My Time & My Life
Group Blog
 
All Blogs
 

แม่ของหนู...หนูของแม่


เย็นมากแล้ว เสียงโทรศัพท์โทรศัพท์ดังขึ้นภายในห้อง...

เมื่อรับสายก็แปลกใจนิดหน่อยที่ได้ยินเสียงของแม่...แม่ ซึ่ง อายุ 61 มาหมาดๆของลูก ส่งเสียงทักทายลูกคนเล็ก อย่างแจ่มใส

อยู่บ้านหรือลูก...เสียงแม่ทักทายลูกน้อย

เปล่าค่ะ อยู่ที่ทำงาน..

อ้อ...อยู่บ้านที่ทำงาน เมื่อบ่ายแบตหมดหรือ แม่โทรไม่ติด...เสียงแม่ใจดีเหมือนเดิม

ค่ะ..ลูกตอบไป งั้นๆ แหละ อันเนื่องมาจากเรื่องยืดยาว เกินกว่าจะอธิบาย..เอาเป็นว่า แบตหมดละกัน..ง่ายดี

แม่ถามต่อไปว่า ค่ายางละลูก..???

ค่ายาง ?? ลูกทวนคำของแม่ อย่างงงๆๆ

ค่ายางอะไรหรือแม่..

ค่ายางของลูกไง ???

ค่ายางอะไรของลูก...ลูกไม่ได้เป็นคนเก็บค่ายางนะ

แม่หัวเราะ...แม่หมายถึง ยางรถของลูก...ไม่ได้หมายถึง เงินค่ายางในสวน

อ้อ...ยางรถยนต์

แม่จะส่งค่ายางมาให้...เอาเลขบัญชีมา...

ลูก ทำหน้างงๆ อาจจะมีเสียงงงๆ ไปด้วย...

แม่จะให้ค่ายางลูกทำไม...

ลูกจ่ายเยอะแล้วเดือนนี้...ลูกมีภาระมากเกินไป...ลูกจ่ายหลายอย่าง หลายหมื่น ไหนจะค่าซ่อมรถ ค่าประกันรถ แล้วยังยางรถยนต์อีก

ไม่เป็นไรหรอกแม่ ลูกค่อยๆ เก็บไป...

ไม่ได้ๆ เอาเลขบัญชีมา เดี๋ยวแม่ช่วย

นี่ละแม่...ผู้ที่ เสียงบ่นๆว่า ไปเปลี่ยนยางซะนะลูก..เพื่อความปลอดภัย...ไว้ แม่มีเงินแม่จะ ช่วย...((หลังสงกรานต์))

แม่คงคิดเรื่องนี้หลายวันทีเดียว...จึงโทรมา ว่าจะช่วยค่ายางรถยนต์

แปดพันนะ แม่จะส่งมาให้

อะไรกัน แม่จะให้ลูกตั้งแปดพันเหร่อ...ลูกจ่ายเองบ้างก็ได้...

แปดพันพอไหม...แม่ให้ได้แค่นี้แหละ...เสียงแม่...เริ่มกังวล

อย่าให้พ่อรู้นะ ว่าแม่ ให้เงินลูก...เนี่ยพ่อไม่อยู่บ้าน..

ค่ะ..เสียงฉันรับปาก...แล้วบอกเลขบัญชี ธนาคารกรุงไทย ตามที่แม่ต้องการไป

แม่ ก็อดไม่ได้ ไปเช็คบัญชีบ้างหรือเปล่า..

เช็คค่ะ..วันนี้หนูเพิ่งเอาเงินไปฝากสองพัน..

ดีแล้ว เก็บเงินไว้นะลูก หัดเก็บไว้...จะได้พึ่งตนเองได้ยามฉุกเฉิน

แม่..ผู้ที่ เก็บหอมรอมริบ เก็บเงินสร้างครอบครัวด้วยตนเองมาทั้งชีวิต ด้วยเงินเดือนของแม่อันน้อยนิด แม่ก้พาพวกเรามาถึง ฝั่งและยังคอยดูแลห่วงใยลูกเสมอ...

ลูก เกือบน้ำตาใหล...นั่นเพราะ...แม่รู้ดีว่า เมื่อลูกไม่มีเงิน ลูกไม่เคยเอ่ยปากขอ แม้จะไม่เหลือจะทานข้าว ลูกก็ยังไม่ขอเหมือนเดิม

อะไรร้ายแรงในชีวิต ลูกดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองมาตลอด...นี่ละลูกของแม่..ที่ทำให้แม่ ต้องค่อยๆคิดว่า...การที่ลูก บอกว่า ค่อย ไม่เป็นไร...นั่นหมายถึงลูก ไม่มีอีกแล้ว...

แต่หากลูกมี ลูกไม่เคยลังเลใจที่จะทำอะไรตามแม่สั่ง

แม่คงคิดเรื่องยางรถหลายวัน....เพราะ ฉันเองก็ลังเล ๆว่าจะไม่เปลี่ยนยางรถ..เพราะนั่นหมายถึงเงินเดือน เดือนเมษาของฉันจะหมดไป ไม่เหลือสำหรับกินข้าว ไม่เหลือสำหรับใช้จ่ายอะไรอีกเลย...

มันเลยจำเป็นหนักหนา ที่ฉันจะชะลอไปก่อน...

แต่สำหรับคนเป็นแม่ ความปลอดภัยของลูกสำคัญที่สุด มากไปกว่าเงินทองของมีค่าเป็นไหนๆ..แม่เลยตัดสินใจช่วยลูกครั้งนี้

ความจริง...ลูกทุกคนรักแม่ และก็รู้ว่าแม่รัก...ไม่ต่างจากพ่อ...

ต่างกันที่พ่อ...ไม่มองเห็นเรื่องเล็กน้อย และ ไม่เคยเก็บเงินที่มีอยู่ พ่อเก็บรายได้ส่วนกลางของบ้านทุกบาท...แต่ หาใช่จะเก็บเข้าบัญชี เหมือนแม่ พ่อ กลับเอามันไปผลาญ ในสิ่งที่พ่อชอบ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นการฟุ่มเฟือย อย่างไร้สาระนั่นเอง

เดือนๆนึง พ่อสามารถ จ่ายเงินได้หลักแสน..ในขณะที่แม่มีเงินเหลือเพียง หนึ่งหมื่น ต่อเดือน สำหรับ ใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน และเลี้ยงพ่อไปในตัว

แม่...พูดอ้อมแอ้มว่า...ค่ายาง แม่ไม่เคยได้ ไม่เคยเห็น...

รู้สึก ถึงความเจ็บปล๊าบในหัวใจของแม่ คนที่เสียสละเพื่อให้ทุกคนมีความสุข

แม่บาดเจ็บ ที่สามีอย่างพ่อ ไม่เคยหยิบยื่นให้ แม่เองก็หยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากขอ

แต่ จริงๆแล้ว พ่อก็รักแม่มากที่สุด แต่ก็รักในแบบที่พ่อเข้าใจ..และแม่ก็ไม่เข้าใจ...

แต่ทั้งคู่ก็อยู่ร่วมกันมาสามสิบกว่าปี...

แม่ก็ ปรับของแม่ไป คือเลี้ยงดูตัวเอง ดูแลลูกๆ

ครั้งนี้..ฉัน ก็สะท้อนใจ เป็นอีกครั้ง ที่ฉันเบียดเบียนเงินในกระเป๋าแม่ ที่แม่เก็บหอมรอมริบมา...

สักวันนะแม่ ลูกจะ เอาเงิน ไปใช้คืน

แม่รู้ไหม หนูรักแม่มาก และ แม่ก็เป็นแม่ที่อ่านใจลูกได้เสมอ..

รักแม่ค่ะ..

ลูกสาวคนเล็กของแม่




 

Create Date : 23 มีนาคม 2552    
Last Update : 23 มีนาคม 2552 21:38:20 น.
Counter : 269 Pageviews.  

ศาลาแห่งความสุข

วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน...
ทำงานเหนื่อย แต่ก็โชคดี ที่มีความสุข
นั่งตอกไม้ป๊อกๆ ทั้งเพื่อนและหลาน ก็มาช่วย เจ้าตัวเล็ก ช่วยป้า มือพันวัล คือ ช่วยเอาของป้าไปเล่นนั่นเอง

ศาลาเล็ก ๆ ปูเสื่อ ยามบ่าย กินขนมไป กินน้ำ ทำอุปกรณ์การสอน มีทรายให้หลานตักเล่น

บางการ มีชีวิตที่ห่างโต๊ะทำงานบ้างก็เป็นเรื่องดี...

