โลกไกลบ้าน ชีวิตนักเรียนทุนรัฐบาลไทยในอเมริกา
Group Blog
 
All Blogs
 
รั ก แ ร ก พ บ ... แ ต่ จ ะ จ บ ยั ง ไง <===> ชีวิตนักเรียนทุนรัฐบาลไทยในอเมริกา ตอนที่ 2



... เมื่อสามปีที่แล้ว ก้าวแรกที่ได้เหยียบดินแดนเสรีภาพ
ภายใต้ชื่อว่า "นักเรียนทุนรัฐบาลไทย"
ผมคิดว่าหนทางข้างหน้าคงมีแต่กลีบกุหลาบโรยไว้
แต่สามปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ผมรู้ว่า กลีบกุหลาบที่ดูสวยงามนั้น
โรยไว้บนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ หยาดเหงื่อ และหยดน้ำตา
ความสุขที่สุดอยู่ที่นี่ ความทุกข์ที่สุดก็อยู่ที่นี่
ทุกข์จนเคยคิดที่จะทิ้งความหวัง ความฝัน และทุกสิ่งทุกอย่างกลับบ้าน
หลายครั้งหลายครา
แต่บางที ก็ยังอดสงสัยไม่หาย ว่าผ่านเรื่องร้ายๆเหล่านั้นมาได้ยังไง ...





คร่าวๆก่อนนะครับ

สามปีที่ผ่านมานี้ แต่ละปีก็เจอมาสี่ฤดูเหมือนเดิม ร้อน ร่วง หนาว ผลิ

summer, fall, winter, spring,

โคจรวนเวียนอยู่อย่างนี้ แต่แต่ละปีก็แตกต่างกันไป



อ่านต่อๆไปเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่า ช่วงปีแรกจะเจออะไรแบบเด็กๆ คิดแบบเด็กๆ แก้ปัญหาแบบเด็กๆ

(ก็เด็ก high school นี่หน่า...จะให้ทำไง)


เข้า college ปีหนึ่ง คราวนี้ก็ต้องกางปีกเอง ทุกอย่างต้องทำเองหมด ไม่มีใครมาผลักมาดัน

แล้วก็มีอะไรรอบตัวให้เก็บให้เกี่ยวเยอะแยะ ได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง แก้ปัญหาด้วยตัวเองจริงๆ ซักที

ใครอยากอ่านเรื่องประมาณวัยรุ่น วันร้อน หรืออะไรแรงๆ ช่วงนี้ สนุกแน่ครับ


ส่วนปีที่ผ่านมา ก็เหมือนเป็นปีที่เราผ่านอะไรมาหลายอย่างแล้ว คราวนี้ก็มาเลือกว่าแบบไหนที่เราชอบ ไม่ชอบ

แอบมีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เงินๆทองๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งเรื่องดีๆ ร้ายๆ ปะๆปนๆ กันไป แปลกไปอีกแบบ

ใครชอบแบบไหน ก็ต้องอดใจรออีกนิดนะครับ เรื่องดำเนินเร็วแน่ ไม่ต้องห่วง


การดำเนินเรื่องที่คิดไว้ก็จะเป็นแนวเล่าตามลำดับเหตุการณ์สำคัญ (Chronological Order)

แต่อาจมีวกไปวนมา ถ้าช่วยให้แต่ละตอนมีรสชาติขึ้น น่าอ่านขึ้น มีสาระขึ้น

แล้วระหว่างทางที่เล่าไป ก็จะบอกเรื่องต่างๆ ให้คนที่ไม่เคยมาสัมผัสได้รับได้รับรู้

เผื่อมาจริงๆ ได้ไม่ต้องมาลองผิดลองถูกอย่างเราๆอีก

จะได้เอาเวลามาลองอะไรใหม่ๆ แล้วอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ





เริ่มเลยดีกว่าเนอะ

หลังจากที่เราพักกันหายเหนื่อย (ระดับนึง) อย่างน้อยก็ให้พอมีแรงก้าวขา

อาจจะเป็นเพราะทิชชู่เค้าหอมก็เป็นได้นะ ...อิๆ (ใครไม่เก๊ต อ่านตอนที่ 1 ก็ดีนะครับ)

พวกเราก็เดินชมไปรอบๆโรงเรียน สวยจริงๆครับ

คือต้นไม้ต้นหญ้าของเค้าสีเขียว เหมือนกับบ้านเรานั่นแหละครับ

แต่เขียวคนละแบบ ไม่ถึงกับทึบมาก แล้วท้องฟ้าก็ยังฟ้าได้ใจเหมือนเดิม เค้าเรียกกันกว่า azure sky

พื้นที่บริเวณโรงเรียน ซึ่งเรียกกันว่า campus เค้าแต่งได้งามคล้ายๆกับสวนเลยครับ

มีเนินมีลุ่ม ตุ๊มๆต่อมๆ น่ารักมาก

คลุมไปด้วยพื้นหญ้าอันเขียวขจี

เค้าเลี้ยงดีนะเนี่ย ขนาดซัมเมอร์หน้าแล้งแท้ๆ


ครับ... prep school ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้

จะอยู่ในป่าเขาลำเนาไพร ห่างไกลความเจริญ(ทางวัตถุ)

แล้วเก็บค่าเทอมแพงลิ่วเลย ปีละล้าน คงเอามาดูแลหญ้าพวกนั้นมั้ง

พูดไปก็รู้สึกผิดไปที่ผลาญเงินชาติไปปีละล้าน...





