Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

เมื่อมือถือของคุณตกน้ำ

ถ้าโทรศัพท์มือถือของคุณตกน้ำให้ปฏิบัติดังนี้

1.หลังจากเอาเครื่องขึ้นจากน้ำแล้ว ห้าม!กด power เปิดเครื่องเด็ดขาด ถ้าเปิดจะเกิดการลัดวงจรขนานใหญ่ ให้ถอดแบตเตอรี่ออกด่วนที่สุด
2. หาผ้าเช็ดครับเช็ดด้านนอกให้แห้งได้ค่ะเช็ดแบตด้วยนะคะ ทีนี้เราก็จะได้เริ่มสำรวจว่าน้าเข้าส่วนไหนบ้าง
3. หาถุงพลาสติกใส่เครื่องคุณไว้นะคะ รัดยางปิดถุงไว้ ไม่ต้องสลัดเครื่องนะคะช่วงนี้ไม่ต้องทำให้เครื่องแห้ง รีบกลับบ้าน...
4. ห้าม!ใช้ไดรเป่าผมเป่าให้แห้งเด็ดขาด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายเกลียดและกลัวความร้อนที่สุดค่ะ
5. ถึงบ้านแล้ว หาถุงผ้าหรือผ้าบาง ๆ ห่อเครื่องไว้ อย่าลืมเปิดฝาหลังที่ครอบแบตเตอรี่ด้วยนะคะ(ถ้ามี) หลังจากห่อดีแล้ว
รัดยางเอาไปฝังไว้ในถังข้าวสารครับ 24 ชม. รอดูผล ใจเย็น ๆ ค่ะคืนเดียวเอง ข้าวสารจะดูดความชื้นออกมาหมด ถ้าใจเย็นกว่านั้น 2 วันก็ได้ค่ะ ขอย้ำ!! อย่าใจร้อน
6. หลังจาก 1-2 วัน ก็เอาออกจากถังข้าวสารค่ะ ทีนี้ก็เอามาใส่แบต ลองดูค่ะ

ร้อยละ 90 ถ้าทำอย่างที่ว่า เครื่องจะใช้ได้ค่ะ ขอย้ำนะคะ ต้องทำตามขั้นตอนที่บอกมานะคะ ลองดู ขอให้ pda หรือโทรศัพท์ หรือ ฯลฯ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของทุกท่านกลับมาเหมือนเดิมนะคะ




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 8:28:10 น.
Counter : 295 Pageviews.  

ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม

ข้อแรก ถ้าไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ต้องกลัวว่ารถจะดับหรือปล่าว หรือจะมีปัญหาอะไรตามมา เช่น น้ำจะเข้ารถหรือปล่าว แล้วจะเกิดผลเสียต่ออุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่ แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรทำอย่างไรดีละ


ข้อ 1 คือ ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด ในขณะขับรถลุยน้ำลึก หรือแม้จะน้ำตื้นก็ตาม เพราะ สาเหตุที่รถดับ ส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ ที่บอกอย่างนี้ ก็เพราะว่า เมื่อเราเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน และอย่าลืมสิว่าเรากำลังลุยน้ำลึก อย่างที่เจอวันนี้ ก็คิดว่า น่าจะเกินระดับพัดลม เพราะฉะนั้น ถ้าเราขืนเปิดพัดลมละก็ สิ่งที่จะตามมาคือ ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วคุณลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ เครื่องจะดับเอาง่าย ๆ หรือ ถ้าโชคดี หรือโชคร้าย ถ้าเครื่องไม่ดับ ใบพัดก็จะหมุน ๆ ซึ่ง เราก็ไม่รู้หรอกว่า ขณะที่เราลุยน้ำ อะไรมันจะลอยมาบ้าง มันมีสารพัด ไม่ว่าจะเป็น ขยะ กิ่งไม้ ไม้หน้าสาม ถุงพลาสติก รองเท้า ซึ่ง สิ่งของพวกนี้มันมีโอกาสที่จะเข้ามาในห้องเครื่องแล้วโดนใบพัดตัดจนใบพัดหัก ซึ่งถ้าใบพัดหัก แน่นอนว่า เราขับรถต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะระบบระบายความร้อนจะมีปัญหา

