Group Blog
 
All Blogs
 
ARMS : หัตถ์เทพมืออสูร

โดย Minagawa Ryoji

ค่าย Siam Inter Comics

22 เล่ม จบบริบูรณ์

ผมคิดว่าหลายๆคนคงจะรู้จักอาจารย์ Minagawa Ryoji ดี เพราะท่านได้ฝากฝีไม้ลายมือไว้กับการ์ตูนเรื่อง สปริแกน ซึ่งถือเป็นการ์ตูนโบว์แดงเรื่องหนึ่งของท่านเลยทีเดียว

สำหรับเรื่อง ARMS เองก็ยังคงกลิ่นอายของอาจารย์ไว้อย่างครบถ้วนครับ ทุกอย่างต้องเว่อร์เข้าไว้

แต่ แต่

เว่อร์แบบมีคำอธิบายที่เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ด้วยนะเอ้อ พูดให้ง่ายเข้าก็คือ โม้บนพื้นฐานความจริงที่ไม่มีทางเป็นไปได้นั่นเอง 555

ทว่าเมื่อพิจารณาเนื้อเรื่องโดยรวมแล้ว ผมว่าอาจารย์ Minagawa ยังคงฝีมือไว้อย่างครบถ้วนเลย ทั้งการดำเนินเนื้อเรื่อง การผูกเรื่อง รวมไปถึงการออกแบบให้ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นไปคนละอย่าง กอปรกับ การโม้บนพื้นฐานเหตุผล ของอาจารย์ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีเสน่ห์มาก (สำหรับผม)

เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ ทาคาซึคิ เรียวอิจิ นักเรียน ม.ปลายธรรมดา ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เริ่มรู้สึกถึงพลังแปลกประหลาดที่แขนขวาของตัวเอง ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายนั้น ชีวิตของเขาก็โดนคุมคามโดยศัตรูนิรนามอย่างคาดไม่ถึง จนแทบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้งหลายครา

การต่อสู้ด้วยพลังแห่งแขนขวาของ ทาคาซึคิ ได้เริ่มต้นขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว หากแต่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมที่มีพลังแปลกประหลาดเช่นเขาร่วมทางด้วยอีกคนสองคน อันได้แก่ ชินงู ฮายาโตะ ผู้ที่มีพลังที่แขนซ้าย และ โทโมเอะ ทาเคชิ ผู้ที่มีพลังที่ขาทั้งสองข้าง

เมื่อมีเพื่อนร่วมทางที่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน อีกทั้งความกังขาในเหตุการณ์อันพลิกผันที่เกิดกับชีวิต รวมไปถึงความคลางแคลงใจต่อปมปัญหาในอดีต ทำให้ทั้งสามคนเริ่มสืบเสาะหาอดีตของตนเอง เพื่อตามล่าหาความเป็นจริงของตัวตนพวกเขารวมไปถึง “ARMS” ที่สิงสถิตอยู่ในตัวพวกเขาทั้งสามคน

ในบทแรกของเรื่องซึ่งก็คือ The First Revelation “The Awakening” ถือเป็นปฐมบทเรื่องราวของตัวเอกทั้งสาม (จริงๆ ก็มีเกินสามอะนะ แต่ที่เด่นๆ ก็สามคนนี้แหละ) นำไปสู่จุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสามและองค์กรนาม “เอกลีกอรี”

สำหรับเรื่องนี้ผมถือว่าเป็นมหากาพย์ที่เข้มข้นทั้งเนื้อหา และความมันส์ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว มีการแบ่งเป็น บทๆ ซึ่งแต่ละบทก็มีการเดินเรื่องที่ชัดเจน พร้อมกับปมปัญหาที่ค่อยๆเผยออกมา รวมไปถึงการสร้างปมใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา ฉากการต่อสู้อันระทึกใจ ความสามารถของตัวละครที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้สนุกจนแทบวางไม่ลงเลยทีเดียว

การต่อสู้ระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสามและเอกลีเกอรีจะลงเอยเช่นไร พวกเขาทั้งสามเป็นใคร แล้ว ARMS ที่สิงสถิตอยู่ในตัวพวกเขาทั้งสามคืออะไรและมาจากไหน อนาคตของมนุษยชาติจะลงเอยเช่นไร คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้เชิญหาได้ในการ์ตูนเรื่องนี้.........

