If I am an angel, paint me with black wings.
 
 

แผนพัง


23 ก.พ.2016
@Taipei

ตกใจนะที่ไม่ได้เขียนมานานมากแล้ว จาก blog ที่แล้วจนมาอันนี้ก็จะครบปีอยู่แล้ว... หลายเดือนที่ผ่านมาก็ผ่านการปรับตัวในเรื่องการบินกับสายการบินใหม่นี้ ที่สไตล์การทำงานและ culture ต่างกับที่เดินที่เคยทำอย่างสิ้นเชิง แต่ในเมื่อทุกวันนี้ เรารับเงินเดือนเค้า เราก็ต้องน้อมรับเอาวัฒนธรรมของเค้ามาและปรับตัวให้ได้ (ทุกวันนี้แม่มม จ้างครูมาสอนภาษาจีนที่บ้านอีกตะหาก ควักจ่ายเอง แต่ไม่พัฒนาเลย เพราะเราขี้เกียจเอง ...

มาต่อเรื่องไฟลท์วันนี้ดีกว่า

ตื่นตีสี่กว่าๆเพื่อออกจากบ้าน 5.30 am พระเจ้า ปกติตอนเปิดร้านขายส่ง นี่ตื่นมาที กินบ้านกินเมืองจนอิ่ม กว่าจะเข้าร้านก็สิบโมงกว่า slow life มากๆ แต่เดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่แนวทางของตูมาห้าหกปีแล้ว ทุกครั้งที่ต้องลืมตามาปิดเสียงปลุกจากมือถือนี่ มันทรมานมากๆ

ก่อนนอน ได้รับ Line ของน้องที่จะบินด้วย จริงๆเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่เราแก่กว่าหลายปี นัดแนะกันว่า จะไปแช่น้ำพุร้อนที่ Beitou ซึ่งเราก็หาข้อมูลใหญ่เชียว คิดแต่เรื่องไปเที่ยวในหัว อิอิ กว่าจะนอนก็หลับยากเพราะจิ้นเรื่องเที่ยว

เดือนนี้มีลงทุนซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ ถูกมากซื้อประตูน้ำ Rimowa หรอคืออะไรไม่รู้จัก รู้จักแต่ยี่ห้อ Hipolo ตอนซื้อมาตกใจ ว้าย กระเป๋าชั้นยี่ห้อฮิปโป!!! พออ่านดีดี อ๋อ ไฮโปโล ... ชื่อแบบนี้ ผลผลิตจากแผ่นดินใหญ่ตามเคยสินะ ว่าแล้วก็ใส่สิ่งกันหนาวไปพร้อมลุย เสื้อโค้ทยาว บูท ผ้าพันคอ หมวก แถมมีเอาวิกมาด้วยนะ กล้าเนอะ ไว้ใส่ถ่ายรูปไง

