เซอร์ไพร์ส..และขอบคุณจริงๆค่ะ             เช้าวันนี้..เกิดเรื่อง เซอร์ไพร์ส ฉันแต่เช้าอีกแล้ว แต่วันนี้เป็นเซอร์ไพร์สที่ดีและน่าประทับใจ ต่างกับวันก่อนอย่างสิ้นเชิง เช้าวันนี้ฉันได้รับพัสดุไปรษณีย์จากต่างประเทศ เป็นพัสดุที่น้องสาวของสามีฉันส่งมาให้จากประเทศของเขา              เมื่อฉันเปิดพัสดุออกดูก็ปรากฏว่า เขาส่งของขวัญมาให้มากมายอยู่ในกล่อง เป็นของขวัญสำหรับครอบครัวของฉัน ถ้าฉันสามารถพูดคุยภาษาเดียวกับเขารู้เรื่องฉันอยากจะบอกว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจากใจจริงๆ ของขวัญน่ารักและน่าประทับใจมาก ฉันไม่คิดว่านอกจากจะได้รับแต่เรื่องร้ายๆแล้ว ในชีวิตของฉันจะได้รับของขวัญดีๆอย่างนี้บ้าง ฉันโทรไปบอกสามีด้วยความดีใจว่าได้รับของขวัญแล้วและบอกกับเขาว่าของขวัญคืออะไร สามีถามฉันว่า ฉันชอบมั๊ย ดีมั๊ย ฉันบอกว่าฉันชอบมากๆ และขอบคุณเขามากๆเช่นกัน ฉันโชคดีที่ทางบ้านสามีเป็นคนใจดี ต่างกับบ้านฉันอย่างสิ้นเชิง           แต่ในความดีใจ ฉันก็มีเรื่องวิตกกังวลอยู่ในใจลึกๆ อย่างมาก เมื่อฉันรู้ว่า สามีของฉันไม่ค่อยสบาย เมื่อวานฉันพาเขาไปหาหมอ ปรากฏว่าหมอบอกเขาเป็นความดันสูง ทำให้ฉันอดวิตกกังวลไม่ได้ ฉันไม่อยากให้คนดีดีอย่างเขาต้องเป็นอะไร เพราะในชีวิตฉัน ฉันมีเพียงแค่สามี และลูกอีก2คน นอกนั้นฉันก็ไม่มีใครในชีวิตของฉันอีก เพราะฉะนั้นการที่คนในครอบครัวไม่สบายฉันจึงรู้สึกวิตกกังวล เป็นห่วงและกลัวมากๆ          มีใครเคยมั๊ยค่ะ ความรู้สึกที่ฉันกำลังเป็นอยู่นี้ ฉันตั้งใจที่จะดูแลทุกคนในครอบครัวอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี อยู่ด้วยกันไปนานๆ คุณๆผู้อ่านก็เช่นกันนะคะ ดูแลสุขภาพของคุณ ครอบครัวของคุณ รวมทั้งคนที่คุณรักให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี ครอบครัวที่มีความสุขอยู่แล้วจะได้มีความสุขไปนานๆรักษาเวลาแห่งความสุขให้อยู่กับเรามากที่สุดและเนิ่นนานที่สุด เป็นกำลังใจให้กับทุกคน ให้ทุกๆคนมีแรงมีกำลังต่อสู้กับอุปสรรคทุกอย่างให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เอาชนะทุกปัญหาด้วยสติ และอย่าลืมดูแลคนที่คุณรักให้เป็นอย่างดี..   Create Date : 08 มิถุนายน 2555     Last Update : 8 มิถุนายน 2555 13:42:15 น. Counter : 767 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ถามมาได้..