|
Opensource: เคล็ดในการเลือกใช้โปรแกรมจากโอเพนซอร์ซ
นอกจากฟังชั่นการทำงานแล้ว ประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซอฟแวร์มาใช้
แต่ประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ เป็นสิ่งที่วัดได้ยาก (หรือต้องใช้ความพยายาม เวลา และ พลังงานมากในการวัด) เวลาเลือกซอฟแวร์โอเพนซอร์ซ มีหัวข้อให้พิจารณาง่ายๆที่อาจเป็นสิ่งบ่งบอกถึง ประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ของซอฟแวร์แต่ละตัว
1. ชื่อเสียง Reputation ซอฟแวร์นั้นมีชื่อเสียงที่ดีมั้ยในเรื่องประสิทธิภาพกับความเชื่อถือได้ (performance and reliability) เช่น Apache web server, GNU Compiler Collection (GCC), Linux, Samba เหล่านี้เป็นซอฟแวร์โอเพนซอร์ซที่มีชื่อเสียงที่ดี ควรจะเปรียบซอฟแวร์โอเพนซอร์ซเทียบกับซอฟแวร์ลิขสิทธิ์ดูด้วย และถ้าเป็นไปได้ควรจะลองคุยกับคนที่เคยลองใช้ดู ควรจะเช็คดูด้วยว่าซอฟแวร์โอเพนซอร์ซตัวที่เราสนใจนั้นยังอยู่ในสถานะแอคทีพ (ได้รับการพัฒนาอยู่) ซอฟแวร์โอเพนซอร์ซตัวที่แอคทีพอยู่นั้นปกติแล้วหน้าเวปจะได้รับการอัพเดตเรื่อยๆและมีอีเมลล์เกี่ยวกับการแก้ไขเป็นประจำ
2. มาตราฐานและการเข้ากันได้ Standards and interoperability เลือกซอฟแวร์ตัวที่ใช้มาตราฐานเปิด (open standards) การเข้ากันได้กับซอฟแวร์อื่นๆนั้นจะเป็นการลงทุนที่คุณค่ากว่า
3. การสนับสนุนจากกลุ่มผู้ใช้ Support (Community) เลือกซอฟแวร์ตัวที่มีการสนับสนุนดี มีกลุ่มผู้ใช้ที่ช่วยตอบคำถามของเราได้เวลาเรามีปัญหา ดูที่ mailing list archive ของซอฟแวร์ตัวนั้นๆว่ามีรึเปล่า ถ้าลองโพสต์คำถามแล้วได้รับคำตอบที่รวดเร็วเป็นประโยชน์ดีรึเปล่า
4. การสนับสนุนจากธุรกิจ Support (Commercial) ซอฟแวร์โอเพนซอร์ซบางตัวมีธุรกิจที่สนับสนุนอยู่เช่น Red Hat หรือ MySQL
5. เวอร์ชั่น Version เมื่อไรที่ซอฟแวร์เวอร์ชั่นที่เสถียรล่าสุดถูกปล่อยออกมา โดยทั่วไปแล้วซอฟแวร์จะมีบัค แต่ซอฟแวร์โอเพนซอร์ซตัวที่มีทีมพัฒนาที่แอคทีฟจะมีการแก้บัคและปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ
6. เวอร์ชั่น 1.0 (Version 1.0.) สำหรับโอเพนซอร์ซแล้ว ตัวเลขเวอร์ชั่น 1.0 ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก ต้องพิจารณาเลือกซอฟแวร์จากองค์ประกอบอื่นๆ
7. เอกสารประกอบ Documentation ซอฟแวร์โอเพนซอร์ซอาจจะไม่ได้มีเอกสารประกอบสำหรับผู้ใช้ที่ดีนัก แต่ปกติแล้วเอกสารประกอบสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมจะทำออกมาดีมาก เราสามารถดูประวัติการแก้บัคและเพิ่ม/เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติต่างๆของซอฟแวร์ได้จากเอกสารสำหรับนักพัฒนา
8. ทักษะ Skill set พิจารณาทักษะของเรากับเพื่อนร่วมทีมว่ามีทักษะพอที่จะลงหรือดูแลซอฟแวร์ตัวนั้นๆได้มั้ย ถ้าไม่มีทักษะพออาจจะจ้างบริษัทอื่นมาทำให้หรือว่าจะจัดการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะที่จำเป็น
และเรื่องการฝึกอบรมก็จำเป็น (ไม่เฉพาะกับซอฟแวร์โอเพนซอร์ซเท่านั้น) และค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกอบรมก็ควรจะเตรียมไว้และนำมาพิจารณารวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการใช้ซอฟแวร์ด้วยเพื่อเปรียบเทียบซอฟแวร์หลายๆตัว
9. Project Development Model การพัฒนาซอฟแวร์ควรจะเป็นระบบระเบียบ การพัฒนาซอฟแวร์โอเพนซอร์ซควรจะมีการพัฒนาที่ชัดเจนมีรายละเอียดของการทำการเปลี่ยนแปลงและการประเมินผลการทำการเปลี่ยนแปลงด้วย ควรจะมีการระบุถึงว่านักพัฒนาใช้ความพยายามไปมากเท่าไรในการดัดแปลงซอฟแวร์ โอเพนซอร์ซบางโปรเจคมีกฏที่เข้มขวดในเรื่องการระบุความพยายามในการดัดแปลงนี้ บางโปรเจคจะยืดหยุ่นกว่า แต่อย่างไรก็ตามนโยบายเรื่องการระบุความพยายามสำหรับแต่ละการดัดแปลงนี้ควรจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน
10. ลิขสิทธิ์ Licence อ่านลิขสิทธิ์
=== เรียบเรียงจาก === * //www.oss-watch.ac.uk/resources/tips.xml
Create Date : 12 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2559 10:51:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 411 Pageviews. |
|
|
|
โดย: auyza วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:14:18 น. |
|
|
|
| |
|
Thanks: ฟังวิทยุออนไลน์|Dictionary|หาเพื่อน|เกมส์|ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล