ตอนนี้เราจะตามรอยหนังดังตามทางรถไฟแล้วนะคะที่แรกที่เดินทางถึงนั่นก็คือ สุสานกาญจนบุรี (ดอนรัก)สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะบริเวณสุสานมีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ ชวนให้รำลึกถึงเหตุการณ์การสู้รบและผลลัพธ์ที่ตามมาสุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุมนอกจากนี้ยังมีผู้หญิงที่เสียชีวิตเพียงคนเดียวอย่างกล้าหาญด้วย ขอไว้อาลัยให้กับ PHOEBE

และหลังจากที่เราได้เยี่ยมชมความสวยงามและไว้อาลัยให้ผู้จากไปแล้วเราได้เดินทางต่อไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อดูรถไฟขบวนแรกกัน

ขอเก็บภาพที่ระลึกที่นี่หน่อยนะเอ้าขานรับหน่อยนะชาวโออิชิ

โออิชิ โออิชิ!!!!

เที่ยวทั่วไทยไปยกแก๊ง และก็ได้ภาพอย่างที่เห็น

หลังจากที่ใช้พลังตะโกนแบบไม่เคยพร้อมกันสักรอบ เราก็แวะไปทานอาหารที่นี่กันอาหารอร่อยค่ะ ดูเมนูที่เขาเลี้ยงเรานะคะ

ทานอาหารอร่อย ชมวิวแม่น้ำ เห็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว อยากบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ลงมาทานอาหารแล้วไม่เจอน้ำโออิชิมาหลอกหลอน เพราะตลอดทางอยากบอกว่าทานโออิชิไม่ต่ำกว่าสี่กล่องก่อนจะถึงที่กาญ

ข้าวปั้นอร่อย แซนวิชรสชาดดี คู่กับน้ำชาอร่อยมากค่ะ เวลาStaff มาถามเหมือนอยู่บนเครื่องบินเลยค่ะ

Coffee or Tea (ออกเสียงสูงๆด้วยนะ จะได้คิดภาพออก)เราก็ชาลูกเดียวค่ะ  ตาแข็งแน่ๆคืนนี้

หลังจากอิ่มท้องขึ้นรถมาสิ่งแรกที่ได้รับไม่ต้องบอกน่าจะเดาออก ชาเขียวนั่นเอง อีกแล้วเราก็เปลี่ยนรสไปเรื่อย แต่อร่อยค่ะก็ดื่มๆกันไป

สักพักเราก็มาถึงแล้ว แอ่น แอ้นนนนน เขื่อนศรีนครินทร์ค่ะ สวยงามเนอะ นอกจากจะมีประโยชน์นานาประการแล้ว ยังดูสวยงามอีก ลมเย็นสบายเลยค่ะ ที่เราไม่ลืม นั่นก็คือถ่ายภาพที่ระลึก

โออิชิ โออิชิ!!!!

เที่ยวทั่วไทยไปยกแก๊ง และก็ได้ภาพอย่างที่เห็นอีกสักครั้ง

อยากบอกว่าที่ต่อไปที่เราจะไปเราตื่นเต้นนะคะเพราะจริงๆแล้วเราค่อนข้างกลัวสัตว์จำพวกช้าง ม้า เสือ ไม่กล้าเข้าใกล้เลยแต่นี่ทำให้เรากลัวน้อยลงนิดนึง

มาถึงแล้วค่ะ แคมป์ช้างทวีชัยมีช้างเยอะมากๆเลยค่ะรอให้เราขึ้นขี่กันที่นี่จะมีให้เลือกระหว่างขี่ช้างและล่องแพเราเลือกขี่ช้างนะคะ

สาเหตุกลัวตกน้ำ สั้นๆแต่ใจอยากเล่นนะคะ แต่เอาน่าช้างก็ต้องมีอะไรดีบ้างแหละ

น้องช้างตัวที่พาเราเที่ยวครั้งนี้ชื่อพุ่มพวง ออกแนวดื้อนิดนึง ให้ไปซ้ายจะไปขวา ให้ไปขวาก็ไปซ้าย บางทีก็หยุดเดินหาอะไรกิน บางทีก็วิ่งซะเราตกใจ  แต่ก็สนุก ขำๆตัวเองเหมือนกัน