ข้อ 2 ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ก็ใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้ ก็ใช้เกียร์ L ก็ได้ รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น

ข้อ 3 คือ ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ เพราะเห็นผู้ขับขี่หลาย ๆ คนมักจะเร่งเครื่องแรง ๆ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะกลัวเครื่องดับ เพราะกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ แท้ที่จริงแล้ว การเร่งเครื่อง ยิ่งทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน และสิ่งที่จะตามมาก็เหมือนกับข้อ 1 ครับ ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสียครับ เพราะต่อให้น้ำจะท่วมท่อไอเสีย แล้วคุณสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบาย ๆ ต่อให้คุณจอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสียก็ตาม เมื่อคุณเข้าไปในรถ แล้วสตาร์ทรถ
กล้าพูดได้เลย ทีเดียวติด(กรณีนี้ ที่ผมกล้าพูดว่ารถสามารถสตาร์ทติด คือ น้ำท่วม แค่ท่วมท่อไอเสียนะ ไม่ใช่ท่วมฝากระโปรงนะ) แต่สำหรับรถคาบู ก็ไม่แน่ใจนะ ว่าถ้าถึงขั้นน้ำท่วมท่อไอเสียแล้วมันจะสตาร์ทติดหรือไม่ แต่สำหรับเครื่องหัวฉีดสบายใจได้

ข้อ 4 ควรลดความเร็วลง เมื่อ กำลังจะขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น อย่างที่บอก ซึ่งน้ำที่ปะทะระหว่างรถของเราและรถที่วิ่งสวนมา มันก็อาจทำให้น้ำกระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้หลังจากเราลุยน้ำลึกมา สิ่งที่ควรทำต่อ ก็คือข้อแรก พยายาม ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำ เพราะในช่วงแรก ๆ หลังจากการลุยน้ำลึกมา มันจะเบรกไม่อยู่ และเป็นอันตรายมาก ถ้าเราไม่ทำการย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก สำหรับ เกียร์ธรรมดา ต้องมีการย้ำคลัชเช่นเดียวกับการย้ำเบรก เพราะหลังการลุยน้ำมา อาจมีปัญหาคลัชลื่น จึงต้องทำทั้งย้ำคลัชและย้ำเบรก

ข้อ 5 ไม่ควรดับเครื่องทันที ถึงแม้ถึงจุดหมายก็ตาม เพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสียซึ่งควรสตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก ซึ่งจะสังเกตได้ว่า มีไอออกจากท่อไอเสีย ก็ไม่ต้องตกใจ ก็สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้น้ำในหม้อพักมันระเหยออกไป เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะทำให้เกิดน้ำค้างอยู่ในหม้อพัก สิ่งที่จะตามมาคือ มันจะผุ

หลังจากวันที่เราลุยน้ำมาแล้ว เราควรจะทำอย่างไร ไปดูกันต่อค่ะ !!!
1. ล้างรถ รวมถึง การฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถด้วย รวมทั้งบริเวณซุ้มล้อ เพื่อล้างพวกเศษทรายต่าง ๆ ที่มันเกาะติดอยู่ หรือ บริเวณใต้ท้องรถ ซึ่งอาจมีพวกเศษขยะ เศษหญ้า ติดอยู่ ต้องเอาออกให้หมด เพราะถ้าเศษหญ้าแห้งมันติดอยู่ใต้รถ อันตรายที่จะเกิดขึ้น มันใหญ่หลวงนักหนัก ๆ หน่อย ไฟอาจไหม้ได้ ในคู่มือยังบอกเลยว่า รถที่ติดตั้งตัวกรองไอเสีย หรือ (CAT) ไม่ควรจอดรถไว้บริเวณที่มีต้นหญ้าขึ้นสูง เพราะอุณหภูมิของเจ้า Catalytic Converter นั้น มันค่อนข้างสูงมาก ๆ