ใช้อะไรคิด         ห่างหายกันไปหลายวันนะคะ เพราะมัวแต่ติดปฏิบัติภาระกิจอยู่ค่ะ วันนี้มีเรื่องราวมาเล่า UP DATE กับชีวิตน้ำเน่าๆ ของตัวฉันเอง เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองค่ะ สดๆ ร้อนๆ ประเด็นใหม่          เช้าเมื่อวานนี้ฉันมาทำงาน ฉันก็ต้องเจอกับเรื่อง เซอร์ไพร์ส บางอย่างเมื่อผู้จัดการของฉันบอกกับฉันว่า อดีตสามีเก่าของฉันโทรมาหาเขา พร้อมกับร้องไห้กับผู้จัดการของฉัน  เขาเล่าให้ผู้จัดการของฉันฟังว่า เขารู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ เพราะตั้งแต่ฉันเอาลูกมาอยู่ด้วยฉันก็ไม่เคยให้ลูกโทรไปหาเขา ก็แน่หล่ะ คนแบบนั้นใครจะอยากให้ลูกคุยด้วย บอกกับลูกว่าอยากตาย อยากจะฆ่าตัวตาย พูดออกมาได้ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีสามัญสำนึกของความเป็นพ่อ ถ้าคนเป็นพ่อที่ดีควรจะเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ไม่อยากให้ลูกรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นยังไง           ทุกสิ่งทุกอย่างเขาได้รับในวันนี้ ล้วนมาจากสิ่งที่เขาทำในวันนั้นเขาทำร้ายตัวเองทั้งหมดไม่มีใครทำ ยังมีหน้าโทรมาร้องไห้ให้กับผู้จัดการฉันฟัง ซึ่งผู้จัดการของฉันเขารู้เรื่องของฉันมาตลอด ผู้จัดการของฉันไม่พูดอะไรเพียงแค่เล่าให้ฉันฟังเฉยๆ          พอตอนสายในวันเดียวกัน อดีตสามีเก่าก็โทรมาหาฉันที่อ๊อฟฟิต เขาบอกว่าขอให้ลูกโทรหาเขาบ้าง ฉันก็เลยตอบกลับไปว่า ลูกไม่อยากพูดกับเขา ไม่อยากตอบคำถามเขา รู้สึกอึดอัดที่จะต้องคุยกับเขา ก็คนอะไรพูดกับลูกทีก็ด่าที ประชดที แล้วเด็กที่ไหนอยากจะคุยด้วย พอฉันบอกไปเขาก็ยังมีหน้ามาย้อนถามฉันอีกว่า ลูกพูดแบบนี้เหรอ ฉันบอกว่าใช่ แล้วฉันก็วางสายไป           อีกไม่ถึง 1 ชม.ไอเจ้าน้องชายตัวแสบก็โทรมาหาฉันอีก เริ่มต้นคำถามด้วยคำถามปัญญาอ่อนมาก่อนเลย มันพูดขึ้นว่าอดีตสามีเก่าของฉันมันจะตายแล้ว ฉันเลยถามว่าแล้วยังไง น้องชายฉันมันก็บอกว่า ฉันไม่ไปดูมันหน่อยเหรอ ฉันเลยด่ากลับซะหน้าหงายว่า ดูมันทำไม ฉันกับมันจบไปตั้งนานแล้ว มันอยากจะตายก็ให้มันตายไป เห็นมันบอกว่าอยากจะตายตั้งแต่มันเลิกกับฉัน ป่านนี้แล้วก็ยังไม่เห็นมันตาย เอาไว้มันตายค่อยโทรมาบอก น้องชายของฉันถึงกับอึ้งไปเลย อยากถามมันจริงๆว่า มันเอาสมองซีกไหนโทรมาถามฉัน ให้ฉันด่ามันกลับไปเปล่าๆ        พอน้องชายของฉันมันหาเรื่องทะเลาะกับฉันเรื่องนี้ไม่ได้ มันก็ชวนฉันทะเลาะเรื่องลูกชายของฉัน ดูซิ คนเราอยู่กันดีๆไม่ได้ต้องคอยหาเรื่องกันตลอดเวลา ส่วนทางด้านอดีตสามีของฉันแม่ของเขาก็ยังคงเข้าข้างลูกของเขาอยู่ดี เขาไม่เชื่อว่าลูกของเขาโทรหาผู้จัดการของฉัน เขาเถียงกับคนในครอบครัวของเขา จนคนอื่นๆในครอบครัวต่างพากันส่ายหัว ไม่มีใครอยากยุ่งกับ2แม่ลูกนี้อีก        ตลกดีมั๊ยหล่ะคะ คนสองคนนี้ไม่ว่าจะเป็นอดีตสามีเก่า