และยังมีเพื่อนที่น่ารักของเราอีกหลายตัวที่รอคนมาชื่นชมเพื่อให้พวกเขาไม่ต้องไปเร่ร่อนในเมือง ไกด์เราบอกว่าจะดีกว่าไหมถ้าเราช่วยเหลือในที่ที่เขาควรอยู่  มากกว่าจะคิดช่วยเหลือให้อาหารเขา เมื่อเขาเข้ามาก่อความรำคาญในเมืองแล้ว  อยากให้นำความสงสารมาสู่เขาด้วยที่แคมป์ช้างทวี

คนที่นี่จะได้มีรายได้ ช้างก็มีอาหารกินอิ่ม ไม่อยากให้ที่ดีๆ น่ารักๆแบบนี้ปิดตัวเลย คิดแล้วเศร้า T T

อยากบอกว่าช่วงที่เราไปเที่ยวเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก เรายังไม่หิวเลยและยังอิ่มใจที่ได้ไปช่วยให้เขามีรายได้ ไกด์บอกว่าแคมป์เขาดีใจมากที่มีเงินค่าอาหารเลี้ยงช้างถึง 3000 บาทอาจจะดูเป็นเงินไม่เยอะเมื่อเทียบกับเราไปเที่ยวครั้งนึง  แต่เป็นเงินที่มีค่าในการที่จะเลี้ยงช้างต่อไปได้

เดี๋ยวเราจะพาทานอาหารเย็นแล้วล่องเรือชมวิวไปด้วยกันค่ะ  เย็นนี้เราทานอาหารแถวปากแพรกค่ะ ที่ JR Queen อาหารรสชาดจัดจ้านนะคะ (หรือเผ็ดนั้นเอง) แต่ทานไปชมวิวไปก็รู้สึกดีค่ะ

ปกติตามตู้เย็นเราจะต้องเห็นน้ำเปล่าเครื่องดื่มต่างๆทริปนี้สิ่งที่เราได้เห็นอีกแล้วนั้นก็คือแบลคทีโอ้....ถึงจะกินชาทั้งวัน แต่ตาไม่แข็งเลย หลับอยู่ดี

ไปดูวิวรอบๆของรีสอร์ทตอนเช้าแทนนะคะ รีสอร์ทที่ไปพักกว้างมากค่ะ ติดแม่น้ำด้วยสระน้ำก็น่าเล่นแต่เดี๋ยวเราต้องเดินทางแล้ว ขอถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกก่อนแล้วกัน

เราไปกันต่อดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพระท่านจะรอนาน ถึงแล้ววัดหลวงตาบัว  ที่นี่มีสัตว์เยอะมากๆค่ะไม่ใช่ท่านซื้อมาเลี้ยงแต่อย่างใดนะคะ แต่เป็นคนมาฝากบ้าง สัตว์หนีตายมาเองบ้างเจ้าหน้าที่มาฝากบ้างไปๆมาๆเลยเยอะเข้า

ที่นี่มีเสือถึง 8 ตัววัวอีกฝูงใหญ่ กระทิงอีก นกยูงอีกบินหนีมาจากฟาร์ม หมูป่าที่โดนตีหลังหักมามาพึ่งใบบุญวัดแห่งนี้

หลังจากที่ถ่ายภาพกันจนเต็มอิ่มก็ไปต่อกันที่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ที่ไม่เรียกว่าปราสาทเพราะว่าไม่ใช่ที่อยู่ของใคร แต่เป็นที่ประกอบพิธีสงฆ์ไกด์บอกมาอย่างนั้นค่ะ

ไปต่อกันที่โรงถ่ายพร้อมมิตรสตูดิโอเลยค่ะ

เราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกครั้งนี้คุณตัณมาร่วมถ่ายภาพที่ระลึกด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีผู้ว่ากาญจน์แต่ละท่านดูอารมณ์ดีจังค่ะ

ขอปิดภาพสุดท้ายด้วยตลาดโยเดียและภาพหมู่นะคะเพราะว่าช่วงขบวนประกาศอิสรภาพฝนตกหนักมาก เราได้แค่ดูค่ะไม่กล้าถ่ายภาพกลัวกล้องพัง เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราซ่อมทริปโรงถ่ายอีกสักครั้งจะมารีวิวให้ดูนะคะ