ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
All Blogs
 
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ สระมรกต กระบี่

“กระบี่งามนัก ผู้คนน่ารัก เป็นเมืองน่าอยู่…
อยากให้เธอเห็นมัน อย่างที่ฉันได้เจอ ฉันภูมิใจจะเสนอ ให้เธอเจอสิ่งที่ฝัน”


...เพียงเพราะเพลงนี้ใน CD ชุดนี้ทีเดียว * ที่สร้างแรงบันดาลใจ ชวนให้พาเด็กชายเกาลัดเดินทางลงใต้มุ่งหน้าสู่กระบี่

กระบี่ เป็นเมืองน่าอยู่สมคำร่ำลือ มีทั้งทะเล ภูเขา และแม่น้ำ ครบในจังหวัดเดียว ขึ้นอยู่กับว่าแขกที่มาเยือน ต้องการไปสัมผัสกับธรรมชาติแง่มุมใด

หนึ่งวันในการท่องเที่ยวกระบี่ เด็กชายเกาลัดได้ไปที่ป่าทุ่งเตียว ป่าที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย ตั้งอยู่ที่บ้านบางเตียว ต. คลองท่อมเหนือ อ. คลองท่อม

ป่าทุ่งเตียวเป็นส่วนหนึ่งของป่าเขานอจูจี้ซึ่งเป็นป่าดงดิบชื้นที่ราบต่ำแห่งสุดท้ายของไทย มีพืชพรรณและสัตว์บางชนิดที่มีเฉพาะในป่าประเภทนี้เท่านั้น ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ที่นี่มีพรรณพืชและสัตว์ป่าขนาดเล็กมากมาย เฉพาะนกมีมากกว่า 318 ชนิด ประการสำคัญที่สุดคือเป็นแหล่งอาศัยสุดท้ายของ “นกแต้วแล้วท้องดำ” ซึ่งใกล้สูญพันธุ์ไปจากโลก


เมื่อไปถึงลานจอดรถ เดินถึงปากทางเข้าสระมรกต จากป้อมยามเพียงไม่กี่ก้าว จะเจอป้ายบอกข้อความว่า หากเดินไปตามถนน ระยะทาง 800 เมตร ก็จะถึงสระมรกตแล้ว

แต่หากเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่จัดทำไว้อย่างดี เป็นสะพานไม้เดินได้โดยเท้าไม่สัมผัสผิวดิน ระยะทางทั้งหมด 1,400 เมตร ควรจะเลือกเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพราะจะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ จากธรรมชาติมากมาย รอปรากฏสู่สายตาคุณเพียงเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น



โดยเฉพาะความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในป่าดงดิบชื้น เช่น ไลเคน มอส ต้นเหรียงขนาดใหญ่ ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ดอกไม้ป่าสวย ๆ ธารน้ำใสสีเขียวตลอดทาง สัตว์ที่หาชมได้ยากหลายชนิด โดยเฉพาะนก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล นกเงือกดำ ฯลฯ ที่นี่จึงเป็นสถานที่หมายปองแห่งหนึ่งของนักดูนก

ระยะทางดังกล่าวครอบครัวเราเดินดูแล้ว ไม่เหนื่อยเลย เพราะตลอดเส้นทาง เราพักชมสิ่งต่าง ๆ ข้าง ๆ เส้นทางเดินกันอย่างช้า ๆ
ในจุดสำคัญ จะมีป้ายสื่อความหมาย อธิบายลักษณะเด่นของระบบนิเวศ หรือสภาพต่าง ๆ ในแต่ละจุดไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้อ่านแล้วจะได้สังเกต ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้พบเห็น

การเดินป่าเส้นทางนี้น่าตื่นตาตื่นใจมาก สภาพป่าดิบชื้นระดับต่ำ เป็นอย่างนี้เอง สิบปากว่า หรืออ่านหนังสือสักสิบเล่ม ก็บรรยายได้ไม่เท่าตาเห็น
ป่าดิบชื้นระดับต่ำ (Lowland evergreen forest ) มีพรรณไม้ต่างๆ เบียดเสียดกันอย่างแน่นหนา คงสภาพความอุดมสมบูรณ์ นอกจากป่าดิบชื้นระดับต่ำในเส้นทางนั้นแล้ว ยังมีป่าพรุ (Peat swamp forest ) จึงเป็นสังคมป่าดิบที่มีลักษณะพิเศษจากป่าดิบทั่วๆ ไป บริเวณ 2 ข้างลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านเป็นบริเวณแคบๆ มีน้ำขังตลอดทั้งปี ทำให้พันธุ์ไม้ต้องมีการปรับตัวของราก เพื่อให้สามารถทรงตัวอยู่ได้



