Group Blog
 
All Blogs
 
RED : อินเดียนแดงเลือดเดือด


KENICHI MURAEDA

Siam Inter Comics 19 เล่มจบบริบูรณ์

กลับมาอีกครั้งครับสำหรับการรีวิวการ์ตูนของกระผมนาย Gelgloog หลังจากที่ห่างหายไปเกือบ 10 เดือนด้วยกัน สาเหตุที่หายไปในช่วงแรกๆ ก็เนื่องด้วยเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเรียนครับ ช่วงต้นๆปีนี้จนถึงประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นเวลาที่จะต้องเร่งส่งวิทยานิพนธ์ครับ เลยปั่นซะจนหัวบานไม่ได้เข้ามา update blog เลย อีกทั้งการ์ตูนก็ไม่ได้อ่านอีก จนกระทั้งถึงช่วงกรกฎาคมหลังรับปริญญาตอนนั้นผมก็เริ่มว่างแล้วล่ะครับ แต่ดั๊นขี้เกียจเขียน blog เอาแต่เที่ยวเล่นซะงั้น (น่าเขกกบาลมาก) จนมาถึงตอนนี้ก็วุ่นๆเรื่องหางานอยู่ครับ ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตจะไปอยู่ที่รูไหน แต่ยังไงซะผมจะไม่ยอมให้ blog นี้ล่มไปอย่างแน่นอน และขอสัญญาว่าจะเริ่มกลับมาเขียนใหม่อีกครั้งเดือนหรือสองเดือนต่อครั้ง (เชื่อได้มั๊ยเนี่ย?)

สำหรับการ์ตูนที่จะมาพูดถึงคราวนี้เป็นการ์ตูนแนวแอคชั่นดราม่าที่เนื้อหาดุเด็ด เผ็ดร้อน สะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมาก นั่นก็คือเรื่อง “RED อินเดียนแดงเลือดเดือด” ซึ่งเป็นผลงานเขียนของอาจารย์เคนอิจิจากเรื่องยิงประตูสู่ฝันนั่นเอง (จริงๆเคยคิดจะรีวิวเรื่องนี้เหมือนกันแต่ก็เบี้ยวมาตลอด เหอ เหอ)

มาเข้าเรื่องกันดีกว่า..........

ฉากของการ์ตูนเรื่องนี้ได้ย้อนไปราวคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 ซึ่งเป็นยุคที่คนขาวเริ่มบุกเบิกเข้าไปในทวีปอเมริกา แน่นอนว่าการเข้าไปบุกเบิกดินแดนของคนขาวดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบโดยรวมต่อชนเผ่าที่เป็น Native American ดั้งเดิมซึ่งก็คือพวก “อินเดียนแดง” นั่นเอง

“RED” พระเอกของเรื่องก็เป็นหนึ่งในบรรดาชาวเผ่าอินเดียนแดงที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยเขาเป็นเพียงผู้เดียวที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่อินเดียนแดงเผ่าอูซาที่นำโดยร้อยเอก “บลู” ที่ได้นำกองทหารหน่วยพิเศษเข้าคร่าชีวิตชนเผ่าอูซาอย่างทารุณ โหดเหี้ยม

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเรดได้เก็บกักความแค้นของตนมานับสิบปี และปฎิญาณตนว่าจะต้องแก้แค้นร้อยเอกบลูรวมไปถึงลูกน้องที่เป็นทหารในกองร้อยของบลูให้ได้ ดังนั้นทั้งชีวิตของเรดจึงยึดติดกับการแก้แค้นเป็นที่สุดในฐานะที่เป็น หัวหน้าเผ่าและเป็นชนเผ่าอูซาคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในพื้นบรรณพิภพแห่งนี้

แต่เรดไม่ได้เดินทางเพียงตัวคนเดียว ข้างกายของเรดยังมีเพื่อนที่พร้อมยอมเคียงข้างไปสู่สมรภูมิในทุกแห่งหน ได้แก่ “อิเรโร่” เพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็นอดีตทหารหนีทัพมาอยู่ในอเมริกา เค้าได้ร่วมเดินทางไปกับเรดเพราะคิดว่าการเดินดังกล่าวจะช่วยค้นหาจิตวิญญาณแห่งลูกผู้ชายที่หายไปได้ รวมไปถึง “แองจี้” สาวโคมแดงที่ติดใจในบุคลิกลักษณะอันโดดเด่นของเรดจึงได้ร่วมออกเดินทางไปด้วย

นอกจากตัวละครหลักๆ ยังมีตัวละครอีกมากมายที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการ์ตูนเรื่องนี้ ได้แก่ ”เกรย์” มือปืนฝีมือฉกาจที่ปิดบังจุดประสงค์ของตนเอาไว้ “สกาเลต” สาวน้อยอินเดียนแดงที่กุมปริศนาอันเป็นกุญแจของเผ่าอูซาไว้ “สตาร์เจส” บาทพลวงผู้เป็นพ่อบุญธรรมของสกาเลต ฯลฯ ซึ่งค่อนข้างเยอะทีเดียวคงกล่าวหมดในที่นี้ไม่ได้ เอาเป็นว่าการเดินทางของเรดน่าติดตามมากครับ และคิดว่าการพูดมากกว่านี้ไปคงไม่ดีแฮะเพราะจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องจนเกินงาม ถ้าหากท่านไหนสนใจเชิญเลยครับ ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันส์จริงๆ พับผ่าดิ!!

สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ผมมองว่านอกเหนือจากเนื้อเรื่องสุดมันส์แล้ว ผู้เขียนยังมีวิธีการเล่าเรื่องที่พยายามสอดแทรกบริบท (context) ของตัวละครเด่นๆไว้อย่างลงตัว กล่าวคือตัวละครแต่ละตัวมีเบื้องหลังที่ทำให้มีบุคลิกลักษณะอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งการสอดแทรกดังกล่าวจะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของตัวละครต่างๆได้อย่างดีเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว อารมณ์ประมาณความดีมีพลั้งพลาด โจรชั่วมีที่มา (แต่บางคนในเรื่องมันก็ชั่วจริงๆนะเออ ฮ่าๆ) ดังนั้นความสนุกจากการ์ตูนเรื่องนี้นอกจากจะเป็นการติดตามการเดินทางของพระเอกที่เป็นเส้นตรงแล้ว มันยังมีการตัดสลับฉากไปที่ยังพื้นเพและอดีตของตัวละครต่างๆ อย่างสนุกลงตัวทีเดียว

อีกเรื่องนึงที่สำคัญก็คือการ์ตูนเรื่องนี้ยังสื่อถึงแนวคิดในเรื่องของความขัดแย้งใน “กรรมสิทธิ์” อันเกิดจากมุมมองที่ต่างกันอย่างสุดขั้วระหว่างแนวคิดกรรมสิทธิ์เอกชน (private properties) ในแบบตะวันตกที่มองว่ามนุษย์สามารถเข้าครอบครอง แสดงความเป็นเจ้าของสิทธิ์เหนือพื้นที่ได้อย่างเด็ดขาด ในขณะที่ชนเผ่าพื้นเมืองอินเดียนแดงกลับมีแนวคิดกรรมสิทธิ์ในแบบ “ร่วม” หรือ “กรรมสิทธิ์ชุมชน” (common properties) ที่มองมนุษย์ว่ามนุษย์ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ และธรรมชาติ ต่างไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร อีกทั้งมนุษย์เองนี่แหละต้องแสดงความเคารพธรรมชาติในฐานะที่เป็นแหล่งที่มาแห่งชีวิต (ซึ่งถ้ามองผ่านสายมาของมานุษยวิทยาก็คือการทำพิธีกรรมบูชาภูตผี ธรรมชาติในแบบต่างๆ นั้นเอง) มุมมองดังกล่าวถือได้ว่าเป็นวิธีการที่สอดคล้องกับแนวคิดในเชิงนิเวศวิทยาเลยทีเดียว

วิธีคิดในแบบดังกล่าวทำให้ชนเผ่าพื้นเมืองเสียเปรียบยิ่งนัก เพราะความไม่หยี่ระในกรรมสิทธิ์เอกชนเลย ทำให้คนขาวเข้ามาบุกเบิก ครอบครองกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติด้วยวิธีต่างๆ ทั้งกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจโดยมุ่งเข้ากว้านซื้อพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงกลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงโดยพยายามขับไล่ชนเผ่าพื้นเมืองให้ออกไปจากพื้นที่ของตน

การ์ตูนเรื่องนี้ถือได้ว่าสะท้อนมุมมองการสร้างประวัติศาสตร์แบบย่นย่อของเลยทีเดียว ทำให้เราเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์ชาติอเมริกาไม่ได้ถูกสร้างมาโดยง่าย หากแต่เต็มไปด้วยการเสียเลือดเนื้อและการเข้ากดขี่ชนเผ่าพื้นเมืองด้วยวิธีต่างๆ นานา

สุดท้ายก็คือผมประทับใจฉากจบของเรื่องมากที่ “เรด” พระเอกของเรื่องที่มุ่งหน้าจะแก้แค้นอย่างเดียวนั้น พอถึงจุดจบของชีวิตสิ่งเขาโหยหากลับเป็น “อิเอโร่” เพื่อสนิทชาวญี่ปุ่น ซึ่งมันทำให้เราเห็นว่าแก้แค้นกันมาตั้งเกือบยี่สิบเล่ม พอสำเร็จมันกลับว่างเปล่า สิ่งที่เรดต้องการกลับเป็นเพื่อนและมิตรภาพ อีกทั้งผู้เขียนยังทำให้เห็นว่ามิตรภาพว่าเป็นสิ่งที่ยาวนานเหลือเกิน แต่การแก้แค้นเป็นเพียงเปลวไฟที่เผาไหม้ในช่วงเวลาสั้นๆที่มันไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรขึ้นมาเลย

ดังนั้นรักกินไว้เถิดชาวไทย (จบห้วนๆซะงั้น ฮ่า)



Create Date : 13 ตุลาคม 2550
Last Update : 13 ตุลาคม 2550 0:49:54 น. 2 comments
Counter : 1983 Pageviews.

 
ยินดีต้อนรับกลับมาครับ
เรื่องนี้ผมยังไม่เคยอ่านแฮะ ต้องไปลองหาบ้างแล้ว
ชอบยิงประตูสู่ฝันมากครับ


โดย: ชีริว วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:6:02:00 น.  

 
ชอบยิงประตูสู่ฝันเหมือนกันครับ

ผมว่าเปนการ์ตูนฟุตบอลที่หนุกเปนอันดับต้นๆของผมเลยหละ


โดย: gelgloog (gelgloog ) วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:18:48:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

gelgloog
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add gelgloog's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.