"If life is a journey,my destination is our heart"
Group Blog
 
All Blogs
 

PART 3 -Day2 : Osaka –Kyoto(Arashiyama:Sagano Romantic Train)-Kinkakuchi-Heian Shire-Kiyomizu-Gion

       เช้านี้เราตื่นกันแต่เช้า เพราะวันนี้เราจัดโปรแกรมค่อนข้างแน่นทีเดียวเนื่องจากเราต้องนั่งJR ข้ามเมืองจากOsaka ไปKyoto เพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติก(รถรางซากาโนะ)ชมใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทางกันที่ Arashiyama



       จาก JRShinimamiya- Kyoto ใช้เวลาประมาณ 45นาที ก็มาถึงสถานีโตเกียวจากนั้นมองหา JR sagano line เพื่อไปลงสถานีUmahori โดยใช้เวลาอีกประมาณ 25 นาที และเดินมาที่ TorokkoKameoka station ใช้เวลาประมาณ 10-15นาทีไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางนะคะ เพราะมีป้ายบอกตลอดทางเลย เรามาถึงค่อนข้างเร็วประมาณ 8.45น. เนื่องจากเราตั้งใจให้ทันขึ้นรถไฟสายโรแมนติกรอบแรกเวลา 9.35น. เพื่อจะได้มีเวลาไปเที่ยวชมสถานที่อื่นๆอย่างไม่รีบร้อนมากนัก สถานียังไม่เปิดเราเลยเดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆรอนายสถานี จนกระทั่งเวลาประมาณ 9.00น. นายสถานีเปิดประตูเพื่อให้เดินขึ้นไปจองบัตร Romantic Train เราจองเป็นแบบ Oneway ราคา 600Yen ใกล้ถึงเวลาคนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับรถไฟสายโรแมนติกนั้นมีทั้งหมด 5 ตู้ ซึ่งตู้ที่ 5 จะเป็นหลังคาโปร่งแสงมองให้เห็นบรรยากาศภายนอกได้นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของเราเช่นกันที่มากันแต่เช้า เรานั่งกันฝั่งซ้ายโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นบริเวณที่ได้เห็นทะเลและได้ใกล้ชิดใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าฝั่งขวานะคะ(หากเพื่อนๆกลัวไม่มีตั๋วสามารถซื้อบัตรรถไฟสายโรแมนติกได้เลยพร้อมกับตอนแลกตั๋วJR แต่ไม่สามารถจองตู้ที่5ได้) รถไฟสายโรแมนติกวิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆให้เราได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทาง แม้ตอนเราไปใบไม้จะยังเปลี่ยนสีไม่มากนักก็ตาม รถไฟจะหยุดเป็นช่วงๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศด้วยนะคะ


Credit: //pantip.com/topic/32645741

แผนที่ง่ายๆระหว่างJR และ สถานีรถไฟสายโรแมนติก



มีป้ายบอกทางไปยังสถานี TorokkoKameoka Station ตลอดทาง





ตั๋วรถไฟสายโรแมนติก



ภายในสถานีมีร้านค้าขายของที่ระลึกรูปแบบต่างๆมากมาย




ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 25 นาที รถไฟสายโรแมนติกพาเรามาถึงสถานี Saga Torokko station เราเดินทะลุป่าไผ่(Bamboo forest)มา เพื่อมายังสถานีJRSaga Arashiyama 



       เป้าหมายต่อไปของเราคือวัดทอง(KinkakujiTemple) จากJR Arashiyama ไปEmmachi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7นาที เดินออกมาเพื่อขึ้นรถเมล์สาย 204,205 ลงสถานีKinkakuchi-michi ตอนแรกเราก็กลัวว่าจะลงสถานีไม่ถูกแต่สถานีนี้คนลงเยอะมาก อีกทั้งมีชื่อสถานีต่อๆไปขึ้นบนจอทีวีแถวๆคนขับด้วยค่ะ
       สำหรับค่ารถแนะนำให้ซื้อเป็นตั๋ว OneDay Pass ในราคา 500YEN (สามารถซื้อบนรถกับคนขับได้เลย)เดินมาอีกนิดหน่อยก็ถึง วัดทอง (Kinkakuji Temple) ค่าเข้าชมวัดทองราคา (400YEN) เราใช้เวลาดื่มด่ำทัศนียภาพและบรรยากาศโดยรอบประมาณ 1.30 ชั่วโมง


