|
ฉันท์พาลีสอนน้อง
ฉันท์พาลีสอนน้อง ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง จารึกติดไว้ที่ผนังด้านในศาลาหน้าพระมหาเจดีย์หลังใต้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
๏ ปางปิ่นขีดขินบุเรศ ผู้สมเยศพาลี สู้เสียสละชี พิตรเพื่อสงวนกาย ๏ แผลแผลงแท่งพรหมาสตร์ แต่ผมพาดฤาพานรคาย กุมศรตรัสเรียกสาย สวาทคู่คัพโภทร ๏ สุครีพพระนุชน้อง ธพร่ำพร้องนุสนธ์สอน อ้าพี่จะเมื่อมรณ์ อาลัยหลั่งจักสั่งสาร ๏ สูเนากับโอรส คือองคททั้งอาว์หลาน ฉลองเรณุบทมาลย์ บำเรอรักษ์พระจักรา ๏ เฝ้าแหนอย่าห่างองค์ พิศณุพงศกระษัตรา ว่างเว้นทิวาผา สุกกิจนิทรานาม ๏ เล่นหลงพวงพวัก สนุกนักมักก่อการ ทุกขโทษภัยพาล พึงระมัดประหยัดยำ ๏ ยามท้าวบัณฑูรถาม อย่าขานความแต่เบาคำ แถลงถ้วนบควรอำ อรรถแสร้งจักแบ่งบัง ๏ เฝ้าไท้อย่าโอ่โถง ณพระโรงระแวงระวัง พระสนมอย่านึกหวัง ชำลักลอบชำเลืองแล ๏ ทูลสนองคดีใด เมื่อพักตร์ไท้ธผันแปร สบเนตรอย่าห่างแห เสนอถ้อยคอยสำราญ ๏ ชอบช่องจึงพร้องพจน์ ใช่ช่องงดอย่าทูลสาร เกรงเกลือกรำคาญดาล อดูรไหม้หทัยหมอง ๏ อลงกรบัณฐรอาศน์ รัตนราชบรรลังก์ทอง อย่าหวังขึ้นนั่งลอง พนักอิงแลพิงเขนย ๏ ยามเฝ้าอย่าใกล้องค์ ทระนงว่าคุ้นเคย ไกลนักจักล่วงเลย พระเนตรลับรับสั่งหา ๏ สถิตสถานประมาณกลาง บชิดห่างพอเสวนา นุสนธ์ซึ่งพระบัญชา ทุกสิ่งทราบสนองทูล ๏ ปางท้าวธรางวัล ผู้ใดบันบำเหน็จปูน พึงอวยพึงอนุกูล โองการตรัสอย่าทัดทาน ๏ เข้าเฝ้าพึงเพลายักษ์ อย่าอิ่มนักภุดดาหาร เหลือล้นกังวลการ อุทรทุกขจักขุกเคือง ๏ ราชทรัพย์สำหรับคลัง อันมูงมังอเนกเนือง หน่ายขวนจักปล้นเปลือง ประโยชน์ถวิลเป็นสินตน ๏ แขกเมืองอย่าหมายมิตร สนิทสนองนุสนธ์สน ทนาแหนงรแวงกล รังเกียจไท้ฤทัยราน ๏ แถวทางระหว่างฉนวน บมิควรจักเหื่อมหาญ เที่ยวท่องลำพองพาล อำเภอแผกอย่าแปลกปลอม ๏ ห่อนเกินโองการประกาศ บันโดยราชมโนถนอม ควรขลาดอาชญาจอม จักรพรรดิกระษัตรีย์ ๏ สิงหาศน์บัญชรไชย อย่าร่วมไท้ทฤษฎี พูนภัยจัญไรมี ประหยัดยิ่งเร่งกลัวเกรง ๏ คิดคุณผู้ผ่านเผ้า ทุกค่ำเช้าพึงยำเยง บุญพระแต่โพ้นเพรง มาอำรุงผดุงไท ๏ เป็นปิ่นจุธาธเรศ ธำรงเศวตฉัตรไชย ควรนบเคารพใน บทรัชนิรันดร ๏ อย่าขัดพระอัชยา อิศราธิเบศร ฤาก่อกระลำพร ทุรยศในบทมูล ๏ ห่อนเหอมอหังการ บริบาลบดีศูรย์ สวามีภักดีนุกูล กิจกอปกตัญญู ๏ อีกกัตเวที พิรภาพค้ำชู เฝ้าแหนบห่างภู ธรราชฤาคลาดคลา ๏ เจ้าเคียดอย่าเคียดตอบ บมิชอบประทุษฐทา รุณโทษพิโรธสา หัสอดพึงอดใจ ๏ ปางท้าวธบรรหาร ให้พิจารณ์คดีใด ผดุงกิจพินิจฉัย บัญชาชอบรบอบธรรม์ ๏ ทูลแถลงแสดงกล ยุบลราชแต่สัตย์สรรพ์ สนองเนตรสนองกรรณ มกุฎเกล้าธมดล ๏ อย่าถวิลว่าท้าวรัก กำเริบศักดิ์สูงสกนธ์ จิตรเจียมเสงี่ยมตน ประพฤติต่ำยำเยงไท ๏ ยามเฝ้าสำรวมองค์ ฤาทรนงฤทัยใน ทำชอบธขอบใจ จักโปรดปรานบำนานปูน ๏ ชุบเลี้ยงภิญโญยศ ปรากฏเกียรติเพ่อมพูน เพื่อผลไพบูลย์ ภักดีบาทบขาดแคลน ๏ อาสาเมื่อมีศึก บแหนงนึกจักกลัวแกลน ต่อสู้ริปูแทน พระคุณท้าวฤาหนาวภัย ๏ ไป่คิดชีวิตวอด แม้เมื่อมอดบอาลัย เชิดชื่อระบือไตร ภพเลื่องบันฤาแถลง ๏ จงจำนุสาสน์สาร สองอาว์หลานกูแจ้งแจง มาตยานุวัตรแสดง สำหรับเสวกาการ ฯฯ
