Place : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อำเภอแม่ออน,เชียงใหม่

Room type : ห้องพัก 3/2

Date : 6 - 7 December, 2013

Price : 1200 บาทรวมอาหารเช้า 2 ท่าน

การเดินทางไปพักผ่อนที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตกครั้งนี้เราเจอข้อมูลโดยบังเอิญจากการหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆที่ยังไม่เคยได้ไปเยือนในเชียงใหม่

ภาพแรกที่เราเห็นเป็นภาพจุดนั่งจิบชาในพื้นที่ห้องอาหารและสะท้อนภาพเบื้องหลังเป็นธารน้ำไหลและวิวสวยงามของป่าเขาทำให้เราข้อมูลมากขึ้นว่าที่แห่งนี้มีที่พักคอยบริการแก่นักท่องเที่ยวหรือไม่

และยิ่งหาข้อมูลก็ยิ่งค้นพบว่าที่พักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตกเพิ่งจะสร้างและบูรณะพื้นที่เสร็จใหม่ๆและเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 60 กม.ซึ่งเราใช้เวลาขับโดยไม่แวะพักเพียง 45นาทีเท่านั้นถือว่าขับรถไม่ไกลและน่าสนใจอย่างยิ่ง

หลังจากหาข้อมูลและจองที่พักกับทางโครงการหลวงฯเรียบร้อยแล้วเราก็ได้ศึกษาเส้นทางสำหรับการเที่ยว 2 วัน 1 คืนแบบสบายๆตามสไตล์ของเราทำให้รู้ว่าทางผ่านไปยังที่พักมีที่เที่ยวมากมายและครั้งนี้เราได้แวะเที่ยวถ้ำเมืองออน น้ำพุร้อนสันกำแพง หมู่บ้านแม่กำปองและยังเป็นทริปที่สร้างความสุขให้กับเราอย่างมาก

สถานที่แรกที่เราแวะเที่ยวในครั้งนี้ ถ้าออกจากตัวเมืองมาตามแผนที่จะพบป้ายบอกทางเป็นระยะ สถานที่แรกที่เราแวะในครั้งนี้คือถ้ำเมืองออน บริเวณทางขึ้นไปยังถ้ำเมืองออนมีค่าธรรมเนียมการขึ้นไปคนละ 20 บาท

บันไดพญานาค ความสูงของบันไดมีทั้งหมด 187 ขั้น เดินพอเหนื่อยเลย สำหรับคนที่จะเดินควรพกน้ำดื่มไว้สักขวดจะยิ่งดี

ทางลงไปยังปากถ้ำ ภายในมีไฟส่องสว่างตลอดถ้ำไม่จำเป็นต้องมีไฟฉายก็สามารถเดินชมความงามในถ้ำได้

ทางเดินภายในถ้ำ

บริเวณนี้เรียกว่า"ถ้ำฤาษี"

หลังจากผ่านถ้ำฤาษีแล้ว จะเดินตามทางลงไปยัง "พระธาตุนมผา"

พระธาตุนมผา เป็นพระธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ตำนานเรื่องเล่าเก่าแก่ว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาพักที่ถ้ำเมืองออนเมื่อครั้งที่พระองค์เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาที่หริภุญชัย(เชื่อกันว่าคือจังหวัดลำพูนในปัจจุบัน)จึงเป็นเหตุทำให้พญานาคปลอมตัวเป็นคนเพื่อนำอาหารมาถวายหลังจากถวายอาหารเสร็จเรียบร้อย พญานาคตนนั้นได้ขอเกศาของพระพุทธเจ้าเอาไว้และนำมาตั้งในนมผาที่อยู่กลางถ้ำ

สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นศาสนสถานไปโดยปริยายมีผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

หลังจากเรียกเหงื่อที่ถ้ำเมืองออนแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังน้ำพุร้อนสันกำแพง แต่ที่นี่เราถ่ายภาพวิวมาไม่มากค่ะ มีแต่รูปคนทั้งนั้น เราเคยมาที่นี่เมื่อ5 ปีที่แล้วสถานที่เปลี่ยนไปเยอะเลย มีร้านอาหารภายในเพิ่มขึ้น มีบ่อสำหรับแช่เท้าและมีไข่เค็มออนเซ็นขายเพิ่มเติมด้วย

เราออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็สายมากพอเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพงเสร็จก็เป็นเวลาใกล้เที่ยง เราขับชะลอดูร้านอาหารหลายร้าน แล้วก็มาหยุดจอดที่ร้านครัวแม่หลวงซึ่งติดริมถนนทางขวามือก่อนจะออกไปยังถนนใหญ่

เป็นร้านอาหารธรรมดา พื้นที่ภายในร้านดูสะอาดและราคาไม่แพง เลยตัดสินใจทานร้านนี้ ที่ร้านมีไวไฟให้ใช้ด้วยเราสั่งอาหารไปทั้งหมด 3 อย่างเห็ดหอมผัดน้ำมันหอย ต้มแซบกระดูกอ่อนและหมูแดดเดียวทอด ราคาจ่ายไปไม่ถึง 200 บาท

ระหว่างที่เรานั่งกินข้าวอยู่นั่น ก็เห็นร้านกาแฟอีกฝั่งรถเลี้ยวเข้าจอดตลอดไม่ขาดสายเลย เลยกะว่าอิ่มแล้วคงต้องแวะไปลองชิมสักหน่อย

ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามชื่อร้านยู-โนกะ เมนูแนะนำของร้านจะเป็นพวกเมนูผสมโซดาและเบเกอร์รี่โฮมเมดที่ทางร้านทำเอง บรรยากาศภายในร้านสบายๆ เราลองสั่งเลม่อนโซดาอร่อยดีค่ะ ทานกับบลูเบอร์รี่ชีสพายโอเคเลย

เรามุ่งหน้าต่อไปยังที่พักวันนี้ ตอนจองห้องพักไว้ไม่ได้ถามถึงสิ่งของที่มีภายในห้องพักไว้เลย และไม่รู้ว่าห้องพักหน้าตาเป็นยังไงด้วย เคยเห็นแต่ภาพภายนอกที่พักเท่านั้น แต่ก็ได้ทำการจองไป และไม่ได้คาดหวังสิ่งใดเอาไว้ นอกจากความสะอาดและความอบอุ่นที่จะได้จากที่พักในค่ำคืนนี้

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเป็นหนึ่งในเส้นทาง38 ดอย 38 โครงการหลวง //www.thairoyalprojecttour.com/?cat=7&paged=4 เราพยายามจะไปให้ครบทุกที่ อยากไปทุกดอย แต่ไม่รู้ว่าจะเก็บได้หมดไหม

ตามไปดูภายในที่พักกัน ครั้งนี้เราเลือกห้องหมายเลข3/2 ไว้

ในบรรดาทั้งหมดตามความคิดเรา เราว่าห้องหมายเลข3/2 เป็นห้องที่วิวดีสุด และเดินขึ้นห้องพักสะดวกสุด รองลงมาเป็นห้องหมายเลข3/1 เพราะเป็นห้องที่ติดกัน และจะถูกเงาไม้บังวิวบางส่วน

หลังจากเรากลับมา ตรงนี้มีโคมไฟมาประดับเพิ่ม มีกาน้ำร้อน

ภายในห้องน้ำจะมีไดร์เป่าผม สบู่เหลว แชมพู สบู่ก้อนไว้บริการภายในห้องน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น 6000 วัตต์ในห้องน้ำเอาอยู่จริงๆ

หกโมงเย็น อากาศเย็นลงกว่าตอนกลางวันมาก เมื่อตอนที่เรามาถึงอุณหภูมิ18 องศาและตอนนี้ได้เคลื่อนตัวไป 12 องศาแล้ว หนาวเย็นขึ้นมาทันที แต่ก็ชอบนะ เมื่อเทียบกับอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงนั้นที่ร้อนมากเหลือเกิน มุมนี้เราถ่ายจากระเบียงห้องพักก่อนจะออกไปกินข้าวเย็นกัน

ตามทางเดินเปิดไฟสว่างไสวสวยงามมาก ทำให้หลงรักที่นี่เลย

หันกลับมามองฝั่งห้องอาหารบ้าง สวยไม่แพ้กับที่พักเลย อากาศเย็นดาวเต็มฟ้า บรรยากาศดี หายเหนื่อยจากการทำงานหนักมาเลย

