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและเป็นจุดกำเนิดของเทคโนโลยีต่างๆ จนสามารถคิดค้นเครื่องจักรและหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพทัดเทียมความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที และจุดจบของโลกจะอุบัติขึ้นใน วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2065 โดยบรรดาหุ่นยนต์อันชาญฉลาดจะเริ่มเข้าควบคุมมนุษย์โลก ผู้คนทั้งหลายต้องขาดแคลนอาหาร ไร้ที่อยู่ และท้ายที่สุดในปี 2100 มนุษย์ต้องผันตัวเองกลับไปใช้ชีวิตในถ้ำอย่างในอดีต ขณะที่เมืองต่างๆ ก็ตกเป็นของเหล่าเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นเอง (เอ๊ะ! ทำไมคล้ายกับหนังเรื่อง คนเหล็ก จังเลย...ฮา)

5. ทฤษฎีแกนโลกเอียงของ ชาร์ล ฮาปกู้ด ที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ว่าในอนาคตข้างหน้า แกนโลกจะเริ่มเปลี่ยนองศา ซึ่งจะส่งผลให้พื้นผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และจะทำให้เกิดภัยพิบัตินานาชนิดขึ้นทั้ง คลื่นยักษ์สึนามิ, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด มีคนเคยอ้างด้วยว่า แม้แต่ อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ ยังเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่านี้

ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : โพสต์ทูเดย์



หนังเรื่องนี้ รอดูมานานแล้ว  ... เพราะเป็นคนชอบหนังแอคชั่น โดยเฉพาะแอคชั่นแบบทำลายล้างกันวินาศสันตะโร  ไม่ว่าจะเกิดจากคน หุ่นยนต์ มนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ   อะไรที่เกี่ยวข้องกับ "มวลมนุษยชาติ" มันเป็นอะไรที่โปรดปรานจริงๆ


เวลาดูหนัง  ไม่เคยจำได้หรอกว่า เป็นหนังของค่ายไหน ผู้กำกับชื่ออะไร แต่พอรู้ว่าเป็นผู้กำกับคนเดียวกันกับ The day after tomorrow และ Indipendence day และ 10,000 BC ก็ยิ่งถือดีไปใหญ่ เพราะปกติขอให้เป็นนักแสดงที่ชอบและเนื้อเรื่องน่าจะถูกใจเป็นใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น  ถ้านักแสดงคือ วิล สมิธ  ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องอะไร ก็ขอดู  แม้บางครั้งมันจะไม่สนุกก็เถอะ   ส่วนเรื่องนี้  จอน คูแซ็ก ไม่คุ้นกับผลงานมากนัก  แต่จำได้จากเรื่อง อืมม   ลูกชายผมมาจากดาวอังคาร  (น่าจะชื่อนี้แหละ) ชอบที่เล่นเป็นคุณพ่อมาก   เรื่องนี้พระเอกมีลูกสองคน เหมาะเลย ตามเคย แพ้ใจให้กับหนังที่มีเด็กๆ แสดง แม้จะยังไม่มีเด็กคนไหน ช่วงชิงตำแหน่ง “หนูน้อยในดวงใจ” ไปจาก ดาโกต้า แฟนนิ่ง นักแสดงเด็กฮอลลีวู้ดที่เริ่มจะโตเป็นสาวแล้วก็เถอะ  ขอให้มีเด็กเข้าไว้ จะเทใจให้เลย




เรื่องความโอเวอร์ซิททูเอชั่น สำหรับฉากระทึกหนีตายของครอบครัวพระเอกนั้น  ไม่ต้องบรรยาย เพราะไม่มีเรื่องไหนไม่เว่อร์  เป็นเหตุการณ์จริงๆ ก็ตายกันหมดแล้ว  ซึ่งถ้าใครจะติว่ามันโคตรเว่อร์ขอบอกว่า เชยมาก  เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของหนังฮอลลีวู้ดที่คนดู ดูเอาความสนุก ความมันระทึก ไม่ได้ดูแล้วต้องพิจารณาว่า ถ้าจริงๆ เป็นอย่างนี้จะรอดอย่างนั้นหรือเปล่า


เพื่อนๆ ชอบ The day after tomorrow มากกว่า เราก็ชอบเรื่องนั้นมากกว่า   ไม่ใช่ว่า 2012 ไม่ดีเท่า มันโอเคเลยล่ะค่ะ เพราะความอลังการของฉากทำลายล้างมันเหนือกว่าอยู่แล้ว  แต่เพราะเหตุการณ์ภัยธรรมชาติมันเกิดขึ้นทั่วโลก หนังจึงต้องเสนอชีวิต ความสัมพันธ์ของผู้คนในหลายๆ ครอบครัว ในขณะที่ The day จะคอนข้างจำเพาะเจาะจงอยู่ที่ความสัมพันธ์พ่อลูก   ใน 2012 อะไรๆ มันจึงเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะฉากหายนะวายวอดที่แทบไม่มีเวลาให้หยุดพักตลอดทั้งเรื่อง จึงนึกเอาขำๆ ว่า  ถ้าเป็นเรา ไม่ดิ้นรนหนีตายให้เหนื่อยหรอก เดี๋ยวก็ตายอยู่ดี


เพราะดราม่าน้อยกว่า The day   ก็เลยซึ้งน้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่ว่า ..ก็มีแอบเช็ดน้ำตานะ




(ชอบนักแสดงทั้งสองคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยค่ะ)


ประธานาธิบดีน่ะ เป็น dead man ไปแล้วตั้งแต่กลางท้องเรื่อง  คนที่จะพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลุกใจผู้คนเกี่ยวกับความหวังและอนาคตในยุคใหม่ของมนุษย์จึงไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐ แต่เป็นนักวิทยาศาตร์หนุ่มคนหนึ่ง ...ซึ่งฉากอย่างนี้ต้องมีอยู่แล้วในหนังแนวนี้ แต่ว่า...ก็ซึ้งพอสมควร   ชอบเลยล่ะนะ สำหรับเนื้อหาประมาณว่า


เราจะบอกเล่ากับลูกหลานอย่างไร ถ้ายุคใหม่ของมวลมนุษยชาติได้เริ่มต้นขึ้น จากความโหดเหี้ยมของมนุษย์ด้วยกันเอง






และเพราะฉากหายนะวายวอดที่ยิ่งใหญ่อลังการสุดระทึกเกินบรรยายนี่แหละ  จึงมีความเห็นไม่ต่างกับเพื่อนๆ ที่ไปดูด้วยกันว่า ทำหนังออกมาขนาดนี้ กะไม่ให้มีใครคิดสร้างอีกแล้ว สำหรับหนังแนวฟ้าถล่มแผ่นดินทลายน้ำท่วมฟ้าแผ่นดินลุกเป็นไฟ วันแตกดับของโลก...พอเหอะ ถ้าใครจะคิดทำอีก  เพราะมันไม่มีอะไรจะทำให้วายวอดไปได้มากกว่านี้อีกแล้วล่ะ



จึงเป็นที่มาของการใช้คำว่า “ปิดตำนานหนังวันสิ้นโลก”  คือ พอแล้ว ไม่ต้องทำอีกแล้ว

ภาพและข้อมูลจาก
//www.majorcineplex.com
//www.nungdee.com



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 13:47:17 น. 10 comments
Counter : 5850 Pageviews.

 
ผมกลับมองว่ามันดราม่ากว่าเดอะเดย์นะ



โดย: joblovenuk วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:56:47 น.  

 
แวะมาอ่านด้วยคนคะ

ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้รู้สึกปลงเลย ไม่มีเครื่องบิน ขับก็ไม่เป็น ไม่มีเงินมากพอจะไปซื้อตั๋วด้วย กินยานอนหลับก่อนโลกจะแตกก็แล้วกัน จะได้ไม่เห็นอะไรน่ากลัวๆ


โดย: ivy IP: 211.24.238.2 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:28:28 น.  