2. สำรวจน้ำมันเกียร์ ว่า มันมีสีผิดปกติหรือไม่ คือ ถ้ามีลักษณะคล้ายสี ชาเย็น นั่นแสดงว่า ต้องมีน้ำเข้าไปอยู่ในระบบเกียร์อย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นไปได้ ก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มันซะเลย เพื่อความสบายใจ เพราะก้านวัดน้ำมันเกียร์นั้นอยู่ค่อนข้างต่ำ และยิ่งรถผ่านการลุยน้ำลึก ๆ มา มันก็จะท่วมตัวเจ้าก้านวัด ซึ่งเป็นไปได้ที่น้ำจะซึมเข้าไปในระบบเกียร์ และมันก็จะทำให้ระบบเกียร์พัง

3. เช็คลูกปืนล้อ ซึ่ง พูดง่าย ๆ ว่า เจอน้ำทีไร ลูกปืนล้อมันก็จะดัง เวลาวิ่งความเร็วสูง ๆ อันนี้ทำใจไว้ได้เลย ว่า อาจต้องเปลี่ยน แต่ โดยปกติแล้ว เจ้าลูกปืนล้อมันจะพังเร็วก็เพราะสาเหตุที่ว่า จอดแช่น้ำมากกว่า แต่ถ้าวิ่งผ่านน้ำ โดยปกติ จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ถ้าแช่น้ำเมื่อไหร่ละก็ เตรียมตัวเสียเงินได้เลย

4. ตรวจสอบ พื้นพรมในรถ ว่า เปียกชื้นหรือไม่ เพราะหลังการลุยน้ำลึกมา มีโอกาสมากที่น้ำจะซึมเข้ามาภายในห้องโดยสาร เพราะฉะนั้นต้องเปิดผ้ายาง เปิดพรม เอามือ กดแรง ๆ ดู หรือลองเอากระดาษซับดูว่ามีน้ำอยู่หรือปล่าว ถ้ามีน้ำขังอยู่ภายในห้องโดยสาร คิดว่าน่าจะถึงเวลารื้อพรมกันเลยละ เพื่อป้องกันปัญหาตามมา เพราะถ้าคุณไม่รื้อพรม แต่คุณอาจแค่เพียงเอาผ้าซับ ๆ ให้พื้นแห้ง แล้วจอดตากแดด จริง ๆแล้ว มันก็แห้งเหมือนกัน แต่ สิ่งที่คุณไม่เห็นก็คือ สิ่งสกปรกที่มันยังค้างอยู่ในรถของคุณ ซึ่งคุณก็น่าจะรู้ว่า น้ำมันมีเชื้อโรคสารพัด แล้วเมื่อมันแห้ง มันก็จะแพร่เชื้อและเป็นเชื้อราอยู่ในพรม สิ่งที่อยากบอกต่อคือ นอกจากนี้ ในรถยังมีระบบปรับอากาศที่มันจะเป็นตัวช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แล้วมันก็จะหมุนเวียน กลับไปกลับมา อยู่ในรถของคุณ นั่นก็เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เพราะคุณก็สูดเอาเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าไปตลอดเวลา

จะว่าไปแล้ว รถสมัยนี้ค่อนข้างออกแบบมาดี ลุยน้ำไม่ค่อยดับกันหรอกครับ ถ้าทำอย่างที่บอกนะว่า จากสายตา วันนี้ผมลุยน้ำลึกไม่น่าต่ำกว่า 50 ซม เพราะรถรุ่นใหม่ ๆ จะย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเฉพาะเจ้า ECU ไว้ในตำแหน่งที่สูง พูดง่าย ๆ ว่า อยู่ในรถกันเลยหละ รวมถึงกล่องฟิวส์ต่าง ๆ ติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมนี่เหละ




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 8:24:57 น.
Counter : 253 Pageviews.  

