เสืออากาศเยอรมัน ฟร้าน สไตเกอร์ กับเครื่อง BF109 และนักบินเครื่องบินทิ้งระเบิด ชาลี บราว กับเครื่อง B-17 ก่อให้เกิดตำนานของเรื่องประทับใจในเสี้ยวนึงของสงครามเวหาเหนือน่านฟ้ายุโรป เครื่องบิน B-17 ของบราวน์ ออกบินทำภาระกิจและถูกยิงจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนเขาต้องนำเครื่องแยกออกจากฝูงบิน พร้อมกับต้องประคับประคองเครื่องกลับฐานให้ได้ ขณะที่ สไตเกอร์ ได้รับคำสั่งให้ค้นหาและทำลายเครื่องบินข้าศึก เขาได้พบกับ B-17 พิการลำนี้ และเป็นเหยื่อโอชะที่เขาจะทำลายได้ง่ายๆ แต่เมื่อเขานำเครื่อง 109 เข้ามาใกล้กับ B-17 ก็ต้องประหลาดใจที่สภาพของเครื่อง B-17 มันพรุนไปด้วยกระสุนปืน และ มันมีสภาพที่ไม่น่าจะบินต่อไปได้ ปืนประจำตัวบนเครื่อง B-17 ไม่ได้ทำการยิงใส่ สไตเกอร์ ดังนั้นเขาจึงนำเครื่องเข้าไปใกล้มาก จนสามารถ มองเห็นรูตรงกลางลำตัวเครื่อง B-17 เมื่อสไตเกอร์ ได้มองเข้าไปในรูนั้น เขาก็พบกับภาพที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง นั่นคือ ลูกเรือเครื่อง B-17 กำลังช่วยปฐมพยาบาลเพื่อนที่ขาขาด และ กำลังเสียเลือดไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสาละวนกับการช่วยเหลือเพื่อน โดยมิรู้ว่า ทุกอย่างที่พวกเขาทำ กำลังถูกจับจ้องจากสายตานักบินเยอรมัน สมัยที่สไตเกอร์เคยปฏิบัติการณ์รบในแอฟริกาเหนือ หัวหน้าฝูงบินเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า "พวกเราคือนักบินรบที่ทรงเกียรติหากผมรู้ว่า ใครก็ตามในฝูงบิน ยิงนักบินที่กำลังสละเครื่องโดดร่มแล้วกำลังลอยอยู่บนฟ้า ผมจะยิงไอ้คนนั้นด้วยตัวผมเอง" สำหรับสไตเกอร์แล้ว เครื่อง B-17 ลำนี้ก็เหมือนนักบินที่สละเครื่องโดร่มออกมาแล้วกำลังลอยละล่องอยู่ ดังนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยิงใส่เครื่อง B-17 ลำนี้ สไตเกอร์ตัดสินใจนำเครื่อง บินเข้าไปใกล้เครื่อง B-17 ตรงบริเวณห้องนักบิน ทั้งตัวเขาและนักบิน B-17 ต่างมองเห็นหน้ากันอย่างชัดเจน ชาลี บราวน์ นักบินเครื่อง B-17 เขาต้องตกตะลึงแทบไม่เชื่อว่านักบินเยอรมัน จะกล้านำเครื่องบินเข้ามาใกล้ขนาดนี้ เขาเรียกนักบินผู้ช่วย และ พลปืนให้มาดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สไตเกอร์ บินคุ้มเครื่อง B-17 ลำนี้จากเครื่อง BF-109 และ เครื่องบินขับไล่เยอรมันลำอื่นในละแวกใกล้เคียง เพราะเขารู้ว่า หากเครื่องบินลำอื่น มาเห็นเครื่อง บินของเขาและ B-17 พวกเขาก็จะผละออกไปไม่สนใจและคงคิดว่าเขากำลังไล่ล่า เครื่องB-17 ลำนี้อยู่ นักบินทั้ง 2 ฝ่ายมองเห็นหน้ากันอย่างชัดเจน พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า ข้าศึกที่พวกเขาต่อสู้กันมาตลอด มาวันนี้จะมีโอกาสได้มาจ้องมองกันใกล้ๆแบบนี้ สไตเกอร์ นำพา B-17 ของบราวน์มาถึงทะเล และนั่นก็คงเพียงพอแล้วสำหรับการคุ้มกันนี้ เขาหันหน้ามามองนักบิน B-17 พร้อมกับทำความเคารพให้ ก่อนจะนำเครื่องบินเลี้ยวกลับไปยังดินแดนของตน แม้นว่า บราวน์และลูกเรือ จะนำเครื่องลงจอดถึงพื้น พวกเขาก็ยังไม่หายตกตะลึง ที่นักบินเยอรมันจะกล้าทำแบบนี้ เขาถูกสั่งให้ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกแก่เพื่อนนักบินด้วยกัน เพราะมันจะกลายเป็นการสร้าง "ความรู้สึกที่ดีต่อข้าศึก" หลังสงครามเรื่องราวที่ บราวน์ได้พบมันยังฝังใจเขามิรู้ลืม เขาจึงนำเรื่องราวของตัวเอง ไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ทหารผ่านศึก ในเยอรมันเพื่อหานักบินเยอรมันคนนั้นที่เคยช่วยเหลือเขา เหมือนโชคชะตากำหนด สไตเกอร์มีโอกาสได้อ่านและ ติดต่อกลับไป จึงทำให้เขาทั้ง 2 มีโอกาสได้พบกัน และ เขาทั้งสองได้กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน สำหรับ สไตเกอร์ และ บราวน์ สงครามไม่ได้ก่อให้เกิดความสูญเสีย แต่มันกลับก่อให้เกิดมิตรภาพที่ดีให้กับ นักบินของทั้ง 2 ชาตินี้