เขียดน้อยออนไลน์
Group Blog
 
All Blogs
 
ทำไมกาจึงต้องเลี้ยงลูกนกกาเหว่า

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกรุ้ง นกกาเหว่า และกา อาศัยอยู่ใกล้กัน ไปมาหากินด้วยกันอยู่เสมอ นกรุ้งกับกาเป็นเพื่อนรักกันมาก ส่วนนกกาเหว่าก็ชอบพอกับกาเหมือนกัน สำหรับนกรุ้งกับนกกาเหว่านั้นแม้จะคบหากันก็จริง แต่ก็ไม่สู้จะถูกคอกันเท่าไรนัก

วันหนึ่งนกรุ้งบินไปหากินยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก็ไปพบฝูงลูกไก่คุ้ยเขี่ยหาอาหารกันอยู่ นกรุ้งแสนจะดีใจจึงบินไปโฉบลูกไก่ฝูงนั้น หวังจะจับไปเป็นอาหาร

แต่ในทันใดนั้น เจ้าของฝูงลูกไก่เห็นนกรุ้งบินลงมาหมายจะโฉบลูกไก่ของตน เขาจึงยิงด้วยกระสุนทันที ช่างแม่นเหมือนจับวาง ลูกกระสุนถูกก้นของนกรุ้ง นกรุ้งรู้สึกเจ็บปวดมาก จึงรีบบินซมซานกลับไปยังถิ่นที่อยู่ของมัน

นกรุ้งไปพิจารณาดูก็รู้ว่า ลูกกระสุนซึ่งปั้นด้วยดินเหนียวได้ฝังอยู่ในก้น ซึ่งมันรู้สึกทรมานมาก นกรุ้งพยายามช่วยเหลือตัวเอง แต่ลูกกระสุนก็หาได้หลุดออกมาไม่ จะหาใครมาช่วยก็ไม่พบใครเลย

ขณะนั้นกาบินผ่านมายังถิ่นของนกรุ้ง เลยแวะมาเยี่ยมเยียนถามข่าวเพื่อนรัก ว่าอยู่สุขสบายดีหรือ นกรุ้งเมื่อเห็นกามาก็ดีใจมาก จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้กาฟัง

ฝ่ายกาเมื่อเห็นนกรุ้งมีความเจ็บปวดทรมานเช่นนั้น จึงคิดหาทางที่จะช่วยเหลือเพื่อน แล้วพูดขึ้นว่า

“ นกรุ้งเพื่อนรัก เจ้าจงยืนชูก้นให้แสงแดดส่องเข้าแผดเผาลูกกระสุนนั้นให้แตกละเอียดออกมาเถิด “

“ ขอบใจเพื่อนมาก ตกลงเราจะทำตามที่เพื่อนแนะนำ “ นกรุ้งตอบ

ว่าแล้วนกรุ้งก็รีบออกไปยืนกลางแดด พร้อมทั้งยกก้นขึ้น เพื่อให้แสงแดดส่องก้นของมัน ทำอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ก็ไม่บังเกิดผลแต่ประการใด

“ เราปวดเหลือเกิน เพื่อนกาเอ๋ย จงคิดหาทางช่วยเราอีกสักครั้งเถิด “ นกรุ้งร้องครวญคราง

“ ตัวเราเองก็จนปัญญาที่จะช่วยเพื่อน แต่เรายังมีนกกาเหว่าที่อาจจะช่วยเพื่อนได้ เพราะเคยให้สัญญาไว้ว่า เมื่อประสบเคราะห์กรรมจะช่วยเหลือกัน “ กาออกความเห็น

“ จริงสิ นกกาเหว่าอาจจะช่วยเราได้ ขอให้เพื่อนกาช่วยไปตามนกกาเหว่ามาโดยเร็วเถิด “ นกรุ้งขอร้อง

“ ตกลง เราจะบินไปตามนกกาเหว่ามาเดี๋ยวนี้แหละ “ ว่าแล้วกาก็บินไปหานกกาเหว่าทันที

เมื่อนกกาเหว่ามาถึงและได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากนกรุ้ง จึงคิดว่านกรุ้งมีนิสัยเป็นพาลชอบรังแกสัตว์อื่น จึงพูดขึ้นว่า

“เจ้านกรุ้ง ถ้าข้าช่วยเจ้าได้ เจ้าจะให้อะไรแก่ข้าเป็นสิ่งตอบแทน ถ้าสิ่งที่เจ้าจะให้ถูกใจข้า ข้าก็จะช่วยเหลือเจ้า”

“ข้าขอมอบกายถวายชีวิตต่อเจ้า โดยยอมเป็นทาสคอยรับใช้เจ้าตลอดไป” นกรุ้งรีบตอบโดยทันที

“ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก ทำอย่างไรข้าจึงจะเชื่อเจ้าได้ ว่าเจ้าพูดความจริง” นกกาเหว่าพูดขึ้น เพราะรู้กำพืดของนกรุ้งดีว่า พูดจาเชื่อถือไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“เรานี่แหละขอรับประกันในคำพูดของนกรุ้ง ถ้านกรุ้งไม่ทำตามสัญญา เราจะรับผิดชอบเอง” กาเอ่ยรับรองด้วยความเต็มใจ เพราะสงสารเพื่อนที่ได้รับความเจ็บปวดน่าเวทนา

