ผู้หลงทางในทิวทัศน์แห่งความเจ็บปวด
7. ภาพลวงตานั้นกลาดเกลื่อนไปด้วยความลุ่มหลง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าฯต้องสวมแว่นกันแดดของนักปรัชญา มันคือความเขลาอันตื้นเขินที่ปกป้องตัวเองจากชะตากรรมของข้าฯ ไร้ความรู้สึกต่อความงาม ปราศจากอารมณ์กระหายความเชื่อต่อสิ่งเร้า หมางเมินกิเลสบริสุทธิ์ของเหตุผลและความถูกผิด ข้าฯจะหยุดเขียนบทกวีและอ่านร้อยแก้วขนาดสั้นต่อหูของพวกเขา มุขปาฐะที่บอกว่า สายลมแสงแดดพูดไม่ได้นั้นหมดยุคสมัยไปนานแล้ว!
ทุกชีวิตต่างปรารถนาการเดินทางเพื่อหล่อเลี้ยงความหมายของตัวเอง ความตายรออยู่ในลมหายใจสุดท้าย บาปกรรมมิใช่เรื่องชวนหัว และโชควาสนาก็มิได้เป็นตลกร้ายของความบังเอิญ หากสวรรค์อยู่ในอก นรกจะอยู่ที่ใดเล่า นอกจากความคิดถือมั่นในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
ฮ่าๆๆ ท่านเปล่งเสียงหัวร่อเหตุใดน้ำตาจึงหลั่งไหล
จะมีความจริงใดเท่ากับการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย พุทธองค์ตรัสรู้เรื่องนี้ด้วยสติปัญญาอันสูงส่ง บำเพ็ญทุกรกริยา อดข้าว อดน้ำ เหลือเพียงกระดูกผอมกะหร่อง สาวกกลับสร้างจานบิน ปัดระเบิดนิวเคลียร์ ขายสวรรค์แก่ผู้ยากไร้ ปล่อยผู้ร่ำรวยอยู่ในปลักตมแห่งความงมงาย นำสังคมไปสู่ความวายป่วงแห่งศรัทธาที่ถกเถียงกันอย่างไร้มรรคผล
เมื่อข้าฯเผยความลับที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดชั้นในผืนนั้น พวกเขาก็โยนบาปทั้งหมดที่อยู่ในความลามกจกเปรตของตัวเองทับถมข้าฯ อลัชชีผู้มักมากในกาม นักบวชผู้ชอบเสพเมถุน สาวกผู้ครองจีวรรูปอีโรติกสีกา และผู้แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ต่างดื่มกินเครื่องบรรณาการเลิศรสจากสัมภเวสีผู้เซ่นบาปตัวเองในนามนักบุญ
ผู้ไร้พรสวรรค์ดั่งข้าฯ เป็นได้เพียงนักประดิษฐ์ถ้อยคำที่ลอกเลียนแบบจากกวีผู้สูงส่งไปด้วยอารมณ์ศิลปินเท่านั้น มีผู้คนมากมายเขียนเรื่องราวในแบบของตัวเอง ข้าฯได้แต่เดินตามชีวิตต้อยๆเพื่อปกป้องความทรงจำบางอย่างที่กาลเวลาขโมยไปพร้อมกับอายุขัย
ข้าฯอยากกล่าวถึงหญิงสาวที่ข้าฯรักที่สุด แต่ถ้อยคำเหล่านั้นยาวเกินไป ข้าฯจึงอุทิศความเป็นที่สุดทั้งหมดให้กับนางด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ นางเท่านั้นที่รู้และสัมผัสได้ พวกท่านนะหรือ? ก็มองชีวิตตามสิ่งที่ท่านเห็นไปสิ!
