มาเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้กรอกข้อมูลใน DS-160 กันก่อน
1. รูปถ่ายขนาด2x2นิ้ว พื้นหลังสีขาว ต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ต้องถ่ายหน้าเต็ม ต้องเปิดหูเห็นหูชัดเจน ขนาดไฟล์≤ 240 KB
2. เตรียม Number passport ให้เรียบร้อย
3. หากมีญาติ หรือคนรู้จัก เค้าก็จะให้ใส่ชื่อพร้อมที่อยุ่เลยค่ะ
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนเริ่มกรอก DS-160 (//ceac.state.gov/genniv)
จากนั้นระบบจะให้ test file photo กันก่อนว่ารูปที่เราถ่ายมานั้นใช้ได้รึเปล่า จากนั้นจึงให้เข้าไปกรอกข้อมูลใน DS-160 เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจะได้หน้าตายืนยันข้อมุลแบบรูปด้านล่างนี้นะคะ
แต่หากใครยังกรอกไม่เสร็จในครั้งเดียวอย่าลืมจำเลข ApplicationID ที่ด้านบนขวาไว้ด้วยนะคะ เพราะสามารถใช้รหัสเพื่อนำไปกรอกต่อจากคราวที่แล้วที่เรากรอกค้างไว้ได้ (ขอย้ำนะคะว่าอย่าลืมจดเลข Application IDไว้ด้วย เนื่องจากขณะที่ทำไม่ได้จดเลขไว้ทั้งที่ทำเกือบเสร็จแล้ว ทำให้ไม่สามารถเข้าไปกรอกต่อได้ ทำให้ต้องเสียเวลากรอกใหม่ตั้งแต่ต้น )
สำหรับการทำนัดสัมภาษณ์visa หากว่าเรานัดหมายวันสัมภาษณ์เข้าไปแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ไม่เกิน3 ครั้ง (เพราะหากเกินจำนวนดังกล่าว เราจะต้องเสียเงินค่าขอvisa อีกครั้ง) โดยเข้าไปที่ //www.ustraveldocs.com เข้าไปครั้งแรกจะมีให้เลือกประเทศที่เราอยู่ และภาษาค่ะ มีภาษาไทยทำให้ขั้นตอนนี้ง่ายขึ้นอีกเยอะ เข้าไปในหัวข้อทำนัดสัมภาษณ์จากนั้นคลิกเลือก ผู้ใช้ใหม่ เพื่อทำการสร้าง account ของเราก่อน ในส่วนนี้กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆจนสุดท้ายเราจะได้ Virtual account ID และ CGIreference NO. เพื่อนำไปกรอกในแบบฟอร์มการชำระเงิน โดยมีวิธีการชำระเงินให้เลือกว่าจะชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเงินสด โดยหากเลือกจ่ายแบบเงินสด ต้องปริ้นแบบฟอร์มจาก www.ustraveldocs.com/th_th/BAYDepositslip.com เพื่อนำไปชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โดยจะมี 2ส่วน ส่วนแรกเก็บไว้กับธนาคาร ส่วนที่2 เก็บไว้กับเรา ค่าวีซ่าล่าสุด 5270 บาทค่ะ จากนั้นรอ 1-2 วันทำการ ระบบจะอัพเดตข้อมูล และเราสามารถเข้าไปทำวันนัดสัมภาษณ์ได้ค่ะ
เมื่อเลือกวัน และเวลาเรียบร้อย เราจะได้ใบคอนเฟิร์มนัดออกมา อย่าลืมปริ๊นท์ไปในวันสัมภาษณ์ด้วยนะคะ
และแล้วก็มาถึงวันนัดสัมภาษณ์รอบที่นัดไว้คือ เช้าวันที่ 7 ตุลาคม57 เวลา 7.00น.ควรไปถึงก่อนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง วันนั้นไปถึงเวลาประมาณ 6.15น. ไปถึงพบว่าแถวยาวมากแล้ว ได้ยินคนข้างๆคุยกันว่ามากันตั้งแต่ตี 5.30น. เลย
