ไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ .. ^^
Group Blog
 
All Blogs
 
เติมเต็ม @ ตรัง ตอน สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ ทัวร์ 4 เกาะ และของอร่อยเมืองตรัง

ตรัง เมืองที่เราถวิลหา เพราะติดใจในความเป็นท้องถิ่นที่ยังคงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมๆ สงบเงียบ ไม่วุ่นวาย มีแหล่งท่องเที่ยวและอาหารอร่อย เราจึงยังคงหาโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองตรังแบบไปแล้ว ไปอีก สำหรับการท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ เกิดจากการที่ได้นัดกับเพื่อนว่าจะพาลูกชายเรียนรู้ผ่านการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง สามคู่แม่ลูก แต่เมื่อถึงวันเดินทางจริง ๆ ผู้ร่วมทริปเหลือเพียงเรากับลูกชายเพียงสองคน อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่อาจจะพลาดโอกาสงาม ๆ ในการได้ไปท่องเที่ยวครั้งนี้อย่างแน่นอน

ทริปนี้ เราได้พาลูกชายไปท่องเที่ยวสถานที่หลักๆ ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) เที่ยวทะเล 4 เกาะ คือ เกาะมุก เกาะม้า เกาะเชือก เกาะกระดาน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคล และที่ไม่พลาดก็คือ ของอร่อยเมืองตรัง

ตามเราไปเลยค่ะ



ในวันแรก เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย บินลัดฟ้าจากสนามบินดอนเมือง ไปยังจังหวัดตรัง เมื่อไปถึงสนามบินตรังแล้ว ก็ได้ซื้อตั๋วรถตู้โดยสารจากสนามบินตรังเข้าตัวเมือง ราคาค่าตั๋วคนละ 90 บาท ให้รถตู้ไปส่งเกสต์เฮาส์ที่ได้จองไว้ล่วงหน้าแล้วบริเวณใกล้สถานีรถไฟตรัง



รถตู้จากสนามบินเข้าเมืองตรัง



ไปถึงที่พักในตอนสาย ได้เข้าไปเช็คอิน แต่ความจริงแล้วเวลาเช็คอิน คือ บ่ายสอง ห้องพักจึงยังไม่พร้อมที่จะให้เข้าพัก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จึงได้ออกไปเช่ามอเตอร์ไซค์ที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง แถวหน้าสถานีรถไฟตรังนั่นเอง ราคาค่าเช่าวันละ 300 บาท สำหรับรถมอเตอร์ไซค์เช่า จะมีให้เช่าหลายร้านด้วยกันในย่านนั้น ลูกค้าสามารถเดินเลือกชมและต่อรองราคาได้ซึ่งบางร้าน อาจได้ราคาเช่าที่ต่ำกว่านี้

นอกจากนั้นยังได้ไปนั่งร้านกาแฟและเบเกอรี่อร่อยและตกแต่งร้านได้น่ารัก ชื่อ Jida by Laytrang อยู่หน้าสถานีรถไฟตรัง ลูกชายติดใจร้านนี้มาก ๆ เฉพาะลูกชายคนเดียว จัดเครื่องดื่มไป 2 แก้ว กับช็อคโกแลตลาวาอีกหนึ่งชุด



ในช่วงเช้าของวันแรกไปจนถึงตอนบ่าย ๆ เราพาลูกชายซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปที่ “สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย)” ระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองนัก เพียง 13 กิโลเมตร ขับรถไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ก็ถึงแบบชิลล์ ๆ ที่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) มีร้านค้าสวัสดิการ ขายขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม มาม่าคัพ แต่ไม่มีร้านอาหาร



เนื่องด้วยความหิว ก่อนเดินเที่ยว ณ สถานที่น่าสนใจแห่งนี้ เราขับรถออกไปหาข้าวกิน ไปเจอร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ร้านหนึ่ง ลองแวะเข้าไปชิมดูรสชาติอร่อยดี ราคาก็ถูกมาก