ตั๋วรถเมล์ชนิด One Day Pass






จากนั้นเราเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป โดยนั่งรถเมล์สาย204มาลงที่สถานี Okazaki-michi แล้วขึ้นสาย 32 ลงที่สถานี Kyoto Kaikan เดินอีกนิดหน่อยก็ถึงศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine)




ป้ายไม้…สามารถเขียนคำอธิษฐานได้


ประมาณ 16.00 น.เรานั่งรถเมล์สาย 100 ไปลงที่สถานี Kiyomizu-michi หรือ Gojozaka เดินอีกนิดก็ถึงวัดคิโยมิสึ หรือวัดน้ำใส(Kiyomizu Temple)




       ฟ้าเริ่มมืดก็ได้เวลาที่เราต้องลาจากวัดคิโยมิสึ ไปสำรวจยังย่านกิออน(Gion)เพื่อหวังจะได้เห็นเกอิชาหรือไมโกะสักครั้ง เราเดินเล่นกันอยู่พักใหญ่สายตาชำเลืองไปเห็นไมโกะ เดินเร็วอยุ่ในซอยเล็กๆ แต่ระหว่างนั้นเรา 2คนต้องหลบรถ จึงต้องละสายตาสักครู่ หันกลับไปอีกทีก็ไม่เห็นแล้วละค่ะ T-T



บริเวณย่านกิออนมีแสงไฟสลัวๆตลอดทาง

วันนี้เราเดินกันมาทั้งวันขาของเรา 2คนเริ่มล้า ขอตัวไปกินอุด้งร้อนๆและกลับเข้าที่พักก่อนพรุ่งนี้มาเที่ยวกับเรา2คนกันต่อนะคะ ขอลาไปด้วยภาพอุด้งและข้าวสักถ้วยค่ะ



TIPS:

- ArashiyamaRomantic Train ปิดทำการทุกวันพุธ

เมื่อเที่ยววัดคินคะคุจิ (Kinkakuji)แล้วแนะนำให้ไปเที่ยวต่อที่ประสาทนิโจ(Nijo Castle)เลย เพราะห่างกันไม่มากนัก แต่ที่เราต้องเปลี่ยนแผน เนื่องจากวันที่เราไปนั้นตรงกับวันอังคารซึ่งประสาทนิโจ ปิดทำการ

 เราเลยต้องไปเช้าวันรุ่งขึ้นแทน




 

Create Date : 12 มกราคม 2558    
Last Update : 25 มกราคม 2558 14:37:36 น.
Counter : 1200 Pageviews.  

PART 2 –Day1 : BKK-OSAKA-Dotonbori

เรา 2คน เริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ Smiley













       นที่สุดเจ้าจำปีก็พาเราจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาถึงสนามบินคันไซ(KIX) อย่างลอดภัยด่านแรก เราผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและไปรับกระเป๋า จากนั้นสิ่งสำคัญเลยคือต้องไปแลกตั๋วรถไฟJR Pass ซึ่งเราจะเริ่มใช้ตั๋วกันวันแรกวันนี้เลย



บริเวณสนามบินคันไซ(Kansai Airport)







จุดแลกตั๋ว JR Pass ภายในสนามบิน


มาแลกตั๋วJR Pasกันก่อน... 