วันนี้เราแจ้งเจ้าหน้าที่ขอจองโต๊ะ เห็นวิวดีๆหน่อย เลยได้โต๊ะยาวด้านนอก ได้มองวิวสมใจเราเลย

นั่งรอชมดาว ดูวิว คุยกันสักพักเมนูอาหารที่ได้สั่งไว้ล่วงหน้าก็ได้มาเสิร์ฟ

เมนูแรกวันนี้ยำใบเมี่ยงหรือยำยอดอ่อนใบชา รสชาดกลางๆอร่อยดีค่ะ กึ่งๆลาบ+ยำ

ต้มข่าไก่ รสชาดเปรี้ยม มัน กำลังดี ทานร้อนๆทำให้อุ่นขึ้นมาเลย

ยำเห็ดออรินจิย่าง น้ำยำอร่อยมากๆ

เห็ดออจินจิทอด ดูหน้าตาธรรมดา นึกว่าจะไม่อร่อย แต่อร่อยเหมือนกินมันฝรั่งทอดเลย

เราตื่นกันแต่เช้ามาสูดอากาศเย็นๆที่สดชื่น และหาข้อมูลต่อว่าหมู่บ้านแม่กำปองเขาเที่ยวช่วงไหนกัน เพราะไม่รู้ต้องไปแต่เช้าหรือสายๆ แต่ก็เห็นแต่รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเสียส่วนใหญ่ เลยรอให้สัก 7โมงค่อยออกเดินทางจากที่พัก

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตกห่างจากหมู่บ้านแม่กำปองประมาณ5 กม.เท่านั้น เมื่อเราไปถึงหมู่บ้านเงียบมาก เหมือนผู้คนยังหลับกันอยู่ เราจึงไปยังวัดคันธาพฤกษาซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านโดยวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ

โบสถ์กลางน้ำ ตอนแรกหาทางลงไปไม่เจอ เพราะทางสำหรับเดินลงไปค่อนข้างแคบและลื่นจากตะไคร่ ทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษ

ไหว้พระขอพรและชมโบสถ์กลางน้ำแล้ว ก็มุ่งหน้าไปชมนกชมไม้กัน แต่ร้านเปิดประมาณ8 โมงเช้า เราเลยมุ่งหน้าต่อไปยังน้ำตกแม่กำปองต่อไป

น้ำตกแม่กำปองมีทั้งหมด7 ชั้นที่เรายืนอยู่นั้นเป็นชั้นที่ 1 อยู่ใกล้กับบริเวณฝากทดน้ำของหมู่บ้าน เราไม่ได้ขึ้นไปยังชั้นอื่นๆ เพียงแค่แวะถ่ายรูปชั้น1 ชั้นเดียว

เราย้อนกลับมาหาอะไรอุ่นๆดื่มกัน ป่านนี้ร้านชมนกชมไม้น่าจะเปิดแล้ว และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ ร้านเปิดแล้ว

เราเลือกชา กาแฟอยู่นาน เพราะที่นี่มีชามากกว่า20 ชนิดให้ชงดื่มร้อนๆกัน หลังจากได้เครื่องดื่มถูกใจแล้วเราก็หาที่นั่งและชมวิวกันต่อ

ตลอดทริปช่วงเช้านี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวออกมาถ่ายรูป หรือสวนทางกับเราเลย ทำให้ถ่ายรูปสบายๆ

ก่อนกลับไปยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เราแวะซื้อหมูทอดกับไส้อั่วในหมู่บ้านกลับมากินด้วย หน้าตาใส่อั่วไม่เหมือนที่เคยเห็นดูเล็ก ใส้ในแปลกๆ แต่ชิมแล้วอร่อยดี

อาหารเช้าที่โครงการหลวงจะสามารถเติมได้เรื่อยๆมีสลัดผักและผลไม้ ข้าวต้มหมูสับเห็ดหอม และเครื่องดื่มร้อน1 ชนิด

ขอปิดไปด้วยอาหารเช้าของที่นี่นะคะ สำหรับคนที่สนใจอยากตามรอยไป และอยากพักที่โครงการหลวง ติดต่อได้ที่โครงการหลวงโดยตรง//ow.ly/rS1Dq