หรือน้องชายของฉัน ต่างคนต่างไม่มีความคิด ไม่มีสติในสิ่งที่ทำลงไป น้องชายของฉันรู้ทั้งรู้ว่าฉันกับอดีตสามีจบกันไปตั้งเกือบ3ปีแล้ว ยังจะมาบอกฉันทำไม ในเมื่อไม่มีอะไรต้องเกี่ยวกันแล้ว ส่วนอดีตสามีของฉันก็ไม่รู้จะโทรไปหาผู้จัดการฉันทำไม ในเมื่อเขาก็เป็นแค่คนอื่น ช่วยเหลืออะไรมันไม่ได้  แล้วอีกอย่างผู้จัดการฉันก็รู้พฤติกรรมอันเลวร้ายของมันมาตลอด จะโทรมาให้ใครเขาดูถูกตัวมันเองทำไม ทำไปได้นะคนเรา...งง คิดอะไรกันอยู่   Create Date : 06 มิถุนายน 2555     Last Update : 6 มิถุนายน 2555 14:37:29 น. Counter : 729 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Happy Birth Day My Mom         วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของคนในหลายๆร้อยล้านคน แต่ก็เป็นวันพิเศษสำหรับคนอีกหลายร้อยหลายพันคนในวันนี้ เช่นเดียวกันกับแม่ของฉัน วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดแม่ของฉันค่ะ         สำหรับคุณๆที่เคยอ่านเรื่องราวของฉันคงได้ทราบกันดีว่า ที่บ้านของฉันรวมทั้งแม่เรามีปัญหากันอยู่ทะเลาะเบาะแว้งจนถึงขั้นขึ้นโรงพักกันมาแล้ว แต่ยังไงซะฉันก็เป็นลูก ถึงฉันจะไม่สามารถแสดงความรักหรืออยากจะอวยพรวันเกิดและก็มีของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กับแม่ฉันได้ ฉันก็ขอบอกผ่านบล็อคนี้ไป ถึงแม้ว่าแม่ฉันจะไม่รับรู้ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีความสุขที่ได้ทำ และก็รู้สึกดี สบายใจที่ได้บอกผ่านไปแบบนี้ เอาหล่ะค่ะ ก็ขออวยพรวันเกิดให้แม่ของฉันมีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรง คิดหวังอะไรก็ขอให้แม่สมหวังทุกอย่างอยู่กับลูกๆไปนานๆ ถึงแม้ว่าลูกอย่างฉันจะไม่สามารถตอบแทนบุญคุณได้หรือไม่ได้อยู่ดูแลท่านเหมือนอย่างลูกคนอื่นๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังดีใจที่ยังรู้ว่ามีแม่อยู่ และสุขภาพของแม่ยังแข็งแรงดี แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้ว         หวังว่าในวันหนึ่งข้างหน้าฉันคงมีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณแม่ของฉัน เพราะอย่างน้อยในวันนี้ฉันก็เป็นแม่คนหนึ่ง หวังไว้ว่าสักวันหนึ่งลูกคงดูแลฉันอย่างดีเหมือนอย่างที่ฉันดูแลเขา ถ้าฉันยังดีๆกับแม่ วันนี้ฉันกับน้องๆคงพาแม่ไปกินข้าวนอกบ้าน และมีของขวัญให้แม่เหมือนอย่างที่เมื่อก่อนตอนที่ยังเข้าใจกันดีดี ทำกันมาตลอด              แต่ถึงแม้ว่าในวันนี้ทำไม่ได้ แต่ฉันเชื่อว่า สักวันหนึ่งฉันต้องมีโอกาสทำได้แน่ รอต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ รู้แต่เพียงว่าต้องมีสักวัน แต่ที่รู้ๆวันนี้แม่ฉันคงไม่เหงาถึงจะไม่มีฉันแต่็ยังมีน้องๆของฉันอยู่ พวกเขาก็คงพาแม่ไปเลี้ยงวันเกิดเหมือนอย่างที่เคย ไม่มีฉันก็ไม่เป็นไร         เรื่องราวของฉันกับแม่ แม้ว่ามันจะรุนแรง แต่อย่างไรซะฉันก็ยังอยากให้แม่รู้ว่า ฉันยังรักและเคารพแม่ฉันมากๆเหมือนเดิม สักวันฉันจะตอบแทนบุญคุณ ฉันจะทำให้แม่รู้ให้ได้ว่าตลอดที่ผ่านมา สิ่งที่แม่มองฉันเป็นคนไม่ดี เนรคุณกับแม่ จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ฉันยังคงรักและเคารพแม่เหมือนเดิม แต่ขอฉันอยู่ห่างๆแบบนี้ดีกว่า เพื่อที่ปัญหาอะไรหลายๆอย่างจะได้ไม่เกิด ขออยู่ห่างๆอย่างห่วงๆแบบนี้ แค่อยากให้แม่รู้ไว้ว่า ฉันจะไม่มีวันทิ้งแม่ของฉันไปได้แน่ เพียงแค่วันนี้แม่ไม่รับรู้ แต่วันหน้าฉันพิสูจน์ให้แม่รู้ได้ว่าไม่เคยทิ้งแม่.. Happy Birth Day จ๊ะแม่ หนูก็รักแม่เหมือนเดิม..เขียนไปก็อยากจะร้องไห้ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย   Create Date : 31 พฤษภาคม 2555     Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 17:54:20 น. Counter : 746 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้           เมื่อวานนี้ฝนตกหนัก กลับบ้านลำบากจริงๆ ขนาดบ้านอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน คิดว่าหลายๆคนก็คงลำบากเช่นกัน ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพกันดีๆนะคะ มาว่ากันถึงความลำบากเมื่อฝนตก คิดว่าคงไม่มีอาชีพไหนที่น่าจะเกินกว่าแม่ค้าขายของตามตลาด            นึกถึงตัวเองเมื่อก่อนเหมือนกัน เคยขายของแล้วฝนตก มันรู้สึกเซ็งไปเลย เพราะออกมาจัดร้านยังไม่ทันจะได้ขายฝนก็กระหน่ำลงมา แถมค่าที่ก็ต้องจ่าย อาชีพแม่ค้าเลยน่าสงสารแบบสุดสุดเลย นอกจากจะนึกถึงตอนขายของแล้ว ช่วงเวลาฝนตกเป็นช่วงของความรู้สึกหลายๆอย่าง           อย่างเช่นว่า ถ้าคนในครอบครัวยังไม่ถึงบ้านก็ทำให้เราเป็นวิตกกังวลว่าคนที่เราห่วงใยจะเป็นยังไง จะกลับบ้านอย่างไร และกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าครอบครัวไหนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันบรรยากาศฝนตกจะเป็นบรรยากาศที่น่านอนที่สุด แต่ถ้าใครกำลังมีความรัก บรรยากาศแบบนี้แหล่ะเรียกว่าโรแมนติกของจริง ส่วนคนที่Unlucky โชคร้ายในความรักมาอกหักเอาซะดื้อๆแบบนี้แล้วหล่ะก็ เรียกว่า Sosad สุดๆเหมือนกันค่ะ ก็ว่ากันไปตามแต่บรรยากาศและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล แต่ยังไงๆก็ขอให้ทุกคนโชคดีและมีสุขภาพที่ดีนะ            