จากร้านข้าวแกงกลับมาที่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) กันต่อไฮไลท์ของวันนี้ก็คือ การเดินชมสะพานศึกษาเรือนยอดไม้


สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว ใช้ทางหลวง 404 ตรัง-ปะเหลี่ยน พอถึง กม. 11 ก็จะเห็นทางเข้าด้านซ้ายมือ ตำแหน่ง GPS คือ N7°46.071’, E99° 63.525’ หมายเลขโทรศัพท์ 0 7528 0166 เว็บไซต์ //www.tkbg.org

ผจญภัยบนเรือนยอดไม้ ชมเมืองล้อมป่า แห่งเดียวในประเทศไทย

สวนพฤษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ เป็นต้นน้ำของลำห้วยเล็กๆ ลักษณะป่าจะเป็นป่าดิบชื้น ป่าพรุ และทุ่งหญ้า เป็นพื้นที่ป่าที่แวดล้อมไปด้วยชุมชนเล็กๆ โดยรอบ จึงกล่าวได้ว่าเป็นเมืองล้อมป่า มิใช่ป่าล้อมเมืองเฉกเช่นผืนป่าทั่วไป สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 1-2 ชม. ในอดีตผืนป่าแห่งนี้เป็นแหล่งอาหารของชุมชน มีชาวบ้านเข้าไปหาของป่า ทั้งสัตว์ป่า พืชผัก และผลไม้ป่า" แนะนำ "อีกเส้นทางที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าพรุ ระยะทาง 1,200 ม.

ข้อมูลจาก //adventure.tourismthailand.org



ณ ซุ้มประตูทางเข้า จะมีมัคคุเทศก์น้อย ซึ่งเป็นเยาวชนจากโรงเรียนในชุมชนละแวกนี้ มาช่วยเป็นไกด์พาเราเดินศึกษาธรรมชาติกันด้วย



วันนี้ เรามี “พี่อาร์ม” ชั้น ป. 6 พาเกาลัด ชั้น ป. 4 กับแม่เกาลัด ลัดเลาะไปตามทางเดินเข้าไปในป่า ระหว่างทางก็ได้พบเจอกับสิ่งที่น่าสนใจมากมาย แต่ด้วยความที่ไกด์น้อยของเรายังเป็นมือใหม่ จึงยังไม่กล้าพูดจาอธิบายสรรพสิ่งประดามีที่เราเห็นให้ฟังเท่าใดนัก ส่วนเจ้าลิงน้อย เมื่อได้ป่าไปแล้วก็เกิดความคึกคัก ขึ้นไปนั่งเล่นบนเถาวัลย์ซะงั้น ^^



พรรณไม้สวยงามหลายหลาก เช่น เฟิร์น พรรณไม้ชนิดต่าง ๆ มีคำอธิบาย ป้ายสื่อความหมาย และป้ายบอกทางเป็นระยะ



เราเดินเข้าไปในเขตป่าดิบชื้น ต้นไม้แต่ละต้น สูงจนแหงนคอตั้งบ่าแล้วก็ยังแทบจะมองไม่เห็นยอดไม้ รู้สึกมีความสุข สดชื่นและยังแจ่มใสดีอยู่ ไม่นานเท่าใดนักก็ถึง สะพานศึกษาเรือนยอดไม้ (Canopy Walk Way)



เราเดินเข้าไปในเขตป่าดิบชื้น ต้นไม้แต่ละต้น สูงจนแหงนคอตั้งบ่าแล้วก็ยังแทบจะมองไม่เห็นยอดไม้ รู้สึกมีความสุข สดชื่นและยังแจ่มใสดีอยู่ ไม่นานเท่าใดนักก็ถึง สะพานศึกษาเรือนยอดไม้ (Canopy Walk Way)