ระวัง...อันตรายจากการขึ้นลิฟท์ "ห้าง" คนเดียว (ที่ Isetan)

*** ข้อความของบทความนี้ ทางเวบของเราได้รับ email ที่ส่งต่อๆ กันมาค่ะ และทางทีมงานเอง ก็เคยเจอ เด็กที่มีลักษณะนี้จริง เลยคาดว่า น่าจะเป็นจริง เลยขอเอามาเตือนกันค่ะ เลยขอ copy ทั้งหมดมาลง โดยไม่ขอแก้ไขใดๆ นะค่ะ ***

เตือนภัย มิจฉาชีพ ห้างดังกลางกรุง....(สดๆ ร้อนๆ คะ) สวัสดีคะ...เพื่อนๆ ขอโพสที่ห้องนี้นะคะ... เนื่องจากเริ่มเล่นที่ห้องนี้มาตั้งแต่แรกเข้าปี 99 ที่จริงเคยอ่านแต่เรื่องราวของคนอื่นที่นำมาให้อ่านกัน.... และก็ไม่เคยคิด ว่าวันนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง วันนี้ 25 สค.50 เวลา 17.55 น....

เราได้ลงลิฟจากชั้น 5 ของห้างอินเซตัน .... หลังจากซื้อเบเกอรี่ของ SUN MOULIN เสร็จ...ก็ได้เห็นลิฟที่อยู่ติดกับร้านเบเกอรี่
ในใจว่าอืมลงลิฟดีกว่า (ปกติจะเป็นคนไม่ใช้ลิฟจะชอบเดินมากกว่า ถ้าไปไหนคนเดียว ยกเว้นไปกับคนอื่นด้วย).... จะได้ไปดูของที่อื่นต่อ เพราะรถจอดอยู่ชั้น B2.....



ยืนรอลิฟอยู่สักพักลิฟก็มาจอด... เราก้าวเข้าไปในนั้นมีเด็กอายุประมาณ 11-12 ปี 4 คนและเด็ก 18-20 ปี 1 คน ... กลุ่มนี้ก็มองหน้าเรา... เราก็กดลิฟลงที่ชั้น P2... (ในใจคิดว่าเด็กเหล่านี้เข้ามาในนี้ได้อย่างไร ในมือมีถุง
รีไซเคิล (ถุงดำใบใหญ่2 ใบ) ที่ยังไม่ได้ใส่ของ หน้าตาและแต่งตัวมอมแมม กลิ่นตัวค่อนข้างแรง) ลิฟลงมาเรื่อยๆ และมาจอดตรงชั้น G
เนื่องจากมี ครอบครัวพ่อ แม่ เด็กในรถเข็น และคุณยาย กดจอดกำลังจะเข้ามา.. เด็กโตรีบบอกลิฟลง ลิฟลง ครอบครัวนั้นเลยไม่ได้เข้ามา... เราคิดว่าเค้าน่าจะจอดข้างบน ลิฟเลื่อนเรื่อยมาถึงชั้น P2...

ลิฟเปิด (ติ้ง) ประตูอ้า...เรากำลังจะก้าวออกระหว่างประตูกับพื้นด้านนอก.... ทันใดนั้น เด็กโตก็เอื้อมมือมา ล้วงกระเป๋ากางเกง ด้านขวาของเรา เราจึงจับมือเค้า สะบัดออกอย่างแรง และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น... ตัวเล็กๆ ทั้งหมดก็เข้ามารุมทึ้งเราใหญ่ เหมือนกับเรา เป็นอาหารมื้อใหญ่.... เราป้องกันตัวสุดเดช... สักพักตัวเล็กก็ออกไปกดลิฟให้ประตูอ้าอยู่ เราสู้กับตัวใหญ่ 2 คน ทั้งเตะทั้งถีบ ทั้งต่อย
จีกหัวตัวใหญ่ตลอดและพยายามที่จะบีบไข่ตลอดเวลา (เพราะเรารู้นี่คือจุดอ่อน) แต่เราพยามเท่าไรก็ไม่โดนแบบจังจัง เพราะว่ามานใส่กางเกงยืนส์เป้าต่ำ... มานกดหัวเราไปตีเข่า เราจิกหัวชกท้องมาน มานบีบคอเรา เราบีบไข่มานและถีบมาน.... เราว่าสู่กันอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 นาที (เพราะมานพยามยามจะเอาทรัพย์สินเราให้ได้)... เด็กโตคงรู้ว่าเราสู้ไม่ถอยแน่ๆ และแรงเราเยอะมาก...
มานเลยตะโกนบอกเด็กเล็กที่รออยู่หน้าลิฟ ให้ปิดประตู..