ลากกระเป๋ามาสนามบิน check in สแกนหน้า เข้าเกท บริฟๆๆ ทำงาน ไฟลท์ก็ผ่านไปอย่างสวยงามไม่สะดุด จนมาถึงตอนที่เราเข็นขาย duty free แม่มมมเอ้ยยย วันนี้เข็นคันเล็กซึ่งคันเล็กเข็นคนเดียวไง แล้วเข็นด้วยความเร็ว 1 ก.ม. ต่อ ชม. แต่มีผู้โดยท่านหนึ่ง สูงวัยแล้ว เป็นชาวไต้หวัน คุณป้าแกนั่งเอาเข่าออกมาทางเดินและหลับ เราไม่เห็น เข็นชน ปั่ก!! กลางๆไม่แรงมาก แต่อาอี๊แกเจ็บบ ซวยแล้วกู ถึงกับทรุด (เรานะไม่ใช่ป้า) นั่งย่อๆจับเข่าป้า ภาษาจีนก็ง่อย ได้แต่ ขอโทษ ตุ้ยปู้ฉี่ แต่ป้าบอกไม่เป็นไรแต่ในสายตายังมีความเจ็บปวดและมีความแค้น เรื่องอาจจะเงียบไป แต่แล้ว พระอาทิตย์ก็ตามเรามาอีกแล้ว (หัวหน้าฝหญ่ไฟลท์นี้ที่มีศีรษะคล้ายดวงอาทิตย์) เราคิดในใจ เฮ้ย บอสโผล่มาซวยละ เราเลยบอกไปเลยตรงนั้นว่า หว่อ เข็นรถชนขาป้านะ หัวหน้ารีบไปขอโทษและคุยกับผู้โดยเพิ่มอย่างแรง ถึงกับจะนำรถเข็นมาให้เมื่อเครื่องจอด ... พอตอนหลังก็ไปถามหัวหน้าว่ายังไงดีเรื่องนี้ สรุปหัวหน้าบอกจะเขียน Report ตึง!!! งานเพิ่มอีกละเรา ขี้เกียจเขียนคำอธิบายยยยย พอก่อนแลนดิ้ง หัวหน้าให้ไปขอโทษอาอี๊อีกรอบ ตามด้วยหัวหน้ารองไปขอโทษและคุยกับอาอี๊อีกนานมว้ากกกจนอาอี๊ใจอ่อน สายตาแห่งความอาฆาตหมดไปละฮ่ะ โทษหนักของดิชั้นก็คงจะเบาลงละนะ

พอลงจากเครื่อง เช็ดเข้ หนาวมว้ากก ฝนก็ตกด้วย น้องที่นัดกันบอกว่าอาจจะไม่ไปแล้ว สรุปแผนที่ตูจิ้นไว้ วิกที่เอามา จบข่าว ไม่ได้ใส่ แต่ก็เห็นด้วย เราเองก็ไม่อยากตากฝนเหมือนกันล่ะนะ

แผนล่ม นอนอืดอยู่ในโรงแรม อิอิ






 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2559 0:25:11 น.   
Counter : 2746 Pageviews.  


ไปซักผ้า- กินชาบู


ตั้งแต่มาอยู่ที่ไต้หวันมาได้ร่วมเดือน ถึงแม้จะพักอยู่โรงแรมระดับ 5 ดาวก็จริงอยู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเรานั้นช่างลำบากเสียนี่กระไร นั่นคือการต้องซักเสื้อผ้าเอง และซักมือ ที่หนักกว่านั้นก็คือ ต้องหาที่ตากกันในห้องที่ไม่มีอากาศระบาย แถมโรงแรมก็ออกแบบมาอย่างดี ทำให้ภายในห้องนั้น ไม่ค่อยจะมีที่ให้เกี่ยวไม้แขวนเลย T_T ในแต่ละวัน เรากับเมทจะต้องครีเอทที่ตากผ้ากันอย่างสุดริด ซอกหลืบอันใดที่พอจะเอาไม้แขวนไปเกี่ยวได้ ก็จะไม่หลุดรอดเงื้อมมือของเราไปได้ 

และแล้วในที่สุด สวรรค์ก็ทรงโปรด


ปั้นจ่าง (หรือหัวหน้าห้องเรา) คือหยุ่น มาชี้ทางสว่างให้ หยุ่นไปพบร้านซักรีดแบบหยอดเหรียญที่แถวหนานขั่น ซึ่งเอาเสื้อผ้าไปหยอดเหรียญ และมีปั่นผ้าแห้งในคราวเดียวกัน เราไม่รอช้ารีบขอไปด้วยเลย วันนั้นจำได้ว่าเอาถุงผ้าที่หมกไว้รอซักประมาณ 2 ถุง หิ้วไป ลำบากให้น้องๆที่ไปด้วยต้องมาช่วยแบกอีก ไปรอบนั้นไปกันหลายคน มีเรากับหยุ่นไปซักผ้า ส่วนคนที่เหลือไปหาอาหารกินกัน แถวนั้นมีร้านอาหารให้เลือกเยอะ มีอาหารไทย มีชาบูด้วย 



นั่งรถไปประมาณ 50 นาที วันนั้นรถติด (เพื่อการซักผ้า ช้านมาไกล มาไกลเหลือเกินนนนน )  และแล้วก็ถึงชุมชมแถว Nankan แถวนี้ก็มีคนอาศัยกันอยู่เยอะ เลยมีร้านทุกอย่างครบไม่ว่าจะคาร์ฟูร์ watson Cosmed ไรงี้ พอถึงร้านซักผ้าเราดีใจม้ากกกกกกกกก







คณะเดินทาง ออกจากสนามบิน



นั่งบัส 33 บาท



ถึงแล้วร้านซักผ้า หยุ่นคือผู้ชำนาญการ



ที่แลกเหรียญ ดีจังๆๆ


....
...
.


