Group Blog
All Blog
|
--- มี ค ว า ม รู้ ต้ อ ง มี ค ว า ม ดี ---
ถ้าเรารู้ปฏิบัติจริง ๆ แล้ว มันจะทะลุไปถึงปริยัติก็ได้ เปรียบประหนึ่งว่า คนมีความดี แต่ไม่มีความรู้ --- มี เ ว ล า ห า ย ใ จ - มี เ ว ล า ภ า ว น า---
--- เ อ า ต น เ อ ง เ ป็ น พ ย า น ---
ธรรมะนี้เปรียบเหมือนผลไม้ที่เราไปบ้านญาติบ้านเพื่อน แล้วเขาเอาผลไม้ฝากเรา เราหยิบผลไม้ไว้ในมือของเรา แต่เราก็ไม่รู้เปรี้ยว หวาน ฝาดอะไรต่าง ๆ คือจับผลไม้แล้วก็ยังไม่รู้รสผลไม้ จะรู้รสก็ต้องเอามาทานขบเคี้ยว จึงจะรู้ว่ามันเปรี้ยว มันหวาน มีรสชาติต่าง ๆ ตามสัญญาของเรา ธรรมะนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น ทุกอย่างท่านให้เอาตนเองเป็นพยาน ไม่ต้องเอาคนอื่น เรื่องของคนอื่นตัดสินได้ยากลำบากเพราะเป็นเรื่องของคนอื่น ถ้าเป็นเรื่องของเราแล้วมันง่ายที่สุดเพราะความจริงมันอยู่กับเรา มีเราเป็นพยาน ธรรมะนี้เมื่อฟังแล้วก็ต้องเอามาภาวนาให้เป็นปริยัติศาสนา ปฏิเวธศาสนา ปริยัติคือการเรียนรู้ รู้แล้วเอามาปฏิบัติตามก็เกิดความรู้ขึ้นมาตามความเป็นจริง ถ้าฟังเฉย ๆ ก็รู้ด้วยสัญญา เอาไปพูดก็ตามสัญญา ไม่ได้พูดตามความจริงให้ฟัง นี่เรายังเข้าไม่ถึงธรรมะ ไม่สอดส่องธรรมะ ใจยังไม่เป็นธรรม แต่พูดเป็นธรรม ได้ทำเป็นธรรมได้ นี่เรียกว่ายังไม่สมบูรณ์แบบตามพุทธศาสนา จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๒ --- ต้ อ ง ใ ห้ ดี พ อ ดี . . . ถึ ง จ ะ ดี ---
โดยมากคนชอบเอาชนะคนอื่นทั้งนั้นแหละ มันถึงทุกข์อย่างไงล่ะ ไม่ชนะตนเองจะสบายเมื่อไหร่ จะเอาชนะคนอื่นก็ทุกข์เท่านั้นแหละ เรื่องนี้คนเรียนข้ามไป เรียนสูง ๆ แล้วมันข้าม ไม่เรียนพอดี ไม่ถูกสิ่งที่พอดีก็ใช้ไม่ได้ ความดีก็เหมือนกัน โยมจะเอาดี ๆ ๆ ๆ ต้องให้ดีพอดีนะถึงจะดี ถ้าดีเกินไปละก็มันจะร้าย อายุก็เหมือนกัน อยากได้ยืน ๆ นาน ๆ จะดีมั้ย เออ..ให้อายุมั่นขวัญยืน อาตมาป่วยก็มาขอให้หลวงพ่ออายุยืนถึงร้อยสองร้อยปี อืม...อย่ามาดูถูกพระเลย มาแช่งพระทำไมเล่า เห็นคนแก่ ๆ มั้ยนั่น ไปไม่ได้ต้องนอน กินข้าวก็ไม่ได้ อาตมาว่าจะมีประโยชน์อะไร ถ้าอยู่นาน ๆ แล้วสบายก็ดีซิ อายุมาก ๆ มันช่วยเจ้าของไม่ได้ จะดียังไง ความรักพ่อแม่ของลูกหลานก็พิถีพิถันประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ปรนนิบัตินะ ถ้าป่วยนาน ๆ ๕-๖ ปี จะตายก็ไม่ตาย จะเป็นก็ไม่เป็น เดี๋ยวก็เบื่อเท่านั้น บางวันลืมเอาข้าวให้กิน ลองดูซิ ลูกเราก็ดี ลูกเขยเราก็ดี ลูกสะใภ้ก็ดี มันจะรักเราขนาดไหน ถ้ามันเกินพอดีแล้วมันก็รักไม่ได้หรอก มันก็ทิ้งเท่านั้นละ จากเทปพระธรรมเทศนาของห ล ว ง ปู่ ช า ม้วนที่ ๗๘ --- ป ร ะ โ ย ช น์ จ ะ เ กิ ด ก็ ต่ อ เ มื่ อ ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ ---
ข้าวหุงอยู่ในหม้อ มันจะเกิดประโยชน์อะไร ถ้าเราไม่ปฏิบัติกับมัน เอาทัพพีมาตักใส่จานซิ ตักแกงใส่นิดหน่อย ใส่น้ำพริกทานเข้าไป นี่มันเกิดประโยชน์ขึ้นไหม ข้าวมันดีอยู่แล้วนะ พุทธศาสนาก็เหมือนข้าวหุงอยู่ในหม้อ ถ้าเอาศาสนาตั้งไว้เฉย ๆ อย่างนั้นมันจะเกิดประโยชน์อะไร มันก็อยู่แต่ในหม้อนั่นแหละ จะให้เอาข้าวที่ดี ข้าวหอมมะลิ ข้าวเก่ามาหุง แล้วตั้งไว้อย่างนั้น มันจะอิ่มอร่อยเกิดประโยชน์อะไรไหม เอาศาสนาให้ตั้งอยู่ในโลกเฉย ๆ แต่เราไม่พากันปฏิบัติ เราพากันไปกราบอยู่อย่างนั้น ถ้าเรากราบได้ ก็แสดงว่าเราเชื่อ เรายอม ถ้าเราเชื่อ เรายอมแล้ว เราก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ศาสนาจะเกิดประโยชน์ก็ต้องอาศัยการปฏิบัติของเราทุกคน จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๑๔ |
ภูเพยีย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] Friends Blog
|