วิธีใช้บัตร JR ก็เพียงแค่ยื่นเจ้าบัตรนี้ให้นายสถานีดูเท่านั้นเองค่ะ





       เรานั่งรถไฟJR สถานีKansai Airport มายัง Shinimamiya ใช้เวลาประมาณ30นาที เพื่อนำสัมภาระไปเก็บที่ Hotel Chuo Oasis โรงแรมห่างจากสถานี JR-Shinimamiyaประมาณ นาที (ตอนตัดสินใจมี 2โรงแรมที่เราคิดอยู่ว่าจะเลือกที่ไหนดี ระหว่าง HotelChuo Oasis และ Hotel Chuo Selena ซึ่ง2โรงแรมนีอยู่ใกล้กันมากแค่ตรงข้ามถนน แต่ Selena อยู่ใกล้JR มากกว่า จากที่อ่านรีวิวของเพื่อนบอกว่าทำให้ได้ยินเสียงจากJR ด้วย  ส่วนOasis เดินไกลกว่าหน่อย แต่เงียบกว่านะคะ สุดท้ายเราก็เลือก Oasisเพราะต้องการความเงียบ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่วงนั้นมีราคาโปรโมชั่น -_-“)

       เราจองเป็นห้องเดี่ยว 2ห้อง และมีห้องน้ำในตัวแม้ห้องจะขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และคุ้มค่ากับราคาถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นเน้นประหยัดและคุ้มค่าค่ะ  



ภายในบริเวณห้องและสิ่งอำนวยความสะดวก

       เมื่อเราเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย เราเดินตะลุยกันไปที่ย่านดงโทโบริ(Dotonbori) โดยนั่ง JR Shinimamiya –Namba เมื่อถึงสถานี Nambaเดินขึ้นมาเลี้ยวขวาและ ข้ามถนน ก็จะเจอย่านดงโทโบริ(Dotonbori) ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า2ฝั่ง มีอาหารคาวหวาน แหล่งชอปปิง และผู้คนมากมาย หลากหลายเชื้อชาติมาถึงที่นี่เราไม่พลาดทาโกะยากิไส้ปลาหมึก ยักษ์(Takoyaki)ราเมนข้อสอบ(Ichiran Ramen) และป้ายกูลิโกะซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญว่ามาถึงที่นี่แล้วก็ว่าได้  ไม่เพียงชาวต่างชาติที่นิยมถ่ายรูปคู่กับป้ายนี้คนญี่ปุ่นก็เช่นกัน หากใครอยากนั่งเรือชมแม่น้ำTonbori ใช้เวลาประมาณ30 นาที ก็มีไว้ให้บริการ แต่อาจต้องเสียเงินเพิ่มอีกสักหน่อย

ไปชมบรรยากาศโดโทโบริ (Dotonbori) พร้อมๆกับเรา 2คน เลยนะคะ


ป้ายกุลิโกะ ปัจจุบันเป็นระบบดิจิตอล ฉากหลังสามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆ





ทาโกะยากิไส้ปลาหมึกยักษ์(Takoyaki) ของขึ้นชื่อแห่งเมืองโอซาก้าอร่อยจริงๆ ต้องไม่พลาดกันนะคะ


ราเมงข้อสอบ มีโต๊ะนั่งทานเหมือนกำลังสอบอยู่จริงๆ แต่…อ๊ะๆๆ อย่าแอบลอกข้อสอบกันนะคะ


ค่ำคืนนี้ลากันไปด้วยภาพราเมงข้อสอบค่ะ 




 

Create Date : 10 มกราคม 2558    
Last Update : 25 มกราคม 2558 13:43:08 น.
Counter : 1828 Pageviews.  

PART 1 : เมื่อโอกาสมาถึง… OSAKA-KYOTO-TOKYO







        หากถามว่าอยากไปเที่ยวประเทศไหน เรา 2คน เชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในคำตอบในใจของเพื่อนๆอย่างแน่นอนด้วยความที่ญี่ปุ่นมีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ ติดทะเล มี 4ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน และฤดูหนาว ทำให้สามารถเที่ยวได้ตลอดปีซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการไปเที่ยวแบบไหนมากกว่าค่ะ หากอยากปั้นตุ๊กตาหิมะก็คงต้องไปช่วงฤดูหนาวหากอยากเป็นนางเอกเกาหลีโรแมนติกๆ แนะนำให้ไปฤดูใบไม้ร่วง อยากที่เรากำลังจะไปกัน (โดยใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไป)

