แก้บน พระพรหมเอราวัณ
สวัสดีค่ะ เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปแก้บนที่พระพรหมเอราวัณ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้เคยเข้าไปขอว่าให้สมัครแอร์ผ่านจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ก่อนหน้านี้จริงๆอยากจะไปแก้บนตั้งแต่ตอนรู้ว่าผ่านการสัมภาษณ์แล้ว แต่ก็ยังหวั่นๆกับผลการตรวจสุขภาพ และผลการสอบประวัติ ก็เลยสวดมนต์ไหว้พระ อธิษฐานเอาไว้ตลอดว่าขอให้ผ่านๆๆฉลุยในทุกสิ่งแล้วจะไปแก้บนและทำบุญด้วยก่อนจะเดินทาง ก่อนหน้านี้ก็ไปทำสังฆทานและนั่งสมาธิที่วัดปทุมวนารามแล้ว วัดนี้เป็นวัดที่ใกล้ร้านเรา ทำให้เวลาที่เราอยากจะนั่งสมาธิ สวดมนต์ เราจะเดินไปที่วัดปทุมวนารามค่ะ
วันนั้นตอนไปถึง คนเยอะมากโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ไปแก้บนกัน คนรอเยอะแต่ทุกคนก็ไม่หงุดหงิด เพราะเชื่อว่าทุกคนที่ไป สมหวังกับสิ่งที่ขอกัน จิตใจเลยเบิกบานทุกคน เราไปถึงก็ไปติดต่อชำระรำแก้บน ราคาตอนนี้กับเมื่อเป็นสิบปีที่แล้วแปลกใจมากที่เท่าเดิม เราจำได้ว่าตอนเราสอบ Entrance ติด เราก็มาแก้บนกับเพื่อนเรา ราคาตอนนั้น รำชุดใหญ่สุดก็ 710 บาท มาวันนี้ราคาเท่าเดิมจ้า แต่คราวนี้เรานางรำ 4 คน พิธีการไม่ยุ่งยากอะไร พอเราจ่ายเงินเสร็จเราก็ซื้อพวงมาลัยและธูปเทียนจากข้างใน ไว้พระพรหมทั้ง 4 ด้านและอธิฐานว่าเรามาแก้บนแล้ว
พอไหว้เสร็จ กลับไปตรงที่มีรำ ก็ถึงคิวเราพอดี พอเค้าเรียกชื่อเรา เราก็ไปนั่งพนมมือ มีสมาธิ ระหว่างนั้นตอนแรกกะว่าจะตั้งจิต แต่เพราะมีดนตรีไทยและนางรำก็ร้องเป็นเพลงไทยเดิมด้วย เราเลยสมาธิไปอยู่ตรงนั้นเพราะเราเล่นดนตรีไทย เลยเหมือนอยากฟังเพลง -_-'' แปปนึงก็เสร็จ พอเสร็จก็ไปทานข้าวที่ central world ต่อ สบายใจ
สำหรับความเชื่อ เราว่าบางคนเชื่อและมีศรัทธา และมีคนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สำหรับเรา เราคิดว่าการบนบานศาลกล่าวนั้น เราไม่ได้ทำบ่อยๆ ในชีวิตเคยบนไม่เกิน 3 ครั้งและก็สำเร็จทุกครั้ง อย่างน้อยก็เป็นเหมือนพลังทางใจ เหมือนหลักการของพลักจักรวาล ที่คิดในแง่บวก และสิ่งที่ทำก็จะเกิดผลดีอย่างที่ตั้งใจไว้ วันที่เราไปสัมภาษณ์ มีเศษเสี้ยวของความคิด แว้บนึกถึงสิ่งศักสิทธิ์ที่เราไปสักการะมาด้วยในทุกๆครั้งที่มีการสัมภาษณ์ เป็นกำลังใจในการทำอะไรได้เป็นอย่างดีค่ะ
ประวัติ ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ อ้างอิงจาก //th.wikipedia.org
เมื่อ พ.ศ. 2494 พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ กำหนดให้มีการก่อสร้างโรงแรมเอราวัณ ขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อรองรับแขกต่างประเทศ ว่ากันว่าในช่วงแรกของการก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากมาย เมื่อการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ปลายปี พ.ศ. 2499 ทาง บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ผู้บริหารโรงแรมได้ติดต่อ พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ ร.น. นายแพทย์ใหญ่ กองทัพเรือ ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องการนั่งทางใน เข้าดำเนินการหาฤกษ์วันเปิดโรงแรม พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ได้ท้วงติงว่า ในการก่อสร้างโรงแรมไม่ได้มีการทำพิธีบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้นก่อน ฤกษ์ในการวางศิลาฤกษ์ของโรงแรมก็ไม่ถูกต้อง อีกทั้งชื่อของโรงแรม "เอราวัณ" นั้น เป็นชื่อของช้างทรงของพระอินทร์ ถือเป็นชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ จำเป็นต้องมีการบวงสรวงที่เหมาะสม วิธีการแก้ไขจะต้องขอพรจากพระพรหมเพื่อช่วยให้อุปสรรคหมดไป และจะต้องสร้างศาลพระพรหมขึ้นทันทีหลังจากการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จ และสร้างศาลพระภูมิขึ้นไว้ในโรงแรม จึงได้มีการตั้งศาลพระพรหม ออกแบบตัวศาลโดยนายระวี ชมเสรี และ ม.ล.ปุ่ม มาลากุล องค์ท้าวมหาพรหมปั้นด้วยปูนพลาสเตอร์ปิดทอง ออกแบบและปั้นโดยนายจิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร และอัญเชิญพระพรหมมาประดิษฐานที่หน้าโรงแรมเอราวัณเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ตามแผนงานครั้งแรก องค์ท้าวมหาพรหมจะเป็นโลหะหล่อสีทอง แต่เนื่องจากระยะเวลาจำกัดด้วยฤกษ์การเปิดโรงแรม จึงได้เปลี่ยนวัสดุเป็นปูนปั้นปิดทองแทน ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ ถือเป็นศาลพระพรหมศาลแรกที่มีขนาดใหญ่ ในเวลาต่อมาเมื่อมีการสร้างศาลพระพรหมไว้บูชาในอาคารหรือสถานที่ขนาดใหญ่ จะยึดแบบการสร้างจากศาลท้าวมหาพรหมที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เนื่องจากความเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จ ปัจจุบัน ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ อยู่ในความดูแลของ "มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม" ด้วยเหตุที่ท่านท้าวมหาพรหมถูกชายที่ไม่สมประกอบทุบในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งทำให้ตัวองค์แตก ดังนั้นจึงมีกำหนดการที่จะบูรณะพระองค์ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับสร้างองค์ใหม่ด้วย แล้วเสร็จในปลายเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน
Create Date : 21 เมษายน 2558 |
| |
|
Last Update : 21 เมษายน 2558 23:57:06 น. |
| |
Counter : 10746 Pageviews. |
| |
|
|