คุยไปเรื่อยๆตามประสาเด็กหัวตลาด

เล่าเรื่องงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ปัตตานี พ.ศ.๒๕๕๓ (130th Anniversary Lim Kor Neow) ตอนที่ ๑

ปี พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นปีมงคลของชาวปัตตานี เพราะเป็นปีที่มีการอัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจากกรือเซะไปประดิษฐานในศาลเจ้าเล่งจูเกียงครบ ๑๓๐ ปี ทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงจึงได้จัดงานสมโภชใหญ่ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๓












หลังจากที่มีเหตุผลทางใจบางประการทำให้ผมไม่ได้ไปร่วมงาน ๔ ปีติดต่อกัน ปีนี้คิดว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะกลับไปเหมือนเก่า เพราะที่ผ่านมา ๔ ปี เมื่อถึงวันแห่พระ และเวลาที่ลุยไฟ จิตใจผมไม่เคยสงบ มันว้าวุ่นตลอดเวลา คราวนี้เลยเดินทางไปพร้อมกับพ่อ แม่ น้องชายและหลานชาย
เราเดินทางจากบ้านน้องชายที่หลานหลวงตอน ๐๔.๐๐น. วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ไปถึงปัตตานีตอน ๑๖.๐๐ น. ใช้เวลาเดินทางรวมแวะพัก ๑๒ ชั่วโมงพอดี หลังจากเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บที่โรงแรม ซี.เอส. ก็ตระเวนแจกของฝากตามบ้านญาติและเพื่อนฝูงของพ่อ
จากนั้นก็ไปบ้านกงสี บ้านเลขที่ ๒๗ ถนนอาเนาะรู ซึ่งเป็นบ้านต้นตระกูลคณานุรักษ์ เพื่อไหว้พระ ไหว้บรรพบุรุษ ก่อนจะเดินไปไหว้พระที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ ๖๓ ถนนอาเนาะรู ใกล้กัน




บรรยากาศหน้าบ้านกงสีเย็นวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓





องค์พระต่างๆในบ้านกงสี มีพระโชคลาภหรือใช้เซ่งเอี่ย กับพระกวนอู เตรียมเข้าร่วมขบวนแห่





ป้ายบูชา "หลวงสำเร็จกิจกรจางวาง (ตันเตียงซิ่น หรือตันปุ่ย)" ต้นตระกูลคณานุรักษ์




เนื่องจากปีนี้เป็นวาระครบรอบ ๑๓๐ ปี ของการอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจากกรือเซะมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าเล่งจูเกียง บรรยากาศของงานจึงคึกคักเป็นพิเศษ ถึงยามค่ำคืน มีการประกวดสิงโตดอกเหมยที่หน้าศาลเจ้าเล่งจูเกียง มีคณะสิงโตจากในประเทศและต่างประเทศมาเข้าร่วมถึง ๑๓ คณะ




สิงโตดอกเหมย คารวะองค์พระต่างๆในศาลเจ้าฯ




วันรุ่งขึ้น วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ มีภารกิจที่ต้องทำตั้งแต่เช้า คือเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. จะมีการเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และน้องพระหมอ ที่อัญเชิญไปบ้านลุงสุวิทย์ คณานุรักษ์ บ้านเลขที่ ๕ ถนนอาเนาะรู กลับไปศาลเจ้าฯ




เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และน้องพระหมอ กำลังรอการอัญเชิญกลับศาลเจ้าฯ




เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว




น้องพระหมอ





หลังจากอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และน้องพระหมอกลับศาลเจ้าฯแล้ว เป็นอันเสร็จพิธีการรอบเช้าของวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ รอเวลาการเปิดงานอย่างเป็นทางการในช่วงเย็น ปีนี้ประธานในพิธีเป็นลูกปัตตานีขนานแท้และดั้งเดิม ฯพณฯสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อผม อาสวัสดิ์เดินทางถึงปัตตานีประมาณบ่ายโมง แล้วแวะไปรับประทานอาหารเที่ยงแบบลูกทุ่งคือข้าวยำและสะเต๊ะไก่กับข้าวอัดที่บ้านพี่ชายคืออาสมพร วัฒนายากร เป็นการพบปะกันในหมู่ญาติใกล้ชิด
ประมาณ ๕ โมงเย็น ประธานเดินทางมาถึงบริเวณหน้าศาลเจ้าฯ มีขบวนสิงโตและการแสดงต่างๆต้อนรับ



ประธานกำลังสักการะพระในศาลเจ้าฯ




ประธานเดินจากศาลเจ้าฯสู่โรงโนราห์ประรำพิธี





ประธานบนโรงโนราห์ประรำพิธี




ช่วงค่ำเริ่มคึกคักผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าฯอย่างเนืองแน่นด้วยความศรัทธา ภายในศาลเจ้าฯอบอวลด้วยควันธูป จนทำให้ผมลืมไปเลยว่าสถานการณ์บ้านเมืองของปัตตานีอยู่ในความไม่สงบ เพราะเกิดเหตุก่อการร้ายแทบทุกวัน แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าฯทำให้ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในช่วงวันงานสมโภชเลย




ภายในศาลเจ้าเล่งจูเกียงเต็มไปด้วยผู้คน




สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของพ่อเมื่อได้มาไหว้พระอีกครั้งหนึ่ง




พ่อไหว้พระ แม่ก็เลยตีกลอง




แถวเกี้ยวที่รออัญเชิญองค์พระประทับเพื่อออกแห่รอบเมือง




เกี้ยวที่ประดับธงประจำองค์พระต่างๆ






เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ศาลเจ้าฯก็ปิดประตู มีการจัดสถานที่ภายในศาลเจ้าฯเพื่อเตรียมทำพิธีกรรมต่างๆ
ประมาณ ๒๔.๓๐ น. เริ่มมีการทอดเบี้ยเสี่ยงทายหน้าแท่นบูชาพระหมอ เริ่มต้นปีนี้เสี่ยงทายเวลาเชิญเกี้ยวเข้าศาลเจ้าได้เวลา ๐๑.๓๕ น. และจะอัญเชิญน้องพระหมอลงประทับเกี้ยวเป็นองค์แรก เวลา ๐๒.๑๕ น. สำหรับเวลาที่องค์พระจะออกจากศาลเจ้าฯปีนี้คือ ๐๔.๑๕ น.



ประตูศาลเจ้าฯปิดเพื่อรอทำพิธีกรรม เห็นโอ่งน้ำมนต์ที่ใช้สำหรับพิธีลุยไฟวางเรียงรายหน้าศาลเจ้าฯ



หลังจากที่ผมร่วมพิธีทอดเบี้ยเสี่ยงทายในศาลเจ้าฯเสร็จแล้ว ก็กลับไปเตรียมตัวทำพิธีที่บ้านกงสี เวลาประมาณ ๐๑.๔๕ น. เกี้ยวพระใช้เซ่งเอี่ยและพระกวนอูมาถึงบ้านกงสี
เวลา ๐๒.๑๕ น. ผมเริ่มอัญเชิญพระใช้เซ่งเอี่ยลงประทับเกี้ยว ตามด้วยพระกวนอู จากนั้นก็ช่วยกันมัดองค์พระติดกับเกี้ยวให้แน่นไม่โยกคลอนเวลาหามเกี้ยว




พระกวนอูบ้านกงสี(ซ้าย) และพระใช้เซ่งเอี่ย(ขวา) บนเกี้ยวที่มัดแน่นหนารอเวลาออกแห่รอบเมือง



เมื่อถึงเวลา ๐๔.๐๐ น. ผู้ที่หามเกี้ยวพระบ้านกงสีเริ่มหามออกจากบ้าน โดยพระใช้เซ่งเอี่ยออกเป็นองค์แรก แล้วเดินย้อนไปทางศาลเจ้าฯ เพื่อเชิญพระในศาลเจ้าฯออกแห่ ระหว่างทางจะฝ่าด่านลูกประทัดนับแสนนัด ในความมืดจะเห็นสะเก็ดไฟและควันไฟคลุ้งไปทั่วทั้งถนนอาเนาะรู




ใกล้ถึงเวลาเปิดประตูศาลเจ้าฯ




ผู้มีจิตรศรัทธานำลูกประทัดมาจุดถวายองค์พระนับล้านนัด




ประทัดถูกนำมาเรียงเป็นสายเต็มลานหน้าศาลเจ้าฯ




พระกวนอูบ้านกงสีมาถึงศาลเจ้าฯเป็นองค์แรก




ผมหามเกี้ยวพระใช้เซ่งเอี่ยคู่กับหลานชายมาถึงศาลเจ้าฯพร้อมกับสิงโตเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว




พระใช้เซ่งเอี่ยเข้าไปเคาะประตูเชิญพระในศาลเจ้าฯ





หลังจากนั้นพระที่ออกจากบ้านกงสีก็ขึ้นไปยืนรอเวลาบนโรงโนราห์




เมื่อถึงเวลา ๐๔.๑๕ น. ก็ลงไปเปิดประตูศาลเจ้าฯ




ประทัดล้านนัดเริ่มถูกจุด




สะเก็ดไฟ และควันจากประทัดล้านนัดที่ลานหน้าศาลเจ้าฯ




และแล้วประตูศาลเจ้าฯก็เปิด พระที่ออกจากศาลเจ้าองค์แรกคือน้องพระหมอ มีพี่หยีเดินถือขันน้ำมนต์ประพรมนำหน้า




องค์พระต่างๆออกมาจากศาลเจ้าฯ และแห่วนอยู่เต็มลานหน้าศาลเจ้าฯ




พระหมอเข้าไปบ้านเลขที่ ๒๙ ถนนอาเนาะรู ซึ่งเป็นบ้านของคุณพระจีนคณานุรักษ์(จูล้าย แซ่ตัน) เพื่อปักหลัก




ผู้ที่ทำหน้าที่ปักหลัก ประกอบด้วยคนตอกหลัก ซึ่งตอกด้วยสันขวาน, คนถือฟันปลาฉนาก, คนถือกล่องบรรจุธง หลัก และข้าวสาร, คนถือขันน้ำมนต์




เมื่อถึงบริเวณที่จะปักหลัก ผู้หามเกี้ยวพระหมอด้านหน้าจะพุ่งเอาคานหามปักกับพื้นดิน




คนตอกหลักจะนำหลักซึ่งเป็นไม้แปะฮู้ ตอกลงระหว่างคานหามที่ปักบนพื้นดิน



>

จากนั้นก็เอาข้าวสารโรย แล้วพรมน้ำมนต์ การปักหลักจะปักเป็นคู่ด้านซ้ายและขวา




จากนั้นพระหมอเข้าบ้านเลขที่ ๒๗ ถนนอาเนาะรู หรือบ้านกงสี บ้านต้นตระกูลคณานุรักษ์เพื่อให้ทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ปุ่ย แซ่ตัน) สักการะ
หลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(เตียงซิ่น หรือปุ่ย แซ่ตัน) ต้นตระกูลคณานุรักษ์ เป็นผู้บูรณะศาลเจ้าฯเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๗




ผมและน้องชายหามเกี้ยวเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเข้าบ้านกงสี




อาสมพร ประธานมูลนิธิฯและผู้จัดการศาลเจ้าฯ และอาสุวรรณา วัฒนายากร กำลังไหว้พระเจ้าพ่อเสือองค์หน้าทอง




ในระหว่างที่องค์พระต่างๆกำลังแห่รอบเมืองปัตตานี ตอนสายๆเวลาประมาณ ๐๘.๑๕ น. ที่หน้าศาลเจ้าฯก็มีพิธีก่อกองไฟ เพื่อเตรียมลุยไฟ




 

Create Date : 08 มีนาคม 2553   
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 9:27:51 น.   
Counter : 2062 Pageviews.  

เล่าเรื่องงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ปัตตานี พ.ศ.๒๕๕๓ (130th Anniversary Lim Kor Neow) ตอนที่ ๒




เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น. พระหมอเริ่มทำพิธีเดินเวียนรอบกองไฟ ๓ รอบ แล้วตามด้วยพระต่างๆ



น้องพระหมอ ตามด้วยน้องเจ้าแม่




เจ้าแม่ทับทิม หรือเจ้าแม่สมุทร




เจ้าที่แป๊ะกง




ผมหามเกี้ยวพระใช้เซ่งเอี่ย หรือพระโชคลาภ หามคู่กับพี่ชา ปรีชา กมลวิทยาผู้เป็นญาติสนิทเวียนรอบกองไฟ




ระหว่างเดินวนรอบกองไฟ จะมีผู้ที่ศรัทธาเอื้อมมาลูบจับเกี้ยวคานหามเพื่อเป็นศิริมงคล




พระหมอเปิดโอ่งน้ำมนต์




กองไฟกำลังติดได้ที่ ทางมะพร้าวช่วยเพิ่มเปลวไฟให้สวยงาม




พิธีลุยไฟเริ่มด้วยผู้เชิญกล่องของศักดิ์สิทธิ์




ผู้ถือขันน้ำมนต์ เดินตามมา




ผู้ถือฟันปลาฉนากศักดิ์สิทธิ์




องค์พระหมอเป็นพระองค์แรกที่ลุยไฟ




สิงโตเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวลุยไฟ




เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวลุยไฟ




โนราห์ลุยไฟ




ยกธงแดงไว้ก่อน อย่าเพิ่งเข้า




เสียงบอกต่อกันว่า หมอปานลูกพ่อตุ๊ต้องให้ไฟแรงๆสวยๆ ถ้าไม่สวยเดี๋ยวมันด่า บรรดาพี่ๆน้าๆอาๆ เลยแย่งกันเติมทางมะพร้าว