หยอดผ้าทิ้งไว้แล้วเดินไปร้านชาบู ที่รู้จักร้านนี้ก็เพราะพี่ที่เป็นญาติของน้องเชอรี่แนะนำให้ไปแล้วเค้าก็ไปทานด้วย พอไปถึง น้องๆที่ไปกันเห็นอาหารเยอะมาก อดอยากกันมาหลายวัน วันๆกินแต่สนามบินกับ family mart ดีใจกระโดดกอดกันเลย 555  พอไปถึงที่นี่เค้ามีน้ำซุปให้เลือกหลายน้ำมากเลย เราอยากทานเผ็ดๆเลยเลือกน้ำหมาล่า เอาความเผ็ดระดับกลางๆ ร้านใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกก มีของให้เลือกเยอะดี ชอบๆๆ ราคา 399+++








ชาบู๊ชาบู



มีอาหารทำเสร็จแล้วด้วย และมีพวกเนื้อและผักให้เลือกเพียบ



เนื้อวัวติดมันไสลด์กันสดๆก็มีด้วย หยิบไม่อั้น 



อร่อยดีนะะะ



พวกอาหารทะเลก็มา มีปลานึงเหมือนปลาหิมะเลยอ่า



งานของทอดก็มานะ



กินเล่นๆ แต่เราไม่กินนะ เดี๋ยวอิ่ม



มุมน้ำสำหรับเด็กๆ มีประโยชน์ ไม่ได้ถ่ายมุมพวกน้ำอัดลม กาแฟ น้ำปั่น น้ำผลไม้มา



ทุกคนตักอาหารมาเตรียมลุยนะ



คนหิวจะเป็นลมแล้ววววววววว



คือดีงาม



มุมขนม



ขนมไข่ 



ตู้เค้ก



ไอติม



กินนี้ 




....
..
.


จบ










 

Create Date : 13 มิถุนายน 2558   
Last Update : 13 มิถุนายน 2558 20:46:58 น.   
Counter : 3486 Pageviews.  


สอบ SEP ผ่านแล้วโว้ย







หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาของการเรียน SEP นั้น สุดท้ายแล้วก็จะสิ้นสุดที่การสอบในวันนี้เพียงวันเดียว ซึ่งจะเป็นการสอบปฎิบัติเป็นหลัก ซึ่งจะสอบกันทั้งวันเกี่ยวกับทุกสิ่งในการเรียนในส่วนของ Safety ที่เรียนมา แล้วถ้าสอบผ่านปฎิบัติก็จะต้องไปทำข้อเขียน 50 ข้อ


ก่อนหน้าที่จะถึงวันนี้ เราก็พยายามอ่านเท่าที่จะทำได้แต่ก็ไม่อยากเครียดเกินไป ก็มีไปไหนมาไหนบ้าง แต่ก็ยอมรับว่านอนดึกกว่าแต่ก่อน เวลาเรียนระหว่างวันก็ค่อนข้างง่วงอ่ะนะ 

พอเมื่อวานก็ถึงบ้านเอาพวกช็อตโน้ตที่ทำไว้มาอ่าน ซ้อมพวก evacuation ประตูของเครื่องบินที่เรียนมาทั้งหมด จนพอถึงตอนก่อนนอนก็หัดทำข้อสอบข้อเขียนอีก 2 รอบก็นอน นอนไม่ดึกเท่าไร มีเพื่อนเราคนนึงนอนละเมอเป็น Evacuation ด้วย ฮามาก เพราะท่องกันจนฝังใจ 



....
...
.


พอเช้า ปรากฏตื่นสายจ้า ตื่นตอนรูมเมททำไรเสร็จหมดแล้ว พอเมทลงไป breakfast เราก็ถึงจะตื่นมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน จัดของ ลากกระเป๋าลงไปแต่ก็ทัน เพราะผมสั้นไง ตัดผมแล้ว สบายจุง จากนั้นก็เริ่มตื่นเต้น แล้วก็เริ่มสอบเวลา 8.10 น.


มีคนทำการสอบเรา 2 คน มีอาจารย์คนนึงดุมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เป็นผู้หญิง เวลาเราเห็นเค้าเราจะนึกถึงนักฆ่าในหนัง ที่เป็นผู้หญิงจีน วันนี้จารย์ไม่แต่งหน้าด้วย คือน่ากลัวจริงๆ แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด เราเลขที่ 1 คนแรก โดนเชือดก่อนเสมอ ทำมาตอนแรกก็พลาดเลยจ้า โดดเอ็ดซะหน้าเน่อนี่ชาหมด ยืนอึ้งเป็นหินเลย แต่โชคดีที่ค้าก็ให้ผ่าน ใจนี่เต้นตลอด ในกระเป๋านี่พกพระไพรีพินาศมาด้วย


 พอผ่านด่านของเครื่องนี้ได้แล้วก็ไปอ่านการเชคพวกอุปกรณ์ การใช้อุปกรณ์ เวลาต้องดับไฟบนเครื่อง ด่านนี้ก็โดนดุกันมากมาย ไหนจะเวลามี decompression อีก ทำไปจนกระทั่งเสร็จภาคเช้า หมดพลัง 


ทุกคนวิ่งไปหาข้าวกิน ระหว่างข้าวก็แบบว่าอ่านหนังสือไปด้วยเพราะบ่ายจะต้องทำเครื่องโบอิ้ง ซึ่งเครื่องนี้มันสับสนมากเหอะ พอบ่ายก็เจอด่านอาจารย์นักฆ่าเลย นั่งรอเชือด โชคดีที่บ่ายเค้าไม่เรียกเราเป็นคนแรก เราเลยมีเวลาตั้งตัว ด่านนี้โดนเอ็ดไม่มากเท่าไร แล้วก็ผ่านไปจนได้ โล่งมาก

พอเสร็จก็ขึ้นไปอีกที่นึง กับจารย์อีกคนนึง ดีที่อาจารย์ใจดีกว่าอีกคน แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันตะโกนจนเจ็บคอ และแล้วก็ผ่านมาได้ ตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทำกันมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง บ่าย 3 และแล้วก็ผ่านไปจนได้เข้าไปทำข้อสอบในคอมกัน 


บ่าย 3 ครึ่งทุกคนพร้อมที่หน้าคอม และทำข้อสอบ 50 ข้อ ให้เวลา 1 ชั่วโมง เราทำเสร็จตอนประมาณ 30 นาที ซึ่งเพื่อนๆหลายคนทำเสร็จและได้เต็มกันไปแล้ว ( ต้องได้ 100 เต็มถึงจะผ่าน )  จากนั้นเราก็ตรวจทานอีก 1 รอบ แล้วก็กด submit ส่ง คะแนนออกมา เย้เย้ ผ่านแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา   พอรู้ว่าผ่านเย็นเราก็ไปสนามบินหาอะไรอร่อยๆกินเลย 


วันนี้โล่งไปเปราะหนึ่ง แต่มะรืนก็สอบวิชา Duty Free อีกละ เอิ่ม 

แต่ตอนนี้ขอผ่านคลายก่อนได้ไหม 



รูปๆค้างๆเก่าๆจ้า 

(คัดเฉพาะอันที่เราหน้าตาดี อันไหนเพื่อนสวยแต่เราไม่สวยคัดออก ให้เพื่อนไปอัพกันเองจ้า) 