ข้าฯไม่เคยศรัทธาในรัก แต่ข้าฯศรัทธาในเจ้า (หญิงสาวที่รักของข้าฯ) ความศรัทธานำทางข้าฯ แต่เจ้ากลับเป็นมากกว่าการนำทางนั้น
เพื่อข้าฯจะได้รักเจ้าอย่างที่เจ้าคู่ควรได้รับ ปล่อยข้าฯดูแลหัวใจแทนเรือนร่างเจ้า ปล่อยหัวใจข้าฯเข้าไปอยู่ในหัวใจเจ้า การกอดกระหวัดอันแสนวิเศษของเถาไม้เลื้อยแห่งวิญญาณของเราจะทำให้ความบ้าคลั่งของเราหวานชื่น
เพียงความเชื่อใจหนึ่งเดียวของเจ้า อาจทำให้เจ้าพบความสุขอย่างที่ข้าฯไม่เคยคาดฝัน
แม้มิได้สถิตในความทรงจำของเจ้ายามสิ้นวิญญาณแล้ว ก็ขอฯให้เราอยู่ด้วยกันยามมีชีวิต และข้าฯจะไม่ทรมานกับความโศกเศร้าทั้งหลายอีก ไม่ว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นจะลึกซึ้งยิ่งกว่าความเจ็บปวดใดที่เคยเผชิญก็ตาม
ขณะนี้เรามีชีวิต เราอยู่ร่วมกับต้นไม้ สายน้ำ แสงแดดอยู่ร่วมกับเรา ละครน้ำเน่าก็อยู่ เราอยู่ในโลกซึ่งไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง เพราะบางครั้งเราจน เราหิว! ครั้นพอเราร่ำรวย เราอิ่ม เราก็เอาแต่ใจเหมือนเด็กที่ไม่เคยถูกสั่งสอน!
วันหนึ่งเราจะตาย คำกล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องออกจากปากพุทธองค์ สามล้อข้างถนนวิภาวดีก็สามารถสบถต่อผู้โดยสารที่น่ารังเกียจของเขาได้ เสื้อผ้าท่านจะถูกทิ้ง สมุดบันทึกของท่านจะถูกเผา ข้าวของท่านจะถูกบริจาค บางสิ่งจะถูกเก็บไว้โดยคนที่สืบทอดมรดกจากท่าน ของทุกชิ้นของท่านจะถูกครอบครองโดยผู้อื่น เพราะท่านไม่มีชีวิตเพื่อชื่นชมสมบัติบ้าเหล่านั้นอีกแล้ว
เราต่างมีความคิดเห็นต่อความเจ็บปวดตามประสบการณ์ของตัวเอง ท่านไม่มีวันเข้าใจผู้อื่น และเชื่อเถิดว่า มีไม่กี่คนบนโลกนี้เท่านั้นที่เข้าใจท่าน เข้าใจความเจ็บปวดของท่าน เข้าใจทิวทัศน์ที่ท่านกำลังลุ่มหลง เข้าใจความสุขทุกข์ของท่านอย่างที่ท่านไม่สามารถเข้าใจ
ข้าฯควรมีสวรรค์ไว้วาดวิมานกับหญิงที่ข้าฯรัก สวรรค์ที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องตายเป็นผี สวรรค์ที่ล่มสลายไปกับความหึงหวงและเข้าใจผิดโดยไม่อาจอธิบาย นั่นแหละ แห่งเดียวกับที่ได้มองเห็นนรกด้วยดวงตาที่มองโลกสวย
ข้าฯกำลังมีชีวิตอยู่เพื่อรอวันจบ นี่คือทางเดินที่ข้าฯก้าวไปสู่หลุมรักและหลุมฝัง โชคชะตา หญิงสาว พรหมลิขิต เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้าฯก็เอาไปเสีย ยกเว้นชีวิต! ข้าฯเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่อยากหยุดดิ้นรน ข้าฯจะต่อสู้กับความรู้สึกจนกว่าความโศกเศร้าจะหาไม่
ความตายอย่างนั้นหรือ ไม่นานก็ได้พบกันแล้ว ถึงตอนนั้นข้าฯจะรู้สึกอะไร ความดีชั่วที่ได้กระทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต ความถูกผิดที่เคยเอื้อนเอ่ย ความสุขทุกข์ที่คอยปกป้อง ความบ้าคลั่งที่ยึดติดว่า รักเท่านั้นจะชนะทุกสิ่งที่เกิดจากความรู้สึก ช่างพิลึกพิลั่นสิ้นดี!
การพบพานและพลัดพรากเป็นเรื่องยินดีและน่าเจ็บปวด แต่ใครเล่าสามารถหลีกเลี่ยง? ภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาดของท่าน ความมั่งคั่งร่ำรวยของท่าน หรือความสุขที่ท่านคิดว่าสมควรได้รับในหนึ่งชีวิตนี้ อื่นใดเล่าที่ท่านคิดว่าท่านสามารถหลีกเลี่ยงการพบพานและพลัดพรากของชะตากรรมได้
หัวร่อสิ! ในเมื่อมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้น้ำตาท่านไหลได้ในยามนี้
จากหนังสือชื่อ "ผู้หลงทางในทิวทัศน์แห่งความเจ็บปวด" โดย สหรัฐ พัฒนกิจวรกุล
Create Date : 05 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 1 สิงหาคม 2559 9:29:41 น. |
|
1 comments
|
Counter : 720 Pageviews. |
|
|