สักพักมานก็รีบวิ่งออกไป ลิฟก็ปิด เลื่อนขึ้นมาบนชั้น G กลุ่มครอบครัวเดิมยืนอยู่หน้าตาตกใจ คงเพราะเห็นของกระจัดกระจายเต็มลิฟ.. เราเลยบอกเค้าว่า กลุ่มเด็กเมื่อกี้ทำร้ายเราเพื่อชิงทรัพย์....ขณะที่ลิฟกำลัง จะปิดเราบอกเค้าว่าช่วยเข้ามาอยู่ในลิฟก่อน... เค้าบอก ปากเราแตกมีเลือดออกและกดลิฟขึ้นไปชั้น 2 ออกไปบอก รปภ..ว่าเราถูกทำร้าย เราไปห้องปฐมพยาบาลของห้างที่ชั้น 6
เพื่อทำแผลเบื้องต้น...

จากนั้น ฝ่ายบุคคลสาว 2 คน ก็เข้ามาดูแลและสอบถามเรา... ไม่นานหัวหน้าสาขาเป็นญี่ปุ่นก็เข้ามาคุยด้วยอีกคน ทางฝ่ายจัดการความปลอดภัยของตึก ในที่นี้คือเซ็นทรัลเวิลล์

ทุกคนที่กล่าวถึงอัธยาสัยดีมาก และเร่งประสานงาน ติดต่อกับทางตำรวจ... ติดต่อกับสายด้านนอก เป็นพรรคพวกที่ค้าขายอยู่ด้านหน้า แต่เป็นคนพื้นที่แถวด้านหลังวัดปทุมวนาราม... พอเราบอกรูปพรรณสันฐาน ก็ร้องอ๋อกันทุกคน.... คาดว่าไม่นานนี้คงจะได้ ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่

สิ่งที่อยากจะบอกคือ....ทุกที่มีมุมมืดไม่ว่าสถานที่นั้นจะดีแค่ไหน... ไม่มีที่ไหนปลอดภัย 100% ต้องดูแลตัวเองก่อนเป็นขั้นพื้นฐานคะ
ออกกำลังกายกันนะคะ...ช่วยได้จริงๆ...ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ป่านนี้เราคงน่วมไปแล้วคะ เราวิ่งเกือบทุกวัน(เมื่อก่อนทุกวัน)ครั้งละ 1-1.30 ชม....เล่นกีฬาอย่างอืนต่ออีก เราจะรู้สึกพอต่อการออกกำลังกายคือ 3 ชม./ครั้ง


เด็กอายุนิดเดียวเป็นมิจฉาชีพแล้ว.... ความอยากเป็นเด็กหายไปไหนหมด.... เลือกเกิดไม่ได้....แต่จงภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนดี
ข้อเสียคือ...ถ้าหากวันนี้เด็กโตมีอาวุธ.. เราคงเดี้ยงไปแล้วเช่นกันคะ

*****ถ้าจับตัวเด็กได้แล้วเราจะมาบอกความคืบหน้าอีกทีคะ******




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 8:08:16 น.
Counter : 1347 Pageviews.  

ระวัง iPhone ราคาถูก

ข่าวจาก gizmodo แจ้งมา ว่า...