 
พวกนักการเมืองมันจะกลัวกันบ้างม๊ยเนี่ย


โดย: กกก IP: 125.26.82.129 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:59:38 น.  

 
ไปดูมาแล้วกับภรรยา ชอบมาก ตื่นเต้นตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องไปจนจบเรื่อง การดำเนินเรื่องในช่วงแรกอาจจะน่าง่วงนอนไปหน่อยนะ แต่มีแง่คิดแฝงเอาไว้ให้คิดกัน ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกนั้นยิ่งใหญ่และมากมายเหนือคำบรรยายจริง ๆ


โดย: มานะ สุจิรวรกุล IP: 10.0.100.146, 117.47.118.74 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:36:41 น.  

 
ลองไปศึกษาอัล-กุรอานซิคับ

ในคัมภีร์ มีทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราต้องอยากรู้

รวมทั้งวันสิ้นโลกด้วย... (นักวิทยาศาสตร์ตะวันตกศึกษาอัลกุรอาน มาแทบทั้งสิ้น)


โดย: dada IP: 118.173.206.101 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:29:22 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ เพิ่งกลับมาถึงบ้านตะกี๊นี้เอง บอกได้คำเดียวว่าสุดยอด


โดย: matika IP: 125.25.80.13 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:35:59 น.  

 
คิดรึว่าจะหยุดสร้าง

้ถ้ามันยังทำเงินได้คุ้มค่าอยู่

แปลกเหมือนกันที่ทำไมถึงบอกว่า

จะสิ้นโลก โลกหมายถึงอะไรละ?

ถึงเวลานั้น เราจะคิดถึงอะไร

ถ้าไม่ใช่เรา แล้วที่อาจไอน์สไตน์

บางทีก็แปลกใจ อ่านงานของไอน์สไตน์

ช่วงครบหนึ่งร้อยปี แทบไม่เคยมีบอก

อย่างมากสุด คือ สงครามโลกครั้งที่สาม

มนุนย์จะก่อสงครามด้วยอาวุธหิน

ส่วนหนังสนุกไหม อืมหนุกสิ หนุกเวอร์ๆ

แบบผู้สร้างที่เวอร์ทุกเรื่อง iD4น่าจะเป็นที่ดีที่สุด

เพราะเฉียดรางวัลออสการ์และเสียงชื่นชมมากที่สุด



โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:58:29 น.  

 
แล้วนักแสดงเด็กทั้งสองคนชื่อไรอ่ะครับ

ชอบลูกทั้งลองคนมากเลย
คนหนึ่งน่ารัก
อีกคนกวนดีแบบขรึมๆฮาๆดูเกินตัว
แต่โนอาผมเท่มากๆ จบมอหกเมื่อไรเอาทรงนี้แหละ

ตอนนี้เกรียน เกรียน แล้วก็เกรียน
เป็นโรงเรียนมัธยมไม่กี่แห่งในประเทศที่ไว้เกรียนและกางเกงกากี 555

ทามาร่าไม่น่าตายเลย สวยดีชอบจัง
เกือบจะรอดแล้วววว


เรื่องนี้ชอบมาก ดูมาสองรอบและ
โดยเฉพาะฉากนี้


เครื่องยนต์ สตาร์ต ปิ๊ง (หน้าจอเบนท์ลีย์ติด) บรื้น 55


โดย: SJ IP: 118.172.172.126 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:21:08:58 น.  

 
I'm still learning from you, but I'm improving myself. I absolutely love reading everything that is posted on your website.Keep the tips coming. I loved it!
Cheap Jerseys From China //www.logodesignerdirectory.com/images/header.cfm


โดย: Cheap Jerseys From China IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:22:08:49 น.  

 
Inspiring quest there. What occurred after? Good luck!
peuterey regina down parka //tiregate.com/images/it-peuterey/CiG33ajxWX/


โดย: peuterey regina down parka IP: 192.99.14.34 วันที่: 3 ธันวาคม 2557 เวลา:16:36:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.