โลกหมุน 360° แต่หัวใจไม่ไหวเอนตามแรงโน้มถ่วงโลก
Group Blog
 
All Blogs
 

คำสอนของหลวงตา

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง
หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า   
“ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ”
หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

“เจ้ารู้ไหม  ในตัวเรามีคนอยู่สามคน     คนแรกคือ  คนที่เราอยากจะเป็น   
คนที่สองคือ  คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น   คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ “     
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา
   

“คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน   
เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ”   

“มาถึงไอ้ตัวที่สอง  จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ
แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์  จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น  มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้”

“อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ  ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น  ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ   
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร”   

“สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว  ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาน ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง  คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม
   
เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ
   
นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล”

“แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ “ ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้ว เริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา

“เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์  เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา
เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง  ยังไม่ต้องชำระใจ คนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่   
เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม”
   

“เข้าใจครับหลวงตา”  เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง 


  

ขอบคุณบทความดีดีจาก gunsandgames.






Free TextEditor




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:54:30 น.
Counter : 256 Pageviews.  

หัวหน้า

ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ๆ อวัยวะต่างๆ
ในร่างกายก็ทะเลาะกันว่า ใครควรจะเป็นหัวหน้า


สมองก็บอกว่า
ฉันควรจะเป็นหัวหน้า
เพราะฉันคิดและตัดสินใจต่างๆนานา '


เท้าก็เถียงและบอกว่า
ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้า
เพราะฉันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
และต้องพาพวกแกทั้งหลายเคลื่อนไปยังจุดหมาย

มือก็สวนขึ้นมาทันที
ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้า
เพราะฉันทำงานหาเงิน มาทำให้พวกแกทั้งหลาย มีชีวิตอยู่ได้ '

แล้วทั้งอวัยวะทั้งร่างกายก็ต่างยกเหตุผลที่ว่าตัวเ!
องควรเป็นหัวหน้า

จนมาถึง ' ตูด '
ยังไม่ทันจะเอ่ยเหตุผลของตัวเอง
ทุกอวัยวะก็ขำกลิ้งแล้วพร้อมใจบอกว่า
ไม่มีทาง พวกเราไม่มีวันให้ตูดเป็นหัวหน้าแน่นอน '
เมื่อเป็นดังนั้น ตูดก็สไตร์ค ไม่ยอมทำงาน
เพียงไม่นาน อวัยวะต่างๆ ก็ปั่นป่วนไปหมด


สมองที่ว่าแน่ๆถึงกับสลบเหมือด
จนในที่สุดต้องยอมให้ตูดเป็นหัวหน้า


จากนั้นทุกอวัยวะก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป
ในขณะที่หัวหน้า ก็มีหน้าที่นั่งเฉย แล้วก็ปล่อยขี้ออกมา


ดังนั้นคุณไม่ต้องคิดว่าจะให้คนที่มีสมองเป็นหัวหน้า
เพราะมันเป็นหน้าที่ของ
' ตูด ' เท่านั้น




Free TextEditor




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:30:01 น.
Counter : 234 Pageviews.  

คนล้มเหลว






















 

 


ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคน นั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะ แห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้า
ไม่ชอบสังคมและ ล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ "อัล เบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู

ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น... ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายาม เป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้ เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"
ผู้พิชิตแปซิ ฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง

ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคน หนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า
"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา
และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลัง จะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่ง ตำนาน

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียน มัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไม เคิล จอร์แดน"
หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถ ในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคน นั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคน นั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก





























ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมา ตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุ แล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคน นั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษา ระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนใน วิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์"

ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอ เพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย
แกควร กลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"

หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้ กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริ ษัท
บลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า
"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จัก กันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง

ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อ มา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจ โคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์ รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคน นั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของ โลก

ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้า คอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบัน คือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคย ถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่ สาม หรือที่รู้จักกันในนาม
"บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐี อันดับหนึ่งของโลก
ผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ


เชื่อว่าทุกคนเคยแพ้
เชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ ล้มเหลว
คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก


แหล่งที่มาจาก:ธรรมจักรดอทเน็ต






Free TextEditor




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:28:23 น.
Counter : 199 Pageviews.  

อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค














"ของแสลง" ก็คือบรรดาอาหารที่ไม่ถูกกับโรคทั้งหลายแหล่
แต่บางที ก็ทำให้เรางงเหมือนกันว่าเกี่ยวกันยังไง
แต่ของอย่างนี้ "108 เคล็ดกิน" บอกว่าอย่าลบหลู่
เพราะขึ้นชื่อว่าภูมิปัญญาชาวบ้านแล้วไซร้ ฟังหูไว้หูก็ดีเหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 โรคที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้


1. เป็นไข้หวัด
มีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก อาหารที่เย็นมากๆ
อาหารทอด อาหารมัน ซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยาก
จะทำให้เกิดความร้อนสะสม เปรียบเสมือนอาหารเชื้อเพลิง
หรือเป็นการเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟ




2. โรคกระเพาะ
ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชาแก่ๆ กาแฟ
ของเผ็ด ของทอด ของมัน เพราะอาหารเหล่านี้ ทำให้เกิดความร้อนสะสม
ทำให้โรคหายยาก ทางที่ดีควรจะรับประทานอาหารปริมาณน้อยๆ
แต่บ่อยครั้ง รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และเป็นอาหารที่ย่อยง่าย




3. โรคความดันเลือดสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาเลือดเลือดแข็งตัว
ขาดความยืดหยุ่น ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูง
เช่น หมูสามชั้น ไขกระดูก ไข่ปลา โกโก้ รวมทั้งเหล้า
เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกาย
และความชื้นก็มีผลก็ทำให้เกิดความหนืดของการไหลเวียนทุกระบบในร่างกาย
และความร้อนก็จะไปกระตุ้นทำให้ความดันสูง นอกจากนี้...
ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด หรืออาหารหวานมาก
รวมทั้งผลไม้อย่างลำไย ขนุน ทุเรียน




4. โรคตับและถุงน้ำดี
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารมัน
เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทอด อาหารหวานจัด
เพราะแพทย์จีนถือว่า ตับและถุงน้ำดี
มีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหาร
การได้อาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไป
จะทำให้สมรรถภาพของการย่อยอาหารอ่อนแอลง
และเกิดโทษต่อตับและถุงน้ำดีอีกต่อหนึ่ง




5. โรคหัวใจและโรคไต
ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด
เพราะจะทำให้มีการเก็บกักน้ำ การไหลเวียนเลือดจะช้า
ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตต้องทำงานขับเกลือแร่มากขึ้น
ส่วนอาหารรสเผ็ดก็ควรหลีกเลี่ยง
เพราะทำให้กระตุ้นการไหลเวียนสูญเสียพลังงาน
และหัวใจก็ทำงานหนักขึ้นเช่นกัน


6. โรคเบาหวาน
หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน หรือแป้งที่มีแคลอรี่สูง
เช่น มันฝรั่ง มันเทศ
ควรรับประทานอาหารพวกถั่ว
เช่น เต้าหู้ นมวัว เนื้อสันไม่ติดมัน ปลา ผักสด




7. นอนไม่หลับ
หลีกเลี่ยงชา กาแฟ (รวมทั้งการสูบบุหรี่)
เพราะอาหารเหล่านี้ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ไม่ง่วงนอน
หรือนอนไม่หลับสนิท




8. โรคริดสีดวงทวาร หรือท้องผูก
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทหอม กระเทียม
ขิงสด พริกไทย พริก เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้ท้องผูก
หลอดเลือดแตก และอาการริดสีดวงทวารกำเริบ




9. ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ หรือโรคหอบหืด
ควรหลีกเลี่ยงเนื้อแพะ
เนื้อปลา กุ้ง หอย ปู ไข่ นม และอาหารรสเผ็ด
เพราะจะไปกระตุ้นและทำให้อาหารผิวหนังกำเริบ




10. สิว หรือต่อมไขมันอักเสบ
งดอาหารเผ็ดและมัน
เพราะทำให้เกิดการสะสมความร้อนชื้นของกระเพาะอาหาร ม้าม
มีผลต่อความร้อนชื้นไปอุดตันพลังของปอด ควบคุมผิวหนัง
ขนตามร่างกาย ทำให้เกิดสิว


หากการปฎิบัติข้างต้นเป็นเรื่องยุ่งยาก
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ ด้วยวิธีที่ง่ายกว่านี้นะคะ





********************************



Free TextEditor




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:26:50 น.
Counter : 266 Pageviews.  

นรก 3 ขุมอยากอยู่ขุมไหน











นรก 3 ขุมอยากอยู่ขุมไหน

 



มีชายผู้หนึ่งตายและก็ตกนรก
ยมฑูตได้บอกแก่เขาว่ามีนรกอยู่ 3 ขุม
ให้เขาเลือกว่าเขาจะอยู่นรกขุมไหน
ชายผู้นั้นก็บอกว่าขอดูก่อนเพราะจะได้เลือกถูก

ยมฑูตก็ตกลงพาไปดูนรกขุมที่ 1 ก่อน

ในนรกขุมที่ 1 นั้น
ภาพที่เขาเห็นคือ คนเปลือยกาย เท้าช้ฟ้า
หัวทิ่มลงกับพื้น แล้วก็มีคนลากหัวไถไปกับพื้น
และพื้นก็เป็นพื้นไม้
เขาเห็นดังนั้น จึงบอกให้ยมฑูตพาไปดูนรกขุมที่ 2 ต่อ

นรกขุมที่ 2
ภาพที่เขาเห็นก็ไม่แตกต่างจากนรกขุมแรกเท่าไหร่เลย ต่างกันตรงที่พื้นนรกขุมที่ 2  เป็นพื้นปูน
ยมฑูตจึงถามเขาว่าตัดสินใจได้หรือยัง   ว่าจะอยู่นรกขุมไหน
เขาจึงบอกว่าขอดูนรกขุมที่ 3 ก่อนจึงจะบอก 

 




 



ยมฑูตก็พาไปยังนรกขุมที่ 3   เมื่อเขาเห็นนรกขุมที่ 3 เขาก็แปลกใจมาก
เพราะผู้คนในที่นั้นยืนจิบน้ำชา กาแฟ
ทานของว่างและคุยกันอย่างสนุกสนาน.......เสียตรงที่ว่า........

ที่ที่ยืนนั้นมีน้ำอุจจาระ  ท่วมขึ้นมาถึงครึ่งแข้ง
เขาก็คิดว่าถึงจะแช่อยู่ในน้ำอุจจาระ
แต่ก็ยังมีอาหาร มีน้ำ ให้กินไม่เหมือนขุมอื่นๆ

เขาจึงตัดสินใจบอกกับยมฑูตว่า “ผมเลือกนรกขุมที่ 3”

พอเขาพูดจบ.................

ก็มีเสียงตามสายของยมฑูตอีกคนประกาศว่า“หมดเวลาคอฟฟี่เบรคแล้ว เอาหัวลงได้”

 






Free TextEditor




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 22:17:15 น.
Counter : 268 Pageviews.  


SalurGirl
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฝากรูป เว็บฝากรูป อัพโหลดรูป อัพรูป
Friends' blogs
[Add SalurGirl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.