เหนื่อยแต่สบายใจ

วันนี้พาหลานไป ตัดผม หลานร้องจ๊ากลั่นร้านน้ำตาไหลพรากๆ ลุงและป้า พากัน ปลอบๆๆ ส่วนแม่ น่ะ อุ้มลูกไว้ ผมเต็มตัวไปหมด นี่ละ ที่เขาว่า เป็นแม่ลำบากนัก คนเป็นพ่อไม่ได้สนใจเลย มีแต่ลุงกับป้านี่ละ...

ในที่สุด ลุงก้หาของเล่นให้หลานได้ ทำให้ ลืมไปว่า ช่างกำลังตัดผมอยู่...และก็ เรียบร้อย หลานป้า หล่อจนได้..

ป้าอุ้มหลานออกจากร้าน ด้วยอารมณ์ดี ไม่นานนัก หลานก็ ฉี่ใส่รถป้า อิอิ...เออ ฉี่ไปเหอะ ป้าไม่ดุเจ้าหรอก อุตส่าห์ ลงมายืนฉี่ นอกเบาะเรียบร้อย...แม่เจ้าตกใจใช่ไหมละ ว่าป้าจะดุ...อีกนาน ที่ป้าจะดุหลาน

บางทีนะ การมีหลาน ก็ทำให้พวกเรา มีอะไรเล่น มี อะไรคุยกันมากกว่า เรื่องงาน...

ช่วยๆ กันเลี้ยงที่ศาลาบ่อยๆ..สงสัย ป้าต้องซื้อเสื่อผืนใหญ่ๆ ให้หลานกลิ้งเล่นแล้ว..

แม้วันนี้ ป้าจะเหนื่อยนะ...แต่ป้าก็ แว้บมาดูดวงตัวเอง..ว่าทำไม เหนื่อยยากแบบนี้.. เสี่ยงไพ่มาได้...แบบนี้เลยเรา...

ไพ่ใบที่ 1 เสี่ยงได้ 9 โพแดง
คุณจะได้รับเกียรติและการยกย่องชื่นชมจากคนอื่นๆ คุณจะเป็นที่ยอมรับจากเพื่อนๆ และคนรอบข้าง คุณจะพบสิ่งดีๆ และจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ที่ดีๆ ช่วงนี้คิดหวังสิ่งใดก็จะสมความมุ่งมาดปรารถนาเกือบทุกเรื่อง


ไพ่ใบที่ 2 เสี่ยงได้ 6 ดอกจิก
ไพ่ใบนี้บ่งบอกถึงความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ช่วงนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นกับคุณ หากทำธุรกิจก็จะประสบความสำเร็จ จะมีโชคลาภ จะได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้


ไพ่ใบที่ 3 เสี่ยงได้ เอซ ดอกจิก
ช่วงนี้คุณจะมีโชคลาภในเรื่องเงินทอง ครอบครัวมีความสุข จะได้รับข่าวดีซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ไพ่ใบนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีในเรื่องอาชีพการงาน หรืออาจมีเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่อยู่อาศัย


ไพ่ใบที่ 4 เสี่ยงได้ 5 โพแดง
ช่วงนี้ควรสงบจิตสงบใจไว้บ้าง อย่าปล่อยให้จิตใจว้าวุ่น ควรพอใจในสิ่งที่มี ให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง อย่าเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วไม่พอใจในตนเอง เพราะริษยาคนอื่น เมื่อคนคนอื่นเขาดีเด่นกว่าตน การพอใจในสิ่งที่มีจะทำให้คุณสบายใจ หากคุณมีคู่ (แต่งงานแล้ว) จะมีข่าวดีเรื่องได้บุตรคือเด็กผู้ชาย




 

Create Date : 11 มีนาคม 2552    
Last Update : 11 มีนาคม 2552 23:00:18 น.
Counter : 255 Pageviews.  

เธออยู่ไหน...เพื่อนรักของฉัน


เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น ใกล้ๆ เวลา สี่ทุ่ม ของวันที่ 2 มีนาคม 2552 อันเป็นวันที่ พี่ชายของเพื่อนรักสมัยเด็ก แต่งงานไป..

หากจะพูดไปแล้ว งานนี้ ธรรมดา สำหรับ ฉันและเพื่อนนัก...