เวลาประมาณ6.40น ก็มีพี่ยามมาจัดแถว ว่าใครทำนัดสัมภาษณ์รอบไหนไว้ ให้เข้าแถวตามเวลาที่นัดมา และพี่ยามก็จะบอกว่าสามารถเอาอะไรเข้าไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ตอนแรกอ่านที่อ่านรีวิวมา ทราบดีว่าให้เอามือถือไปได้คนละ 1 เครื่องส่วนpowerbank , ipad ,notebook ,ร่มน่าจะมีที่รับฝากใกล้ๆหน้าสถานทูต แต่
ปรากฏว่าไม่มีเลย ตอนนั้นเป็นไก่ตาแตกมากเนื่องจากไปคนเดียว จะฝากของไว้กับใครก็ไม่ได้ หลังจากถามพี่ยามแล้วว่าสามารถฝากของตรงไหนได้บ้าง พบว่าต้องเดินย้อนกลับไปอีกสัก 2-3นาทีมีโต๊ะรับฝากเพียง1ร้านเล็กๆ มีค่าใช้จ่าย 100 บาท ระหว่างกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปฝากและกลับมาที่เดิมก็คิดในใจจะทันไหมเพราะตอนวิ่งออกมาก็มีบางส่วนได้ทยอยเข้าไปแล้วโชคดีที่สุดท้ายก็ทันแต่ก็ต้องมาเข้าแถวใหม่
เริ่มจากจะมีเจ้าหน้าที่บอกให้เตรียมเอกสารDS-160 เค้าจะเช็คว่าชื่อของเราตรงกับเวลาที่นัดหมายไว้ไหมอีกหนึ่งรอบ จากนั้นจะเข้าไปยังตรงบริเวณ scan กระเป๋า และตัวตรงจุดนี้เค้าจะให้ฝากมือถือคนละ1เครื่องพร้อมบัตรประชาชน เมื่อscanผ่านเรียบร้อย ก็เดินตามทางมาต่อแถวเพื่อเตรียมเช็คเอกสารอีกรอบค่ะซึ่งตรงจุดนี้จะมีป้ายบอกเอกสารที่ต้องเตรียม มีแค่ 3 อย่างเอง คือ Ds-160 , พาร์สปอร์ตตัวจริง และใบรับรองการทำงาน เมื่อเช็คเอกสารเรียบร้อยแล้วเค้าจะเอาเอกสารเราใส่แฟ้มพร้อมกับได้รับบัตรคิว และ tracking no สำหรับคนที่รับพาสปอร์ตทางไปรษณีย์ค่ะ (จะมีบริเวณสำหรับให้เราจด trackingnumber ด้วย) จากนั้นก็ไปต่อคิวเพื่อปั๊มลายนิ้วมือ ตรงนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทย จะถามข้อมูลของเรานิดหน่อยๆ เมื่อเสร็จแล้วเค้าจะเก็บรูปถ่ายเราไว้ 1ใบ ขั้นตอนนี้หากใครรูปไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะให้มาถ่ายรูปใหม่ โดยภายด้านในจะมีตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติ 4รูป 120บาท สังเกตเห็นว่ามีอยุ่หลายคนเลยที่ต้องมาถ่ายรูปใหม่ และวันนั้นตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติเสีย ทำให้คนที่รูปถ่ายไม่ผ่านต้องออกไปถ่ายข้างนอก และเข้ามาใหม่ ทำให้เสียเวลามากๆ เพราะฉะนั้นจะถ่ายรูปพยายามทำตามข้อกำหนดทางสถานทูตให้มากที่สุดนะคะ
จากนั้นก็เข้าไปนั่งรอเรียกคิวเพื่อเช็คเอกสารและปั้มลายนิ้วมือกันอีกสักรอบจากนี้จะได้สัมภาษณ์จริงๆสักที คนที่สัมภาษณ์เป็นคนฝรั่ง แต่...พูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋วเลยคะ เค้าจะพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษกับเรานะคะ ถูกถามไป 3คำถามเท่านั้น คือ ไปที่ไหน , ไปทำอะไร และนานเท่าไหร่ ถามจบหันมาพุดว่าวีซ่าคุณผ่านแล้วนะครับรอรับที่บ้าน วินาทีนั้นดีใจมากๆส่วนจะได้กี่ปีค่อยลึ้นไปด้วยกันนะคะ
สรุปเอกสารอื่นๆที่เตรียมไปไม่ได้ใช้เลย เช่น statement แต่อย่างไรก็ตามควรจะนำไปเผื่อด้วย เผื่อเค้าถามหาขึ้นมา ไม่มีแล้วจะเสียเวลาเอาได้
เป็นอันว่าวันนี้ผ่านการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาไปด้วยดี หากเพื่อนๆคนไหนไปขอวีซ่าขอให้โชคดี ได้รับแบบ 10ปี เช่นกันจ้า