ในส่วนของเนื้อเรื่องผมคงไม่ลงมากไปกว่านี้ เพราะเดี๋ยวมันจะเป็นการ Spoil เนื้อหาจนเกินงาม อย่างไรก็ตามการรีวิวเนื้อเรื่องคงไม่ใช่เอกลักษณ์ของผม หากแต่อยู่ที่ความคิดคำนึงของผมที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้ต่างหาก

หากจะให้ผมจัดประเภทของการ์ตูนเรื่องนี้คงจะอยู่ในประเภท Scifi – Drama ครับ เพราะเนื้อหาที่อิงกับความเป็นวิทยาศาสตร์ (แบบเว่อร์ๆ 555) รวมไปถึงการดำเนินเรื่องราวที่ค่อนข้างกระชากอารมณ์ เราๆ ท่านๆ เหมือนกัน มีทั้งเศร้า เหงา สุข รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่มีการตั้งคำถามต่อ “ความเป็นมนุษย์” อันเป็นคำถามที่แสนง่ายแต่ตอบยากเสียเหลือเกิน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มันช่างระทึกใจและกินใจไปในคราวเดียวกัน ร่วมด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจอันเกิดจากจินตนาการของ อาจารย์ Minagawa ที่สรรค์สร้างให้กับตัวละครด้วยแล้ว โอ้ว......บอกได้คำเดียวว่าเยี่ยมมาก!!

วิธีการดำเนินเรื่องแบบผูกปมปัญหาถือได้ว่าเป็นปกติวิสัยของการ์ตูนที่น่าติดตามเกือบทุกเรื่อง แต่อีกเทคนิคหนึ่งที่อาจารย์ Minagawa ใช้ก็คือการ “กั๊ก” ครับ กล่าวคือ ค่อยขยัก ความเป็นมา เรื่องราว รวมไปถึงความสามารถตัวละครที่เป็นฝ่ายตรงข้ามพวกตัวเอก เอาไว้ ยังไม่ปล่อยเต็มสตรีม แล้วค่อยๆ ทยอยปล่อยทีละคนสองคน เอ....คีส (เป็นชื่อของเหล่าพี่น้อง ที่เป็นผู้กุมบังเหียนองค์กรเอกลีกอรีอยู่) ตัวโน้นมันมีความสามารถย่างไรน้อ แล้ว ARMS มันจะมีรูปร่างอย่างไร แบบนี้มันสร้างความตื่นเต้นให้กับคนอ่านมากล้นเลยล่ะครับ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งล่ะ ที่คอยจะติดตามถึงความสามารถที่แสดงเอกลักษณ์ของแต่ละคน

สาเหตุหนึ่งที่อาจารย์สามารถเล่นเรื่องราวแบบ “กั๊ก” ได้นั้น ก็เพราะว่า ตัวละครทุกตัวมี “บริบททางประวัติศาสตร์” (historical context) ครับ ทุกตัวมีที่มาที่ไปที่แตกต่างกัน ยังผลให้แต่ละคนมีห้วงความคิดเกี่ยวกับ “ชีวิต” ที่แตกต่างกัน อีกทั้ง “ARMS” ของแต่ละคนยังสะท้อนถึงคาแรคเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวละครด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้พยายามสอดแทรก (ไม่ว่าอาจารย์ Minagawa จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอะนะ) ก็คือลักษณะของความเป็น “มนุษยนิยม” (humanism) อย่างล้นเหลือ ภายใต้ความเชื่อที่ว่าไม่มีอะไรมาเบียดบังและลดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ได้ รวมไปถึงการเชื่อในความสามารถของมนุษย์อันจะนำพาหมู่มวลมนุษย์เองไปยังจุดมุ่งหมายปลายทางแห่งความผาสุกได้ ดังนั้นแล้วคงยากที่ปฏิเสธและบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้สอดแทรกแนวคิดดังกล่าว ซึ่งแนวคิดเกี่ยวกับมนุษยนิยมถูกย้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นผ่านทางประโยคเด็ดของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือ

“…………มนุษย์ ไม่มีทางแพ้ ARMS หรอก...........”