แต่ ที่ไม่ธรรมดา เพราะ พี่ชายเพื่อน ดันเป็นดาราชื่อดัง นี่เอง...

วันนี้ ฉัน ตั้งใจว่า จะไม่ไป งานแต่งพี่ชายเพื่อ ที่ โรงแรม ย่านราชประสงค์ เนื่องจาก ฉันเหนื่อยจากการเดินทางไกล และ มีงานรออยู่มากมาย จนทำให้ฉัน ไปจมกองทราย และ ทำสะพาน เกือบทั้งวัน

แน่นอนว่า วันนี้ฉันไม่อาจสวยงาม เหมือนที่อยากเป็น เพราะ นิ้วมือ นิ้วเท้าเต็มไปด้วยฝุ่นทราย จากงาน ที่ลงมือทำด้วยตนเองและมีความสุข

ฉันจึงตัดสินใจบอกพี่สาวว่า ไม่ไปงานแต่งนี้นะ ส่งพ่อกับแม่ไปแทนละกัน

เย็นวันนี้ ฉันกลับมาบ้านด้วยอาการทุลักทุเล หน้าแดงก่ำ จากแดดเผา เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่น แต่ก็ ฝืนใจตรงไปธนาคาร เพื่อเช็คยอดเงินในบัญชี

ก่อนกลับบ้านเพียงเล็กน้อย ฝนก็เทกระหน่ำลงมา ฉันคิดในใจ ดีแล้ว ไม่ไปงานแต่ง ไม่งั้นคง โดนน้ำฝนแน่ๆ

แต่ ใกล้ๆ สี่ทุ่ม ที่บ้านโทรศัพท์กลับดังขึ้น พร้อมเสียงดังโหวกเหวก คุยกันแทบไม่รู้เรื่อง...คนโทรมา คือเพื่อนฉันนี่เอง

เพื่อนถามว่า ป่านนี้แล้ว แกกับพี่อยู่ไหนเนี่ย...ฉันยังไม่เห็นเลย...เกือบลืมไปสนิทว่านัดกันไว้

เสียงเจ้าบ่าว (อัษฎาวุธ) สอดแทรกมาเล็กน้อย ว่า พวกนี้ เป็นอะไรกัน ถึงไม่เห็น...

งานคนเยอะมากๆ แขกเริ่มทะยอยกลับ แต่ไม่เห็นวี่แววเราสองพี่น้อง...

ชุดก็เตรียมแล้วนะ เหลือแต่คนนี่ละ ที่ไม่พร้อม เหนื่อยกับงานมากๆๆ คำตอบง่ายๆ คือฉันไปจมกองดินมาโว้ย จะไปได้ไง กลับมาบ้านก็ มืดแล้ว ฝนตกอีกต่างหาก...

เอาน่า...อีก ไม่กี่วันฉันให้พ่อกับแม่ไปแทน รับรอง คนบ้านฉันไปงานบ้านแกแน่ๆๆ ไม่ต้องห่วง...

ฉันกับพี่สาวหัวเราะหึๆๆ สองบ้าน ยังเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกันเสมอ ตั้งแต่ รุ่น คุณตา กับอากง คุณแม่กับคุณแม่ มารุ่นลูก...สืบทอดกันมา

แต่รู้มั๊ย สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลย..คือ คนบ้านนี้ธรรมดามากๆ เราเติบโตกันมาอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น...

เราเป็้นเพื่อนที่ไม่มีหน้ากาก เข้าหากัน เรามีความจริงใจให้กัน และปฏิบัติต่อกันเหมือนคนในบ้านเรื่อยมา..

แม้กระทั่ง ตัวพี่วุธเองซึ่งเป็นดาราไปแล้ว ก็ตาม

นี่ละ เพื่อนแท้ มิตรแท้ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

ฉันรักแกนะ มด




 

Create Date : 02 มีนาคม 2552    
Last Update : 2 มีนาคม 2552 22:50:55 น.
Counter : 297 Pageviews.  

วันวุ่นๆ แต่อบอุ่นหัวใจ


วันนี้ ใครๆ ก็พากันหยุดเกือบหมด แต่ฉันเปล่าหยุดนะ

วันนี้อาจดูวุ่นๆ มีงานทำเยอะแยะไปหมด จนกระทั่งลืมกินข้าวเที่ยง...กินมะยงชิดแทน

เหนื่อยมาทั้งวันแต่ก็มีพลังนะ..