รายล้อมไปด้วยสาวสวย



วันก่อนนั่งเรียนเครียดๆอาจารย์ซื้อขนมแจกในห้องเรียนเลย น่ารักมากกก



วันก่อนไม่มีอะไรทำไปเที่ยวคาร์ฟูร์ แตงโมลูกใหญ่ม้ากกกกกก ลูกละประมาณ 700 บาท



ตอนแรกตกใจทำไมไก่ใหญ่จัง อ่อ มันคือไก่งวง



หิวมาก หาข้าวกินที่คาร์ฟูร์ ราคาไม่แพงแต่ไม่อร่อยแฮะ



อันนี้ประมาณ 180 บาทเอง



เป๋าฮื้อ อันนี้ประมาณ 80 บาท



...
..

.



จบ 







 

Create Date : 10 มิถุนายน 2558   
Last Update : 10 มิถุนายน 2558 20:05:08 น.   
Counter : 1815 Pageviews.  


Emergency สุดโหด



ในที่สุดเวลาที่เราอยู่ที่นี่ก็เกือบเดือนเต็มๆแล้ว จะว่าไปเวลาก็ผ่านไปช้าเหลือเกิน (ทำไมเรารู้สึกแบบนี้นะ) เรารู้สึกเหมือนกับว่า 1 เดือนเป็น 1 ปีจริงๆ เราอยากกลับบ้าน คิดถึงร้าน ห่วงร้าน อยากไปหาพ่อแม่ที่บางแสน อยากทานอาหารทะเล อยากกลับจากที่ทำงานแล้วชิวๆกับป๊อกที่บ้าน ดูหนังสักเรื่อง แต่เราก็เลือกงานนี้แล้วเนอะ ถึงจะไม่รู้ว่าจะทำนานเท่าไรแต่ก็เลือกแล้ว และช่วงเวลานี้ก็ต้องผ่านไปให้ได้ ...


ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปช้ามากมาย แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ที่เวลาผ่านไปไวมาก เพราะเรียน Emergency ที่เน้นภาคปฎิบัติทุกวันเลย และเป็นอะไรไม่รู้ อาจารย์ที่เลือกมาแต่ละคน โหดม้ากกกกกกก เริ่มจากอาจารย์ผู้หญิง ที่สูงวัยแล้วแต่มีสไตล์การแต่งตัวในแบบของตัวเอง คือแนวมากง่ะ กางเกงขาใหญ่ รองเท้าผ้าใบสีสด เสื้อตัวนอกสไตล์จีน นาฬิกา G-Shock สีสด ผมซอยสั้น เสียงมีอำนาจมากกก และแล้ว วันที่ 2 ของการเรียนก็โดนจนได้สิเรา ด้วยความที่เลขที่เป็นเลขที่แรก ตอนออกไปคิดว่าอ่านมาดีแล้ว ซ้อมมาดีแล้วแต่มันยังไม่พอ 

ตอนแรกก็ผ่านไปราบรื่นตอนทำคนเดียว และมันก็มาติดตอนก่อนจบ เวงกำ หัวสมองตื้อลืมทุกสิ่ง เพื่อนก็ทำปากขยุบขยิบ บอกเรา อาจารย์ก็เอ็ดบอกห้ามบอก ถ้าบอก ชีก็จะไม่จำ แล้วเราก็โดนเล่น ฮือๆ ยอมรับแต่โดยดีว่าลืมคำคำนั้น จำไม่ได้ พอลงไป ซึมเลย แต่ลงไปก็เจออีกคนนึงรออยู่ด้านล่างอีกประตู ก็ไปทำแบบเดิมอีกรอบ สรุปว่าทำได้แล้ว ติดขัดน้อยลง 


โดด slide ...
เราเป็นคนกลัวความสูงอ่อนๆ คือตอนเด็กแค่ลงบันไดก็จะกลัวๆแล้ว ตอนกาตาร์ตอนเค้าให้กระโดด slide เราก็โดดคนสุดท้่าย กว่าจะลง เพื่อนลุ้นแทบตาย ตอนนั้นต้องไปโดดถึง Emirates พอมาที่นี่มีสถานที่ฝึกของตัวเอง วันนึงโดดไม่รู้กี่รอบ กลัวมากมาย คือตอนนั่งลงไม่เท่าไร แบบที่ยืนแล้วให้ jump นี่กลัวมากง่ะ ยืนอยู่คนสุดท้าย อาจารย์พูดมาคำเดียวว่า "ถ้ายูไม่โดด ยูก็จะสอบตก"  พอได้ยินคำนี้ โดดไม่คิดเลยจ้า และจากนั้นก็เริ่มชิน ไม่ค่อยกลัวเท่าไร 



อาจารย์ A.ที่เป็นตำนาน

ต่อมา ผ่านไปสองวันเปลี่ยน instructor เป็นอาจารย์ A. ซึ่งเป็นผู้ชายสูงวัย ร่างใหญ่ ไปสอบถามจากแอร์ญี่ปุ่นแบชก่อนเรา เค้าบอกมาว่า จารย์คนนี้เป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในบริษัท ดุมากกกกกก และชอบตะคอกเสียงดังสุดๆ พอถึงเวลาจริง อืม สมคำร่ำลือ น่ากลัวม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หนูกลัวแล้ว ทุกคนหน้าซีดตลอด อาจารย์เปิดตัวแรงมาก เข้ามาวันแรก บอกให้ลงไปพร้อมกันข้างล่าง 8.30 ถ้าใครสายแม้แต่นาทีเดียว พรุ่งนี้กลับ Bangkok ได้เลย 

-_-'' เปิดตัวแรงจริงอะไรจัง 


จากนั้นไป aircraft walk around ร้อนมาก เหงื่อตก พอลงมาจากเครื่อง ผิดคาดจ้า อาจารย์คนนี้พาไปแวะร้านสะดวกซื้อ บอกว่าเลี้ยงทุกคน หยิบ soft drink ได้คนละหนึ่ง จากนั้นกลับไปเรียน พอไปเรียนก็ดุมากกกกกกกกกก จนพอตอนบ่ายอาจารย์ก็พาไปปฎิบัติจริง เรียกออกมาทีละ 5 ทำสถานการณ์จริงๆ เอ่อ คือดุมาก สมจริงมาก ขนาดเรายังไม่โดนเป็นคนทำประตูยังหน้าซีดเลยอ่ะ นั่งเป็นผู้โดยสารหน้าซีดมาก เพื่อนโดนตะโกนใส่หน้าหลายคนอ่ะ หน้านี้ซีด 

ที่ขำสุดคือตอนที่จำลองเหตุการณ์ไปจนถึงประตูเปิดแล้วอะไรแล้ว แล้วตอนต้องโดด slide ทุกคนโดดกันไวโคด เหมือนหนีตายจากอะไรสักอย่าง แทบจะขี่คอกันลงไป 555555555555555555555555555555 ยิ่งคนที่ต้องลงไป 2 คนแรก ลงเลยไม่ต้องบอก เราเองก็โดดแบบไม่คิดชีวิต ขำมาก ทั้งขำทั้งกลัวอาจารย์ ขำม้ากกกกกกก แล้วน้องคนที่เป็นคนอ่อนหวาน ขี้อาย วันนั้น command ได้ดีมาก เสียงดังผิดไปคนละคนเลย ฮาๆ


พรุ่งนี้ก็ยังต้องไปเรียนกับเค้าอีก วันนี้อาทิตย์ที่แสนสุขเราก็ไม่ได้ไปไหนอ่านหนังสือทั้งวันเลย แต่เอาจริงๆบางทีเวลาคนมันตกใจ มันก็ทำไรไม่ถูกเหมือนกันเนอะ 


นอกจากเรียน Emergency แล้ว First Aids ก็เรียนแต่ไม่กี่วัน ชิลๆแต่เนื้อหาแอบยาก 






ทำ CPR นี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ทำได้ 3 รอบก็ไม่ไหวแล้ว เปลี่ยนกับเพื่อน



ชอบรูปนี้ของแอนจัง นางชื่อแอน ...