ประโยคนี้ถ้าอิงบริบทจากในการ์ตูนเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็น “วาทกรรม” (discourse) ที่แฝงถึงความเป็นมนุษยนิยมอย่างชัดเจนทีเดียว

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ก็คือวลีที่อาจารย์ Minagawa ได้จั่วไว้พร้อมกับชื่อเรื่องนั่นก็คือ

“Which do ARMS obtain, the peace in the future of the nightmare in the past??”

เป็นคำถามเริ่มต้นที่น่าสนใจทีเดียว สุดท้ายแล้ว ARMS จะนำพามนุษยชาติไปในทิศทางใด จะลงไปสู่หุบเหวนรก หรือจะสร้างนวัตกรรมความผาสุกและสันติให้แก่เรา

ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์แสดงให้เห็นถึงทางออกของคำตอบที่สวยงามเลยทีเดียว จากตอนแรกความสัมพันธ์ระหว่าง ARMS และผู้ถูกมันสถิต จะอยู่ที่มนุษย์ผู้ถูก ARMS สิงสู่ถูกครอบงำด้วยพลังของ ARMS แต่ในท้ายสุดกลายเป็นว่า มนุษย์และ ARMS ต่างพึ่งพิงกันและอยู่ร่วมกันได้ มนุษย์สามารถเอาชนะการครอบงำได้ ขณะเดียวกัน ARMS เองก็อยากเรียนรู้เรื่องราวของมนุษย์ที่มีมิติความลึกซึ้งในแง่ของอารมณ์และจิตใจ

ทุกคนพร้อมรึยังครับที่จะไปค้นหาคำคอบของ “ARMS” อาวุธชีวะอันลึกลับ ที่กุมความลับของมวลมนษย์ไว้ !!!

ถ้าพร้อมแล้ว……..

“อยากได้พลังมั๊ย!!”


“ถ้าอยาก
ได้พลัง”
:
“ข้าจะให้เจ้า!!!”




Create Date : 18 พฤษภาคม 2549
Last Update : 20 พฤษภาคม 2549 12:37:32 น. 12 comments
Counter : 2919 Pageviews.

 
...แล้วถ้างั้น ข้าจะขอพลังท่านไปทำบล็อกบ้าง
จะได้ไหมทั่น ...อิอิ

ท้อง่ะ อยากมีบลอกสวยๆแต่ทำไม่เป็น
แวะมาเยี่ยมจ้ะ


โดย: SweetLikeChocolateGirl IP: 124.120.159.97 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:35:26 น.  

 
โห เจ๋งไปเลย กูก็อยากทำ blog แบบนี้บ้างจัง มึงเนี่ยบรรยายเรื่องราวเก่นะเนี่ย


โดย: zinderalla IP: 69.235.172.245 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:53:07 น.  

 
คุณ gelgloog เขียนได้ดีมากๆเลย

สารภาพตามตรงว่าจริงๆผมมีความอคติกับการ์ตูนสมัยใหม่มากพอสมควร (โดยเฉพาะกับโปเกม่อนกะดิจิมอน) เลยพาลไปคิดว่าการ์ตูนทุกๆเรื่องที่ออกมาใหม่ๆไม่สนุก ไม่คลาสสิคเท่าการ์ตูนเก่าๆ แต่พอได้อ่านที่คุณเขียนแล้วผมคงต้องเปลี่ยนทัศนคติ ไปหามาอ่านบ้างซะแล้ว


โดย: tanusz IP: 58.8.84.135 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:31:52 น.  

 
SweetLikeChocolateGirl ฮะ ให้พลังเต็มที่เลย 555

คุณ tanusz อย่าเชื่ออะไรมากนะ ผมเองค่อนข้างมีมุมมอง bias เข้าข้างการ์ตูนพอสมควรเลยทีเดียว อย่างว่าอะนะ มันเป็นส่งเสพติดของผม 555

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อเลยว่า การ์ตูนดีๆ ยังมีอยู่จริงครับ บางครั้ง เราจะได้อะไรจากการอ่านการ์ตูนนอกเหนือจากความบันเทิง เชื่อผมสิ


โดย: gelgloog IP: 61.47.99.246 วันที่: 20 พฤษภาคม 2549 เวลา:3:22:18 น.  

 
ผลงานของอาจารย์คนนี้ ทั้งอาร์มและสปริแกน ต่างก็เป็นสองสุดยอดการ์ตูนโปรดในใจผมอย่างทัดเทียมกัน จำได้ว่าติดตามอ่านสปริแกน มาหลายปีตั้งแต่ยังเป็นไอ้เปี๊ยก จนจบรู้สึกเหมือนเสียเพื่อนเก่าคนหนึ่ง แต่พออาร์มออกมาก็รู้สึกว่าช่างทำได้ดีจริงๆสมกับการรอคอย

เสียดายที่เรื่องถัดมาผมแทบไม่ได้แตะเลย ไม่รู้สนุกตื่นตามตื่นใจเหมือน2เรื่องที่ผ่านมาของอาจารย์รึเปล่า


โดย: นายเบียร์ วันที่: 27 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:51:28 น.  

 
เรื่องถัดมาใช่ D - Live รึเปล่าครับ

ถ้าเรื่องนี้ผมก็คิดว่าความตื่นเต้นน้อยกว่าสองเรื่องนี้มากๆเลยทีเดียว

แต่สไตล์อาจารย์เค้ายังเหมือนเดิมครับ ถึงจุดไคลแมกซ์ต้องมีประโยคเด็ดที่เป็นประโยคประจำทุกทีซิน่า อิอิ


โดย: gelgloog IP: 61.47.104.47 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:28:04 น.  

 
หลงแวะมาเพราะเรื่องนี้เลยนะครับ

ชอบสปรีแกนเช่นกัน ในเรื่องนั้นเหมือนผู้เขียนเองก็ยืนยันถึงศักยภาพในตัวมนุษย์เองในหลายตอนนะครับ ทั้งการไม่ต้องพึ่งพาชุดกล้ามเนื้อของพระเอก และการตอบคำถามของคอมพิวเตอร์โบราณแห่งลุ่มน้ำสินธุ-มายา?
แต่ก็ชอบครับ

ผมว่าเรื่องยังน่าสนใจด้วยการผูกเรื่องแบบที่นำตัวละครไปเกี่ยวพันกับลักษณะของวรรณกรรมอมตะของโลกเล่มหนึ่ง คือ เรื่องชุดอลิซ (อลิซในแดนมหัศจรรย์ และเอ่อ จำชื่อไม่ได้ ฯลฯ) ผมชอบการสร้างตัวละครให้ไปผูกกับวรรณกรรมเช่นนั้น เพราะจทำให้คนอ่านอาจอยากจะอ่านวรรณกรรมดีๆ ขึ้นมาด้วย เพื่อความเข้าใจในเรื่อง ARMS มากขึ้นด้วยครับ

แวะมาทักเท่านี้แหละครับ


โดย: ยีน IP: 161.200.255.161 วันที่: 28 มิถุนายน 2549 เวลา:11:57:16 น.  

 



“อยากได้พลังมั๊ย!!”



“ถ้าอยาก
ได้พลัง”
:
“ข้าจะให้เจ้า!!!”
ไปทำบล็อก


โดย: เรียว IP: 58.136.203.243 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:16:20 น.  

 
อยาก


โดย: บูบู้ IP: 58.9.200.218 วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:30:12 น.  

 
เเดเอ้


โดย: แรก IP: 222.123.32.62 วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:11:14:13 น.  

 
ดก้เพะัะัี้ะดพัำกััั


โดย: หพัหัะหะ IP: 125.26.67.75 วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:9:25:31 น.  

 
สนุกจริง อ่านมา 3 รอบแล้ว


โดย: มีน IP: 171.7.155.72 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:22:11:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gelgloog
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add gelgloog's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.