นกกาเหว่าเห็นการับปากยืนยันแข็งขันอย่างนั้นก็พูดขึ้นว่า
“ถ้าการับประกันอย่างนี้ ก็เป็นอันว่าตกลง”

“รีบบอกมาเร็วๆ เถอะ เราปวดจะตายอยู่แล้ว”

“เจ้าจงบินไปที่ลำธาร แล้วเอาก้นของเจ้าแช่ลงไปในน้ำ แช่อยู่นานๆ ไม่ช้าลูกกระสุนดินเหนียวก็จะยุ่ยละลายออกเองจนหมด” นกกาเหว่าบอก

นกรุ้งรีบทำตามคำบอกกล่าวของนกกาเหว่าทันที และในที่สุดลูกกระสุนก็หลุดออกจากก้นของมัน พอหมดทุกข์แล้วมันก็บินกลับมาหานกกาเหว่า แล้วพูดกับนกกาเหว่าว่า

“เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ข้ารู้อยู่แล้ว และตั้งใจจะทำอยู่แล้วทีเดียว ไม่จำเป็นต้องอาศัยปัญญาของเจ้ามาแนะนำหรอก” ว่าแล้วมันก็บินหนีไปในทันที ไม่ให้ใครพบเห็นหน้าอีกเลย

นกกาเหว่าเห็นดังนั้นจึงบินไปหากา แล้วพูดกับกาว่า

“นี่เจ้ากา บัดนี่นกรุ้งได้พ้นจากความเจ็บปวดแล้ว และมันได้บินหนีไปโดยไม่ทำตามสัญญา เจ้าในฐานะผู้รับประกันจะว่าอย่างไร”

ส่วนกานายประกันไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็ต้องรับผิดชอบตามสัญญา จึงตอบนกกาเหว่าไปว่า

“เรายินยอมตกเป็นทาสของท่านแทนนกรุ้งตามสัญญาที่เรารับประกันไว้”

นกกาเหว่าจึงบอกว่า “นับแต่บัดนี่เป็นต้นไป เจ้าต้องฟักไข่ให้แก่ข้า และเลี้ยงดูลูกของข้าจนเติบใหญ่อยู่ตลอดไป”


ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้

๑. คนพาลเกเรย่อมได้รับความทุกข์ความเดือดร้อนจากผลของการกระทำของตนนั้น
๒. คนพาลย่อมลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เสมอ ฉะนั้นอย่าหลงเชื่อคำพูดของคนพาลเป็นอันขาด
๓. คนพาลมักจะไม่รู้จักบุญคุณของผู้ที่กระทำไว้แก่ตน และบางครั้งยังเนรคุณด้วยซ้ำไป ดังคำกล่าวที่ว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด” ฉะนั้นจงเลือกคบแต่คนดี ซึ่งจะนำพาเราไปสู่ความดี ดังคำกล่าวที่ว่า “คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” นั่นเอง
๔. มิตรแท้เมื่อถึงยามยากจะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มิตรเทียมมีแต่หาประโยชน์เพื่อตนเองอย่างเดียว ฉะนั้นจะคบเพื่อนต้องดูว่าเป็นมิตรแท้หรือมิตรเทียม
๕. การที่คิดจะช่วยเหลือรับรองคนอื่นนั้น ในบางครั้งอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องพิจารณาดูให้รอบคอบเสียก่อน เพราะถ้าเกิดคนที่เรารับรองค้ำประกันนั้นบิดพลิ้วเราจะต้องตกเป็นจำเลยผู้รับผิดทันที ดังคำกล่าวที่ว่า “อยากเป็นหนี้ให้เป็นนายหน้า อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน” นั่นเอง







Create Date : 09 ตุลาคม 2548
Last Update : 9 ตุลาคม 2548 6:23:15 น. 6 comments
Counter : 11783 Pageviews.

 
ดีใจที่ได้กลับมาอ่านนิทานอีสปอีกครั้ง จำได้ว่าอ่านตอนชั้นปอสอง หรือปอสามจำไม่ได้อ่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านเด้อ


โดย: เสียงซึง วันที่: 9 ตุลาคม 2548 เวลา:7:49:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เรื่องสนุกดีค่ะ


โดย: รักดี วันที่: 9 ตุลาคม 2548 เวลา:8:31:03 น.  

 
เคยได้ยินแต่เพลงพึ่งรู้เดียวนี้เองว่าทำไมกาต้องฟักไข่ให้เจ้ากาเหว่า
ขอคิดดีจังเลยคะ


โดย: asariss วันที่: 9 ตุลาคม 2548 เวลา:15:04:55 น.  

 
ชอบข้อคิดครับ บางคนรู้ทั้งรู้ แต่ง่ายๆ กลับทำไม่ได้ ยอมปล่อยให้เพื่อนพาลพาไปหาผิด


โดย: noom_no1 วันที่: 9 ตุลาคม 2548 เวลา:18:29:20 น.  

 
ดีมากๆ


โดย: ก-ฮ IP: 182.232.145.105 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:17:46:55 น.  

 
ชอบจังครับ


โดย: ทนาย IP: 14.207.192.99 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:7:41:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เขียดน้อยออนไลน์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เขียดน้อยออนไลน์ ยินดีต้อนรับค่ะ
Ich Liebe Dich
Bittersweet memories that is all I'm taking with me. So, goodbye. Please, don't cry. We both know I'm not what you, you need. And I will always love you. I will always love you. ..ti.amo..



Friends' blogs
[Add เขียดน้อยออนไลน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.