โรงเรียนของเราน่าอยู่

prep school มีชื่อเต็มๆว่า college-preparatory school

เป็นโรงเรียนเอกชน ( private school)

จะเปิดรับเด็กเกรดเก้า ถึงเด็กเกรดสิบสอง (มอสามถึงมอหก บ้านเรา)

เพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยสมชื่อ college-preparatory school

ระบบการศึกษาและความเป็นอยู่ก็จะดีกว่า public school มาก ซึ่งสนับสนุนโดยเงินของรัฐเค้า

ชีวิตของเด็ก public school ก็เหมือนๆกับที่พวกเราได้ดูกันจากหนังอเมริกัน อะไรทำนองนั้น


prep school แถบนิวอิงแลนด์ก็จะมีอาคารเรียน ลักษณะดอร์มเป็นแบบเก่าๆ (แค่แบบ แต่ตัวตึกอาจจะใหม่นะครับ)

แล้วเค้าจะมีอะไรดีๆให้เรา เพื่อให้ดูคุ้มกับค่าเงินมหาศาลที่เราเสียไป

อย่างเช่นที่ Brewster เค้าจะให้เด็กๆยืม lab top ไปใช้ตลอดปีคนละเครื่องครับ

ซึ่งที่นี่เค้าจะใช้ของ Mac รู้สึกจะเป็น iBook


Prep school ส่วนใหญ่จะมีดอร์มจัดให้ ฝึกการอยู่ร่วมกับคนอื่นในมหาวิทยาลัย

( ในอเมริกาเค้าเรียกมหาวิทยาลัยที่เน้นระดับป.ตรีว่า college ครับ แทนที่จะเป็น university)

เค้าจะเรียก prep school แบบนี้ว่า boarding school

คล้ายๆกับโรงเรียนประจำบ้านเราอะครับ

แต่ดอร์ม boarding school จะต่างกับดอร์มของ college

ตรงที่ boarding school เค้าจะแยกหอหญิงหอชาย

แต่ college จะจัดห้องชายหญิงสลับกันเลย ในชั้นเดียวกัน

แล้วยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ที่มหาลัยผม เค้าอนุญาตให้ชาย หญิง เป็นรูมเมตกันได้แล้ว

Oh My God!!






Roommate

ไหนๆก็พูดถึงรูมเมตแล้ว อดคิดถึงเรื่องนี้ไมได้ทุกที

โปรแกรมซัมเมอร์ที่เค้าจัดให้ เกือบทุกห้องจะเป็นห้องคู่

ก่อนหน้านี้เคยไปเข้าค่ายมาหลังครั้ง โรงเรียนประจำ (โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์) ก็เคยไปอยู่มา

ก็มีปัญหาการปรับตัว ช่วงแรกๆบ้าง แต่ตอนสุดท้ายก็สบายดี

อาจเป็นเพราะเราเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมากด้วยมั้ง (แต่ไม่ได้ง่ายซะทุกเรื่องนะ)

เลยไม่มีอะไรมาก แต่คนนี้นี่ มารหัวใจมาก ทำให้เกือบหอบผ้าหอบผ่อน หนีกลับไทยไปเลย

(มาดูกันว่าเป็นไง)



เค้าชื่อ มิก ครับ (นามสมมติ อีกตามเคย)

ขอระลึกชาติก่อนเลยละกัน

ก่อนเดินทางมาเมกา กพ.จะเรียกไปอบรมมารยาทชาววังกันสามสี่ครั้ง

(แค่อบรมสัมนาทั่วไปนั่นแหละครับ ผมก็เว่อร์ไป)

แล้วก็มีคนที่ไปสร้างสายสัมพันธ์มา แล้วก็ฟอร์เวิร์ดอีเมล์เพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันต่อๆกันไป

น้องด้วงของเราเป็นตัวตั้งตัวตีเลยงานนี้ ถึงขนาดไปเสิร์ช Google ทีละคน ไปรวบรวมประวัติเค้ามา

ว่ามาจากโรงเรียนไหน ไปแข่งอะไรมาบ้าง ชอบกินอะไร ชอบใส่กางเกงในสีอะไร

(น่ากลัวขนาดไหน คิดเอาเองละกัน)