“ดู”
ในธรรมชาติมักซ่อนสิ่งที่น่าสนใจไว้ทุกหนทุกแห่งที่เราเดินเข้าไปเพียงแต่เราเปิดตาและเปิดใจดู เราก็จะพบ

“ฟัง”
ลองฟังเสียงของป่าและเรียนรู้ภาษาของธรรมชาติ รู้ไหมว่าเขากำลังบอกอะไรเราอยู่

“สัมผัส”
ลองสัมผัสความแตกต่างในความน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่อยู่รายรอบตัวเราจากห้องเรียนธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้จริงที่มีให้ค้นคว้าได้ไม่รู้จบ




อาร์มค่อยๆ พาเราเดินไปเรื่อยๆ สะพานศึกษาเรือนยอดไม้นี้มีหอสูง 3 ระดับ คือ 10, 15 และ 18 มีทั้งหมด 8 หอคอย ทางเดินบนยอดไม้เหล่านี้รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 800 กิโลกรัม ควรเดินบนสะพานครั้งละไม่เกิน 5 คน



ความสูงระดับแรกประมาณ 10 เมตร จะเห็นเรือนยอดของไม้ต้นที่ไม่สูงมากนัก เดินต่อไปถึงช่วงระดับที่สองที่สูงขึ้นอีกหน่อย อาจจะเห็นนกบินไปมา กระรอก กระโดดจากกิ่งไม้ต้นโน้นมาต้นนี้ ตอนที่เราไป ไม่ได้เห็นขนาดนั้น สัตว์อาจจะรำคาญเสียงของเด็ก ๆ ก็เป็นได้ .. จุ๊ๆ เดินไปช้าๆ เงียบ ๆ แล้วฟังเสียงธรรมชาติ สังเกตดูสิ่งรอบตัว ลูกชายเราเดินล้ำหน้าไปอย่างไว ไม่อยู่รอชมนกชมไม้ก่อนเลย



เป็นความรู้สึกที่ได้ผจญภัยเล็กๆ ที่ไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะมั่นใจในความปลอดภัยของโครงสร้างสะพาน



ระดับที่มีความสูงที่สุด เห็นยอดไม้ชัดเจน



จากนั้นเราเดินต่อไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าพรุ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ ทางเดินบางช่วงมีเฉอะแฉะบ้าง



ป่าพรุ คือ ป่าที่มีพื้นที่ลุ่มน้ำขังดินเป็นหล่มเลนและมีซากอินทรีย์วัตถุทับถมทำให้ดินยุบลงตัวได้ง่าย มีเป็นป่าในเขตร้อนประเภทไม่ผลัดใบเช่นเดียวกับป่าดงดิบชื้น แต่สภาพป่านั้นแตกต่างจากป่าประเภทอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง ป่าพรุเกิดขึ้นได้ทั้งตามหุบเขาสูงและชายฝั่งทะเล



เด็กชายทั้งสองเริ่มคุ้นกันแล้ว ก็เดินเล่นไปด้วยกัน บ้างก็แกล้งกัน หัวร่อต่อกระซิกกันไป พี่อาร์มสอนให้เกาลัดนำเศษใบไม้เอามาพัดคลายร้อน หยิบเศษกิ่งไม้แห้งมาเล่นฟันดาบ ตลอดเส้นทางเราจะเห็นพืชพรรณไม้พื้นล่างจำพวกหวาย เถาวัลย์ เช่น ระกำ หลุมพี ยี่โถปีนัง หม้อข้าวหม้อแกงลิง

เราเห็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงหล่นอยู่บนทางเดินคอนกรีต ไม่ทราบที่มาที่ไปว่ามีอยู่บนนี้ได้อย่างไร เราได้แต่บอกลูกว่าเวลาเข้าป่า ห้าเด็ด ห้ามดึง และทำลายต้นไม้ทุกชนิด



หลังจากเกาลัดอำลาพี่ๆ มัคคุเทศก์น้อยด้วยความประทับใจและอาลัยอาวรณ์เพื่อนใหม่ เราพาลูกชายไป “ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาตรัง” ที่อยู่ไม่ห่างจากสวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้นัก อยากไปชมนิทรรศการของที่นี่ดูว่าแตกต่างจากศูนย์วิทยาศาสตร์หลายแห่งที่เราเคยไปชมมาแล้วหรือไม่อย่างไร ตามความตั้งใจแต่เดิมว่าอยากจะพาเกาลัดไปเที่ยวศูนย์วิทยาศาสตร์ (แทบ) ทุกแห่งในประเทศไทย หากโอกาสอำนวย



แต่ดูเหมือนว่าศูนย์วิทยาศาสตร์ ฯ แห่งนี้ จะถนัดและพร้อมที่จะรองรับผู้เข้าไปศึกษาดูงานเป็นหมู่คณะมากกว่าให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินเข้าไปเยี่ยมชม ตลอดเวลาที่เราสองแม่ลูกลัดเลาะชมบริเวณภายนอกอาคาร ก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ติดบอร์ดและทำกิจกรรมอื่นๆ อยู่ ได้ชำเลืองมาที่เรา แต่ก็ไม่ได้สนใจกระเหรี่ยงสองแม่ลูกที่ดูเหมือนว่าพลัดหลงเข้ามาเลย เราเห็นดังนั้นก็ไม่กล้าเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่าในอาคารมีนิทรรศการอะไรที่สามารถเข้าชมได้บ้าง ณ อาคารใดบ้าง จึงชวนเกาลัดที่กำลังจะเริ่มติดลมกับสิ่งที่จัดแสดงอยู่ภายนอกอาคาร กลับเข้าตัวเมืองตรังอย่างหงอย ๆ



เมื่อเข้าสู่เมืองตรังในช่วงบ่าย ก็ได้เข้าที่พักที่มายเฟรนด์เกสต์เฮาส์ คืนละ 590 บาท ซึ่งห้องพักและสถานที่โดยรวมสะอาด สะดวก สบาย เกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก แถมยังมีโอวัลติน ชา กาแฟ เค้กอร่อยของเมืองตรังบริการแขกเข้าพักฟรีในช่วงเช้าด้วย

อ่านรีวิวมายเฟรนด์เกสต์เฮาส์ ได้ที่บล็อกแกงค์ “ชมจันทร์” ลิงค์นี้ค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonwatcher&month=19-01-2013&group=32&gblog=15



พอถึงห้องพัก ไม่นานก็ม่อยหลับไปด้วยความเพลีย ตื่นขึ้นมาก็ชวนเจ้าลูกชาย ไปเดินถนนคนเดินหน้าสถานีรถไฟ ใกล้ๆ กับที่พักของเรา คนเยอะ ของกินก็แยะ น่าสนใจไปหมด ...เดินไป ชิมไป



จากนั้นไปต่อที่ข้าวต้มโจ๊กซี่โครงหมู หน้าศาลเจ้าพ่อเสือ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนักค่ะ เปิดขายทุกวัน เวลา 16.00 - 21.00 น. จากการสังเกตเห็นว่าร้านนี้ขายดีมากๆ มีลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น เข้ามาซื้อตลอด ส่วนมากจะซื้อกลับบ้านกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากรีวิวของเรา ลิงค์นี้ค่ะ //www.ruabruam.com/@iipnwp



ตอนเช้า รับประทานเค้ก กาแฟ โอวัลติน รองท้องไปก่อน กลัวว่าถ้าหากไปกินอาหารข้างนอกแล้วจะไม่ทันรถตู้ ที่บอกว่าจะมารับเวลา 8.30 น. เกรงว่ารถตู้มาถึงเร็วแล้วต้องรอเรา และยังไม่ค่อยจะหิวกันเท่าไหร่ แต่ก็ผิดคาด รถตู้มารับช้ากว่าที่นัดไว้นิดหน่อย เพราะต้องตระเวนไปรับลูกทัวร์กลุ่มอื่นๆ ก่อน คราวนี้เริ่มหิวแล้ว ต้องอาศัยขนมปังกับนมที่พกไปด้วยเป็นตัวช่วยไปพลาง ๆ



วันนี้เราออกทัวร์ 4 เกาะ ได้แก่ เกาะมุก (ถ้ำมรกต) เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะม้า กันค่ะ ได้ข้อมูลจากการใช้กูเกิ้ลค้นหา ไปเจอเฟซบุ๊คและเว็บไซต์น่าสนใจ ชื่อ “ทะเลตรัง” จึงลองเข้าไปอ่านดู และติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับคุณอเล็กซ์ แล้วตัดสินใจซื้อทัวร์กับเว็บไซต์นี้ ในราคาที่พอใจ เป็นราคราโปรโมชั่นสำหรับแฟนเพจในเฟซบุ๊ค คือ รับจากในเมือง ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็ก 450 บาท รวมอาหารกลางวันและอาหารว่าง โดยเราได้โอนเงินมัดจำล่วงหน้า 200 บาท แล้วค่อยมาจ่ายส่วนที่เหลือก่อนลงเรือ

รถตู้มาส่งเราที่หน้าบริษัทลิบงการท่องเที่ยว ตั้งอยู่ที่ท่าเรือปากเมง



อีกสักพักก็พาคณะทัวร์เดินไปที่ท่าเรือ เพื่อเตรียมลงเรือไปเที่ยวทะเลตรังอันสวยงาม



ปูตัวน้อย ๆ



ทิวทัศน์อันสวยงาม ณ ท่าเรือปากเมง



วันนี้ เราลงเรือชื่อว่า “พยูน” ซึ่งคนขับเรือใจดีมาก มีไกด์ประจำเรือสองคน คือ ไกด์กวาง กับไกด์ดลย์ ซึ่งก็น่ารักและใจดี บริการดีเยี่ยมทั้งสองคน เมื่อลงเรือ ไกด์ประจำทัวร์ ก็เสิร์ฟน้ำอัดลมให้ทุกคน แบบตั้งตัวยังไม่ค่อยทัน ในเรือยังมีน้ำเปล่าให้บริการตลอดทริปด้วย แก้วพลาสติกที่ได้รับ ควรเก็บเอาไว้ใช้ต่อตลอดทริป ^^



พี่ดลย์ แนะนำวิธีการใช้เสื้อชูชีพ และวิธีการเกาะกลุ่มลอยตัวต่อแถวกันเข้าถ้ำมรกต และข้อควรปฏิบัติต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เกาลัดยังเขินอยู่เล็กน้อย



ไม่นานเรือก็เดินทางสู่เกาะมุก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ถ้ำมรกต ในตอนนั้น เริ่มตื่นเต้นบ้างแล้วล่ะค่ะ เคยเห็นแต่ในภาพ กำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองเสียที

ถ้ำมรกต เข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ การเข้าออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำมืด ๆ ประมาณ 80 เมตร เข้าแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทาง จับคนข้างหน้าไว้ให้มั่นไม่งั้นอาจหลงทางได้ ยามแสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะทั้งเกาะและเวิ้งถ้ำก็เป็นสีเขียวมรกต



กลุ่มทัวร์ของเราเริ่มลอยตัวกันเข้าไปในถ้ำแล้วล่ะคะ ฮุย เล ฮุย ! เตะผมทำไมครับ ? ได้ยินเสียงมาจากใกล้ๆ .. อิ อิ มาถามลูกชายทีหลังว่าได้เผลอถีบใครเข้าให้บ้างหรือเปล่า ลูกบอกว่าไม่ได้ทำ เพียงแต่ได้ยินแล้วขำ



ในถ้ำมรกต ได้เจอกับความมืด แต่ไม่นานก็ได้พบกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ณ ทางออกของถ้ำ มีหาดทรายขาวสะอาด รอเราอยู่เบื้องหน้า




นักท่องเที่ยวเยอะแยะเต็มไปหมด โดยมากจะเป็นชาวต่างชาติ



เมื่อมองดูรอบๆ เหมือนกับเรายืนอยู่ในปล่องขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของหินปูนในอดีต



ตอนนี้เราเกาะกลุ่มกันออกจากถ้ำ เพื่อกลับไปยังเรือ “พยูน” แล้วค่ะ

และแล้วน้ำที่เห็นในถ้ำมรกตตอนขาออกจากถ้ำ มีสีเขียวงดงามอย่างกับมรกตจริงๆ การเข้าถ้ำมรกตนี่สนุกดี และไม่น่ากลัวเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้แต่แรกเลยค่ะ ^^



ขึ้นมาบนเรือได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีผลไม้ คือ สับปะรดหวานๆ มาเสิร์ฟ จากนั้นเราไปต่อกันที่เกาะกระดาน ที่เกาะกระดานนี้ไกด์กวางพาเราแม่ลูกดูปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล ในส่วนของภาพถ่ายนั้น ไกด์กวางได้ดำน้ำลงไปช่วยถ่ายภาพนี้ให้ สวยงามมาก



กลับขึ้นเรือมา นั่งพักเหนื่อยไม่นาน ก็เวลารับประทานอาหารกลางวันเป็นบุฟเฟต์อาหารอร่อยๆ แบบจัดเต็ม แกงส้ม ไข่เจียว ปลาหมึกชุบแป้งทอด ทอดมัน น้ำพริกและผักสด รวมทั้งผลไม้คือแตงโม



กินข้าวยังไม่ทันจะอิ่มดีก็ถึงเกาะเชือก เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง มีปะการังแข็งและปะการังอ่อนหลากสี มีฝูงปลามากมาย เกาลัดรีบวางจานไปดำน้ำทันทีโดยไม่รอแม่เลย ฝากไกด์พี่ดลย์ของเกาลัดช่วยดูแลแทนไปก่อนละกัน ส่วนแม่รีบจัดการอาหารในจานแล้วตามไปโดยพลัน

ในบริเวณเดียวกันมีเรือหลายลำจอดอยู่



วันนี้เกาลัดสนุกสุดเหวี่ยง และมีความสุขกับการเล่นน้ำ ดำน้ำเต็มที่เลย




เดินทางไปกันต่อ เกาลัดชอบนั่งแถวหัวเรือ พี่ดลย์ไปนั่งคุยด้วย ท่าทางคุยกันสนุกถูกคอ



เกาลัดดูวิธีการจอดเรือ



จากนั้นไปเกาะม้า อยู่ใกล้กับเกาะเชือกแต่อยู่ในเขตน่านน้ำของจังหวัดกระบี่ มีค้างคาวแม่ไก่เกาะอยู่ตามหิน ภาพที่พักของคนเฝ้ารังนกนางแอ่น



ท้องทะเลที่สวยงาม




ปลาการ์ตูนและดอกไม้ทะเลสวยๆ ขออภัย ภาพไม่ชัดค่ะ



อาหารว่างยามบ่ายเป็นกาแฟ โอวัลติน และเค้กตรัง



ฟ้าใส ทะเลสวย บรรยากาศสวยงามจนอยากอยู่เที่ยวต่อนาน ๆ



ขากลับเปลี่ยนเสื้อผ้าบนเรือ เกาลัดกับพี่ดลย์ถ่ายภาพกับปลาและปลาหมึกที่ลูกเรือตกเบ็ดได้ในขณะที่รอนั่งท่องเที่ยวดำน้ำอยู่ในทริปนี้