คิดซะว่าฝนตกหนักๆอย่างนี้ปล่อยให้เรื่องร้ายๆที่ไม่ดีให้มันไปกับสายฝน หลังจากฝนตกแล้วก็เปิดรับสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต ให้ชีวิตได้เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆเสมอๆ สู้ๆกันไปค่ะอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน จริงมั๊ยค่ะ เกิดเป็นคนก็ต้องทนกันไป อย่างวันนี้ก็ต้องทนกับเจ้านายอีกแล้ว เฮ้อ..อึดอัดแทบแย่ อยู่ด้วยกันซะนานกว่าจะออกไปได้(ล้อเล่นขำๆนะคะเจ้านายเดี๋ยวเกิดมาอ่านแล้วงานจะเข้าอีก)         ส่วนฉันเองบรรยากาศเมื่อคืนนี้ จะว่านอนสบายก็นอนสบายอยู่หรอก แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะเป็นห่วงสามี สามีเลิกงานดึกด้วย ฉันคิดว่าหลายคนก็คงเป็นห่วงเป็นกังวลเหมือนอย่างฉัน สามีกลับบ้านนั่นแหล่ะคะถึงจะนอนหลับสนิทจนถึงเช้าได้         ส่วนเจ้าลูกชายตัวแสบ ไม่ต้องพูดถึง อากาศดีดีแบบนี้ กินข้าวเข้าไปเยอะๆ นอนหลับสบายทั้งคืนแถมเช้ามาปลุกยังไม่อยากตื่นไปโรงเรียน ทะเลาะกับไอแสบทุกวันกว่าจะปลุกให้ตื่นไปโรงเรียนได้ คิดว่าคุณลูกๆของคุณๆหลายๆท่านคงเป็นอย่างนี้เหมือนกัน แต่ก็เป็นความสุขที่บอกไม่ถูกเหมือนกันสะใจเล็กๆที่ได้กวนประสาทลูกทุกเช้า...ลูกรักของคุณแม่   Create Date : 30 พฤษภาคม 2555     Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 12:05:33 น. Counter : 889 Pageviews.   2 comment Share Tweet

เคยมั๊ย?             วันนี้ฉันมีคำถามมาถามคุณผู้อ่านค่ะว่า เคยมีความรู้สึกเบื่อๆกับงานบ้างมั๊ยค่ะ อาจจะเป็นเรื่องของ เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่กระทั่งเจ้านายของคุณ ฉันเองปัญหากับเพื่อนร่วมงานไม่มีปัญหาค่ะ แต่กับเจ้านายมีบ้างบางครั้ง             จริงอยู่..เจ้านายของฉันเป็นคนใจดี มีเมตตา แต่บางครั้งไม่ว่าจะเรื่องของงาน หรือปัญหาใดๆก็แล้วแต่ อาจจะทำให้เจ้านายเกิดอาการ"เหวี่ยง"ออกมาได้บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกค่ะ            อย่างกับฉันพักนี้ไม่รู้เจ้านายเป็นอะไร เหวี่ยงสุดๆ อาจจะเป็นเพราะเครียดจัดหรือวัยทอง ก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะอย่างน้อยเจ้านายก็มีบุญคุณกับฉันมาก เพียงแต่พักนี้ไม่รู้จะเหวี่ยงไปหาใครก็เลยเหวี่ยงมาหาฉัน มันก็เลยทำให้ฉันรู้สึกประสาทเสียนิดหน่อย แต่อย่างน้อยเพื่อนร่วมงานก็เข้าใจ เพราะเพื่อนร่วมงานก็ได้รับอิทธิพลนี้ไม่ต่างกันกับฉัน แต่ฉันอาจโดนมากหน่อยเพราะอยู่กับเจ้านายมานาน            แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันมี Plan B ไว้สำหรับอนาคตเรียบร้อยแล้ว ฉันคงไม่ฝากชีวิตไว้กับเจ้านายตลอดไปเพราะว่า วันหนึ่งฉันก็ต้องออกจากพวกเขาไปอาจจะด้วยอายุมากขึ้นจนทำงานให้เจ้านายไม่ไหว ฉันลาออกมาฉันก็ต้องหาอาชีพใหม่เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เพราะฉะนั้นฉันคงไม่รอให้ฉันทำไม่ไหวแล้วค่อยลาออกหรอก ต้องลาออกทั้งที่ฉันยังทำงานไหว เพื่อจะได้มีแรงมีกำลังทำไว้สำหรับอนคตครอบครัวฉัน            Plan B ที่ฉันกำหนดไว้ คือ ธุรกิจส่วนตัวเป็นพวกความสวยความงาม และพวกสปา ฉันไปเรียนเสริมสวยที่สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งเพื่อเตรียมเปิดร้าน ฉันไปเรียนแบบครบวงจรทุกอย่างเพื่อเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับร้านของฉัน เพราะอย่างที่บอกฉันมีครีมที่ฉันขายอยู่ด้วยฉันต้องการเอาครีมที่ฉันขายมาให้ลูกค้าของฉันได้ทดลองใช้ดู เพราะฉันใช้แล้วคนรอบข้างใช้แล้ว ทุกคนก็บอกว่าเห็นผลและชอบด้วย ผลตอบรับออกมาดีเป็นบวก ยิ่งทำให้ฉันมีกำลังใจอยากจะทำร้านของฉันเองให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา              แต่ Plan B ของฉัน ฉันก็ยังไม่ได้บอกให้ใครในที่ทำงานรู้ เพราะฉันตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกแล้วฉันจะลาออกไปเลี้ยงลูกซักพัก แล้วก็จะเปิดร้านเป็นของตัวเอง ฉันยังสงสารเพื่อนร่วมงานที่จะต้องมาทำงานแทนฉันตอนที่ฉันลาคลอด ฉันกลัวว่าพวกเขาจะต้องทำงานหนักมากขึ้นจนทนไม่ไหวแล้วก็ต้องลาออกไปในที่สุด              อีกใจหนึ่งก็ยังเป็นห่วงเจ้านาย เพราะจะไม่มีใครทำงานให้เขาได้ เพราะที่ทำงานของฉันพนักงานไม่พอกับงาน เรียกว่าหนึ่งคนรับหน้าที่มากกว่าหนึ่งตำแหน่งอีก ถ้าฉันลาออกไปจริงๆใครจะช่วยงานเขา              แต่อนาคตฉันกำหนดเองได้ ถ้าอยู่จนเกษียณอายุแล้วค่อยออก ฉันจะได้อะไรจากงานที่ทำ ในเมื่อทุกวันนี้ โบนัสก็ไม่มี เงินเดือนก็ขึ้นยากแถมขึ้นแต่ละทีก็ยังขึ้นน้อยอีก จะเอายังไงกันดีหล่ะทีนี้ แต่ในที่สุด สุดท้ายฉันก็ต้องตัดสินใจ ลาออก เพื่ออนาคตของฉันทำในวันที่ฉันยังมีแรงทำดีกว่า ดีกว่าปล่อยให้ทำไม่ไหวแล้วค่อยมาเริ่มต้น ฉันคิดอย่างนี้             แล้วคุณหล่ะเคยมีบ้างมั๊ยกับความคิดและความรู้สึกแบบนี้???วันนี้ฉันไม่ได้มาชวนใครให้ลาออกจากงานที่ทำนะคะ เพียงแต่ลองให้คุณๆทั้งหลายได้ลองคิดเล่นๆดู เผื่อวันนึงข้างหน้าอาจจะต้องตัดสินใจเหมือนอย่างกับฉัน   Create Date : 29 พฤษภาคม 2555     Last Update : 29 พฤษภาคม 2555 17:41:13 น. Counter : 627 Pageviews.   2 comment Share Tweet