รู้ไหม พลังมันอยู่ที่หัวใจ

คิดถึงจังเลย...

อิอิ...

รออีกวัน ต้องไปประชุม..

รออีกวันต้องฉีดยา..

แล้วถ้าไม่เหนื่อยจนหมดแรงเกินไป จะนั่งรถไปหา หัวใจตัวเอง




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 22:22:22 น.
Counter : 233 Pageviews.  

ความสุขระหว่างวัน

ไปอบรมมาสามวัน ก็ ไม่ซีเรียสอะไรมากมาย นอกเสียจากไม่มีเวลา จะว่างไปเม้าส์กะใคร เพราะ สมองต้องคิด เวลาหมดไปกับห้องสัมนาซะส่วนใหญ่ เลยยึดเอาเพื่อนที่เข้าร่วม เป็นที่พูดคุยสนุกสนานซะมากกว่า

ตกดึก หญิงมิ้นก็หลับเป็นตาย นอกจากการ นั่งหลับ พิงฝาในห้องได้อย่างชื่นมื่น ต่อหน้าวิทยากร อย่างไม่สะทกสะท้านแล้ว ก็ยังง่วงนอนไปทั้งวัน เพราะท้องอืด ข้าวไม่ย่อย เซ็งมาก

พูดเรื่องการนอน เคยได้ยินใช่ไหม คนหลับมักจะเรียนเก่ง..งนี่ละหนา เรื่องจริง...โดนวิทยากรแซว...มันหลับไป หนึ่งเรื่องที่เขาสอน ตื่นมา ดันตอบถูกคนเดียวทั้งห้อง เป็นไปได้ไงเนี่ย...แค่จำได้ว่า ตอนวิทยากรเล่านิทาน กาลครั้งหนึ่ง..ฉันก็หลับปุ๋ยไปเรียบร้อย

ว่าแล้ว ฉันก็หลับๆ ตื่นอยู่หน้าห้อง...จะนั่งหลังห้องก็หาไม่ ปิดตาท้าทายอยู่ใกล้มือคนสอนนี่ละ...แต่นอกจากหลับนะ ฉันก็ตื่นมา ขยับปาก ทั้งตอบทั้งกิน ขนมแวดล้อมตัว พร้อมด้วย ผ้าคลุมไหล่เอามาไว้ห่ม หมอนอิง พกมาจากบ้านเลย เอาไว้รองหลัง หนุนนอน...เออ ทำไปได้

จริงๆฉันไม่ค่อยซีเรียสกับการอบรมเท่าไหร่ เพราะ เรียนมาจากอีกสำนักวิชาเป็นอันเสร็จสิ้น แต่ก็เหมือนการทบทวน ค้นหาสิ่งที่ต่าง นี่ละ ที่คนสอนเลยไม่ค่อยสนใจฉันนัก เพราะไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่ม

ว่าไปก็หลับๆ ตื่นๆๆ ผ่านมา สองวัน

ไอ้หนุ่ยก็ทักขึ้นในเช้า วันที่สอง ตอนร่วมโต๊ะอาหาร...เออ วันนี้ดูขาวขึ้นนะ..ฉันอมยิ้ม...นึกในใจว่า มันสังเกตเก่งนะ เพราะเพิ่งทาครีมเป็นครั้งแรก เมื่อเช้านี้เอง

ทุกๆ มื้ออาหาร ด้วยอุปนิสัยส่วนตัว ทานอาหารเร็ว กินเก่ง กินมากว่างั้นเหอะ ฉันเลยเลือกนั่งโต๊ะ หนุ่มๆ คือทั้งโต๊ะมีฉันเป็นผู้หญิงคนเดียว แล้วก็เริ่มลงมือกิน...จริงๆ แล้วโต๊ะหนุ่มๆ นี่กินเร็วมาก และกินไม่เรื่องมาก อะไรไม่กินนี่ฉันตักให้คนอื่นไปเลย ใครไม่กินอะไรก็ตักมาให้ฉัน กลายเป็นว่า ฉันกินมากกว่า ผู้ชายทั้งโต๊ะ...อายไหมละนั่น กินล้างกินผลาญ

ทุกเช้าลุงหนอน ซึ่งเป็นช่างซ่อมบำรุง อายุก็ คงรุ่นๆพ่อแม่ ฉันนี่ละ แบ่ง ของกินส่วนแกมาให้ ฉันก็รับไว้ แล้วก็กินๆๆ นอกจากนี้ หนุ่ยก็ แบ่งของตัวเองมาอีก ใครยกอะไรมาให้ ฉันฟาดเรียบ ทำเอาลุงหนอนยิ้มๆ เพื่อนๆ ทุกคนก็ยิ้มๆๆ เออ มันกินเก่งจริงแฮะ..

