สัมมาทิฏฐิ มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น สัมมาทิฏฐิ มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ยังมีความเชื่อตามๆ กันมาในชาวพุทธแบบที่ต้องปลอบใจตนเองว่า เพียงมีความเชื่อ ศรัทธาในเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ แค่นี้ก็ได้ชื่อว่า ตนเองมีสัมมาทิฏฐิ ซึ่งเป็นหนึ่งในอริยมรรคแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นเพียงแค่พื้นฐานสำคัญของบุคคลที่ได้ชื่อว่า "เป็นคนดีศรีสังคม" เท่านั้น เพราะทุกศาสนานั้น ล้วนสอนให้ ละชั่ว ทำความดี บุคคลที่เข้าใจในความคิดที่ตกผลึกเหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากรู้จักที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งที่มาขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของตน เป็นบุคคลที่รู้จักรักษาอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตน ด้วยการเปลี่ยนอารมณ์จากขุ่นมัว ให้ผ่องใสได้โดยนึกถึงบุญกุศล คุณงามความดี หรือสิ่งที่เป็นมงคล ซึ่งเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในทุกๆ ศาสนากระทำได้โดยไม่ยาก แต่ก็แปลกที่ยังมีบุคคลบางพวก ชอบกล่าวหาบุคคลที่มีความเห็นไม่ลงกับตนเองว่าเป็น "มิจฉาทิฏฐิ" ทั้งๆ ที่ตนเองก็ยังไม่มี "สัมมาทิฏฐิ" ที่ตรงต่ออริยมรรคเลย เมื่อพิจารณา "โอวาทปาติโมกข์" ที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงในวันมาฆะปุรณมีบูชา ดูว่าต่างไปจากศาสนาอื่นๆ ตรงไหน ๑.ละชั่ว ๒.ทำความดี ๓.ชำระจิตใจของตนให้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลส (เครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย) ความแตกต่างนั้นอยู่ที่ข้อที่ ๓ ที่เป็นสาระสำคัญอย่างยิ่งในการชำระจิตของตน แม้ปัจจุบันศาสนาอื่นๆ ที่มีอยู่ เริ่มเล็งเห็นความต่าง และได้เลียนแบบไปบ้างแล้ว แต่ถึงจะเลียนแบบยังไง ถ้ายังเข้าไม่ถึงสติปัฏฐาน ๔ หรืออริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว คงยากที่จะได้ "สัมมาทิฏฐิ" เพียงแค่ศึกษาลูบคลำตำรับตำราแบบที่ชาวพุทธในปัจจุบันเข้าใจกัน แล้วคิดไปว่าตนเองรู้ซึ้งถึงสัมมาทิฏฐิในอริยมรรค ต้องถือว่าคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ถ้าเชื่อว่าการเข้าถึงอริยมรรคได้ง่ายๆ แบบที่รู้ๆ กันจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั้น ขอบอกตามตรงได้เลย เป็นเพียงการให้กำลังใจของพ่อแม่ครูบาจารย์เท่านั้น สรุปสุดท้ายนี้ ขอยกเอาพระพุทธพจน์ที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ดีแล้ว เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ดังนี้ "ดูกรวัจฉะ ควรแล้วที่ท่านจะไม่รู้ ควรแล้วที่ท่านจะหลง เพราะว่าธรรมนี้ เป็นธรรมลุ่มลึก ยากที่จะเห็น ยากที่จะรู้ สงบระงับ ประณีต ไม่ใช่ธรรมที่จะหยั่งถึงได้ด้วย ความตรึก ละเอียด บัณฑิตจึงจะรู้ได้" เมื่อรู้ความจริงดังที่มีพระพุทธพจน์รจนาไว้ จงช่วยกันถนอมรักษาให้ดี อย่าปล่อยให้ความมักง่าย สบายๆ ลัดสั้น มาเป็นเครื่องกั้นความหลุดพ้น ที่สามารถค้นหาได้ในตนเอง เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน ธรรมภูต |
ในความฝันของใครสักคน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] หน้าแรก Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์ Group Blog All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |