มาแลกตั๋วJR Pass กันก่อน...
วิธีใช้บัตร JR ก็เพียงแค่ยื่นเจ้าบัตรนี้ให้นายสถานีดูเท่านั้นเองค่ะ
เรานั่งรถไฟJR สถานีKansai Airport มายัง Shinimamiya ใช้เวลาประมาณ30นาที เพื่อนำสัมภาระไปเก็บที่ Hotel Chuo Oasis โรงแรมห่างจากสถานี JR-Shinimamiyaประมาณ 5 นาที (ตอนตัดสินใจมี 2โรงแรมที่เราคิดอยู่ว่าจะเลือกที่ไหนดี ระหว่าง HotelChuo Oasis และ Hotel Chuo Selena ซึ่ง2โรงแรมนีอยู่ใกล้กันมากแค่ตรงข้ามถนน แต่ Selena อยู่ใกล้JR มากกว่า จากที่อ่านรีวิวของเพื่อนบอกว่าทำให้ได้ยินเสียงจากJR ด้วย ส่วนOasis เดินไกลกว่าหน่อย แต่เงียบกว่านะคะ สุดท้ายเราก็เลือก Oasisเพราะต้องการความเงียบ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่วงนั้นมีราคาโปรโมชั่น -_-)
เราจองเป็นห้องเดี่ยว 2ห้อง และมีห้องน้ำในตัวแม้ห้องจะขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และคุ้มค่ากับราคาถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นเน้นประหยัดและคุ้มค่าค่ะ
ภายในบริเวณห้องและสิ่งอำนวยความสะดวก
เมื่อเราเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย เราเดินตะลุยกันไปที่ย่านดงโทโบริ(Dotonbori) โดยนั่ง JR Shinimamiya Namba เมื่อถึงสถานี Nambaเดินขึ้นมาเลี้ยวขวาและ ข้ามถนน ก็จะเจอย่านดงโทโบริ(Dotonbori) ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า2ฝั่ง มีอาหารคาวหวาน แหล่งชอปปิง และผู้คนมากมาย หลากหลายเชื้อชาติมาถึงที่นี่เราไม่พลาดทาโกะยากิไส้ปลาหมึก ยักษ์(Takoyaki)ราเมนข้อสอบ(Ichiran Ramen) และป้ายกูลิโกะซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญว่ามาถึงที่นี่แล้วก็ว่าได้ ไม่เพียงชาวต่างชาติที่นิยมถ่ายรูปคู่กับป้ายนี้คนญี่ปุ่นก็เช่นกัน หากใครอยากนั่งเรือชมแม่น้ำTonbori ใช้เวลาประมาณ30 นาที ก็มีไว้ให้บริการ แต่อาจต้องเสียเงินเพิ่มอีกสักหน่อย
ไปชมบรรยากาศโดโทโบริ (Dotonbori) พร้อมๆกับเรา 2คน เลยนะคะ
ป้ายกุลิโกะ ปัจจุบันเป็นระบบดิจิตอล ฉากหลังสามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ทาโกะยากิไส้ปลาหมึกยักษ์(Takoyaki) ของขึ้นชื่อแห่งเมืองโอซาก้าอร่อยจริงๆ ต้องไม่พลาดกันนะคะ
ราเมงข้อสอบ มีโต๊ะนั่งทานเหมือนกำลังสอบอยู่จริงๆ แต่
อ๊ะๆๆ อย่าแอบลอกข้อสอบกันนะคะ
ค่ำคืนนี้ลากันไปด้วยภาพราเมงข้อสอบค่ะ