เข้าห้องเรียนได้ไม่นาน วิทยากรถามว่า กินขนาดนี้...ไม่เห็นอ้วนเลย...ระบบเผาผลาญดีเกินเหตุป่าวเนี่ย...ฉันหัวเราะหึๆๆ ไม่หรอกพี่ กินมาก เป็นบางเวลา

เช้านี่..หิวสุดๆๆๆ กินๆๆๆ เที่ยงลดลงมา ลดแป้ง เลือกผักกับเนื้อไว้...เย็น ก็ กินนม ผลไม้ ซะส่วนใหญ่

ฉันเลยมีความสุขในการกินเร็ว ไม่ยืดเยื้อ ไม่ต้องพูดไปกินไป คุยกันนิดหน่อยก็พอ...พอทานเร็วแล้วฉันก็มีเวลาไปนอน ระหว่างพักมากขึ้นกว่า การทานอาหารโต๊ะสาวๆๆ...

จริงๆมันเป็นความฉลาดในการจัดการเวลา ที่จะเลือกนั่งตรงไหนต่างหาก ทำให้มีเวลาพักผ่อน อิอิ

ผ่านมาจนวันที่สาม ฉันก็เบื่อๆเนอะ...เริ่มกลิ้ง คือ การเรียนเขานั่งพื้น เลยนอนยาว....ตามสบาย...เลิกอาย..เก็บความอายไว้ที่อื่นชั่วคราว..

มีการแบ่งกลุ่มย่อยทำกิจกรรม ฉันก็ ต้องพาตัวเองไป อยู่กับคนที่ เขาทำงานแตกต่างกัน อย่างใช้แรงงานเพื่อ ช่วยเรื่องการคิดเขาหน่อย...

ไม่นานนักไอ้หนุ่ยก็มาช่วย

พอสรุปงาน..กลายเป็นว่า พวกเรานอนเล่นกัน.หนุ่ยยืมหมอนไปหนุนนอน...หันหัวมาทางฉันพอดี...

อิอิเสร็จเรา....

มืออันว่างๆๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ เริ่ม เอาปากกาไปจิ้มหัวเพื่อน...จิ้มไม่พอ เอาปากกาเขี่ยๆๆ..แบ่งผมเหมือนช่างทำผม...

เอาละไอ้หนุ่ยเอ้ย หัวแก เป็นของเล่นฉันไปแล้ว...

ไม่นานนัก หนุ่ยก็บอกว่า ดูสิ หัวผมมีหงอกไหม..

ได้ทีละเพื่อนเล่นซะ ได้หงอกมาเส้นหนึ่ง....

แต่ มากไปกว่านั้น ฉันถักเปียให้หนุ่ย...ทำเปียเล็กๆ แบบ พวกฮิปปี้ไง...อิอิ เจ้าตัวจะรู้ไหมเนี่ย หัว เป็นเปียๆๆ ไปหลายแล้ว

เล่นไปเล่นมา จนพี่อายร้องทัก เฮ้ย...

เลยหันไปถามพี่อาน เอาแบบนี้บ้างป่าวเดี๋ยวทำให้..พี่อานส่ายหน้ายิกๆๆ...อิอิ

ลืมเล่าไปเรื่องนึง..วันนี้ทำกิจกรรมเสร็จ เล่นกับเจ้าบ๊วย ลูกชายพี่ผึ้งวัยสองขวบ...