พี่แป๊ะใช้กระด้งพัด พี่เวศเกลี่ยทางมะพร้าว เตรียมลุย




ไฟสวยแล้วลุยเลย




ผมหามเกี้ยวพระใช้เซ่งเอี่ยลุยไฟ




เดินได้สบายมาก ไม่รู้สึกร้อนเท้าเลย




เที่ยวกลับจากโรงโนราของผม ถูกสั่งยกธงแดงรอไฟสวยๆเช่นเคย




ลุยได้เลย ไฟสวย ไม่มีควัน




ผ่านพ้นไปอีก ๑ ปีสำหรับการลุยไฟของผม




พ่อผมซึ่งมีอายุ ๘๒ ปีแล้วยังมีความสุขที่ได้ไปกำกับการลุยไฟ คนซ้ายมือคือเสกสรร คณานุรักษ์น้องชายคนสุดท้องผมที่หามเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ คนกลางมีศักดิ์เป็นอา แต่ผมเรียกว่าพี่หนุ่ย คมน์ คณานุรักษ์ ลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ




ขอให้พระดลบันดาลให้ผมมีแต่ความสุขสวัสดี มีแรงกลับไปลุยไฟทุกปี




หลังเสร็จพิธีลุยไฟ พระจากนอกศาลเจ้าฯจะประดิษฐานที่ศาลเจ้าฯเป็นเวลา ๓ วัน ก่อนอัญเชิญกลับบ้าน
จากซ้าย พระกวนอูบ้านกงสี, พระใช้เซ่งเอี่ยบ้านกงสี, พระเจ้าที่บ้านรังนก




พระบ้านลุงสุวิทย์ คณานุรักษ์ หรือบ้านครูราญ
จากซ้าย พระกวนอูองค์พี่, พระกวนอูองค์น้อง, พระเซ่งเต้เอี่ย




เจ้าแม่กวนอิมบ้านกงสี




เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว องค์ซ้ายเป็นองค์จำลองที่ใช้ออกแห่ องค์ขวาเป็นองค์ดั้งเดิมที่เริ่มมีรอยเปื่อยของเนื้อไม้ที่ฐานจึงต้องทำองค์จำลองแทน





ปิดท้ายซีรี่ย์ด้วยรูปถ่ายของคนสองคน สองพี่น้องที่เป็นเรื่องราวที่ถูกลืมหรือถูกลบทิ้งไปจากประวัติศาสตร์
ของศาลเจ้าเล่งจูเกียง ปัตตานี ปานเทพ คณานุรักษ์ และพันธุ์ฤทธิ์ วัฒนายากร


รูปภาพทั้งหมดนอกจากที่ถ่ายด้วยตนเองแล้ว เป็นรูปภาพที่ได้ความอนุเคราะห์จากน้องชาย ทศพร คณานุรักษ์ และมิตรรุ่นน้องร่วมสถาบันโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี น.พ.สมชัย พงษ์ธัญญะวิริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะหริ่ง ปัตตานี


สำหรับผู้ที่อยากรู้เรื่องราวของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ผมเคยเขียนบทความไว้ ตามอ่านได้ที่นี่ครับ

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=panthep&date=04-04-2007&group=2&gblog=2





Free TextEditor




 

Create Date : 04 มีนาคม 2553   
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 8:11:12 น.   
Counter : 1437 Pageviews.  


เด็กหัวตลาด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรียนจบหมอ เคยผ่านการเป็นอาจารย์ แล้วลาออกไปเป็นหมอจนๆ เพราะไม่ชอบใช้วิชาชีพหากิน
ปัจจุบันเลิกรักษาคน หันไปบริหารเงิน คอยดูคนอื่นรักษาคนไข้แทน
รับผิดชอบการจัดชุดสิทธิประโยชน์สำหรับโรคเรื้อรัง
และโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงของผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง ๓๐ บาท)
สนใจเรื่องราวประวัติตระกูล และประวัติศาสตร์บ้านเกิด ณ หัวตลาด หรือตลาดจีนเมืองตานี เป็นพิเศษ
[Add เด็กหัวตลาด's blog to your web]