Group Blog
All Blog
--- มี ค ว า ม รู้ ต้ อ ง มี ค ว า ม ดี ---
















มีความรู้ ต้องมีความดี












ถ้าเรารู้ปฏิบัติจริง ๆ แล้ว มันจะทะลุไปถึงปริยัติก็ได้ เปรียบประหนึ่งว่า คนมีความดี แต่ไม่มีความรู้
คนหนึ่งมีความรู้แต่ไม่มีความดี
ไอ้คนมีความรู้ รู้ไปเหอะไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักผิดจักถูก คือคนไม่ดีน่ะ

ไอ้คนที่ดีมันระวังของมัน มันไม่รู้เรื่องอะไรมากมายก็ช่างมันเถอะ
แค่เห็นว่า ไอ้ของนี่มันหยิบขึ้นมาแล้วมันหนักก็พอแล้ว หนักแล้วมันก็วาง
อันนั้นเป็นของคนอื่นเขา อย่าไปเอาของเขาเลย แค่นี้ก็กลัวแล้ว
ไม่ต้องไปเปิดดูในตำราเห็นแล้วจึงกลัวหรอก
นี่คือ คนดี

ไอ้คนที่เรียนนั้นรู้ รู้จักว่าของเขาอยู่ แต่เอา ทนไม่ไหวอยากได้มันนี่
รู้ว่ามันผิดมั้ย รู้
รู้ว่าของคนอื่นเขาหวงมั้ย รู้ แต่เอา
นี่คือคนรู้ ไม่ดี มีแต่รู้อย่างเดียว มันสู้คนดีไม่ได้
ถ้าให้มันสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว ต้องมีความรู้แล้วก็มีความดีประกอบเข้ากัน






จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๕๔





























Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 8:26:04 น.
Counter : 547 Pageviews.

0 comment
--- มี เ ว ล า ห า ย ใ จ - มี เ ว ล า ภ า ว น า---






















ร่างกายก็เป็นส่วนหนึ่ง จิตใจก็เป็นส่วนหนึ่ง
มันก็เป็นอย่างนั้น มันไม่แน่นอน
ใจนั้นไม่แน่นอน กายมันไม่แน่นอน
มันจะคิดดีก็อย่าไปเชื่อมันมาก
มันจะคิดชั่วก็อย่าไปเชื่อมัน
ให้รับรู้มันไว้ ดูมันไปเรื่อย ๆ แหละ

พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ตามรักษาจิตของตน
ผู้นั้นจะพ้นจากบ่วงมาร


มันทำผิดก็ให้รู้ว่ามันทำผิด มันทำถูกก็ให้รู้ว่ามันทำถูก
ทุกวันให้รู้มันไว้ ภาวนาทุกวัน ให้มันเพลาลง
เพลาลงนี้เรียกว่า การภาวนา ไม่ใช่นั่งหลับตาเฉย ๆ
บางคนบอกว่าไม่มีเวลานั่งภาวนา
"แหม! ต้องทำมาหากิน ยุ่ง ไม่ได้ภาวนา"
โยมค้าขายยุ่ง ๆ โยมหายใจมั้ย หรือโยมหยุดหายใจ
การยืน เดิน นั่ง นอน คือการภาวนาทั้งนั้น







จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๒๒


















Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2554 11:16:38 น.
Counter : 738 Pageviews.

2 comment
--- เ อ า ต น เ อ ง เ ป็ น พ ย า น ---




















ธรรมะนี้เปรียบเหมือนผลไม้ที่เราไปบ้านญาติบ้านเพื่อน แล้วเขาเอาผลไม้ฝากเรา เราหยิบผลไม้ไว้ในมือของเรา แต่เราก็ไม่รู้เปรี้ยว หวาน ฝาดอะไรต่าง ๆ คือจับผลไม้แล้วก็ยังไม่รู้รสผลไม้ จะรู้รสก็ต้องเอามาทานขบเคี้ยว จึงจะรู้ว่ามันเปรี้ยว มันหวาน มีรสชาติต่าง ๆ ตามสัญญาของเรา


ธรรมะนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น ทุกอย่างท่านให้เอาตนเองเป็นพยาน ไม่ต้องเอาคนอื่น เรื่องของคนอื่นตัดสินได้ยากลำบากเพราะเป็นเรื่องของคนอื่น ถ้าเป็นเรื่องของเราแล้วมันง่ายที่สุดเพราะความจริงมันอยู่กับเรา มีเราเป็นพยาน ธรรมะนี้เมื่อฟังแล้วก็ต้องเอามาภาวนาให้เป็นปริยัติศาสนา ปฏิเวธศาสนา ปริยัติคือการเรียนรู้ รู้แล้วเอามาปฏิบัติตามก็เกิดความรู้ขึ้นมาตามความเป็นจริง ถ้าฟังเฉย ๆ ก็รู้ด้วยสัญญา เอาไปพูดก็ตามสัญญา ไม่ได้พูดตามความจริงให้ฟัง นี่เรายังเข้าไม่ถึงธรรมะ ไม่สอดส่องธรรมะ ใจยังไม่เป็นธรรม แต่พูดเป็นธรรม ได้ทำเป็นธรรมได้ นี่เรียกว่ายังไม่สมบูรณ์แบบตามพุทธศาสนา






จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๒



















Create Date : 30 มกราคม 2554
Last Update : 30 มกราคม 2554 7:42:30 น.
Counter : 908 Pageviews.