        หลังจากวางแผนเรียบร้อย เรา 2คน จึงเริ่มมองหาตั๋วและถ้าจะดีขอเป็นตั๋วโปรโมชั่นด้วยนะคะ เหมือนฟ้าเป็นใจ…ช่วงนั้นการบินไทย ส่งตั๋วโปรโมชั่นเข้ามาชิงชัยให้เราได้เลือก เราจึงตัดสินใจขอนั่งเจ้าจำปีไปชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบสบายๆ Full option ยิงยาวๆไปจนถึง Japan หน่อยละกันค่ะ (แต่ข้อแม้ของโปรนี้คือ ต้องจองพร้อมกันอย่างน้อย2 ที่นั่ง หากเปลี่ยนไฟล์ทบิน ต้องเป็นระดับเดียวกันและเสียค่าธรรมเนียม 3000 บาท)

เลือกเวลาและราคา  ได้มาในวันที่ 27 ตค – 3 พย 57

=> ขาไป :Airbus330- Flight : TG 672 BKK-KIX : 11.00-18.10 น.
=> ขากลับ : Airbus380-Flight :TG 677 NRT-BKK : 17.30 - 22.30

ได้ตั๋วมาในราคา  17580 THB/คน


เมื่อแพลนตารางเที่ยวกันเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวเราจะเล่ารายละเอียดทริปติดตามกันต่อมานะคะ

เอกสารที่ต้องเตรียมที่พัก และตั๋วรถไฟ

1. ตั๋วเครื่องบินการบินไทย  17580THB/คน

2. พาสปอร์ตที่เหลืออย่างน้อย 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ

3. ที่พัก : เราใช้บริการจองที่พักผ่าน Agoda และจ่ายผ่านบัตร KTC ลด ลงไปอีก 7% ค่ะ

- OSAKA 3 คืน : Hotel Chuo Oasis : 3145THB/คน

                  - Tokyo 4คืน: Wasabi Guesthouse : 2639THB/คน

4. ตั๋วรถไฟ : ตั๋วรถไฟของญี่ปุ่นมีหลายแบบมากๆ แต่เมื่อวางแพลนแล้ว ตกลงกันว่า เราจะใช้ตั๋ว JR เป็นหลัก เราจองตั๋วจากประเทศไทยศึกษาอยู่ หลายบริษัท เพื่อหาราคาที่ถูกที่สุดในช่วงนั้น ได้ในราคา 8400THB  ใช้ได้ วัน

- รวมค่าเสียหายทั้งหมด31764 THB/คน

        เมื่อพร้อมแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นT_T มีธุระเข้ามาวันที่ 3 พ.ย. 57 ซึ่งเป็นธุระสำคัญไม่สามารถเลื่อนได้จริงๆ เรา2คนจำต้องเลื่อนไฟล์ทกลับให้เร็วขึ้นแต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นการเปลี่ยนตั๋วต้องเป็นตั๋วในระดับเดียวกันซึ่งพบว่าตั๋วเต็ม เอาล่ะสิจะทำอย่างไรดี!!!  หลังจากโทรปรึกษาการบินไทยแล้วว่าไฟล์ทที่กลับเร็วขึ้นสัก 1-2 วันไม่มี (มีแต่บินกลับช้าลง 1-2วัน)ในที่สุดเรา 2คน จึงตัดสินใจกันว่ายังไงก็ต้องไปแตะขอบฟ้าประเทศญี่ปุ่นให้ได้) เลยต้องบินกลับกับ THAI AIR ASIA X ในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. 57 แทน ในราคา 10753 THB/คน

        ในเมื่อทุกอย่างพร้อม และเงินในกระเป๋าที่ฉีก)พร้อมแล้ว จากนี้เราไปเที่ยวด้วยกันเลยนะคะ/ครับ             




 

Create Date : 08 มกราคม 2558    
Last Update : 9 มกราคม 2558 7:26:43 น.
Counter : 545 Pageviews.  

Pre-Japan(วางแผนและเรียนรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น)


วันที่ วัน เวลา สถานที่ 
 1 จันทร์ 11.00-18.10
สนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินคันไซ

20.00-21.00
เดินทางไปที่พักที่ Shinimamiya, Osaka
21.00-23.00
Dotonbori, Osaka
 2 อังคาร 
06.00-09.00
เดินทางไป Kameoka Torokko station
09.35-09.58
Kameoka Torokko station - Romantic train
09.58-12.00
ลงสถานี Arashiyama เพื่อชมป่าไผ่ จุดนี้บางคนาจจะแวะไปชมสะพาน Togetsukyo bridge ด้วยก็ได้
12.00-13.00
Saga arashiyama - Heian shrine
13.00-15.00
นั่งชิลล์ที่ Heian shrine และเดินรอบๆ, Kyoto
15.00-16.00
เดินทางไป Kiyomizu-michi
16.00-18.00
Kiyomizu-michi, Kyoto
18.00-19.00
เดินทางไป gion
19.00-21.00
เดินเล่นย่าน gion ชม เกอิชา
21.00-22.30
เดินทางกลับที่พัก Osaka
 3 พุธ 
07.00-09.00
ไป Nijo castle
09.00-11.00

Nijo castle, Kyoto
11.00-12.00
Nijo castle - Fushimi inari temple
12.00-14.00
Fushimi inari temple, Kyoto
14.00-15.00
Fushimi inari temple - Osaka castle
15.00-18.00
Osaka castle
18.00-21.00
เก็บตก Dotonbori, Osaka
พฤหัส 
07.00-12.00
Osaka - Tokyo (Mikawashima)
12.00-13.00
เดินทางไป Asakusa,Sensoji temple
13.00-15.00
Asakusa,Sensoji temple
15.00-19.00
Shinjuku, Shibuya, Harajuku
19.00-20.00
เดินทางไป Odaiba
20.00-22.00
Odaiba Tower
 5 ศุกร์ 
06.00-08.00
เดินทางไป Hakone
08.00-14.00
Hakone
14.00-16.00
เดินทางกลับ Tokyo
16.00-20.00
shopping ตึกม่วง
 6 เสาร์ 
07.00-10.00
Tokyo-Kawaguchiko
10.00-15.00
Kawaguchiko
15.00-18.00
Kawaguchiko-Tokyo
18.00-21.00
            Roppongi
อาทิตย์
06.00-07.20
เดินทางไปสนามบิน Narita
09.30-13.30
Narita airport - สนามบินสุวรรณภูมิ



ขั้นตอนการเตรียมตัวจัดตารางการเดินทางก่อนไป

1.เตรียมวางแผน และเลือกช่วงเวลาที่ว่างสัก 7-8วัน
2.เลือกประเทศที่เรา 2คน อยากไป โดยมีโจทย์คือในเอเชีย และบรรยากาศโรแมนติก สุดท้ายลงตัวที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีพอดี
3.เลือกเมืองที่ต้องการไปที่เป็นhighlight และเพียงพอกับเวลา ได้แก่ Osaka , Kyoto, Tokyo
4.วางแผนการเดินทางโดยศึกษาจากเว็บต่างๆ ขอขอบคุณ และขออนุญาติโพสต์เว็บต่างๆที่เราใช้ในการเตรียมตัวเลยนะครับSmiley

- ดูลักษณะประเทศแบ่งภูมิภาคต่างๆ : //th.wikipedia.org/wiki/ภูมิภาคของญี่ปุ่น
- ข้อมูล JR Pass

       //www.j-plan.co.th/index.php?op=jr_rail_pass-detail&id=2

       //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/02/E11756790/E11756790.html

       //www.japan-guide.com/e/e2357.html

เว็บที่ครอบคลุมข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น : //www.japan-guide.com
ข้อมูลสถานที่ต่าง
Arashiyama :  //www.bloggang.com/mainblog.php?id=mamapim&month=26-01-2012&group=24&gblog=3
Hakone : //www.deeryarch.me/japan/hagone-owakudani-ashilake
//pantip.com/topic/30070390
//th.at1987.com/life/japan-trip-part-3/
แผนที่เดินทางbus :  //www.japan-guide.com/e/e5206.html
kawaguchiko
ที่เที่ยว : //pantip.com/topic/30820552
ราคารถ : //transportation.fujikyu.co.jp/english/gettingaround/index.html
รายละเอียดรถ : //www.yokosojapan.org/th/2014/09/ทะสาบคาวากุจิ-kawaguchiko/