รักออนไลน์

ตอนนั้นmsn กำลังตีตลาด พวกเราก็เลยแอดรายชื่อต่อๆกันมา

แล้วก็ได้รู้จักกับมิกเป็นครั้งแรกในเอ็ม

ไม่รู้เกิดจูนคลื่นอะไรติดกันไม่รู้ตอนนั้น คุยกันถูกคอมาก ตลกมาก ถึงกับสนิทกันทางเอ็มไปเลย

มันบอกว่า เป็นเด็กเตรียม เด็กทุนคิงส์ หรือว่าทุนเล่าเรียนหลวง แล้วมันก็ติดสแตนฟอร์ดแล้ว

คือไม่ต้องสมัครมหาลัยเหมือนพวกเราแล้ว


ตอนนั้นมันคุยตลกมาก กัดกันไปกัดกันมา ส่ง wink ที่เป็นคนแก่หัวเราะเสียงน่าเกลียดๆ ไปมากันเป็นพักๆ

เพราะอดขำไม่ไหวในมุขของเราสองคน ส่งกันไปส่งกันมา แล้วก็จินตนาการว่าคงเป็นลูกคุณหนูไฮโซมากๆ

แล้วแอบได้ข่าวมาด้วยว่า เคยเป็นหลีดเตรียมมาก่อน !!!

ตอนนั้น ในชีวิตที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีเพื่อนไฮโซๆ กับเค้าเท่าไหร่

ขนาดไปอยู่โรงเรียนมหิดลมา (ซึ่งมีลูกคุณหนูเกินครึ่ง) ยังไปคว้าชาวบ้านๆ มาเป็นเพื่อนอีกตามเคย

เลยตื่นเต้นมาก คิดว่าต้องมาแนวแบบขาวๆ ขำๆ ตลกๆ ดูไม่มีพิษมีภัย

คราวนี้ล่ะวะ มีเพื่อนเลือกคุณหนู นิสัยดีๆซักคน ดูนิสัยแล้วคงคิดว่าไปสนิทกันต่อในภายภาคหน้าแน่

(มันก็คงหวังไว้สูง เหมือนๆกันมั๊ง ...ก๊ากๆ)





แล้ววันนั้นก็มาถึง

เป็นวันที่ รุ่นพี่นักเรียนทุน เค้าจะนัดน้องๆมาเจอกัน เพื่อแนะแนวทาง ถ่ายทอดประสบการณ์

มรดกหนังสือเรียน ต่อๆกันไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน

แล้วเป็นวันที่ทำให้ทุกคนในรุ่นหนึ่งๆ ได้รู้จักกันด้วย

ก็มองไปมองมา เอ้... อยู่ไหนนะ หน้าตาดีๆ คุณหนูๆ คุยสนุกๆ

ทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงเรียกว่า ... มิก


ผมหันไปมองด้านหลัง


มือไม้สั่น ใจเต้นลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม ปากแทบขยับไม่ได้


เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน




วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ คงจะตาเปียกตาแฉะกันหมดแล้ว เป็นห่วงสุขภาพ
แล้วมาเจอตัวจริง เสียงจริงนิสัยจริงของมิกพรุ่งนี้ นะครับ


คำตอบ - โยคีเพลย์บอย -



Free TextEditor


Create Date : 13 สิงหาคม 2551
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 3:00:23 น. 9 comments
Counter : 1002 Pageviews.

 
ลงชื่ออ่านนิยายรักจ้า


โดย: Be happy ja (Be Happy ja ) วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:1:36:47 น.  

 
แวะมาเยี่ยมจ้าาาาาา


โดย: sopida1981 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:2:50:11 น.  

 
ขอบใจนะจ๊ะที่แวะไปเยี่ยม ชีวิตก็งี้ล่ะ ถ้ามันจืดๆชืดๆจะไปสนุกอะไร

เขาเรียกว่าสีสันของชีวิตค่ะ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

ยังไงก็สู้ สู้ นะคะ


โดย: NattyJung วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:6:22:01 น.  

 
มิก สวยรึเปล่าคะ


โดย: Joy_Deknarak IP: 202.90.6.36 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:9:15:50 น.  

 
มิก??? หญิงหรือชาย


โดย: พี่เบียง IP: 220.255.7.167 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:21:10:17 น.  

 
โอ้ ยาวจริงๆเลย แล้วตอนจบก็ทำเอาคนอ่านชะงัก มันน่านะอย่างนี้

คอนต่อไปจะเป็นยังไง ไว้พี่มาอ่านต่อค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:18:57:45 น.  

 
มิก???? ไปตามหามิกในตอนต่อไป หุหุ


โดย: amp_joe วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:23:48:30 น.  

 
หิๆ


โดย: Oath IP: 124.121.16.184 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:3:41:31 น.  

 
ตามหามิกต่อดีกว่า


โดย: moonsky วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:3:33:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกคิดไกลบ้าน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย กำลังเรียนปริญญาตรี คณะวิศวกรรมอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งที่อเมริกาครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add ลูกคิดไกลบ้าน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.