5 comment
--- ต้ อ ง ใ ห้ ดี พ อ ดี . . . ถึ ง จ ะ ดี ---







































โดยมากคนชอบเอาชนะคนอื่นทั้งนั้นแหละ มันถึงทุกข์อย่างไงล่ะ ไม่ชนะตนเองจะสบายเมื่อไหร่ จะเอาชนะคนอื่นก็ทุกข์เท่านั้นแหละ

เรื่องนี้คนเรียนข้ามไป เรียนสูง ๆ แล้วมันข้าม ไม่เรียนพอดี ไม่ถูกสิ่งที่พอดีก็ใช้ไม่ได้ ความดีก็เหมือนกัน โยมจะเอาดี ๆ ๆ ๆ ต้องให้ดีพอดีนะถึงจะดี ถ้าดีเกินไปละก็มันจะร้าย

อายุก็เหมือนกัน อยากได้ยืน ๆ นาน ๆ จะดีมั้ย

เออ..ให้อายุมั่นขวัญยืน อาตมาป่วยก็มาขอให้หลวงพ่ออายุยืนถึงร้อยสองร้อยปี อืม...อย่ามาดูถูกพระเลย มาแช่งพระทำไมเล่า เห็นคนแก่ ๆ มั้ยนั่น ไปไม่ได้ต้องนอน กินข้าวก็ไม่ได้ อาตมาว่าจะมีประโยชน์อะไร ถ้าอยู่นาน ๆ แล้วสบายก็ดีซิ อายุมาก ๆ มันช่วยเจ้าของไม่ได้ จะดียังไง ความรักพ่อแม่ของลูกหลานก็พิถีพิถันประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ปรนนิบัตินะ ถ้าป่วยนาน ๆ ๕-๖ ปี จะตายก็ไม่ตาย จะเป็นก็ไม่เป็น เดี๋ยวก็เบื่อเท่านั้น บางวันลืมเอาข้าวให้กิน ลองดูซิ ลูกเราก็ดี ลูกเขยเราก็ดี ลูกสะใภ้ก็ดี มันจะรักเราขนาดไหน ถ้ามันเกินพอดีแล้วมันก็รักไม่ได้หรอก มันก็ทิ้งเท่านั้นละ







จากเทปพระธรรมเทศนาของห ล ว ง ปู่ ช า ม้วนที่ ๗๘















Create Date : 28 มกราคม 2554
Last Update : 28 มกราคม 2554 18:17:25 น.
Counter : 733 Pageviews.

3 comment
--- ป ร ะ โ ย ช น์ จ ะ เ กิ ด ก็ ต่ อ เ มื่ อ ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ ---























ข้าวหุงอยู่ในหม้อ มันจะเกิดประโยชน์อะไร ถ้าเราไม่ปฏิบัติกับมัน เอาทัพพีมาตักใส่จานซิ ตักแกงใส่นิดหน่อย ใส่น้ำพริกทานเข้าไป นี่มันเกิดประโยชน์ขึ้นไหม ข้าวมันดีอยู่แล้วนะ
พุทธศาสนาก็เหมือนข้าวหุงอยู่ในหม้อ ถ้าเอาศาสนาตั้งไว้เฉย ๆ อย่างนั้นมันจะเกิดประโยชน์อะไร มันก็อยู่แต่ในหม้อนั่นแหละ จะให้เอาข้าวที่ดี ข้าวหอมมะลิ ข้าวเก่ามาหุง แล้วตั้งไว้อย่างนั้น มันจะอิ่มอร่อยเกิดประโยชน์อะไรไหม เอาศาสนาให้ตั้งอยู่ในโลกเฉย ๆ แต่เราไม่พากันปฏิบัติ เราพากันไปกราบอยู่อย่างนั้น ถ้าเรากราบได้ ก็แสดงว่าเราเชื่อ เรายอม
ถ้าเราเชื่อ เรายอมแล้ว เราก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ศาสนาจะเกิดประโยชน์ก็ต้องอาศัยการปฏิบัติของเราทุกคน





จากเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ชา ม้วนที่ ๑๔
















Create Date : 28 มกราคม 2554
Last Update : 29 มกราคม 2554 8:13:38 น.
Counter : 699 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com