5.เวบและหนังสืออื่นๆ


- เปรียบเทียบราคาตั๋ว : www.skyscanner.com
- เว็บที่ใช้ในการดูเวลาและวิธีการเดินทางต่างในญี่ปุ่น : //www.hyperdia.com


หน้าตาหน้าแรกของเว็บเพจให้กรอกรายละเอียดตรง timetable and route search โดยเราจะพาเพื่อนๆไปลองใช้งานเว็บนี้กัน รับรองว่าถ้าเพื่อนๆไปเที่ยวกันเอง ต้องอาศัยเจ้าเว็บนี้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่าง เราจะออกจากสนามบินไปยังที่พักซึ่งอยู่บริเวณ Shinimmamiya 



โดยเมื่อเราเลือกเรียบร้อยแล้วจะปรากฏเส้นทางมากมายให้เราเลือก แต่ในเมื่อเรามี JR Pass แล้วเราจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกทำไมหากไม่จำเป็นใช่ไหมครับ ดังนั้นอย่าลืมเลื่อนมาด้านล่างสุด จากภาพจะเห็นในกรอบสีน้ำเงินว่ามีเครื่องหมายถูกอยู่ทุกช่องให้เลือกตามภาพด้านล่างจะได้แบบตั๋วที่ใช้JR Pass เท่านั้น 

Tips: แต่กรณีเมื่อเลือกตามภาพด้านล่างแล้ว ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง อาจลองเลือก PrivateRailway เพิ่ม ซึ่งอาจจะมีรถไฟของเอกชนที่มาเสริมให้ถึงปลายทางได้แต่ทั้งนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางส่วนนะครับ


โดย JR Pass ของเราใช้บริการรถได้ตามนี้


หลังจากนั้นกด searchอีกครั้งจะได้ดังรูป


มาดูคำอธิบายตารางกันเลย (โดยจะอธิบายเรียงตามเบอร์นะครับ)


1.เป็นชื่อเส้นทางที่ 1 ที่สามารถไปได้หากเลื่อนลงไปด้านล่างจะรันไปเรื่อยๆ 2 3 4 5 เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้มีกี่ routeจาก route output ด้านล่าง นอกจากนั้นช่องนี้ยังบอกเวลาการเดินทาง จำนวนครั้งการเปลี่ยนขบวน ระยะเวลา รวมถึงค่าเสียหายในการเดินทาง(หากไม่ได้ซื้อตั๋วแบบเหมา) 
2.เป็นช่องของสถานีเริ่มต้นที่เราจะขึ้น เช่น เริ่มที่KansaiAirport ขึ้นเวลา 10.16 น.โดยสามารถดูตารางเวลาการเดินรถไฟได้จาก stationtimetable อีกด้วย


จากตารางเวลา แถบสีเทาคือเวลาหน่วยชั่วโมง เวลา05.00-05.59 มีรถไฟ 1ขบวนคือ 05.50 แบบ Direct Rapid

3.เป็นระยะเวลาเชื่อมต่อจากสถานีไปอีกสถานี จากภาพจะเห็นว่าใช้เวลาทั้งหมด 32นาที โดยขบวนรถชื่อLTD.ExpHaruka14
4.เป็นชื่อสถานีเชื่อมต่อและชานชาลาที่มาถึง รวมถึงชานชาลาที่ต้องไปขึ้นต่อจากภาพก็คือเปลี่ยนสถานีที่ Tennoji Station มาถึงชานชาลาเบอร์18 ต้องไปหาชานชาลา 17 เพื่อเปลี่ยนขบวนไปปลายทางคือ Shinimamiya ครับ มีเวลา 3นาที (10.48-10.51)
5.คือขบวนที่ต้องขึ้นชื่อJR Yamatoji RapidService ใช้เวลาประมาณ 1นาที
6.มาถึงสถานี Shimimamiya 10.52 น.

ในที่สุดเราก็พร้อมที่จะไปญี่ปุ่นกันแล้ว มาเที่ยวไปพร้อมๆกันนะครับ




 

Create Date : 05 มกราคม 2558    
Last Update : 25 มกราคม 2558 13:05:40 น.
Counter : 592 Pageviews.  

1  2  

Journey of Hearts
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Journey of Hearts's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.