“เกาลัด มาดูหม้อข้าวหม้อแกงลิงสิลูก”
พ่อบอกว่า หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพืชกินแมลง เหมือนที่เคยเห็นในสารคดีโทรทัศน์นั่นไง
“เกาลัดกลัว หม้อข้าวหม้อแกงลิงจะกินเกาลัดไหมพ่อ”


ก่อนที่จะถึงสระมรกตสระใหญ่ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ จะได้พบกับสระมรกตขนาดเล็กกว่า 2 แห่ง



“เกาลัดอยากลงน้ำแล้ว”
แม้จะบอกว่า รอให้ถึงสระใหญ่ก่อน เกาลัดจะคอยรบเร้าอย่างนี้ตลอดทาง

ทำไม น้ำในสระมรกตถึงเป็นเขียวมรกต และใสมากจนมองเห็นพื้นด้านล่าง?



สระมรกต มีน้ำใสจนมองเห็นพื้นหินด้านล่างซึ่งมีสีเขียวมรกตอันเป็นที่มาของชื่อสถานที่ ในสระไม่มีปลา สัตว์น้ำ หรือพืชน้ำแต่อย่างใด สาเหตุ น้ำในสระมรกตเป็นน้ำกระด้าง สภาพเป็นด่าง ซึ่งมีผลต่อการละลายของเกลือ ทำให้สารแขวนลอยต่างๆ ตกตะกอนอย่างรวดเร็ว และยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชน้ำด้วย

หากนึกถึงสารส้ม น้ำสารส้มคือน้ำด่าง เมื่อเราใช้สารส้มแกว่งในน้ำให้ตะกอนนอนก้น ตะกอนในสระมรกตจึงตกตะกอน



เมื่อพิจารณาดูให้ดี อาจเห็นว่าสีของสระมรกตเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตรงกลางสระน้ำสีฟ้า ออกมาทางริมสระเปลี่ยนเป็นสีเขียวนิดๆ เพราะสาหร่ายขนาดจิ๋วและแบคทีเรียชอบอยู่ตามน้ำร้อน บริเวณกลางสระเป็นจุดที่น้ำร้อนผุดขึ้นมาจากพื้น สาหร่ายทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้า พอไปถึงริมสระ น้ำไม่ผุดขึ้นมา ปริมาณสาหร่ายเปลี่ยนไป สีของน้ำก็เปลี่ยนไป สีน้ำยังเปลี่ยนตามสีท้องฟ้า รวมทั้งช่วงเวลา เช่นหลังฝนตก

สระมรกต เป็นน้ำพุร้อน ลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส
เมื่อได้เห็น จึงอดใจไม่ได้ ที่จะลงนอนแช่น้ำ
เด็กชายเกาลัด จึงได้แวกว่ายสายธาร เล่นน้ำสบายไป

นอกจากนั้น ในบริเวณก่อนถึงสระมรกต ประมาณ 800เมตร จะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว) ซึ่งตั้งชื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับทีนา โจลิฟฟ์ ชาวอังกฤษ ผู้ริเริ่มความคิดที่จะรักษาอนุรักษ์ป่าดิบชื้นผืนนี้ไว้ไม่ให้ถูกทำลาย มีระยะทาง ๒.๗ กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายที่จะคอยบอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ในป่าให้นักเดินทางได้ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ เส้นทางจะผ่านผืนป่าเล็ก ๆ ซึ่งเป็นป่าที่ราบต่ำที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยทางภาคใต้ของประเทศไทย แสดงลักษณะของป่าดิบชื้นที่ราบต่ำอย่างแท้จริง

ค่าธรรมเนียมการเข้าชม คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน

สนใจสอบถามและติดต่อที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หมายเลขโทรศัพท์ 0 - 2561 - 0777 , 0 - 2579 – 6666 เว็บไซต์ //www.dnp.go.th


*
เพลงชุดชายหาดติดดาว ลิขสิทธิ์ของกรมควบคุมมลพิษและบริษัทกะทิกะลา




Create Date : 29 พฤษภาคม 2551
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 15:45:28 น. 4 comments
Counter : 2991 Pageviews.

 
ค่าเข้าแพงจังครับ


โดย: เตอร์ IP: 110.168.115.248 วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:10:22:29 น.  

 
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม
คนไทย
เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท

ต่างชาติ
เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท


ไม่น่าจะแพงนะคะ
อุทยาน ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อวันตั้งมากมาย
ในการดูแลรักษาสถานที่


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:10:33:06 น.  

 
ฮือ ฮือ อั๊วอยากไปบ้างอะ


โดย: อ้วนพุ้ย IP: 49.49.48.146 วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:9:45:02 น.  

 
อิอิ...เราก็อยากไปอีกจังเลยค่ะ


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 4 สิงหาคม 2554 เวลา:13:21:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมจันทร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.