เพิ่งรู้ว่าตัวเองเล่นกับเด็กได้ด้วย ตอนแรก เล่นกับน้องธารลูกพี่ไก่ วัยเก้าขวบอยู่ดีๆๆ สอนเขาวาดรูป ในจินตนาการ สอนให้วาดภาพเหมือน เล่นสีเทียนกันสนุกสนาน

พอเจ้าบ๊วยมาขอเล่นด้วยเราก็ให้เล่นแต่โดยดี ฉันหยิบกระดาษเอสี่ให้บ๊วย แล้วก็ ถามบ๊วยว่า นี่สีอะไร...บ๊วยตอบได้ถูกต้องทุกสีในกล่องทำให้ฉันแปลกใจมาก...

ฉันเลยทดลอง วาดรูป พระอาทิตย์ ถามว่าคืออะไร บ๊วยก็ตอบได้อีก ฉันเลยวาดไปเรื่อยๆ เป็น ต้นไม้สีเขียวลำต้นสีน้ำตาล บ้านไม้ ดอกไม้ กระถางต้นไม้ เมฆ นก ภูเขา ฉันแปลกใจมากที่เด็กสองขวบที่พูดไม่ชัดกลับตอบได้อย่างถูกต้องชัดเจน

ฉันเลยให้บ๊วยหัดระบายสีตามภาพที่ฉันวาด...แต่นั่นละเด็กสองขวบนะ เขาเลยระบายซะหาภาพเดิมไม่เจอเลย อิอิ

ว่าไปแล้ว ก็วาดใหม่ๆๆ หลายๆรูป เล่นกันไป เละหมดเลย...

บ๊วยชูนิ้วห้านิ้วที่เลอะสีเทียนให้ฉันดูเพื่อถ่ายภาพ เขาไว้..ฉันเลย จับนิ้วเล็กๆ เอามาป้ายลงที่กระดาษสีขาว...แล้วเกิดสีขึ้นมาจากสีที่ติดนิ้ว...



บ๊วยหัวเราะชอบใจแล้วเอานิ้วอื่นๆ ลากในกระดาษ ออกมาเป็นรูปๆๆ...

เพิ่งรู้นะว่า การเล่นกับเด็กที่พูดเป็นประโยคไม่ได้เลย ก็สนุกเหมือนกัน..เราสองคนแทบไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาพูด มากนัก แต่กลับเป็นการสื่อสารด้วยภาษากายและ การแบ่งปัน

เป็้นครั้งแรเลยที่ นั่งเล่นกับเด็ก สองขวบได้นานเป็นชม. หมดกระดาษไปหลาย

ตอนจบ..บ๊วยเอาสีในกล่องมาเทออกหมด..ฉันเลยหาอุบายใหม่ บอกเขาว่า
กล่องว่าง เอาสีมาใส่ในช่องดีกว่า..ฉันจึงหยิบสีทีละอันแล้วถามบ๊วยว่านี่สีอะไร เขาก็ตอบอย่างสนุกๆ แล้ว ช่วยฉันหยิบสีมาเรียงในกล่องจนเต็ม..

เรียงเสร็จ เขาก็ส่งให้ฉัน ฉันเลยบอกว่า บ๊วยเอาไปให้ลุงอ้วนสิ เขาก็ยกกล่องสีไปให้ลุงอ้วนอย่างว่าง่าย..

นี่ละ สอนให้เล่น ก็ต้องสอนให้เก็บเป็นระเบียบโดยไม่ยากเย็น..แทนเราจะมานั่งเก็บตามทีหลัง เราก็ สอนให้เขาสนุกกับการเก็บให้เรียบร้อยได้เหมือนกัน

บางทีนะ ความสุขเล็กๆน้อยๆๆ ก็เกิดขึ้นระหว่างทาง มากกว่าจุดหมายปลายทางที่เราค้นหา...

การเรียนครั้งนี้ ก็ได้อะไรมากไปกว่าวิชาการ การคิด เพราะได้รอยยิ้มและความสุขใจกลับไปด้วย....



ดูรูปเจ้าบ๊วยก็แปลกใจ...เด็กๆที่นี่ ทำไมถึงมีแต่เด็กผู้ชายทุกคน เริ่มจะเบื่อเจ้าลิงทโมนทั้งหลายตัว นี่แล้วสิ...




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 0:20:17 น.
Counter : 295 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

noomint
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ฉันไม่ได้ยินดีในความตาย
แต่พร้อมที่จะจากไปอยู่เสมอ

เวลาในการมีชีวิตฉันเหลือน้อย
จะใช้สอยอย่างมีคุณค่าทุกนาที



Friends' blogs
[Add noomint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.