เอ่อมีอีกเรื่องนึง คือพี่ student leader เจ๊ฟิล์ม ที่แสนดุ วันก่อนฮีกลับมาคุมพวกเราแล้วฮีแบบว่าดุมากผิดปกติ เราก็แปลกใจ แถม ทำผมทรงใหม่ สาวมาก คือเป็นหน้าม้าปาดๆ แต่หยิกด้วย คือเหมือนลอนเปียก ทรงเก่าแมนกว่า ทรงนี้สาว พอฮีไปแล้ว อาจารย์มาเล่าให้ฟังว่าฮีช่วงนี้จิตตกมากคือหมาฮีตาย ฮีร้องไห้มา 3วัน 3 คืน ขนาดนั่งใน MRT น้ำตาก็ไหลๆๆ แต่ไม่เช็ดน้ำตา ปล่อยให้มันไหลไปเพราะฮีรักน้องหมามาก พวกเราฟังดังนี้ก็เลย คิดวิเคราะห์ได้ว่าฮีคงทำดุเพื่อกลบความเศร้าในจิตใจน่ะสิ นึกภาพไม่ออกเลย 






ถ่ายจากสถานี Songshan Airport


...
..
.


nite nite 












 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2558   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2558 21:16:43 น.   
Counter : 1586 Pageviews.  


shopping in Taipei with Angels*


ขอโทษที่หายไปนานค่า สาเหตุเกิดจากไม่มีเวลาจริงๆ วีคที่แล้วสอบ3 ตัวและเป็นตัวยากด้วย โชคดีที่เราผ่านไม่ติดอะไร มีข้อสอบ meal service ที่ตอนทำคิดว่าตกแน่ๆ แต่พอผลออกมา คนตรวจข้อสอบใจดีไม่หักที่เล็กๆน้อยๆเลยผ่านมาได้ โล่งมากกกกกกกกกก จากนั้นเมือสอบเสร็จแล้วเลยมีเวลามาเขียน blog นี่เอง พอดีค้างไว้เรื่องที่ไปเที่ยวไทเปกับเพื่อนๆสาวแอร์ 



เริ่มต้นจากตื่นมา อัด breakfast ที่โรงแรมก่อน เติมพลัง








ไปกันทั้งหมด 8 คน คนเยอะเลยทีเดียวแต่ก็สนุกดีค่ะ  เริ่มต้นการเดินทางจากไปที่สนามบินก่อน แล้วไปซื้อตั๋วรถบัสเข้าไปยัง Taipei Main Station ราคา 125 NTD นั่งไกลพอสมควร ประมาณ 1 ชม. เฮ้อ ไกลเนอะ ชีวิตเราอยู่ชานเมืองจัง 







ไปคราวนี้โชคดีค่ะ มี language speaker พูดจีนได้ คือหยุ่น เย้เย้ รอด 



ยืนออซื้อตั๋วกันอยู่อย่างสนุกสนาน



ในที่สุดหมู่เฮาก็มาถึง Main Station คนเยอะมาก เปรียบเหมือนหมอชิตบ้านเรานี่เอง 



ถึงละจร้าาา ร้อนมากเลยวันนี้


...
..
.

ที่ main station มีร้านขายของกิน น่าอร่อยมากมายให้เลือก เดินในนี้ก็เหมือนเดินเที่ยว ใครหิวก็แวะซื้ออะไรกินได้เลย ชานมไข่มุกก็มีให้กินตลอดๆ ได้มีโอกาสซื้อ cheese มาทาน ละลายในปากเลย