ไกด์ทั้งสองคนช่วยกันทำความสะอาดและเก็บอุปกรณ์ดำน้ำ ลงภาพไกด์กวางเป็นที่ระลึก




กลับเข้ามาถึงที่พัก อาบน้ำ ซักผ้าตากผ้า พักผ่อน แล้วออกไปกินข้าวเย็นที่ “โรงน้ำชาหลงตรัง” เกาลัดบอกว่าชอบร้านนี้อีกแล้ว อ่านรีวิวร้านอาหารต่อที่ลิงค์นี้ค่ะ //www.ruabruam.com/@kgsmje



ตื่นสายด้วยความอ่อนเพลีย แล้วไปกินอาหารเช้าที่ร้านพงษ์โอชา ได้ทำรีวิวไว้แล้วเช่นกันค่ะ //www.ruabruam.com/@rnzhho




จากนั้นไปคืนรถมอเตอร์ไซค์เช่าที่หน้าสถานีรถไฟตรัง แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งที่คิวรถตู้ไปหาดปากเมง ค่ามอเตอร์ไซค์ 20 บาท แล้วนั่งรถตู้โดยสารจากเมืองตรัง ไปหาดปากเมง คนละ 40 บาท



วันนี้สองแม่ลูกได้นัดกับ “หนุ่ม สปอร์ต ใจดี ระยอง” หนึ่งในตำนานประวัติศาสตร์ของกระทู้คุยสบาย กับครอบครัวที่เราแอบปลื้มมาโดยตลอด ไว้ที่หาดปากเมง เราไปพบกับครอบครัวน่ารักนี้ที่ “ขนำชาวเลรีสอร์ท” โดยอาศัยขอติดรถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านแถวนั้นไปที่รีสอร์ท

เมื่อถึงหน้าที่พัก “น้องฟ้าใส” สาวน้อยน่ารักโผล่หน้าออกมาจากเปลญวนมาทักทาย และก็ชวนกันไปเล่นทรายในยามกลางวัน แดดร้อนมั่กๆ

“พี่เกาลัด อย่าตากแดดนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย” น้องฟ้าใสบอกให้เข้ามาอยู่ในร่ม

ส่วนแม่พยายามอธิบายให้เกาลัดฟังว่าแดดแรงแบบนี้ ถ้าตากแดดแล้วจะทำให้ปวดหัวและไม่สบาย

เมื่อครอบครัวน้องฟ้าใสเช็คเอาท์เรียบร้อย เราก็ได้ติดสอยห้อยตามไปเที่ยวกันที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคล” ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตรัง ซึ่งก็ไม่ไกลจากหาดปากเมง

สำหรับรายละเอียดของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เราได้ให้ข้อมูลไว้ในรีวิวเดิมค่ะ



เด็กๆ ได้ชมสัตว์น้ำกันพอกรุบกริบ เราเดินไปดูหาดราชมงคล แล้วก็เดินทางเข้าเมืองต่อ



จากนั้นคุณพ่อของน้องฟ้าใสพาไปชิมโรตีอร่อยๆ หน้าสถานีรถไฟตรัง ซึ่งเรายังไม่เคยชิมมาก่อน



ไปซื้อเค้กร้าน “รสเลิศ” เราซื้อกล่องละ 2 ปอนด์มา 4 กล่อง หิ้วดูแล้วก็หนักพอควรเลยล่ะ แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยที่ซื้อมา รีวิวไว้ในลิงค์นี้ค่ะ //www.ruabruam.com/@gvgwvd




คุณพ่อน้องฟ้าใส พาไป “ตลาดสดเทศบาล” แหล่งขายหมูย่างเมืองตรังในตำนาน เพื่อไปดูลาดเลาเอาไว้ก่อน เช้าวันต่อมาจะได้มุ่งหน้าไปซื้อหมูย่างตั้งแต่เช้ามืด



จากนั้นไปที่ร้านขนมเปี๊ยะซอย 5 อยู่ถนนห้วยยอดซอย 5 ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เพราะเคยทำรีวิวไว้แล้วค่ะ ^^