ถ้าใครลองเสิร์ชในกูเกิลว่า "iPhone Apps" จะเจอผลแสดงหน้าเว็บของ iPhoneApps.org ที่โฆษณาอย่างหรูว่าเค้าขาย iPhone Apps ที่ขึ้น top 10 ใน App Store ได้ยกแผง ในราคา 25$ (ไม่ถึง 1,000 บาท) ผ่านระบบ PayPal

ฟังดูดี ... แต่มันคือ "เว็บลวง"

ข่าวยังคงแจ้งว่า App Store ใน iTunes และ iPhone เป็นแหล่งจัดจำหน่ายเพียบงแหล่งเดียวในเวลานี้เท่านั้น อย่าคิดเอา Apps จากแหล่งไหน ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนผู้ที่กำลังใช้ Installers.app (ไอ้แบบเราๆ เนี่ยแหล่ะครับ) ก็อย่าไปยุ่งกะเว็บเค้าเลย (มีแต่เสียกับเสีย ประมาณนั้น)



ป.ล. แปลใส่อารมณ์ตัวเองลงไปนิดนึง ไม่ว่ากันนะ (เอามาแปลงี้ได้ไหม หรือไม่ควรยังไงก็ว่าได้นะ ^^)




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 7:59:43 น.
Counter : 252 Pageviews.  

ระวังภัยก่อนถูกวางยา

วางยา” ในที่นี้หมายถึงโดนผู้ไม่หวังดี แอบใส่ยานอนหลับ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอื่นๆ ใส่ในเครื่องดื่มอย่างพวกเหล้า เบียร์ ไวน์ เป็นต้น ที่ต้องเขียนบอกเล่าเก้าสิบกันไว้ ในเรื่องนี้ ก็เพราะว่าในต่างประเทศ
อย่างนิวซีแลนด์ ปรากฏว่ามีรายงานผู้ถูกลอบวางยาลง ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมากขึ้น ตกเดือนละหลายร้อยราย แต่ในเมืองไทยยังไม่ทราบ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน

คนที่ถูกวางยามัก ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ตื่นขึ้นมาก็จำเหตุการณ์ไม่ได้เสียแล้ว ยาที่นำมาใส่ลงเครื่องดื่มนั้นมีหลายชนิด ตั้งแต่ยานอนหลับไปจนถึงยาสังเคราะห์ที่ใช้บรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เมื่อนำมาใช้ในปริมาณสูง จึงมักเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อผู้ถูกวางยา

อาการที่พอจะสังเกตได้ก็คือคนที่ถูกวางยาจะรู้สึกปั่นป่วน เห็นภาพหลอน อยากอาเจียน กล้ามเนื้อแข็งตึง ง่วงเหงาหาวนอน ไร้สติ หายใจไม่ค่อยสะดวก ลงท้ายด้วยการหลับเป็นตาย 6-10 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรกับตัวเองบ้าง




จากบทความในเว็บไซต์ //www.varsity.co.nz ได้แนะแนวทางป้องกันการถูกวางยาไว้ 3-4 ข้อสั้นๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ


• หลีกเลี่ยงการรับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า

• หากต้องดื่มเบียร์/เหล้าควรดูให้ดีว่า ยังไม่ ถูกเปิดฝาออกก่อนถึงมือคุณ

• ระหว่างนั่งกินดื่มอยู่นั้น หากใครเติมเครื่องดื่มให้ต้องหมั่นสังเกตสังกาว่าเขาใส่อะไรลงไปในแก้วของเราบ้าง และไม่ควรวางแก้วทิ้งไว้โดยไม่มีใครเฝ้า

• ถ้าดื่มเครื่องดื่มนั้นแล้วรู้สึกว่ารสชาติแปลกแปร่งไปจากเดิม ต้องหยุดดื่มแล้วเทมันทิ้งไปจะปลอดภัยกว่า...อย่าเสียดาย


หวังว่าหนทางหลีกเลี่ยง 3-4 ข้อข้างต้นจะพอช่วยให้คุณๆ รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาได้ ไม่มากก็น้อย.




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 7:48:55 น.
Counter : 254 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.