๏ พา ลีกระบี่ราชผู้ พงศ์พา นรินทร์ฤา ลี ลาศคลาดหาวหา พระน้อง สอน แสดงแห่งมาตยา นุวัตรเร่ง เรียนพ่อ น้อง สดับรับรสพร้อง พร่ำแล้วลาญชนม์ ฯฯ
Create Date : 14 มิถุนายน 2549 |
| |
|
Last Update : 26 เมษายน 2550 13:56:51 น. |
| |
Counter : 1053 Pageviews. |
| |
|
|
|
โคลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระปิยะมหาราช
@เจ็บนานหนักอกผู้ บริรักษ์ ปวงเฮย คิดใคร่ลาลาญหัก ปลดเปลื้อง ความเหนื่อยแห่งสูจัก พลันสร่าง ตูจักสู่ภพเบื้อง หน้านั้นพลันเกษม @เป็นฝีสามยอดแล้ว ยังราย ส่านอ ปวดเจ็บใครจักหมาย เชื่อได้ ใช่เป็นแต่ส่วนกาย เศียรกลัด กลุ้มแฮ ใครต่อเป็นจึ่งผู้ นั่นนั้นเห็นจริง @ตะปูดอกใหญ่ตรึ้ง บาทา อยู่เฮย จึงบ่อาจลีลา คล่องได้ เชิญผู้ที่เมตตา แก่สัตว์ ปวงเฮย ชักตะปูนี้ให้ ส่งข้าอันขยม @ชีวิตมนุษย์นี้ เปลี่ยนแปลง จริงนอ ทุกข์และสุขพลิกแพลง มากครั้ง โบราณท่านจึ่งแสดง เป็นเยี่ยง อย่างนา ชั่วนับเจ็ดทีทั้ง เจ็ดข้างฝ่ายดี @เป็นเด็กมีสุขคล้าย ดีรฉาน รู้สุขรู้ทุกข์หาญ ขลาดด้วย ละอย่างละอย่างพาล หย่อนเพราะ เผลอแฮ คล้ายกับผู้จวนม้วย ชีพสิ้นสติสูญ @ฉันไปปะเด็กห้า หกคน โกนเกศนุ่งขาวยล เคลิบเคลิ้ม ถามเขาว่าเป็นคน เชิญเครื่อง ไปที่หอศพเริ้ม ริกเร้าเหงาใจ @กล้วยเผาเหลืองแก่ก้ำ เกินพระ ลักษณ์นา แรกก็ออกอร่อยจะ ใคร่กล้ำ นานวันยิ่งเครอะคระ กลืนยาก ทนจ่อซ่อมจิ้มจ้ำ แดกสิ้นสุดใบ @เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มะนะเรื่องบำรุงกาย ส่วนจิตต์บมีสบาย ศิระกลุ้มอุราตรึง แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา @กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา เสียเมืองจึงนินทา บละเว้นฤวางวาย คิดใดจะเกี่ยงแก้ ก็บพบวึ่งเงื่อนสาย สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดแลเลยสูญ
Create Date : 07 มิถุนายน 2549 |
| |
|
Last Update : 26 เมษายน 2550 13:58:18 น. |
| |
Counter : 662 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|
เด็กหัวตลาด |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เรียนจบหมอ เคยผ่านการเป็นอาจารย์ แล้วลาออกไปเป็นหมอจนๆ เพราะไม่ชอบใช้วิชาชีพหากิน ปัจจุบันเลิกรักษาคน หันไปบริหารเงิน คอยดูคนอื่นรักษาคนไข้แทน รับผิดชอบการจัดชุดสิทธิประโยชน์สำหรับโรคเรื้อรัง และโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงของผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง ๓๐ บาท) สนใจเรื่องราวประวัติตระกูล และประวัติศาสตร์บ้านเกิด ณ หัวตลาด หรือตลาดจีนเมืองตานี เป็นพิเศษ
|
|
|