ไปต่อกันที่ “ถนนรื่นรมย์” แหล่งขายของอร่อยในตัวเมืองตรัง ใกล้วงเวียนปลาโลมา ได้ลองชิมของอร่อย ๆ ที่เป็นอาหารพื้นบ้านหลายอย่าง




ขากลับ เหมารถตุ๊กๆ หัวกบเดินทางจากหน้าสถานีรถไฟไปสนามบินตรัง ในราคาเที่ยวละ 150 บาท ครอบครัวน้องฟ้าใสอุตส่าห์เดินมาส่งถึงรถ ซึ้งใจมากมาย ..ขอบคุณค่ะ ..



เกาลัด : เที่ยวตรังครั้งนี้ดีจัง อาหารอร่อย คนก็ใจดี เกาลัดชอบจังหวัดตรัง คราวหน้ามาเที่ยวกันอีกนะแม่
แม่ : ได้ครับลูก คราวหน้าชวนพ่อมาเที่ยวตรังด้วยกัน

ลูกชายบอกว่าประทับใจที่ได้มาเดินทางท่องเที่ยวและเรียนรู้เมืองตรัง ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของเกาลัดที่ได้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ ณ จังหวัดที่น่ารักแห่งนี้ หลายวันต่อมาเกาลัดยังคงพูดถึงพี่อาร์ม พี่ดลย์ ร้านอาหารที่ชอบ และเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับตรังให้พ่อกับแม่ฟังอยู่ ซึ่งแม่ก็ดีใจที่พาลูกเที่ยวแล้วทำให้ลูกรู้สึกมีความสุข ในปีนี้ลูกเติบโตขึ้นและเป็นเพื่อนเที่ยวกับแม่สองคนได้แล้ว ^^

“เราแม่ลูกได้เติมเต็มให้กัน และตรังก็ได้เติมเต็มให้เรา”




Create Date : 24 มกราคม 2556
Last Update : 24 มกราคม 2556 10:11:43 น. 5 comments
Counter : 8582 Pageviews.

 
น่าไปเที่ยวตรัง จังเลยครับ อิอิ



โดย: Sleeping_prince วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:11:09:33 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวเมืองตรัง้วยคนครับ เมื่อปีที่แล้วผมก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ตรังมาเหมือนกันครับ พอดีว่าผมไปร่วมงานวิวาห์ใต้สมุทรมาครับ เลยได้เที่ยวทะเลตรังด้วย แต่ก็ไม่ได้เที่ยวเยอะเหมือนที่เล่าในบล็อกนี้ครับ

ที่สวนพฤกษศาสตร์ฯ ผมก็ได้ไปแต่ว่าไม่ได้ขึ้นไปเดิชมบนสะพานฯ ครับ ที่ถ้าำมรกตได้ดำน้ำเข้าไปชมเหมือนกันครับ สวยมาก ๆ เลยครับ

อ่านเรื่องราวในบล็อกนี้อย่างเพลิดเพลินแล้วกฌ็นึกอยากจะไปเที่ยวทะเลตรังอีกสักครั้งจังเลยครับ ทะเลที่ตรังสวยมาก ๆ เลยครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:14:18:31 น.  

 
คุณแม่เก่ง และน่ารักมากๆเลยค่ะ
ขอให้ครอบครัวมีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรงตลอดไปค่ะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:17:38:21 น.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:4:38:50 น.  

 
เข้ามาอ่านข้อมูลเมืองตรังค่ะ
กำลังจะพาเพื่อนพ้องน้องพี่
ไปตามล่าหาหมูย่างเมืองตรัง
ช่วง ก.พ.57 นี่ค่ะ
ข้อมูลดีมากๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: พี่แหม่ม IP: 125.24.57.28 วันที่: 18 มกราคม 2557 เวลา:23:21:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมจันทร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อไปเรียนรู้โลก ผู้คน เพื่อประสบการณ์ชีวิต

Friends' blogs
[Add ชมจันทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.