อันนี้เค้กโรลน่าอร่อย


อันนี้น่าจะอร่อย ไม่ได้ลอง


น้องๆแวะซื้อชากัน


อร่อยๆ



มาสะดุด cheese cake ร้านนี้ เลยหารกะเพื่อนกลัวทานไม่หมด 





อันนี้ที่ซื้อมา 199 หาร 4 คน 555 



วันนี้ที่สถานีคนเยอะมากจริงๆนะๆๆๆ 


และแล้วพวกสาวๆก็หยุดกันหน้า Watson เป็นเวลานานมาก ประมาณ 45 นาที ด้วยการลองเครื่องสำอางค์ต่างๆและซื้อของใช้จำเป็น และลองหยดที่หยอดตาปิ๊งๆหน้า watsons กัน สลับกันหยด เพราะซื้อที่หยดตาปิ๊งมา มันมีหลายระดับ พอเสร็จ เดินทางกันต่อ โดยลงใต้ดินไปแล้วเดินไปเรื่อยๆ เข้าร้านรองเท้าประมาณ 3 ร้านที่ใต้ดิน แต่ยังไม่มีใครได้สักคู่ ยอมรับว่ารองเท้าที่ไต้หวันใส่สบายมากกกกกกกกก โดยเฉพาะรองเท้าส้น flat ราคาประมาณ 390 NTD หรือสัก 400 บาทไทยนิดๆ





ถ่ายรูปเล่นกันแถวใต้ดิน อุ้ยเผลอๆไม่ได้ตั้งใจเนอะ 


ขอเดี่ยวบ้าง



และแล้วก็พบทางสว่าง เดินขึ้นมาข้างบน 



จริงๆถ้าจะไปย่านวัยรุ่นอย่าง ximending ก็ได้แต่สาวๆเค้าเน้น shopping ของจำเป็นก็เลยไม่จำเป็นต้องนั่งไปต่อ ก็ shop กันแถวๆนี้ ซึ่งร้านที่เข้าก็จะมีพวกร้านรองเท้า ร้านเครื่องสำอางค์ ร้าน Daiso ซึ่งมัน 39 บาท เหมือนที่ญี่ปุ่น และของก็มีให้เลือกเยอะมากกกกกกก เราได้ของใช้จำเป็นจาก Daiso เยอะมากเลย รู้สึกคุ้มๆ หมดไป 300 กว่าบาท ได้อุปกรณ์การเรียนครบเลย ที่ตากผ้าและอื่นๆ และได้รองเท้าไว้ใส่เทรน Emergency มาคู่นึง 390 บาท สีดำ ใส่สบายๆ 




เริ่มหิวเลยกินชานมซะหน่อย น้ำตาลในเลือดเริ่มลดระดับละ




จากนั้นเดินหาของกินกัน วันนี้ไม่เน้นกินก็เลยเลือกร้านที่สะดวกที่จะเข้าไปและกินได้ง่ายๆ ก็เลยเข้าไปในร้านราเมนร้านหนึ่งจ้า 




เดินหาของกินกัน


สรุปแวะทานร้านนี้ ก็อร่อยดีนะ


อันนี้เราสั่ง อร่อยดีแซ่บๆ มีพริกด้วย



อันนี้ของน้องเปีย กระดูกอ่อนนิ่ม มากๆ



กะเมท ติดมานิดนึง


วุ้นรสน้ำผึ้งมะนาว


วุ้นรสชาเขียว ไม่หวานดี



ส่วนขากลับนั้นพวกเราแวะซื้อซูชิกลับไปทานที่โรงแรมค่ะ ร้านที่มีขายกันอยู่ทั่วไป รสชาติอาจจะไม่อร่อยยมากมายนักแต่ราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับที่ไทยในคุณภาพเดียวกัน อย่างแซลมอนก็ 120 บาทไรงี้ ก็เลยลองซื้อมาทาน พอถึงบ้านก็อร่อยดีค่ะ คราวหลังคงได้ฝากท้องอีกที่ Sushi Takeout 








เราซื้ออันนี้มา แง่มๆ



จานนี้ 120 เองนะ ถูกเนอะ 



...
..
..



จากนั้นไปหมอชิต เอ้ย ไม่ใช่ ไป Bus station จับรถกลับสนามบิน 
ถึงโรงแรม อาบน้ำนอน คร่อกกกกกกกกก








 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2558   
Last Update : 26 พฤษภาคม 2558 16:49:36 น.   
Counter : 1554 Pageviews.  


1  2  3  

กำแพงมหัศจรรย์
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




my old blog * http://wonderwall.diaryclub.com


[Add กำแพงมหัศจรรย์'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com